1.1 features and effect of chemical insecticide in the oval thonaya (Pyrethroid) fiber group.As the chemicals to kill insects is a type of death (Contact insecticides) is toxic for insects that can kill insects, which get toxins by touch or by eating food or plants that are coated with toxic substances into the body of the insect. Pesticide poisoning may affect the nervous system, paralysis and death, a.กลุ่มไพรีทรอยด์ (Pyrethroid) เป็นกลุ่มที่นำมาใช้กับผลิตผลเกษตรได้ จะทำปฏิกิรินาโดยการขัดขวางการสร้างไคติน (Chitin) เป็นสารกำจัดแมลงที่ยอมรับให้ใช้ในโรงเก็บผลิตผลเกษตรเป็นสารกำจัดแมลงที่มีพิษต่อแมลงสูงและมีพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่ำ การวัดค่าความเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมวัดได้จากพิษทางปาก (Acute oral toxicity) และค่าพิษทางผิวหนัง (dermal toxicity) ต่อหนู ความเป็นพิษเหล่านี้ แสดงค่าด้วย LD50 ซึ่งเป็นค่าหรืออัตราที่จะสามารถฆ่าประชากร 50% ของสัตว์ที่ทดสอบ ค่าของ LD50 เป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์กับประชาชนผู้ที่ต้องปฏิบัติงานและสัมผัสกับสารกำจัดแมลง สารกำจัดแมลงที่ค่า LD50 ต่ำ (ยกตัวอย่างเช่น น้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว) จะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังมาก เพราะผู้ได้รับพิษพียงเล็กน้อยก็จะเกิดอันตราย สารกำจัดแมลงที่มีค่า LD50 สูง แสดงว่าผู้ได้รับพิษต้องได้รับพิษในปริมาณสูงจึงเกิดอันตรายได้ค่าพิษตกค้างสูงสุดผลของการใช้สารกำจัดแมลงต่อผลิตผลเกษตร ทำให้เกิดพิษตกค้างในผลิตผลเกษตรได้ ซึ่งจะมากหรือน้อยหรือไม่มีเลยขึ้นอยู่กับชนิดของสารกำจัดแมลง และระยะเวลาที่ใช้ ดังนั้น FAO/WHO จึงได้กำหนดพิษตกค้างที่ผู้บริโภคได้รับและยังมีความปลอดภัยหากได้รับทุกวัน (Acceptable daily intake) และพิษตกค้างที่ยอมรับให้มีได้ในอาหารชนิดต่างๆ ซึ่งก็คือพิษตกค้างสูงสุด (Maximum Residues Limit MRL) ที่วัดเป็น ppm. (part per million หรือ มิลลิกรัม/กิโลกรัม)1.2 อัตราส่วนการผสมสารเคมี “ไซเปอร์เมทริน 25%” กับน้ำสารเคมีไซเปอร์ 25% ปริมาณ 3 ลิตร กับน้ำ 100 ลิตร ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดแมลง1.2.1 สารละลายที่ผสมจากไซเปอร์ 25% กับน้ำตามอัตรส่วนนี้ในจำนวน 1 ลิตรใช้พ่นได้พื้นที่ประมาณ 40 ตารางเมตร2. สถานที่ทำการพ่นสารเคมีกำจัดแมลง2.1 บริเวณท่าเรือเอนกประสงค์นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดบริษัทไทยพรอสเพอริตี้เทอนอล 199/2 หมู่ 3 ถนนสุขุมวิท มาบตาพุด เมืองระยอง2.2 บริเวณจุดทิ้งสมอท่าเรือเอนกประสงค์นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด3. ประเภทของสินค้าที่ใช้วิธีการพ่นสารเคมีกำจัดแมลงชิ้นไม้สับยูคาลิปตัส ที่ทำการขนถ่ายขึ้นเรืออยู่ในระวางเรือแล้ว4. วันและเวลาที่ใช้ในการพ่นสารเคมีกำจัดแมลงตามวันขนถ่ายชิ้นไม้สับยูคาลิปตัสขึ้นเรือ ซึ่งบริษัทผู้ขนถ่ายชื้นไม้สับจะแจ้งล่วงหน้าก่อนทำการพ่นสารเคมีกำจัดแมลง ในแต่ละคราวของการขนถ่าย5. วิธีการควบคุมการขนย้าย การผสมสารเคมีและพ่นสารเคมีกำจัดแมลงในระวางเรือ5.1 สารเคมีที่ใช้จะต้องอยู่ในขวดบรรจุและหีบห่อซึ่งสามารถรับแรงกดทับปะทะ และแข็งแรง ซึ่งสามารถป้องกันการรั่วไหลได้เป็นอย่างดี5.2 การเคลื่อนย้ายสารเคมีทั้งเข้าและออกบริเวณท่าเรือ รวมทั้งการเคลื่อนย้ายเพื่อใช้งานบนระวางเรือ ขวดบรรจุสารเคมีตามข้อ 5.1 จะต้องอยู่ในภาชนะอีกชั้นหนึ่งซึ่งภาชนะดังกล่าว จัดเตรียมไว้เพื่อ สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย จัดเก็บ หรือขั้นตอนการผสมสารเคมเพื่อ ใช้งาน ดังนั้นภาชนะดังกล่าวจะต้องมีพื้นที่ ที่จะจัดเก็บขวดบรรจุสารเคมีที่ต้องใช้ได้ทั้งหมด ภาชนะที่ใช้ในการเก็บขวดบรรจุสารเคมีในการเคลื่อนย้ายจะต้องมีฝาปิดเปิดที่สะดวก แข็งแรง และสามารถป้องกันการรั่วไหลของสารเคมีจากขวดบรรจุได้ (กรณีที่ขวดบรรจุสาเคมีแตกชำรุด)5.3 การผสมสารเคมีกำจัดแมลง และน้ำ จะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการคนสารเคมี และมีถาดรองรับน้ำ หรือสารเคมีที่อาจะรั่วไหลออกนอกบริเวณที่ทำการผสมส่วนต่างๆ และจะต้องเก็บสารผสมที่รั่วไหลออจากบริเวณผสมเพื่อนำออกไปบำบัดตามหลักวิชาการต่อไป5.4 สารเคมีกำจัดแมลง หลังผสมตามอัตราส่วนแล้ว จะใส่ลงในถังพ่นสารเคมีและนำไปพ่นบริเณผิวด้านบนของชิ้นไม้สับยูคาลิปตัสที่ทำการขนถ่ายขึ้นบนระวางเรือแล้ว และจะกำหนดขอบเขตของการพ่นสารเคมีเป็น “พื้นที่ควบคุมการพ่นสารเคมีกำจัดแมลง” โดยจัดทำขอบเขตและประกาศให้ผู้ทำงานอื่นๆ ได้รับทราบ ผู้พ่นสารเคมีและผู้เกี่ยวข้องที่ใส่อุปกรณ์ป้องกันเท่านั้นที่จะสามารถทำงานในบริเวณควบคุมการพ่นสารเคมีได้5.5 สารเคมีกำจัดแมลง จะถูกพ่นลงในระวางเรือบนผิวของชิ้นไม้สับยูคาลิปตัส โดยปรับขนาดของการพ่นให้เป็นลักษณะของละอองน้ำขนาดเล็ก ให้พ่นห่างจากผิวของชิ้นไม้สับ ประมาณ 25-30 ซม, เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายของสารเคมี โดยวิธีการดังกล่าวจะทำให้สารเคมีตกกระทบบริเวณผิวของชิ้นไม้สับ และถูกดูดซับด้วยชิ้นไม้สับได้ทันที การพ่นสารเคมีบนผิวของชิ้นไม้สับในระวางเรือพื้นที่ประมาณ 400-450 ตารางเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และใช้สารเคมีที่ผสมแล้วประมาณ 100-120 ลิตร และการพ่นสารเคมีกำจัดแมลงในระวางเรือ จะต้องจัดเตรียมผู้ช่วยเหลือ ผู้พ่นสารเคมีในกรณีฉุกเฉิน พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเฝ้าระวังเหตุในการปฏิบัติงาน6. ขั้นตอนการพ่นสารเคมีกำจัดแมลงในระวางเรือ หลังทำการขนถ่ายชิ้นไม้สับขึ้นเรือ- ทำการพ่นสารเคมีกำจัดแมลง เมื่อทำการขนถ่ายชิ้นไม้สับลงในระวางเรือแล้ว 100% ซึ่งความสูงจากปากระวางเรือถึงบริเวณผิวของชิ้นไม้สับอยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งจะมีการฟุ้งกระจายของสารเคมีออกจากปากระวางเรือและอาจจะกระจายไปยังบริเวณข้างเคียง ดังนั้น การพ่นสารเคมีจะต้องไปทำการพ่นบริเวณจุดทิ้งสมอ ในเขตการควบคุมของท่าเรือเอนกประสงค์นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยจะต้องจัดเตรียมผ้าใบสูงจากขอบของปากระวางประมาณ 1.0 เมตร เพ่อกันการฟุ้งกะระจายของสารเคมีไปนอกตัวเรือและ/หรือ ทำการพ่นสารเคมีกำจัดแมลง เมื่อทำการปิดฝาระวางเรือแล้ว ซึ่งจะทำการพ่นสารเคมีบนปากระวางอีกครั้งการพ่นสารเคมีเมื่อทำการปิดระวางแล้ว จะต้องไปทำการพ่นบริเวณจุดทิ้งสมอในเขตการควบคุมของท่าเรือเอนกประสงค์นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยจะต้องจัดเตรียมผ้าใบสูงจากขอบของปากระวางประมาณ 1.00-1.50 เมตร เพื่อกันการฟุ้งกระจายของสารเคมีไปนอกตัวเรือ7. การพ่นสารเคมีดำจัดแมลงในระวางเรือหลังจากขนถ่ายชิ้นไม้สับลงในระวางแล้ว การพ่นสารเคมีกำจัดแมลง
การแปล กรุณารอสักครู่..