หมายเหตุ เพิ่มเติมงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2013
1) Cash on hand เพิ่มขึ้น 73.6 ล้านบาท และ current investment เพิ่มขึ้น 5 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2013 บริษัทมีเงินสดรับจากการขายหุ้นสามัญซื้อคืนตอนต้นปีประมาณ 44.8 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดรับจาก กำไรภายในปีอีกประมาณ 226.7 ล้านบาท
2) Equity securities held for trading (หลักทรัพย์เพื่อค้า) เพิ่มขึ้น 38.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 100% เนื่องจากในไตรมาสนี้ บริษัท HFT Holding ได้มีการลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ที่ประเทศไต้หวัน และ ณ วันสิ้นงวด ยังมีหลักทรัพย์คงเหลืออยู่ 3 หลักทรัพย์ จำนวน 2,560,000 หุ้น เป็นจำนวนเงิน(ราคาตลาด)มูลค่า 38.5 ล้านบาท
3) Machinery and equipment เพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.21% จากเครื่องจักร BOI #5 บางส่วนที่ได้ดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 จำนวนประมาณ 97.5 ล้านบาท
4) Construction in progress เพิ่มขึ้น 14.49 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16,100% เนื่องจากในปีนี้ บริษัท มีการก่อสร้างอาคารเก็บสินค้าหลังใหม่ ที่โรงงานที่ 2 ซึ่งมีกำหนดการแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2013 นี้
5) Account payable parent and related companies ลดลง จำนวน 58.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น 87.69% เนื่องจากในปี 2013 บริษัทได้จ่ายค่าเครมสินค้า SX01 งวดที่ 2 และ 3 ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายให้กับ SRI ไปจำนวน 54 ล้านบาท และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 10.6 ล้านบาท
6) Other current liabilities เพิ่มขึ้น 3.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34.11% เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการหักเงินค้ำประกันการก่อสร้างในส่วนของการก่อสร้างอาคารเก็บสินค้าหลังใหม่ที่ โรงงานที่ 2 ประมาณ 1 ล้านบาท และเงินรับล่วงหน้าค่าสินค้าจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 ล้านบาท
7) Net sales ลดลงจากปีก่อนจำนวน 43.82 ล้านบาท คิดเป็น 2.5% (หรือลดลง 0.12 ล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ) ยอดขายที่ลดลงเกิดจากการลดลงของยอดขายยางในและยางนอกรถจักรยานประมาณ 36 ล้านบาท ยอดขายยาง ATV ประมาณ 65 ล้านบาท และยางรถที่ใช้ในอุตสาหกรรมลดลงประมาณ 5 ล้านบาท แต่ยอดขายยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 58 ล้านบาท
8) Cost of Sales ลดลง 109.86 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.96% เนื่องจากยอดขายลดลงทำให้ต้นทุนขายลดลงตามไปด้วย แต่ในส่วนของอัตราส่วนต้นทุนต่อต่อยอดขายของงวด 9 เดือนปี 2013 ลดลงจาก 81.05% เหลือ 76.71% เนื่องจากต้นทุนด้านวัตถุดิบปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2013 โดยปรับลดลงประมาณ 16%
9) Selling expenses ลดลง 9.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.07% เนื่องจากในปี 2012 มีค่าใช้จ่ายเคลม TLC จำนวน 25 ล้านบาท แต่หากตัดค่าใช้จ่ายเคลมดังกล่าวออกไปแล้ว จะพบว่า ค่าใช้จ่ายในการขายของปี 2013 ขึ้นกว่าในปี 2012 ประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งมาจากค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย จำนวน 10 ล้านบาท , ค่าใช้จ่ายในการส่งออกจำนวน 2.5 ล้านบาท และ ค่าใช้จ่ายด้านวัสดุหีบห่อ (Packing) อีกประมาณ 2 ล้านบาท
10) Gain/(Loss) on exchange rate เพิ่มขึ้นสุทธิ 19.11 ล้านบาท ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากกำไรจากค่าเงินเยนที่ต้องจ่ายค่าเครมให้กับ SRI มูลค่า 143.49 ล้านเยน ซึ่งบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนนี้ประมาณ 10.6 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USD เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงในระหว่างไตรมาสที่ 3 นี้
11) Net profit เพิ่มขึ้น 87.55 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62.91% เนื่องจากกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และในปี 2013 อัตราภาษีเงินได้ ปรับลดลงเหลือ 20% จาก 23% ในปีก่อน นับว่าเป็นผลดีต่อบริษัท