วิธีรักษาสามารถแบ่งการรักษาได้เป็น

วิธีรักษา
สามารถแบ่งการรักษาได้เป็น 3 วิธีด้วยกัน ได้แก่

1. การรักษาด้วยยาที่มีประสิทธิภาพสูง วิธีการนี้นับว่าเป็นการช่วยคนไข้ให้หายจากอาการป่วยหรือทำให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่มีการพัฒนาและวิจัยตลอดเวลา จึงทำให้ปัจจุบันนี้สามารถหายาไปช่วยระบบสมองในส่วนที่มีการหลั่งสารเคมีผิดปกติให้กลับมาเป็นปกติได้

2. การให้คำปรึกษาต่อคนไข้ การรักษาวิธีนี้มีตั้งแต่ระดับขั้นต้นคือการพุดคุย จนไปถึงระดับสูงคือการทำจิตบำบัด ที่ค่อนข้างเป็นการรักษาที่ยุ่งยากเพราะต้องใช้เวลา แล้วที่สำคัญทั้งหมอและคนไข้ต้องมีความพร้อม ซึ่งหมายถึงต้องมีทั้งเวลา มีความเข้าใจ และมีความคิดความอ่านพอสมควร การรักษาด้วยจิตบำบัดมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับอาการและชนิดของโรคด้วย

3. การรักษาโดยการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เช่น สังคมหรือครอบครัวของคนไข้ ถ้าหากครอบครัวใดมีการป่วยเกิดขึ้นในครอบครัว ก็หมายความว่า ครอบครัวนั้นต้องมีปัญหา ดังนั้นคุณหมอจึงต้องเข้าไปช่วยในการปรับเปลี่ยนครอบครัวของคนไข้เท่าที่จะทำได้ เราจะมีวิธีการป้องกันตัวเองอย่างไรไม่ให้กลายเป็นผู้ป่วยโรคจิตเวช
สำหรับการดูแลเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เข้าข่ายนั้นมี 2 แบบด้วยกัน คือ
1. การป้องกันแบบภาพรวม ซึ่งมี 4 วิธีด้วยกันที่คุณหมอแนะนำ

- วิธีแรก เนื่องจากว่าโรคพวกนี้เกิดจากความเครียด ก็ควรแก้ความเครียดให้ลดลงด้วยวิธีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายจะสามารถเอาความเครียดที่อยู่ในตัวเราออกไปในระหว่างการออกกำลังกายได้
- วิธีที่ 2 ให้ใช้การระบายออกมาโดยการพูดคุย เมื่อใดที่รู้สึกไม่สบายใจควรจะมีเพื่อน หรือคนที่สนิทที่ให้คำปรึกษา แต่จะต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ที่สามารถระบายทุกอย่างให้เขาฟังได้ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน เช่น เศร้าก็ระบาย โกรธก็ระบาย เครียดเรื่องอะไรก็พูดออกไป ถ้าเพื่อนที่ดีก็จะรับฟังแล้วปลอบ แม้จะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่ถ้าหากเก็บความรู้สึกไว้กับตัวก็จะทำให้เครียดง่าย และเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นการเก็บกด เก็บตัว และส่งผลให้ป่วยง่าย
- วิธีที่ 3 พยายามฝึกตัวเองอย่าไปยึดติดกับวัตถุนิยมให้มากนัก ถ้ายิ่งยึดติดก็ยิ่งทำให้ความเครียดเกิดขึ้น เพราะเมื่อไหร่ที่เราไปยึดถือยึดติดมาก เราก็ต้องทำงานมากขึ้น ขยันมากขึ้น ชิงดีชิงเด่นมากขึ้น แล้วในที่สุดความทุกข์ก็เกิด ความเครียดก็เกิดตามมา
- วิธีที่ 4 ควรหัดศึกษาธรรมะ ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีที่จะป้องกันโรคทางจิตใจที่ดีสุด คือการเข้าใจในพุทธศาสนาของเรานั่นเองเพราะพระพุทธเจ้าพูดถึงเรื่องจิตใจล้วน ๆ แต่คนเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจที่จะศึกษา ซึ่งถ้าคนเราสนใจในแนวทางของศาสนาก็จะไม่ป่วย แต่ก็ต้องเป็นไปอย่างถูกวิธีและถูกทาง

2. การป้องกันแบบเฉพาะเจาะจง
ควรสำรวจตัวเอง ถ้ารู้ว่าตัวเองมีปมปัญหาบางอย่างก็ให้รีบแก้ไข ถ้าหากแก้ไขด้วยตัวเองไม่ได้ก็ควรพบจิตแพทย์ “การที่รู้ตัวเองก่อนแล้วมาพบหมอก่อนที่จะป่วยเป็นสิ่งที่หมอต้องการให้เกิดขึ้น แต่คนส่วนใหญ่จะมาตอนที่ป่วยแล้ว หากเรารู้ตัวก่อนโดยการสังเกตตัวเอง เช่น ‘ทำไมถึงไม่มีเพื่อนสนิท’ ‘ทำไมเพื่อน ๆ ไม่ชอบ’ หรือ ‘ทำงานที่ไหนก็มีปัญหา’ อย่างนี้น่าจะเป็นสัญญาณแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติทางบุคลิกภาพหรือความคิด ถ้ารู้แล้วก็ควรแก้ไข แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ควรมาพบจิตแพทย์ ในปัจจุบันทุกโรงพยาบาลจะมีคลีนิคจิตเวชและมีจิตแพทย์หลายคนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ หากรู้สึกตัวว่าตัวเองมีความผิดปกติทางจิตใจเกิดขึ้น อย่าลังเลที่จะไปพบจิตแพทย์ อย่ามองว่าการพบจิตแพทย์นั้นจะต้องบ้าอย่างเดียว ถ้าเราแก้ทัศนคติตรงนี้ได้ก็จะดี

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

How to maintainTreatment can be divided in three ways: 1. treatment with powerful drugs. This is a way to help the patient, lost from ill or good apparent. Because of the evolution of scientific research and development all the time, now can find the medicine to help the brain part that has an unusual chemical secretions, back to normal. 2. การให้คำปรึกษาต่อคนไข้ การรักษาวิธีนี้มีตั้งแต่ระดับขั้นต้นคือการพุดคุย จนไปถึงระดับสูงคือการทำจิตบำบัด ที่ค่อนข้างเป็นการรักษาที่ยุ่งยากเพราะต้องใช้เวลา แล้วที่สำคัญทั้งหมอและคนไข้ต้องมีความพร้อม ซึ่งหมายถึงต้องมีทั้งเวลา มีความเข้าใจ และมีความคิดความอ่านพอสมควร การรักษาด้วยจิตบำบัดมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับอาการและชนิดของโรคด้วย 3. การรักษาโดยการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เช่น สังคมหรือครอบครัวของคนไข้ ถ้าหากครอบครัวใดมีการป่วยเกิดขึ้นในครอบครัว ก็หมายความว่า ครอบครัวนั้นต้องมีปัญหา ดังนั้นคุณหมอจึงต้องเข้าไปช่วยในการปรับเปลี่ยนครอบครัวของคนไข้เท่าที่จะทำได้ เราจะมีวิธีการป้องกันตัวเองอย่างไรไม่ให้กลายเป็นผู้ป่วยโรคจิตเวช สำหรับการดูแลเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เข้าข่ายนั้นมี 2 แบบด้วยกัน คือ 1. การป้องกันแบบภาพรวม ซึ่งมี 4 วิธีด้วยกันที่คุณหมอแนะนำ The first method, because the disease--they are caused by stress, stress reduction, should be solved by the method of regular exercise, because exercise can remove stress in ourselves to go out during the exercise. - วิธีที่ 2 ให้ใช้การระบายออกมาโดยการพูดคุย เมื่อใดที่รู้สึกไม่สบายใจควรจะมีเพื่อน หรือคนที่สนิทที่ให้คำปรึกษา แต่จะต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ที่สามารถระบายทุกอย่างให้เขาฟังได้ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน เช่น เศร้าก็ระบาย โกรธก็ระบาย เครียดเรื่องอะไรก็พูดออกไป ถ้าเพื่อนที่ดีก็จะรับฟังแล้วปลอบ แม้จะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่ถ้าหากเก็บความรู้สึกไว้กับตัวก็จะทำให้เครียดง่าย และเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นการเก็บกด เก็บตัว และส่งผลให้ป่วยง่าย - วิธีที่ 3 พยายามฝึกตัวเองอย่าไปยึดติดกับวัตถุนิยมให้มากนัก ถ้ายิ่งยึดติดก็ยิ่งทำให้ความเครียดเกิดขึ้น เพราะเมื่อไหร่ที่เราไปยึดถือยึดติดมาก เราก็ต้องทำงานมากขึ้น ขยันมากขึ้น ชิงดีชิงเด่นมากขึ้น แล้วในที่สุดความทุกข์ก็เกิด ความเครียดก็เกิดตามมา - วิธีที่ 4 ควรหัดศึกษาธรรมะ ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีที่จะป้องกันโรคทางจิตใจที่ดีสุด คือการเข้าใจในพุทธศาสนาของเรานั่นเองเพราะพระพุทธเจ้าพูดถึงเรื่องจิตใจล้วน ๆ แต่คนเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจที่จะศึกษา ซึ่งถ้าคนเราสนใจในแนวทางของศาสนาก็จะไม่ป่วย แต่ก็ต้องเป็นไปอย่างถูกวิธีและถูกทาง
2. การป้องกันแบบเฉพาะเจาะจง
ควรสำรวจตัวเอง ถ้ารู้ว่าตัวเองมีปมปัญหาบางอย่างก็ให้รีบแก้ไข ถ้าหากแก้ไขด้วยตัวเองไม่ได้ก็ควรพบจิตแพทย์ “การที่รู้ตัวเองก่อนแล้วมาพบหมอก่อนที่จะป่วยเป็นสิ่งที่หมอต้องการให้เกิดขึ้น แต่คนส่วนใหญ่จะมาตอนที่ป่วยแล้ว หากเรารู้ตัวก่อนโดยการสังเกตตัวเอง เช่น ‘ทำไมถึงไม่มีเพื่อนสนิท’ ‘ทำไมเพื่อน ๆ ไม่ชอบ’ หรือ ‘ทำงานที่ไหนก็มีปัญหา’ อย่างนี้น่าจะเป็นสัญญาณแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติทางบุคลิกภาพหรือความคิด ถ้ารู้แล้วก็ควรแก้ไข แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ควรมาพบจิตแพทย์ ในปัจจุบันทุกโรงพยาบาลจะมีคลีนิคจิตเวชและมีจิตแพทย์หลายคนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ หากรู้สึกตัวว่าตัวเองมีความผิดปกติทางจิตใจเกิดขึ้น อย่าลังเลที่จะไปพบจิตแพทย์ อย่ามองว่าการพบจิตแพทย์นั้นจะต้องบ้าอย่างเดียว ถ้าเราแก้ทัศนคติตรงนี้ได้ก็จะดี

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Treatment
can be treated as three different ways, including : 1. Treatment with high efficiency. How is that helping patients to recover from illness or make it better, obviously. Because the patients that have developed over time and research. To make this drug available to help system in the brain secretes chemicals that are unusual for a return to normal two. Counseling patients on Treatment with a gross level is to strike up a conversation. Until the senior is doing psychotherapy. The treatment is quite tricky because it takes time. Then the doctor and patient both have to be ready. This means that both the time to understand and have some ideas. There are several types of psychotherapy treatment based on symptoms and type of the disease by three. Treatment by modifying the environment, society or the patient's family. If any family is sick in the family. It means that Families that have problems So doctors need to help modify the patient's family as possible. We have a way to protect themselves, how not to become psychiatric patients to care for themselves, not let him sell the two together is 1. Protection Overview which has four ways that you. The doctor recommended - first, because that way these diseases are caused by stress. It is wise to stress is reduced by regular exercise. This exercise can put stress on ourselves away during exercise - the second to take them out by talking. When disturbed should be there. Or someone close consultation. But must be trusted to drain everything to them, whether they are in the mood, such as sadness, anger was vented drain was serious about what they say. If a good friend is to listen and comfort. Despite not help solve the issue. If you store sensitive to the strain it would be easy. And more He became withdrawn and suppressed resulting in a patient-friendly - three ways to train yourself not to attach too much materialism. If the stick was made ​​more stress. Because when we adhere to very strictly. We just need more work, more diligent, more rivalry. Then, finally, the suffering it caused. Stress is caused by - the four seminary students, who really should learn how to prevent mental best. In Buddhism, our understanding is there because the Buddha talks about all that, but we are not interested in education. If people are interested in the ways of religion, it is not sick. However, it must be the right way and being the second. Specific protection should explore yourself. If you know you have a problem with something, then quickly corrected. If not, you should resolve itself with a psychiatrist. "To know yourself before you come to the doctor before the patient is what I want to happen. However, most people will come to the ward. If we knew before, by observing himself as 'Why is there no close friends,' 'Why I do not like' or 'work where I have a problem', this can be a sign that there is something wrong personality or ideas. If you knew then what should But if this fails, it should be a psychiatrist. Currently, every hospital has a psychiatric clinic and a psychiatrist for many people available to help. If you feel that you have a mental impairment occurs. Do not hesitate to go see a psychiatrist. Do not expect to see a psychiatrist must be mad alone. If we solve this attitude has got to be good.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

I hate you!I hate you!Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.I hate you!I hate you!I hate you!I hate you!I hate you!I hate you!I hate you!I hate you!I hate you!I hate you!Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.I hate you!I hate you!