วงหลุมทั้งสองนี้อยู่ระหว่าง ‘วงหลุม

วงหลุมทั้งสองนี้อยู่ระหว่าง ‘วงหลุมออบรีย์วงนอก’ และ ‘วงแท่งหินตรงใจกลางขนาดใหญ่’ สันนิษฐานกันว่า วงหลุม Y และ Z อาจมีความสัมพันธ์กับการศึกษาทางดาราศาสตร์ เมื่อราว 2,100 ปีก่อนคริสต์กาล ได้มีการนำหินสีน้ำเงิน (bluestone) จากแคว้นเวลส์ จำนวน 80 ก้อน มาเรียงเป็นวงกลมสองวงซ้อนกัน แต่ต่อมา ก็ได้นำแท่งหินทรายขนาดใหญ่ที่เรียกว่าหินซาร์เซน(sarsen) vudจำนวน 30 แท่ง มาเรียงเป็นวงกลมหนึ่งวงแทนที่วงหินสี่น้ำเงินวงนั้น

สองวงเดิมที่อยู่ภายในวงหินทราย มีหมู่หินเรียงกันคล้ายรูปเกือกม้า ส่วนหมู่ที่อยู่ด้านนอกซึ่งประกอบไปด้วยหินทรายสร้างเป็นรูปไตรลิธอนห้ากลุ่ม (Trilithon หมายถึง กลุ่มหินสามแท่ง โดยสองแท่งวางในแนวตั้งขึ้น ส่วนอีกแท่งวางพาดหินสองก้อนแรกในแนวนอน) ส่วนเกือกม้าด้านใน ประกอบไปด้วยหินขัดสีน้ำเงิน 19แท่ง

สโตนเฮนจ์ถือเป็นสถาปัตยกรรมอันแสนน่าทึ่ง เมื่อพิจารณาถึงที่มาหรือเครื่องมือในการสร้างหรือการขุดดิน ที่อยู่ในยุคหินใหม่ ก็เป็นเพียงเสียมที่ผลิตจากเขากวางแดงเท่านั้น ส่วนที่มาของชื่อ สโตนเฮนจ์ ได้มาจากการที่ชาวแซกซันตั้งให้ ซึ่งสโตนเฮนจ์ แปลความได้ว่า หินที่แขวนอยู่ (Hanging Stone) ในขณะที่บันทึกในสมัยกลาง มีการตั้งชื่อวงหินนี้ว่า กลุ่มยักษ์เริงระบำ (The Giants Dance)

แม้ว่านักวิชาการส่วนใหญ่จะลงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า โตนเฮนจ์เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ลี้ลับ และยังไม่รู้ความจริงว่าสิ่งนี้มีไว้เพื่อใช้ทำอะไร มีแต่เพียงการเสนอข้อสันนิษฐานต่าง ๆ เช่น ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 สถาปนิกที่ชื่อ อิ นิโก โจนส์ เชื่อว่าสโตนเฮนจ์เคยเป็นเป็นซากของวิหารโรมัน แต่คนในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 กลับยืนยันว่าซากสโตนเฮนจ์เป็นวิหารที่พวกลัทธิดรูอิด ใช้ประกอบพิธีบูชายัญมนุษย์ และบูชาพระอาทิตย์ แต่ความคิดเหล่านี้ไม่น่าจะเป็นจริง เพราะสโตนเฮนจ์ถูกสร้างเสร็จมาอย่างน้อย 1,000 ปีก่อนลัทธิดังกล่าวแล้ว จนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีนักโบราณคดีบ่งบอกถึงข้อเท็จจริงบ้างอย่าง พวกเขาสามารถคำนวณอายุ และสรุปจุดประสงค์ของการก่อสร้างสโตนเฮนจ์ขึ้นมาได้อย่างน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลความจริงที่ปรากฎยังมีอยู่ไม่มากนัก กล่าวว่า หินซาร์เซนที่เรียงกันในแนววงนอกมีความสูงประมาณ 5 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 26 ตัน หินเหล่านี้น่าจะถูกย้ายมาจากทุ่งโล่งมาร์ลโบโร ดาวน์ส (Marlborough Downs) ซึ่งไกลออกไปประมาณ 32 กิโลเมตร จากนั้น ก็นำมาขัดแต่ง สลัก และเดือยอย่างประณีต ทำให้แท่งหินที่ตั้งที่พื้นและแท่งหินที่เป็นคานหินสามารถอยู่ได้ยาวนานอย่างมั่นคง ส่วนหินสีน้ำเงินก้อนใหญ่ที่สุดซึ่งมีน้ำหนักมากถึงสี่ตัน น่าจะนำมาจากภูเขาพรีเซลีในแคว้นเวลส์ทางตะวันตกเฉียงใต้ และคาดการณ์ว่า ลำเลียงมาโดยใช้แพแล้วล่องมาตามชายฝั่งเวลส์และแม่น้ำเอวอน เมื่อมาถึงฝั่งก็ชักลากกันต่อมา

นักโบราณคดีโดยมากเห็นว่า สโตนเฮนจ์น่าจะเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีฝั่งศพ ซึ่งพิจารณาจากหลักฐานการสร้างสุสานมูนดินในหลุมออบรีย์หลายหลุม ที่มีลักษณะใกล้เคียงสโตนเฮนจ์ แต่ก็ยังปรากฎหลักฐานคัดค้าน ว่าหลุมดังกล่าวในบริเวณนี้ น่าจะถูกขุดขึ้นมาก่อนจะมีการเผาศพ หรือบ้างก็คาดคะเนกันว่า หลุมออบรีย์อาจใช้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีไหว้ด้วยสุรา อาธิ การบวงสรวงเทพเจ้าแห่งธรรมชาติทั้งหลายด้วยการเทเหล้าองุ่นลงในหลุม

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The two holes located between the band, ' band, pit band, the outer ring, and bori af rock bar in the heart of large ' pit band, and together assumed Y Z may have associations with astronomical studies, approximately 2,100 years b.c. is a blue stone (bluestone) from Tuscany 80 stages is WELS lump the two circles overlap, but later developed a large sand rock, called rock Wizard (sarsen) 30 is a row of sticks vud circle, one of four stone circles, circles, circles of blue instead of it.The two original bands inside the sandstone Among the rock resembles a Horseshoe. The village is located outside, which consists of sandstone and construct a picture of five groups (thon polar copolymer trilogy refers to a group of three stone Trilithon rods by two vertical rods up. The other two first stone placing sticks draped horizontally) on the inside of the Horseshoe part consists of blue terrazzo 7 rods.Stonehenge is considered a dramatic architecture. When considering or tools to build or dig soil that is located in the new stone age, it is the only Siem made from antler red only. The origin of the name is derived from Stonehenge to the Saxons set to Stonehenge, interpret that hanging (Hanging Stone), while in the middle ages named this stone giant group band splash (The Giants Dance)แม้ว่านักวิชาการส่วนใหญ่จะลงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า โตนเฮนจ์เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ลี้ลับ และยังไม่รู้ความจริงว่าสิ่งนี้มีไว้เพื่อใช้ทำอะไร มีแต่เพียงการเสนอข้อสันนิษฐานต่าง ๆ เช่น ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 สถาปนิกที่ชื่อ อิ นิโก โจนส์ เชื่อว่าสโตนเฮนจ์เคยเป็นเป็นซากของวิหารโรมัน แต่คนในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 กลับยืนยันว่าซากสโตนเฮนจ์เป็นวิหารที่พวกลัทธิดรูอิด ใช้ประกอบพิธีบูชายัญมนุษย์ และบูชาพระอาทิตย์ แต่ความคิดเหล่านี้ไม่น่าจะเป็นจริง เพราะสโตนเฮนจ์ถูกสร้างเสร็จมาอย่างน้อย 1,000 ปีก่อนลัทธิดังกล่าวแล้ว จนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีนักโบราณคดีบ่งบอกถึงข้อเท็จจริงบ้างอย่าง พวกเขาสามารถคำนวณอายุ และสรุปจุดประสงค์ของการก่อสร้างสโตนเฮนจ์ขึ้นมาได้อย่างน่าเชื่อถืออย่างไรก็ตาม ข้อมูลความจริงที่ปรากฎยังมีอยู่ไม่มากนัก กล่าวว่า หินซาร์เซนที่เรียงกันในแนววงนอกมีความสูงประมาณ 5 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 26 ตัน หินเหล่านี้น่าจะถูกย้ายมาจากทุ่งโล่งมาร์ลโบโร ดาวน์ส (Marlborough Downs) ซึ่งไกลออกไปประมาณ 32 กิโลเมตร จากนั้น ก็นำมาขัดแต่ง สลัก และเดือยอย่างประณีต ทำให้แท่งหินที่ตั้งที่พื้นและแท่งหินที่เป็นคานหินสามารถอยู่ได้ยาวนานอย่างมั่นคง ส่วนหินสีน้ำเงินก้อนใหญ่ที่สุดซึ่งมีน้ำหนักมากถึงสี่ตัน น่าจะนำมาจากภูเขาพรีเซลีในแคว้นเวลส์ทางตะวันตกเฉียงใต้ และคาดการณ์ว่า ลำเลียงมาโดยใช้แพแล้วล่องมาตามชายฝั่งเวลส์และแม่น้ำเอวอน เมื่อมาถึงฝั่งก็ชักลากกันต่อมานักโบราณคดีโดยมากเห็นว่า สโตนเฮนจ์น่าจะเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีฝั่งศพ ซึ่งพิจารณาจากหลักฐานการสร้างสุสานมูนดินในหลุมออบรีย์หลายหลุม ที่มีลักษณะใกล้เคียงสโตนเฮนจ์ แต่ก็ยังปรากฎหลักฐานคัดค้าน ว่าหลุมดังกล่าวในบริเวณนี้ น่าจะถูกขุดขึ้นมาก่อนจะมีการเผาศพ หรือบ้างก็คาดคะเนกันว่า หลุมออบรีย์อาจใช้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีไหว้ด้วยสุรา อาธิ การบวงสรวงเทพเจ้าแห่งธรรมชาติทั้งหลายด้วยการเทเหล้าองุ่นลงในหลุม

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The hole is located between the two. 'Aubrey outer loop hole' and 'stone circle at the center of a huge' attributed to the Y and Z holes may be related to the study of astronomy at around 2100 BC. Has the blue stone (bluestone) from the Welsh number 80 blocks arranged as two circles overlap but later rod large sandstone called Stone Azhar Hussein (sarsen) vud 30 rods arranged in a circle, a loop. replace the blue rock band that originally two bands within the sandstone. Similar rocks are arranged in a horseshoe shape. Among the outside which consists of sandstone, creating a tri Brith the five groups (Trilithon means rock group Third Bar. The two rods placed in vertical. The other sticks laid across two rocks in the landscape) inside the horseshoe. Consists of a polished blue stone 19 bars Stonehenge is a remarkable architecture. Considering the source or tool to create or excavation. In the New Stone Age It is only shovel made ​​from red deer only. The origin of Stonehenge came from the Saxons set. The Stonehenge Translated to Hanging Rock (Hanging Stone) while recording in the Middle Ages. Naming a band that rocks. The giant dancing (The Giants Dance) , though most scholars would agree that, in the same way. Stonehenge is a mysterious building. And yet the fact that this is intended to do. Instead of offering such a presumption in the 17th century Italian architect named Nicolas Jones believes that Stonehenge was used as the remains of a Roman temple. But in the 18th century and 19 to confirm that the remains of Stonehenge is a temple to the cult of the Druids. Human sacrifice ceremony And worship the sun But these ideas are not likely to be true. Because Stonehenge was built at least 1,000 years before the cult in question. Until the 20th century, archaeologists indicate some facts. They can calculate the age And summarized the purpose of the construction of Stonehenge up reliably , however. True information that appears there is not much to say that the stone Azhar stating that arranged in the outer ring with a height of 5 meters and weighing about 26 tons, these stones will be moved from an open field, the Marlborough Downs. Texas (Marlborough Downs), which is about 32 kilometers farther then be carved and polished pivot neatly. Makes the stone floor beams and stone as a stone can be long-lasting stability. The largest chunk of blue stone, which can weigh up to four tons. Probably brought from the mountains in the Welsh Premier Celine southwest. And predicts Patterson then transported by boat along the River Avon and the Welsh coast. When it comes to tow it ashore later by archaeologists said. Stonehenge is a place for the burial ceremony. This is based on the premise of creating a hole in the ground cemetery Moon Aubrey several holes. Which is similar to Stonehenge. But it is also evidence of objection. Such that the holes in this area. It was dug up before the cremation. Or what was supposedly said. Aubrey Holes may take part in a ceremony to pay homage to the spirits of nature are God's Works sacrifice by pouring the wine into the hole.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The band both holes are between "the hole Aubrey outside" and "the rock bar middle large" assuming that the band Y Z hole and may be associated with education in astronomy. When the story 2 100 years ago, Christ, the blue stone (bluestone) from Wales were 80 cubes, sorted into two circle overlap. But later, the large sandstone rock bar called Tsar Zen (sarsen) vud number 30 rods. Maria is a circle one replaced stone circle four blue band.The two original band inside the sandstone. There are rocks arranged like a horseshoe. While the outside which consist of sandstone, built a tri Ulrich five groups (Trilithon means rock group three sticks by two bars placed vertically. The other rods put across two rocks in the first horizontal), the horseshoe inside consists of blue stone 19 rods.Stonehenge is an extremely remarkable architecture When considering the origins or creation tools or digging in the Neolithic age. It is just waste produced from red deer, and the origin of the name. Stonehenge come from the Saxons gave the interpretation that Stonehenge. The stone hanging (Hanging Stone) while recording in the middle ages, are named stone circle that giant groups เริงระบำ (The Giants Dance).Although most scholars to conclude in the same way. Stonehenge is building a secret; And do not the truth that this is intended for use to do. Only the proposed hypothesis, such as in the 19th century 17 architect named Yi Inigo Jones believes Stonehenge was the ruins of Roman temple. But in 18 century 19 back and confirm that the remains of a temple at Stonehenge the cult Druids. The use of human sacrifice and worship the sun. But these ideas are unlikely to come true. Because of Stonehenge was built at least 1 000 years ago such doctrine, so that when the century that 20 have archaeologists indicate the facts about something. They can calculate the age. The purpose of the construction and summary of Stonehenge up reliably.However, the fact that rise.