ชื่อทางการ : สหพันธรัฐมาเลเซีย (Fe

ชื่อทางการ : สหพันธรัฐมาเลเซีย (Federation of Malaysia)
เมืองหลวง : กัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur)
ศาสนาประจำชาติ : ศาสนาอิสลาม
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกบุหงารายา (Bunga Raya) หรือดอกชบาแดง
วันชาติ : 31 สิงหาคม
วันที่เป็นสมาชิกอาเซียน : 8 สิงหาคม พ.ศ.2510 (สมาชิกก่อตั้ง)
ภาษาราชการ: ภาษามาเลย์ (Bahasa Malaysia) หรือมลายู นอกจากนี้มีการใช้ภาษาอังกฤษ จีน และ
ทมิฬ
หน่วยเงินตรา : ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 3.20 ริงกิต/1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10.42 บาท/1
ริงกิต)
ประวัติศาสตร์
ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ประเทศมาเลเซียปัจจุบันไม่ค่อยมีหลักฐานแสดงความยิ่งใหญ่ในอดีตเหมือนประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ราว 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีกลุ่มคนยุคหินใหม่อพยพมาจากจีนตอนใต้เข้ามาสู่บริเวณนี้ และด้วยความที่มีเครื่องมือทันสมัยกว่า รู้จักวิธีเพาะปลูก ในที่สุดจึงขับไล่พวกที่มาอยู่ก่อนเข้าไปในภูเขาและป่าชั้นในของแหลมมลายู หลังจากนั้นราว 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช ก็มีกลุ่มคนยุคเหล็กและยุคสำริด ใช้โลหะเป็นอาวุธ รู้จักค้าขาย ก็มาขับไล่พวกเดิมให้อยู่ในป่าลึกเข้าไปอีก พวกที่มาใหม่นี้ต่อมากลายเป็นบรรพบุรุษโดยตรงของชาวมาเลเซียในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของมาเลเซียในยุคโบราณมีไม่มากนัก นักประวัติศาสตร์จึงมักถือเอาช่วงเวลาที่ มะละกา ปรากฏตัวขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญทางชายฝั่งคาบสมุทรมลายูเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์มาเลเซีย
พงศาวดารมลายูกล่าวว่ากษัตริย์ปรเมศวรเป็นผู้ตั้งชื่อเมืองนี้ตามชื่อต้นมะละกา ( A Malaka tree-ต้นมะขามป้อม) ซึ่งในขณะที่พระองค์ทรงผักผ่อนใต้ร่มต้นไม้นี้ ได้ทอดพระเนตรเห็นกระจงหันมาเตะสุนัขล่าสัตว์ แสดงให้เห็นว่าในพื้นที่นี้ แม้แต่สัตว์ก็ยังมีเลือดนักสู้ จึงนับเป็นลางที่ดีที่ทำให้พระองค์ตัดสินใจตั้งหลักปักฐานที่นี่ และสร้างมะละกาให้กลายเป็นอาณาจักรชายฝั่งทะเลที่รุ่งเรืองต่อมา อีกคำสันนิษฐานหนึ่งกล่าวว่ามะละกามาจากคำอาหรับที่ว่า มะละกัด (Malakat) หรือศูนย์กลางการค้าอันเป็นชื่อที่พ่อค้ามักใช้เรียกเกาะวอเตอร์ (Water Island)ที่อยู่ใกล้ๆนานแล้ว
มะละกาจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย
มะละกาเป็นเมืองท่าสำคัญ ก่อตั้งขึ้นประมาณ ค.ศ. 1400 ตั้งอยู่บนช่องแคบมะละกาซึ่งคร่อมเส้นทางการค้าสำคัญทางทะเลจากตะวันออกสู่ตะวันตก ระหว่างสองเมืองสำคัญอย่างจีนกับอินเดีย ถือเป็นท่าเรือที่ดีเพราะไม่มีป่าโกงกาง น้ำลึกพอให้เรือเทียบท่าและมีเกาะสุมาตราเป็นที่กำบังพายุ
*มาเลเซียเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศต่างๆ ตั้งแต่ พ.ศ.2054 โดยถูก โปรตุเกส ยึดครองช่องแคบมะละกาซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญในขณะนั้น และต่อมาตกเป็นของ ชาวดัตช์หรือเนเธอร์แลนด์
*ในพ.ศ.2359 ไทยหรือสยาม ได้ ไทรบุรี (เกดะห์) กลันตันและตรังกานู เป็นเมืองขึ้น
*พ.ศ.2367 อังกฤษ เข้ายึดครองต่อจากดัตช์และได้จัดตั้งเขตปกครองรวม ปีนัง มะละกา และสิงคโปร์ เรียกว่า เขตจัดตั้งช่องแคบ (The Straits Settlements)
*มาเลเซียได้รับเอกราชในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2500 โดยใช้ชื่อประเทศว่า สหพันธรัฐมาลายา และมีนายกรัฐมนตรีคนแรกชื่อ ตนกู อับดุล ราห์มาน
*พ.ศ. 2506 ได้มีการรวมสหพันธรัฐมาลายา สิงคโปร์ ซาบาห์ บรูไนและสิงคโปร์ได้แยกตัวออกเป็นอิสระภายหลัง


การเมืองการปกครอง
ปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรียกว่า สมเด็จพระราชาธิบดี หรือ ยังดี เปอร์กวน อากง (Yang dipertuanAgong) ซึ่งเลือกจากเจ้าครองรัฐต่างๆ ผลัดเวียนกันทุก 5 ปี ส่วนระบบรัฐบาล มีทั้งรัฐบาลกลางแห่งสหพันธรัฐและรัฐบาลแห่งรัฐปกครองแบบรัฐสภา ประกอบด้วย 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา โดยมีนายกรัฐมนตรีมีอำนาจสูงสุดของฝ่ายบริหารโดยประมุขของประเทศเป็นผู้แต่งตั้ง
มาเลเซียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 รัฐ ซึ่งแต่ละรัฐผู้ปกครองรัฐของตน และมี 3 เขตที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลกลางแห่งสหพันธรัฐ
ที่ตั้งและอาณาเขต
ประเทศมาเลเซียประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วนโดยมีทะเลจีนใต้กั้น
*มาเลเซียตะวันตก
ตั้งอยู่บนคาบสมุทรมลายู มีพรมแดนทิศเหนือติดกับไทย และทิศใต้ติดกับสิงคโปร์ โดยประกอบด้วย 11 รัฐ คือ ปะหัง สลังงอร์เนกรีเซมบิลัน มะละกา ยะโฮร์เประ กลันตัน ตรังกานูปีนัง เกดะห์ และปะลิส และ 1 เขตที่ปกครองโดยรัฐบาลกลาง คือ เกาะลาบวน
*มาเลเซียตะวันออก
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว (กาลิมันตัน) มีพรมแดนทิศใต้ติดกับอินโดนีเซียทั้งหมด ประกอบด้วย 2 รัฐ คือ ซาบาร์ และซาราวัก และ 2 เขตที่ปกครองโดยรัฐบาลกลาง คือ กัวลาลัมเปอร์ (เมืองหลวง) ปุตราจายา (เมืองราชการ)
ประชากร
มีจำนวนประชากรประมาณ 28.3 ล้านคน โดยมีเชื้อชาติหลักคือ มลายู รองลงมาคือ จีน อินเดีย และเชื้อชาติอื่นๆ เช่น ไทย ทมิฬ ฮอลันดา อาหรับ เป็นต้น รวมถึงยังมีชนพื้นเมืองดั้งเดิม เช่น โอรังอัสลี อีบาน และคาดาดุนซุน เป็นต้น
เศรษฐกิจและทรัพยากรที่สำคัญ
มาเลเซียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้าแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นรองจากสิงคโปร์ แหล่งอุตสาหกรรมส่วนใหญ่อยู่ทางมาเลเซียตะวันตก ปีนัง เป็นเมืองท่าใหญ่ของประเทศ มี ถนนหลวงมาตรฐานสูงเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายไปทั่ว ประเทศคู่ค้าสำคัญของมาเลเซียคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สินค้าส่งออก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันปาล์ม เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ เหล็ก ยางพารา และเป็นผู้ส่งออกดีบุกอันดับต้นๆ ของโลก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Official name: Malaysia Federation (Federation of Malaysia).The capital city of Kuala Lumpur (Kuala Lumpur):Religion: IslamNational flower: Bunga Raya flower (Bunga Raya) or red hibiscus.National day: August 31The date is a member of ASEAN. August 8:2510 (1967) (founder member)Languages: Malay (Bahasa Malaysia), or Malay. In addition, it is used in English and Chinese.TamilMonetary unit: ringgit Malaysia (about 3.20 ringgit 10.42, or approximately 1 us dollar/baht/1. Ringgit).HistoryPrehistoric eraCurrent country Malaysia rarely have evidence showing the greatness in the past, like many other countries in Southeast Asia, some 2,500 years before Christ; There is a group of people migrated from the Chinese Neolithic South into the area and with the modern tools than to know how to cultivate. In the end, everything that comes before their eviction in the mountains and forests of the Malay Peninsula on the floor. After that, about 300 years before the Gregorian, bronze age and iron age. Use the metal as a recognized trade weapons, expel them, is in deep forest. They came up with this a new direct ancestors of the people of Malaysia today. However, with the historical evidence of the ancient era is not in Malaysia. Historians usually equate the interval Malaga appeared as an important trade center for coast Malay peninsula is the starting point of the history of Malaysia.พงศาวดารมลายูกล่าวว่ากษัตริย์ปรเมศวรเป็นผู้ตั้งชื่อเมืองนี้ตามชื่อต้นมะละกา ( A Malaka tree-ต้นมะขามป้อม) ซึ่งในขณะที่พระองค์ทรงผักผ่อนใต้ร่มต้นไม้นี้ ได้ทอดพระเนตรเห็นกระจงหันมาเตะสุนัขล่าสัตว์ แสดงให้เห็นว่าในพื้นที่นี้ แม้แต่สัตว์ก็ยังมีเลือดนักสู้ จึงนับเป็นลางที่ดีที่ทำให้พระองค์ตัดสินใจตั้งหลักปักฐานที่นี่ และสร้างมะละกาให้กลายเป็นอาณาจักรชายฝั่งทะเลที่รุ่งเรืองต่อมา อีกคำสันนิษฐานหนึ่งกล่าวว่ามะละกามาจากคำอาหรับที่ว่า มะละกัด (Malakat) หรือศูนย์กลางการค้าอันเป็นชื่อที่พ่อค้ามักใช้เรียกเกาะวอเตอร์ (Water Island)ที่อยู่ใกล้ๆนานแล้วมะละกาจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของมาเลเซียมะละกาเป็นเมืองท่าสำคัญ ก่อตั้งขึ้นประมาณ ค.ศ. 1400 ตั้งอยู่บนช่องแคบมะละกาซึ่งคร่อมเส้นทางการค้าสำคัญทางทะเลจากตะวันออกสู่ตะวันตก ระหว่างสองเมืองสำคัญอย่างจีนกับอินเดีย ถือเป็นท่าเรือที่ดีเพราะไม่มีป่าโกงกาง น้ำลึกพอให้เรือเทียบท่าและมีเกาะสุมาตราเป็นที่กำบังพายุ*มาเลเซียเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศต่างๆ ตั้งแต่ พ.ศ.2054 โดยถูก โปรตุเกส ยึดครองช่องแคบมะละกาซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญในขณะนั้น และต่อมาตกเป็นของ ชาวดัตช์หรือเนเธอร์แลนด์ *ในพ.ศ.2359 ไทยหรือสยาม ได้ ไทรบุรี (เกดะห์) กลันตันและตรังกานู เป็นเมืองขึ้น * The British occupation from 2367 (1824) into Dutch, and has established a total of Malacca, Penang and Singapore municipality. The setting up of a channel (The Straits Settlements). Malaysia obtained independence on August 31 * 2500 (1957) using the name the country that there is a Prime Minister of Malaya, and the first name. Its Gu Abdul business man * Total 2506 (1963) are Singapore, Brunei, Malaya, Sabah and Singapore have separate independent later. Politics ปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรียกว่า สมเด็จพระราชาธิบดี หรือ ยังดี เปอร์กวน อากง (Yang dipertuanAgong) ซึ่งเลือกจากเจ้าครองรัฐต่างๆ ผลัดเวียนกันทุก 5 ปี ส่วนระบบรัฐบาล มีทั้งรัฐบาลกลางแห่งสหพันธรัฐและรัฐบาลแห่งรัฐปกครองแบบรัฐสภา ประกอบด้วย 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา โดยมีนายกรัฐมนตรีมีอำนาจสูงสุดของฝ่ายบริหารโดยประมุขของประเทศเป็นผู้แต่งตั้ง มาเลเซียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 รัฐ ซึ่งแต่ละรัฐผู้ปกครองรัฐของตน และมี 3 เขตที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลกลางแห่งสหพันธรัฐที่ตั้งและอาณาเขต ประเทศมาเลเซียประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วนโดยมีทะเลจีนใต้กั้น *มาเลเซียตะวันตก ตั้งอยู่บนคาบสมุทรมลายู มีพรมแดนทิศเหนือติดกับไทย และทิศใต้ติดกับสิงคโปร์ โดยประกอบด้วย 11 รัฐ คือ ปะหัง สลังงอร์เนกรีเซมบิลัน มะละกา ยะโฮร์เประ กลันตัน ตรังกานูปีนัง เกดะห์ และปะลิส และ 1 เขตที่ปกครองโดยรัฐบาลกลาง คือ เกาะลาบวน *มาเลเซียตะวันออก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว (กาลิมันตัน) มีพรมแดนทิศใต้ติดกับอินโดนีเซียทั้งหมด ประกอบด้วย 2 รัฐ คือ ซาบาร์ และซาราวัก และ 2 เขตที่ปกครองโดยรัฐบาลกลาง คือ กัวลาลัมเปอร์ (เมืองหลวง) ปุตราจายา (เมืองราชการ)ประชากร
มีจำนวนประชากรประมาณ 28.3 ล้านคน โดยมีเชื้อชาติหลักคือ มลายู รองลงมาคือ จีน อินเดีย และเชื้อชาติอื่นๆ เช่น ไทย ทมิฬ ฮอลันดา อาหรับ เป็นต้น รวมถึงยังมีชนพื้นเมืองดั้งเดิม เช่น โอรังอัสลี อีบาน และคาดาดุนซุน เป็นต้น
เศรษฐกิจและทรัพยากรที่สำคัญ
มาเลเซียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้าแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นรองจากสิงคโปร์ แหล่งอุตสาหกรรมส่วนใหญ่อยู่ทางมาเลเซียตะวันตก ปีนัง เป็นเมืองท่าใหญ่ของประเทศ มี ถนนหลวงมาตรฐานสูงเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายไปทั่ว ประเทศคู่ค้าสำคัญของมาเลเซียคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สินค้าส่งออก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันปาล์ม เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ เหล็ก ยางพารา และเป็นผู้ส่งออกดีบุกอันดับต้นๆ ของโลก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Federation of Malaysia (Federation of Malaysia)
capital: Kuala Lumpur (Kuala Lumpur)
state religions: Islam
national flower. Bunga Raya: flowers (Bunga Raya) or red hibiscus flower
National Day: 31 August
the ASEAN members:8 August 2510 (founding member)
official language: Malay (Malay) or Bahasa Malaysia. It is also used in English, Chinese and Tamil

monetary unit. : the Malaysian ringgit (about 3.20 ringgit / 1 US dollars, or about 10.42 baht / 1 ringgit)

.The history of prehistoric

Malaysia today have proof of greatness in the past, like other countries in Southeast Asia. The story, 2500 years BC. A group of Neolithic immigrants from southern China into this area. With modern equipment and how to cultivate.After the story 300 years BC. The mob iron age and bronze age using metal weapons known trading, to repel the original guys to stay in the deep forest in.However, with the historical evidence of Malaysia in ancient times are very limited. Historians often regard the Melaka.The Malay annals said King paramesvara is named the city after the name of the Melaka (A Malaka tree - early makham Fort). While he rest under the shade of trees. It saw a mouse deer to kick a hunting dogEven animals have a fighter. It is a good omen that he decided to settle here. And build the Melaka to become prosperous coastal kingdom later.Mala, Ltd (Malakat) or commercial center as merchant name often used call the island water (Water Island) located near the island for a long time!Melaka beginning history of Malaysia
Melaka is important port was established about AD