ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยยูนิลีเวอร์ ป

ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย
ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2475 มีสำนักงานใหญ่ในประเทศอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ และมีกิจการอยู่ทั่วโลก

ตึกยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย

ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย


ยูนิลีเวอร์มีรากฐานหยั่งลึกในวัฒนธรรม และในตลาดสินค้าอุปโภคและบริโภค ในเมืองไทยมากว่า 80 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยูนิลีเวอร์ได้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง จนในวันนี้ได้กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่มีผลิตภัณฑ์เป็นสินค้า "ยอดนิยม" ของคนไทยมากมาย มีพนักงานที่ชำนาญการกว่า 3,000 คน ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและเป็นแบบอย่างขององค์กรที่มีศักยภาพการดำเนินงานที่เป็นสากลอย่างแท้จริง

ผลิตภัณฑ์ของเรานั้นครอบคลุมทุกความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นในด้านรสชาติหรือคุณภาพของอาหาร การรักษาความสะอาดในครัวเรือน เสื้อผ้าและร่างกาย โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่นิยมไปทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ซึ่งเราเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย

เรามีเจตนารมย์และวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทยด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ และบริการใหม่ๆ เราจึงมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง

นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์ยังได้รักษามาตรฐานสูงสุดในการเป็นพลเมืองที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการมุ่งส่งเสริมและพัฒนาสังคม คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคมอบความไว้วางใจให้เราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพบนรากฐานของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เราจึงไม่หยุดนิ่งที่จะคิดค้นวิธีการในการผลิตและ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด เช่น การคิดค้นผงซักฟอกชนิดเข้มข้นที่ช่วยประหยัดน้ำและพลังงานในโรงงาน หรือ การคิดค้นบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และสามารถนำไปแปรสภาพนำกลับมาใช้ใหม่



ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย



2451

ห้างลีเวอร์บราเธอร์ ลิมิเต็ด ได้รับหนังสือแต่งตั้งให้เป็นช่างทำสบู่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
2475

เปิดกิจการในเมืองไทยอย่างเป็นทางการในชื่อ บริษัท สยาม อินดัสทรีส์ จำกัด เพื่อผลิตสบู่หอมลักส์และสบู่ซักฟอกซันไลต์ มาการีน และน้ำมันพืช
2497

เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ลีเวอร์บราเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
2505

พัฒนาผงซักฟอก“บรีส”ออกจำหน่าย
2513

เริ่มผลิตแชมพูสระผมชนิดน้ำ“ซันซิล” ออกจำหน่าย
2514

ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้เป็นบริษัทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้รับพระราชทานองค์ครุฑไว้เป็นเครื่องหมาย
2515

เริ่มผลิตยาสีฟันออกสู่ตลาด และพัฒนาขึ้นเป็นยาสีฟัน “ใกล้ชิด” ในปี 2519 และ "เปปโซเดนท์” ในปี 2527
2519

ผลิตยาสีฟันใกล้ชิดเนื้อสีเขียวเป็นครั้งแรกโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น
2520

ริเริ่มผลิตครีมปรับสภาพเส้นผมชนิดน้ำออกจำหน่ายให้ผู้บริโภคทั่วไป โดยยูนิลีเวอร์เป็นผู้บัญญัติศัพท์คำว่า “ครีมนวดผม” ในประเทศไทย
2522

วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “คนอร์”
ยูนิลีเวอร์มีประธานบริษัทคนไทยคนแรกชื่อ "วิโรจน์ ภู่ตระกูล" (2522 - 2538) และเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์คนอร์และน้ำยาล้างจานซันไลต์
2524

เริ่มสร้างโรงงานยูนิลีเวอร์มีนบุรีในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังบนพื้นที่ 127 ไร่
2525

เปิดโรงงานสบู่ซึ่งเป็นโรงงานแรกในพื้นที่ของโรงงานยูนิลีเวอร์มีนบุรี
2532

วางจำหน่ายไอศกรีม “วอลล์”
2537

รับรางวัลการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อมเริ่มโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์ครบ 50 ปี
ริเริ่มผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าขาวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ "พอนด์ส"
2538

ได้รับเกียรติบัตร GMP (Good Manufacturing Practice)
ได้รับรางวัล “การตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม”
เริ่มโครงการ “สวนร่มไม้ยูนิลีเวอร์”
เริ่มครงการ “ปลูกป่าหนึ่งล้านต้น” ทั่วประเทศเพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสครองราชสมบัติครบ 50 พรรษาและในโอกาสที่กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยฉลองครอบรอบ 60 ปี
2539

ได้รับประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพมาตรฐานสากล ISO9001 และ ISO9002
เริ่มโครงการ “สวนร่มไม้ยูนิลีเวอร์” สร้างสวนสาธารณะและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทั่วกรุงเทพฯ
2540

เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ยูนีลีเวอร์ ไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด
โรงงานผลิตไอศกรีมวอลล์ได้รับเกียรติบัตร GMP (Good Manufacturing Practice)เป็นรายแรกในประเทศไทย
2541

ริเริ่มโครงการ “รักไทยให้ถูกทาง” เพื่อขานรับนโยบาย“ไทยช่วยไทย”ของรัฐบาลในช่วงนั้น
2542

โรงงานมีนบุรีได้รับรางวัล TPM ระดับหนึ่ง
ริเริ่มโครงการ“ทุนการศึกษายูนิลีเวอร์”มอบทุนการศึกษาช่วยนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่ขาดแคลนรวมมูลค่า30ล้านบาทซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมการศึกษาเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดที่จัดโดยบริษัทข้ามชาติ
2543

ฉลองยอดขายครบ 20,000 ล้านบาท
ย้ายที่ทำการไปที่อาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า
ได้รับประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพมาตรฐานสากล ISO14001
ริเริ่มนวัตกรรมบรรจุผงซักฟอกในถุงพลาสติก (ดังที่ใช้ในปัจจุบัน) แทนกล่องกระดาษเป็นรายแรก
2544

ประกาศเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท เบสท์ฟู้ดส์
โรงงานมีนบุรีได้รับรางวัล TPM ระดับสอง
2545

เปิดศูนย์กระจายสินค้าใหม่ขนาด 42,000 ตารางเมตรที่สุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ฉลองครบรอบ 70 ปี ในประเทศไทย
ริเริ่มโครงการ “แบ่งฝันปันใจจากยูนิลีเวอร์” สอนวิชาชีพต่างๆในบริเวณสวนร่มไม้ยูนิลีเวอร์
จัดตั้งบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ตามนโยบาย การปรับโครงสร้างองค์กรของกลุ่มยูนิลีเวอร์ทั่วโลก เพื่อดำเนินงานด้านการตลาด และการจัดจำหน่ายสินค้าของกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย
2546

ริเริ่มโครงการ “ยูนิลีเวอร์รักน้ำ” ปลูกฝังจิตสำนึกให้พนักงานและชุมชนร่วมกันรักษาทรัพยากรน้ำพร้อมจัดกิจกรรมแรลลี่โครงการฝึกอบรมวิทยากรค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ และโครงการหมู่บ้านตัวอย่าง
2547

สร้างอาคารยูนิลีเวอร์ แฟมิลี่ เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา
ครบรอบการดำเนินงาน 72 ปีในประเทศไทย
ปรับโฉมโลโก้บริษัทและประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ “เติมพลังให้แก่ชีวิต”
2548

เริ่มโครงการ "ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ" โดยในระยะสั้นได้มอบผ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Unilever in
Unilever, Thailand, established the 2475 headquartered in England and the Netherlands, and business all over the world.



the Unilever in Unilever in


.Unilever is rooted deep in culture. And in the market, consumer products are more than 80 years. During the past the Unilever has grown steadily.The products are popular items. "" people of many staff skill, action that 3000 people, also known as the company that specialized in marketing and the model of องค์กรที่มี operation potential that is truly global

.Our products cover all the everyday needs of consumers. Whether it be in taste or quality of food. Maintain cleanliness in the household, clothing and body.And the products which we lead the Thai market
.
.We have intention and vision in the business to meet the needs of consumers in everyday life, people with quality products. And the new services