- ข้อความ
- ประวัติศาสตร์
วิกฤติครั้งนี้มีสาเหตุที่ซับซ้อนและ
วิกฤติครั้งนี้มีสาเหตุที่ซับซ้อนและมาจากหลายปัจจัยซึ่งค่อยๆ พัฒนาตัวขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อ เช่น การที่เจ้าของบ้านไม่สามารถชำระเงินที่กู้ยืมมา การตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้กู้ยืมหรือผู้ปล่อยกู้ การเก็งกำไรและการสร้างบ้านมากเกินไปในช่วงที่ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว สินค้าทางสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูง อัตราหนี้สินของบุคคลและบริษัทที่สูง นวัตกรรมทางการเงินที่กระจาย (ในขณะที่อาจจะปกปิด) ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ นโยบายและการควบคุม (หรือการขาดการควบคุม) ของธนาคารกลาง โดยปกติแล้ว ตลาดสินเชื่อบ้านในสหรัฐ จะมีการปล่อยกู้แบบลูกหนี้ชั้นดี (prime) จะมีประวัติชำระหนี้ที่ดี ไม่มีเบี้ยวและมีการมีงานทำเป็นหลักแหล่ง เมื่อก่อนในธนาคารหนึ่งธนาคารในลูกค้า 100 คน จะมี 90 คนที่เป็นประเภท Prime และ 10 คนเป็น Sub-prime ในช่วงระยะแรกที่อสังหาริมทรัพย์ยังมีราคาสูงก็ยังไม่มีปัญหา แต่ในช่วงวิกฤตราคาปรับลงกว่าเท่าตัว ทำให้สินเชื่อทั้งหลายกลายเป็นหนี้เสีย ( Non-Performing Loan) กลุ่มลูกหนี้ปานกลาง (Alt-A) พวกนี้ยังมีประวัติการชำระหนี้ในเกณฑ์ดี แต่รายได้ไม่เป็นหลักแหล่งแน่นอนอาจเนื่องมาจากทำงานอิสระไม่เป็นหลักแหล่งและกลุ่มต่ำกว่าเกณฑ์หรือซัพไพร์มที่ว่า ประวัติชำระหนี้ไม่ดี งานการไม่เป็นหลักแหล่งรายได้ไม่แน่นอน
ธนาคารส่วนใหญ่จะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มที่เชื่อว่าจะได้เงินคืนทำให้ลูกค้ากลุ่มซัพไพร์ม ลำบากในการหาแหล่งเงินกู้ แต่เมื่อตลาดบ้านเฟื่องฟูก็เกิดแรงกดดันให้สถาบันการเงินรายย่อย ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าซัพไพร์มง่ายขึ้นคนกลุ่มนี้เมื่อได้เข้าถึงแหล่งเงินกู้มากเข้า ก็กู้มากขึ้นเกิดการใช้เงินในอนาคตมากขึ้นส่วนสถาบันการเงินก็ปล่อยกู้แบบไม่คิดหน้าคิดหลังหวังจะได้ดอกเบี้ยสูงจากการชำระคืน แต่เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งบรรดาลูกค้าซัพไพร์ม ไม่สามารถจ่ายเงินที่กู้มาคืนสถาบันการเงินการเป็นหนี้สูญของลูกค้าเกรดสองไร้คุณภาพ ที่ทำให้สถาบันการเงินน้อยใหญ่ล้มระเนระนาด โดยธนาคารแห่งแรกๆที่เจอวิกฤติซัพไพร์มเข้าเต็มๆคือเอชเอสบีซี ที่สูญเงินกว่า 10.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่ง "ซับไพรม์" หรือ sub-prime แปลว่าคุณภาพเป็นรอง ซึ่งมาจาก sub-prime mortgage ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือสินเชื่อที่ปล่อยให้กู้ให้กับลูกหนี้ที่มีเครดิตทางการเงินต่ำกว่ามาตรฐานหรือคุณภาพรองลงมา โดยใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตามปกติแล้วลูกหนี้กลุ่ม "ซับไพรม์"นี้สถาบันการเงินทั่วไปจะไม่ปล่อยกู้ จึงมีการตั้งบริษัทอิสระมาปล่อยกู้แทนส่วนเงินที่บริษัทเหล่านั้นนำมาปล่อยกู้ก็ใช้วิธีออกตราสารหนี้แล้วใช้อสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ค้ำประกันตราสารหนี้อีกที ถ้าเกิดมีปัญหา ลูกหนี้ผิดชำระหนี้บริษัทเหล่านั้นก็จะขายอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อนำเงินไปจ่ายคืนให้คนที่ซื้อตราสารหนี้ ธนาคารยึดทรัพย์ขายทอดตลาดแล้วเอาเงินมาจ่ายให้ผู้ฝากเงิน หลายปีที่ผ่านมา สหรัฐมีลูกหนี้ซับไพร์มเกิดมากมายเพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการขายตราสารหนี้ออกไปทั่วโลกพอมาปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มไม่ค่อยดี ซับไพร์มเริ่มไม่จ่ายหนี้มากขึ้นขณะเดียวกัน อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ ราคาก็ตกส่งผลให้บริษัทที่ปล่อยกู้เริ่มมีเงินขาดมือ ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้ที่ซื้อตราสารหนี้พวกที่ซื้อตราสารหนี้ "ซับไพรม์"เหล่านี้ ผลที่ตามมาคือกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ขาดทุนยับเยินจากตราสารหนี้ที่ถือไว้จากกรณีนี้ธนาคารกลางทั้งในสหรัฐ (FED) EU และญี่ปุ่นมีการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาล กว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาทเพื่อสกัดปัญหาไม่ให้ลุกลามกลายเป็นวิกฤตการเงินระลอกใหม่
ในธุรกิจ mortgage ผู้ทำธุรกิจไม่ว่าธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัยวานิชธนกิจ ฯลฯ คิดประดิษฐ์ ตราสารไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้ หุ้นหรือ อนุพันธ์ (derivatives) ประหลาดๆ ออกมากมายหลายตัวที่ไม่มีใครเข้าใจถึงผลกระทบหากว่ามันมีการผันผวนไปในทางลบ ตราสารเหล่านี้ใช้กันอย่างกว้างขวางเนื่องจากให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงและป้องกันความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง
ปัญหาที่ทำให้สะดุดก็คือฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตก (เกิดขึ้นเมื่อไม่มีคนที่จะมาซื้อบ้านโดยมั่นใจว่า จะขายได้ในราคาสูงกว่าที่ซื้อมา)เมื่อผู้บริโภคไม่มีปัญญาผ่อนบ้าน บ้านถูกยึด บ้านเหล่านี้ก็เข้าสู่ตลาดยิ่งทำให้ราคาบ้านตกยิ่งขึ้น จึงเกิดผลกระทบตามมาเป็นลำดับ หุ้นกู้ที่ออกโดย B ก็มีมูลค่าลดลงหรือว่าเป็นศูนย์ (เพราะมีโอกาสไม่ได้เงินกู้คืน) บริษัท B มีรายได้ลดลง ราคาหุ้นก็ตก หาเงินกู้เพิ่มได้ยาก
วิกฤติซับไพรม์ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในภาคการเงินและทำให้นักลงทุนพากันถอนเงินออกจากพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อที่มีความเสี่ยงและหุ้นที่มีราคาไม่แน่นอน และนำไปเก็บสะสมในรูปของสินค้าโภคภัณฑ์แทน การเก็งกำไรในราคาล่วงหน้าของสินค้าต่าง ๆ หลังจากตลาดอนุพันธ์ล่ม ทำให้เกิดปัญหาวิกฤติราคาอาหารโลกและภาวะน้ำมันขึ้นราคา นักเก็งกำไรที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้นถอนเงินจำนวนหลายล้านล้านดอลลาร์จากหุ้นและพันธบัตร และนำบางส่วนไปลงทุนในอาหารและวัตถุดิบต่าง ๆ
วิกฤตการณ์ซับไพร์มมิได้มีผลจำกัดเพียงแค่ในสหรัฐ แต่ยังส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นยุโรปและเอเชีย ผลกระทบทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่คนในสหรัฐหลงระเริงในฟองสบู่อันเนื่องมาจากนโยบายการลดอัตราดอกเบี้ย บวกกับความหละหลวมในการปล่อยตราสารหนี้กู้ที่ไม่มีคุณภาพของธนาคาร และการนำไปขายทอดตลาดต่อไปในตลาดการเงินโลก บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ทยอยกันล้มละลายหรือขายกิจการต่อให้รัฐบาลดูแลแทน
ธนาคารส่วนใหญ่จะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มที่เชื่อว่าจะได้เงินคืนทำให้ลูกค้ากลุ่มซัพไพร์ม ลำบากในการหาแหล่งเงินกู้ แต่เมื่อตลาดบ้านเฟื่องฟูก็เกิดแรงกดดันให้สถาบันการเงินรายย่อย ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าซัพไพร์มง่ายขึ้นคนกลุ่มนี้เมื่อได้เข้าถึงแหล่งเงินกู้มากเข้า ก็กู้มากขึ้นเกิดการใช้เงินในอนาคตมากขึ้นส่วนสถาบันการเงินก็ปล่อยกู้แบบไม่คิดหน้าคิดหลังหวังจะได้ดอกเบี้ยสูงจากการชำระคืน แต่เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งบรรดาลูกค้าซัพไพร์ม ไม่สามารถจ่ายเงินที่กู้มาคืนสถาบันการเงินการเป็นหนี้สูญของลูกค้าเกรดสองไร้คุณภาพ ที่ทำให้สถาบันการเงินน้อยใหญ่ล้มระเนระนาด โดยธนาคารแห่งแรกๆที่เจอวิกฤติซัพไพร์มเข้าเต็มๆคือเอชเอสบีซี ที่สูญเงินกว่า 10.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่ง "ซับไพรม์" หรือ sub-prime แปลว่าคุณภาพเป็นรอง ซึ่งมาจาก sub-prime mortgage ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือสินเชื่อที่ปล่อยให้กู้ให้กับลูกหนี้ที่มีเครดิตทางการเงินต่ำกว่ามาตรฐานหรือคุณภาพรองลงมา โดยใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตามปกติแล้วลูกหนี้กลุ่ม "ซับไพรม์"นี้สถาบันการเงินทั่วไปจะไม่ปล่อยกู้ จึงมีการตั้งบริษัทอิสระมาปล่อยกู้แทนส่วนเงินที่บริษัทเหล่านั้นนำมาปล่อยกู้ก็ใช้วิธีออกตราสารหนี้แล้วใช้อสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ค้ำประกันตราสารหนี้อีกที ถ้าเกิดมีปัญหา ลูกหนี้ผิดชำระหนี้บริษัทเหล่านั้นก็จะขายอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อนำเงินไปจ่ายคืนให้คนที่ซื้อตราสารหนี้ ธนาคารยึดทรัพย์ขายทอดตลาดแล้วเอาเงินมาจ่ายให้ผู้ฝากเงิน หลายปีที่ผ่านมา สหรัฐมีลูกหนี้ซับไพร์มเกิดมากมายเพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการขายตราสารหนี้ออกไปทั่วโลกพอมาปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มไม่ค่อยดี ซับไพร์มเริ่มไม่จ่ายหนี้มากขึ้นขณะเดียวกัน อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ ราคาก็ตกส่งผลให้บริษัทที่ปล่อยกู้เริ่มมีเงินขาดมือ ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้ที่ซื้อตราสารหนี้พวกที่ซื้อตราสารหนี้ "ซับไพรม์"เหล่านี้ ผลที่ตามมาคือกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ขาดทุนยับเยินจากตราสารหนี้ที่ถือไว้จากกรณีนี้ธนาคารกลางทั้งในสหรัฐ (FED) EU และญี่ปุ่นมีการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาล กว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาทเพื่อสกัดปัญหาไม่ให้ลุกลามกลายเป็นวิกฤตการเงินระลอกใหม่
ในธุรกิจ mortgage ผู้ทำธุรกิจไม่ว่าธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัยวานิชธนกิจ ฯลฯ คิดประดิษฐ์ ตราสารไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้ หุ้นหรือ อนุพันธ์ (derivatives) ประหลาดๆ ออกมากมายหลายตัวที่ไม่มีใครเข้าใจถึงผลกระทบหากว่ามันมีการผันผวนไปในทางลบ ตราสารเหล่านี้ใช้กันอย่างกว้างขวางเนื่องจากให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงและป้องกันความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง
ปัญหาที่ทำให้สะดุดก็คือฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตก (เกิดขึ้นเมื่อไม่มีคนที่จะมาซื้อบ้านโดยมั่นใจว่า จะขายได้ในราคาสูงกว่าที่ซื้อมา)เมื่อผู้บริโภคไม่มีปัญญาผ่อนบ้าน บ้านถูกยึด บ้านเหล่านี้ก็เข้าสู่ตลาดยิ่งทำให้ราคาบ้านตกยิ่งขึ้น จึงเกิดผลกระทบตามมาเป็นลำดับ หุ้นกู้ที่ออกโดย B ก็มีมูลค่าลดลงหรือว่าเป็นศูนย์ (เพราะมีโอกาสไม่ได้เงินกู้คืน) บริษัท B มีรายได้ลดลง ราคาหุ้นก็ตก หาเงินกู้เพิ่มได้ยาก
วิกฤติซับไพรม์ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในภาคการเงินและทำให้นักลงทุนพากันถอนเงินออกจากพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อที่มีความเสี่ยงและหุ้นที่มีราคาไม่แน่นอน และนำไปเก็บสะสมในรูปของสินค้าโภคภัณฑ์แทน การเก็งกำไรในราคาล่วงหน้าของสินค้าต่าง ๆ หลังจากตลาดอนุพันธ์ล่ม ทำให้เกิดปัญหาวิกฤติราคาอาหารโลกและภาวะน้ำมันขึ้นราคา นักเก็งกำไรที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้นถอนเงินจำนวนหลายล้านล้านดอลลาร์จากหุ้นและพันธบัตร และนำบางส่วนไปลงทุนในอาหารและวัตถุดิบต่าง ๆ
วิกฤตการณ์ซับไพร์มมิได้มีผลจำกัดเพียงแค่ในสหรัฐ แต่ยังส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นยุโรปและเอเชีย ผลกระทบทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่คนในสหรัฐหลงระเริงในฟองสบู่อันเนื่องมาจากนโยบายการลดอัตราดอกเบี้ย บวกกับความหละหลวมในการปล่อยตราสารหนี้กู้ที่ไม่มีคุณภาพของธนาคาร และการนำไปขายทอดตลาดต่อไปในตลาดการเงินโลก บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ทยอยกันล้มละลายหรือขายกิจการต่อให้รัฐบาลดูแลแทน
0/5000
This crisis was caused by many factors which are complex and gradual. Development in the real estate market and credit as the landlord can not pay the loan back.Excessive speculation and build homes in the rapidly growing market. High-risk loan products. Party and its high debt. Financial innovations spread. (While it may be exposed).Policies and controls. (Or lack of) control of the central bank typically home loan market in the U.S.. Will lend a good loan (prime) would have a good payment history. No distortion and is employed as a primary source.100 people 90 people 10 people is a type of prime and sub-prime real estate in the first phase, the high price is not a problem. But during the crisis than doubled. Loans have become a bad debt (non-performing loan).(Alt-a), they are also in a good payment history. But income is not the primary source, of course, may be due to work independently and under a permanent basis or support that Prime. Poor repayment history.Most banks will lend to a group that believes it will refund the customer support Prime. Difficulty in finding financing sources. But when the housing market was booming, the pressure on microfinance institutions.I borrow more money in the future more and more financial institutions are not lending Conservative hopes of high interest repayments. But by the time one of the prime customer support.The big financial institutions fall disorderly The first bank to come into full crisis Jessup Prime is h HSBC. The loss of over 10.
5 billion.The "subprime" sub-prime or secondary, which means that the quality of the sub-prime mortgage lending in the United States or to the lender with respect to the credit quality financial substandard or inferior."Subprime" financial institutions will not lend. จึงมีการตั้งบริษัทอิสระมาปล่อยกู้แทนส่วนเงินที่บริษัทเหล่านั้นนำมาปล่อยกู้ก็ใช้วิธีออกตราสารหนี้แล้วใช้อสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ค้ำประกันตราสารหนี้อีกทีThe debtor to pay the debt of these companies then sell the debtor's property to pay back the money to buy bonds. Bank seized auction then took the money to pay the deposit. Many years ago.With bond sales worldwide this year as the U.S. economy is not good. Subprime debt began to increase at the same time. Real estate in the U.S.. Prices fell, the lending company has run out of money."Subprime" these The result is that hedge funds and funds. Demolished thousands of debt held by the central banks in both the U.S. (fed) eu and Japan are injecting a huge amount more than 2 billion, or about 8.In the mortgage banking business, whether for housing. Financial institution Banking, insurance companies, etc., to invent instruments such as shares, debentures or derivatives (derivatives) strange.These instruments are widely used due to higher compensation and risk at a certain level
.The problems of stumbling is a real estate bubble. (Occurs when people are coming home by ensuring that Be sold at a price higher than purchased) no intelligence on consumer mortgage foreclosures.Therefore affected by the order. Bonds issued by the b-value is lower or zero. (I have not returned the loan) company b has reduced income shares fell for a loan can be difficult
.วิกฤติซับไพรม์ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในภาคการเงินและทำให้นักลงทุนพากันถอนเงินออกจากพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อที่มีความเสี่ยงและหุ้นที่มีราคาไม่แน่นอน And then stored in the form of commodities instead.After the derivatives market crashes. Cause problems for world food price crisis and oil price risk. Speculators who wish to return in the short term withdrawal of trillions of dollars of stocks and bonds.Other
.Subprime crisis is not limited to just the U.S.. But also affects the global economy as Europe and Asia.Combined with lax in releasing the bond loan with no bank quality. And bringing to auction later in the global financial markets. The company filed bankruptcy or financial giant sold to a caretaker government instead
.
5 billion.The "subprime" sub-prime or secondary, which means that the quality of the sub-prime mortgage lending in the United States or to the lender with respect to the credit quality financial substandard or inferior."Subprime" financial institutions will not lend. จึงมีการตั้งบริษัทอิสระมาปล่อยกู้แทนส่วนเงินที่บริษัทเหล่านั้นนำมาปล่อยกู้ก็ใช้วิธีออกตราสารหนี้แล้วใช้อสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ค้ำประกันตราสารหนี้อีกทีThe debtor to pay the debt of these companies then sell the debtor's property to pay back the money to buy bonds. Bank seized auction then took the money to pay the deposit. Many years ago.With bond sales worldwide this year as the U.S. economy is not good. Subprime debt began to increase at the same time. Real estate in the U.S.. Prices fell, the lending company has run out of money."Subprime" these The result is that hedge funds and funds. Demolished thousands of debt held by the central banks in both the U.S. (fed) eu and Japan are injecting a huge amount more than 2 billion, or about 8.In the mortgage banking business, whether for housing. Financial institution Banking, insurance companies, etc., to invent instruments such as shares, debentures or derivatives (derivatives) strange.These instruments are widely used due to higher compensation and risk at a certain level
.The problems of stumbling is a real estate bubble. (Occurs when people are coming home by ensuring that Be sold at a price higher than purchased) no intelligence on consumer mortgage foreclosures.Therefore affected by the order. Bonds issued by the b-value is lower or zero. (I have not returned the loan) company b has reduced income shares fell for a loan can be difficult
.วิกฤติซับไพรม์ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในภาคการเงินและทำให้นักลงทุนพากันถอนเงินออกจากพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อที่มีความเสี่ยงและหุ้นที่มีราคาไม่แน่นอน And then stored in the form of commodities instead.After the derivatives market crashes. Cause problems for world food price crisis and oil price risk. Speculators who wish to return in the short term withdrawal of trillions of dollars of stocks and bonds.Other
.Subprime crisis is not limited to just the U.S.. But also affects the global economy as Europe and Asia.Combined with lax in releasing the bond loan with no bank quality. And bringing to auction later in the global financial markets. The company filed bankruptcy or financial giant sold to a caretaker government instead
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
This time, the crisis has complex causes and is from many factors that evolve in the market real estate and loans, such as home owners unable to pay the loan. Speculation and create too many homes during the fast growing market. Items on loan with high risk. The person's debt ratio and high company. The financial innovation that is distributed (in the moment may be concealed). The policy and control (or lack of control) of the Central Bank, usually mortgage market in the United States will have to leave the loan receivable grade (prime) will have a good credit history. There are no jobs and deform as a primary source. 100 people, there will be a person 90 Prime and Sub-prime is 10 in the first period, real estate prices are high, there is no problem, but during the crisis over the price as a. Make all bad credit debt laiklai (Non-Performing Loan). (Alt-A) they also have a history of paying debts in good, but not the main source of income is, of course, probably because work is no independent sources and groups who support or low credit history, said phai? Most of the Bank to release the loans, with the Group believed to be a refund, the customer support group Prime. Difficulties in finding the source of the loan, but when it was booming home market pressure, retail financial institutions. They borrow explode take money in the future, more and more private financial institutions, the loan is released free of charge in front of the rear hoping to interest from the payment, but when it's time for one of those Prime support customer. That makes financial institutions large and small fall in disorder by the first National Bank at Prime substance is found to support crisis, HSBC lost more than money at 10.5 billion US dollar
Where "MOP Prime" or sub-prime means the quality is coming from sub-prime mortgage loans at United States or domestic leave to debtors with lower fiscal credit standards or second quality. "Lining Prime this" general financial institutions would not leave so recovery is an independent company from releasing loan instead of best money those companies brought out recovery methods, leaving bond and real estate of the debtor to guarantee debt. An accounts receivable payable those companies, the real estate of the debtor to make money to pay back people who buy debt. Bank seizure auction sales, and money paid to depositor money several years ago. With a bond issue this year to the world economy, the United States came out good. Prime debt settlement no start lining up at the same time. Real estate in the United States, prices fell as a result, companies that borrow money are dropping lack of professionals. "Prime lining". As a consequence, lack of funds is the fan even thunyapyoen from the bond that holds this event from all central banks in the United States (FED), the EU and Japan have to inject a large amount of money. Over 2 trillion dollars or about 8 In the mortgage business is a business, no matter what Bank to financial institutions, housing & insurance companies, new chathon an artificial idea etc. Instruments, regardless of whether it is stocks, bonds or derivatives (derivatives), very strange. These instruments are used widely because of higher compensation and benefits, prevention of risk at the level one
.Problems that cause stumbling real estate bubble is broken (it happens when there are no people to buy houses by ensuring that the sales price is higher in the purchase) when there are no wise consumers ' homes. Ban is upheld. Thus was born a subsequent impact. Debentures issued by a lower value or B is zero (because they have an opportunity to recover the money.) Company B has a lower revenue share price would fall. It is difficult to find additional loans
.The crisis Prime lining caused panic in the financial sector and make investors withdraw funds out of bonds together with regard to credit risk and stock price does indeed. And storage in the form of commodities instead. Lol after the collapse of the derivative market. Food price crisis was causing problems in the world and global oil prices. Investor speculation that yield short-term withdrawals millions billion from stock and bond. Lol
The lining is not prime crisis restricted just in the u.s. but also affect economies all over the world as well as Europe and Asia. Plus laluam to release the bond loan with no bank's quality and continue to fry for sale market in the global financial markets. The financial giants one after another company. selling or business bankruptcy, government supervision instead of
.
Where "MOP Prime" or sub-prime means the quality is coming from sub-prime mortgage loans at United States or domestic leave to debtors with lower fiscal credit standards or second quality. "Lining Prime this" general financial institutions would not leave so recovery is an independent company from releasing loan instead of best money those companies brought out recovery methods, leaving bond and real estate of the debtor to guarantee debt. An accounts receivable payable those companies, the real estate of the debtor to make money to pay back people who buy debt. Bank seizure auction sales, and money paid to depositor money several years ago. With a bond issue this year to the world economy, the United States came out good. Prime debt settlement no start lining up at the same time. Real estate in the United States, prices fell as a result, companies that borrow money are dropping lack of professionals. "Prime lining". As a consequence, lack of funds is the fan even thunyapyoen from the bond that holds this event from all central banks in the United States (FED), the EU and Japan have to inject a large amount of money. Over 2 trillion dollars or about 8 In the mortgage business is a business, no matter what Bank to financial institutions, housing & insurance companies, new chathon an artificial idea etc. Instruments, regardless of whether it is stocks, bonds or derivatives (derivatives), very strange. These instruments are used widely because of higher compensation and benefits, prevention of risk at the level one
.Problems that cause stumbling real estate bubble is broken (it happens when there are no people to buy houses by ensuring that the sales price is higher in the purchase) when there are no wise consumers ' homes. Ban is upheld. Thus was born a subsequent impact. Debentures issued by a lower value or B is zero (because they have an opportunity to recover the money.) Company B has a lower revenue share price would fall. It is difficult to find additional loans
.The crisis Prime lining caused panic in the financial sector and make investors withdraw funds out of bonds together with regard to credit risk and stock price does indeed. And storage in the form of commodities instead. Lol after the collapse of the derivative market. Food price crisis was causing problems in the world and global oil prices. Investor speculation that yield short-term withdrawals millions billion from stock and bond. Lol
The lining is not prime crisis restricted just in the u.s. but also affect economies all over the world as well as Europe and Asia. Plus laluam to release the bond loan with no bank's quality and continue to fry for sale market in the global financial markets. The financial giants one after another company. selling or business bankruptcy, government supervision instead of
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
This crisis is caused by a complex and many factors which gradually developed in the real estate market and loans such as home owner is not able to pay the loans.The speculation and the construction of houses in the market too fast growth of credit products that are of high risk Debt Equity ratio of the person and the Company. The financial innovation that Distribution (while it may be concealed).Policy and the control (or the lack of control) of the central bank, usually in the United States, the market will have a Home Loan lending, good cases (prime) will have a good payment history is not out of shape and have a job as a source.100 people will have 90 people and 10 of them are a type of Prime Sub - prime in the first phase of the real estate prices are also high, it is not a problem, but in crisis prices down more than doubled, loans, mortgages, they become free (Non - Performing Loan).(Alt - A) they also have a history of payment of income is not at a satisfactory level. But this may be because it is, of course, main work is not a primary source and independent group criteria, or lower than the ซัพไพร์ม debt repayment history is not good,Most banks will be lending to the group that believes that it will be refunded to customer groups ซัพไพร์ม difficult to find sources in the home loan market booms, but when he was there was pressure to financial institutions.The loan was more money in the future, the financial institutions, they are not lending, think I hope it will be from the high interest payments, but when it comes to the time of the customer ซัพไพร์มthe financial institution, at least large fell without order by the bank of the first crisis had to consign ซัพไพร์ม HSBC is the loss of more than 10.5 billion US dollars
The "problematic sub" or sub-prime, which means that is the second quality of sub-prime mortgage loans in the United States or to loan to the debtor is less than standard credit financial or quality."problematic sub." This general financial institutions will not Loan It is independent of the Company, and instead of lending the money that the Company they used to lending, using the methods of debt instruments, and the real estate of the debtor guarantee debt.Debt Restructuring company liable to pay them. So they will sell the real estate of the debtor to pay back the purchase of debt instruments the Bank holds Real Estate Auction, and then bring the money to pay for the deposit many years ago.With the debt instruments issued to the world as soon as the US economy this year, much better to start sub-prime mortgage debt is not paid while the real estate sector in the United States, prices fall, the Company has started lending money out of stock"problematic sub." The result was that these funds เฮดจ์ฟันด์ต่างๆ terribly loss from debt instruments held by the central bank from this case, in the United States (FED) EU and Japan have huge amounts of money to inject more than 200,000 million US dollars or approximately 8In the mortgage business that is not doing business in Housing Bank to financial institutions, insurance companies, etc. , private placements of debt instruments invention is not to be a shareholder of the debentures or derivatives (derivatives) strange.These instruments widely used due to benefit and to prevent the risk of
The problem, he was struck by the real estate bubble burst (occurs when there is no one who will come to buy a home, make sure that it will be sold at a price higher than the purchase) when consumers do not have to pay house is secure intellectual property rightsIt is adversely affected by an order of the debentures issued by B had decreased or that it is zero (because there is no chance of recovery), a company B revenue is reduced to stock prices fell hard money loan
added.problematic sub crisis caused a panic in the financial sector and to withdraw money from investors, bonds that are related to credit risk and the stock price is, of course, is not used to store accumulated in the form of commodity.After futures collapse caused the problem and the World Food price crisis in oil prices speculators who want to return on investment in the short-term withdrawal of several billion dollars of shares and bonds
.The crisis is not the sub-prime mortgage limited only in the United States, but also affect the global economy, whether it is Europe and AsiaIn addition to the loose, let debt recovery is not the quality of the Bank and the sale of the global financial markets financial giant company gradually, bankruptcy or sale of government to take care of instead of
The "problematic sub" or sub-prime, which means that is the second quality of sub-prime mortgage loans in the United States or to loan to the debtor is less than standard credit financial or quality."problematic sub." This general financial institutions will not Loan It is independent of the Company, and instead of lending the money that the Company they used to lending, using the methods of debt instruments, and the real estate of the debtor guarantee debt.Debt Restructuring company liable to pay them. So they will sell the real estate of the debtor to pay back the purchase of debt instruments the Bank holds Real Estate Auction, and then bring the money to pay for the deposit many years ago.With the debt instruments issued to the world as soon as the US economy this year, much better to start sub-prime mortgage debt is not paid while the real estate sector in the United States, prices fall, the Company has started lending money out of stock"problematic sub." The result was that these funds เฮดจ์ฟันด์ต่างๆ terribly loss from debt instruments held by the central bank from this case, in the United States (FED) EU and Japan have huge amounts of money to inject more than 200,000 million US dollars or approximately 8In the mortgage business that is not doing business in Housing Bank to financial institutions, insurance companies, etc. , private placements of debt instruments invention is not to be a shareholder of the debentures or derivatives (derivatives) strange.These instruments widely used due to benefit and to prevent the risk of
The problem, he was struck by the real estate bubble burst (occurs when there is no one who will come to buy a home, make sure that it will be sold at a price higher than the purchase) when consumers do not have to pay house is secure intellectual property rightsIt is adversely affected by an order of the debentures issued by B had decreased or that it is zero (because there is no chance of recovery), a company B revenue is reduced to stock prices fell hard money loan
added.problematic sub crisis caused a panic in the financial sector and to withdraw money from investors, bonds that are related to credit risk and the stock price is, of course, is not used to store accumulated in the form of commodity.After futures collapse caused the problem and the World Food price crisis in oil prices speculators who want to return on investment in the short-term withdrawal of several billion dollars of shares and bonds
.The crisis is not the sub-prime mortgage limited only in the United States, but also affect the global economy, whether it is Europe and AsiaIn addition to the loose, let debt recovery is not the quality of the Bank and the sale of the global financial markets financial giant company gradually, bankruptcy or sale of government to take care of instead of
การแปล กรุณารอสักครู่..
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.
- an extension to terminal2 will see the b
- สถานที่ค่อนข้างใหญ่ อาจจะทำให้คนดูน้อยใน
- What approximately
- so sorry if l hurt you in anyway,but l n
- innovation technique et commerciale mult
- Khun Siwaporn,Kindly find the following
- Peter, ที่รักของฉัน, ฉันดีใจมาก ฉันมีควา
- I'm sorry I did not call you on the phon
- play a phone
- I'm sorry I did not call you on the phon
- รายงานผลการทดสอบฉันเขียนถึงเธอเพื่อจะแจ้
- สถานที่ค่อนข้างใหญ่ อาจจะทำให้ดูโหลงเหลง
- made in china
- I'm sorry I did not call you on the phon
- Go to china
- now know and understand very well,that u
- How do you translate business rules into
- สถานที่ค่อนข้างใหญ่ อาจจะทำให้คนดูน้อย
- แต่ขณะนี้ ฉันต้องการรู้ว่าทะเบียน รถมอเต
- เราจะส่งบิลไปให้คุณเพื่อโอนเงินทั้งหมดก่
- Free Service Set up on Smart Phone 3,000
- I'm sorry I did not call you on the phon
- What approximately are the premiums on I
- เราจะส่งบิลไปให้คุณเพื่อโอนเงินทั้งหมดเร
