While Mr. Waiphot Chitnawat Village after village, 4, said the salvage ship, unearthed an ancient artillery with the report. Mr. Chidotnok the army of light Bang khla district and the province has to wait for us to come in, check to make certain that the ancient ruins, including the artillery ship of the era which machine. It is also prepared to discuss district and provinces to continue to maintain a user-friendly. Introduction to believe may belong to the army of God that ever walked the army through sweating, in the former Kingdom of khrangkrung and oral areas for water to pass through away from Jo was found only 2 km between the flock the city chanthaburi, the strike could occur is shipwreck. สำหรับปืนใหญ่ที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ น่าจะเป็นปืนใหญ่ประจำเรือแบบที่ใช้วิธีการอัดดินปืนลงในกระบอกทางปากกระบอก และจุดชนวนที่ช่องรูด้านบนท้ายปืน โดยเป็นปืนที่หล่อขึ้นด้วยเหล็ก มีอักษรภาษาอังกฤษที่บนตัวปืนว่า ROOSRS ขนาดลำกล้องภายในประมาณ 3 นิ้ว ขนาดลำกล้องภายนอกด้านท้ายประมาณ 8 นิ้ว มีหูวางแขวนเป็นแกนสำหรับวางพาดกับฐานทั้ง 2 ข้าง ความยาวลำกล้องประมาณ 1.2 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม การเคลื่อนย้ายต้องใช้คนแบกหามถึง 4 คน ด้าน พ.ต.มนัส โชติญาโน นายทหารส่งกำลังบำรุง สำนักงานทหารพัฒนาภาค 1 ซึ่งเดินทางมาดูสิ่งของโบราณ และปืนใหญ่ กล่าวว่า หน่วยทหารที่ได้เข้ามาทำการขุดลอกคูคลอง และค้นพบ คือ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำนักงานภาค 1 ซึ่งการขุดลอกคูคลองก็เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการป้องกันแก้ปัญหาน้ำท่วมตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านว่า ปืนใหญ่กระบอกดังกล่าวถูกขุดพบภายในลำคลองท่าลาด เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ผู้ที่ขุดพบไม่ได้แจ้งต่อชาวบ้าน หรือผู้นำชุมชน หรือทางวัดให้ทราบ โดยนำไปเก็บไว้เอง แต่ได้เกิดปรากฏการณ์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับคนในยุคสมัยนี้ คือ ผู้ที่นำไปเก็บรักษาถูกสิ่งลี้ลับรบกวนจนนอนไม่หลับ จึงตัดสินใจนำกลับเอามาคืน ด้วยการนำกลับมาวางไว้ที่วัดกกสับ นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวลือการขุดลอกคลองท่าลาดครั้งนี้ พบหีบสมบัติ และของมีค่าอีกด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยให้รู้โดยทั่วกัน
การแปล กรุณารอสักครู่..