After the era of Salah haphu newsreader hairstyles-societa เกีร Castle Hotel is a brand-new, mabu is a Sage, the most striking one of the men has a witty joy, with mama hait Alam. The evidence is most important in this regard is that the textbook recipes for sathi Hadith collected. Which is known by the common name ฮีย in Salah al-Bu, the brand-new, stunning is commonly accepted as the most accurate book, Deputy from the Quran? Italy's Allee m Abdullah Abu and mud flying Ismaeel. Al-BU and the yakoet for chaowan chonro 194 13-month year-on-year in one of the city's hip hasakrat famous is currently waiting for the Bush Administration's politics in the country of Benedict kitthan. Business hotel of Italy came to mabu, the we named Mohammed Ismaeel al-Hijjah flying skirt khi Jameel afi as a great sage in Hadith salae-Samatha are coming to the mabu is a legacy feature rentals in the enthusiasm and excellence in academic work. อิมามบุคอรียฺ สูญเสียบิดาขณะที่อายุยังน้อย ดังนั้นมารดาของท่านจึงรับภาระหน้าที่ทั้งหมดในการเลี้ยงดู อิมามบุคอรียฺ กลายเป็นคนตาบอดตั้งแต่เยาว์วัย เขาได้ไปหาหมอที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในขณะนั้นแต่การรักษาของหมอกลับไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม่ของเขาเป็นผู้เคร่งครัดในการทำอิบาดะฮฺและเป็นผู้หญิงที่มีคุณธรรมสูงส่ง นางร้องไห้ขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺเพื่อลูกของนางและได้วิงวอนให้ลูกชายสามารถมองเห็นได้ดังเดิม จนในที่สุด สายธารแห่งความเมตตาได้หลั่งไหลมายังนาง ด้วยการที่อัลลอฮฺทรงตอบรับการวิงวอน ในคืนหนึ่งนางเห็นท่านนะบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลามในความฝันและพูดว่า“อัลลอฮ์ทรงทำให้การมองเห็นของลูกเธอกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้งเพราะการวิงวอนของเธอ” ในตอนเช้าเมื่ออิมามบุคอรียฺตื่นขึ้นมาจากที่นอน เขาสามารถมองเห็นแสงริบหรี่ เมื่ออิมามบุคอรียฺอายุได้ 10 ขวบ ท่านจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่านได้หันมาสนใจในวิชาหะดีษและได้รับอนุญาตให้เข้าชั้นเรียนวิชาหะดีษในบุคอรอ ท่านตั้งใจเรียนอย่างแข็งขัน หนึ่งปีต่อมาท่านสามารถจดจำตัวบทและสายรายงานหะดีษได้เป็นอย่างดี จนบางครั้งครูผู้สอนยังต้องตรวจความถูกต้องของหะดีษจากท่าน อิมามบุคอรียฺสามารถศึกษาหาความรู้ศาสนาด้วยความฉลาดและความว่องไว เมื่ออายุครบ 16 ปีท่านสามารถท่องจำหนังสืออัลวากิ๊อฺ ของอับดุลลอฮ์ อิบนุ มุบาร๊อก ได้ทั้งเล่ม และหนังสือเล่มอื่นๆของผู้รู้ที่เป็นสหายของอบู หะนีฟะฮฺ เมื่ออายุได้ 18 ปี อิมามบุคอรียฺได้เดินทางไปมักกะฮ์พร้อมกับมารดาและพี่ชายของท่านที่ชื่อ อะห์มัด อิบนุ อิสมาอีล หลังจากเสร็จสิ้นการทำฮัจญ์ พี่ชายได้กลับไปพร้อมกับมารดาของเขาแต่อิมาม บุคอรียฺยังคงอยู่ที่นั่นเพื่อศึกษาต่อในระดับสูง ในระหว่างนั้นท่านได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า เกาะฎอยา อัศ เศาะฮาบะฮฺ วัต ตาบิอีนหลังจากนั้น ได้เดินทางไปยังมะดีนะฮฺเพื่อเรียบเรียงหนังสือ อัต ตารีค อัล กะบีร อันโด่งดัง อิมามบุคอรีย์เป็นผู้ที่มีความจำที่เป็นเลิศ ราวกับว่าทั้งร่างกายของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มไปด้วยข้อมูล ความจำอันยอดเยี่ยมของเขา ทำให้เรานึกถึงอบูฮุรอยเราะฮฺ รดิยัลลอฮุ อันฮุ ท่านสุไลมาน อิบนุ มุญาฮิด กล่าวว่า “วันหนึ่ง ฉันได้นั่งร่วมกับ มุฮัมมัด อิบนุ สลาม เขากล่าวว่า ถ้าท่านมาเร็วกว่านี้หน่อย ฉันจะให้ท่านดูเด็กคนหนึ่งที่จำหะดีษถึง 70,000 หะดีษ สุไลมานลุกขึ้นและเริ่มมองหาอิมามบุคอรียฺ สักพักเขาก็พบอิมาม บุคอรียฺและถามว่า “ท่านคนเดียวจำหะดีษได้ตั้ง 70,000 หะดีษเชียวหรือ?” อิมามบุคอรียฺตอบว่า “ฉันได้ศึกษาหะดีษมากว่าที่ท่องจำเสียอีก ฉันจำแม้กระทั่งสถานที่เกิด ตาย และที่อยู่ของบุคคลที่ถูกรายงานไว้ในหะดีษ
เช่นเดียวกัน มุฮัมมัด อิบนุ อัซฮัร อัส ซาญิสตานี่ กล่าวว่า “ฉันเคยไปหาสุไลมาน อิบนุ ฮัรบฺ พร้อมกับอิมามบุคอรีย ฺเพื่อที่จะฟังหะดีษจากเขา ฉันบันทึกหะดีษ แต่อิมาม บุคอรียฺกลับไม่ทำอย่างนั้น มีคนพูดกับฉันว่า‘ ทำไมอิมามบุคอรีย ์ถึงไม่บันทึกหะดีษลงไป?’ ฉันบอกกับเขาว่า ‘ถ้าเจ้าพลาดที่จะบันทึกหะดีษใดแล้ว เจ้าสามารถเอามันจากความจำของอิมามบุคอรีย์ได้”
อิมามบุคอรีย ฺเป็นคนเรียบง่ายและทำงานหนัก ท่านมักจะทำงานต่างๆด้วยตัวท่านเอง แม้ว่าจะมีความร่ำรวยและสถานะที่มีเกียติ ท่านมีลูกจ้างจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับความจำเป็นเท่านั้นและตัวเขาไม่เคยหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหล่านี้ มุฮัมมัด อิบนุ ฮาติม อัล วัรรอก ซึ่งเป็นศิษย์เอกคนหนึ่งของเขากล่าวว่า “อิมามบุคอรียฺ ทำห้องเช่าใกล้กับเมืองบุคอรอและกำลังก่ออิฐด้วยมือท่านเอง ฉันรีบเร่งมาหาและกล่าวว่า“ท่านหยุดเถอะ ปล่อยที่เหลือให้ฉันทำเอง” แต่ท่านกลับตอบว่า“ในวันแห่งการตัดสินการงานนี้จะยังประโยชน์กับฉัน”
อัลวัรรอก กล่าวต่อไปว่า “เมื่อเราร่วมเดินทางไปกับอิมามบุคอรียฺ ท่านจะให้พวกเราอยู่รวมกันในห้องหนึ่ง ส่วนตัวท่านเองจะอยู่อีกห้องหนึ่ง คืนหนึ่งฉันเห็นอิมามบุคอรียฺ ตื่นขึ้นมาในช่วงกลางดึกประมาณ 15-20 ครั้งและทุกๆครั้งเขาได้จุดไฟขึ้น เขาเอาหะดีษออกมาแล้วทำเครื่องหมายไว้ หลังจากนั้นจึงวางหัวบนหมอน แล้วเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ยาว ฉันถามท่านว่า‘ทำไมท่านต้องลำบากในช่วงกลางคืนเช่นนี้ ในเมื่อท่านปลุกฉันขึ้นมาก็ได ้(เพื่อที่ฉันจะได้ช่วยท่าน)’ ท่านตอบกลับไปว่า “เจ้ายังเด็กอยู่และจำเป็นต้องนอนให้เต็มอิ่ม และฉันก็ไม่ต้องการจะรบกวนเวลานอนของเจ้า”
อิมามบุคอรียฺถือว่าเป็นตัวอย่างอันดีงามในเรื่องความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ท่านหวังว่าสักวันหนึ่งจะบริจาคให้ได้ 3.000 ดิรฮัมในหนึ่งวัน อัลวัรรอก กล่าวว่า อิมามบุคอรียฺมีรายได้ 500 ดิรฮัมต่อเดือนและเขาจะใช้จ่ายหมดไปกับนักเรียนของเขา
อิมามบุคอรีย์เป็นบุคลที่มีความเคร่งครัดและจริยธรรมสูงส่ง ท่านเกรงกลัวอัลลอฮ์อย่างมากทั้งภายในและภายนอก ท่านจะคอยยับยั้งตัวเองจากการนินทาและระแวงสงสัยผู้อื่นและคอยระวังไม่ให้ก้าวก่ายสิทธิของผู้อื่น บักร์ อิบนุ มุนีร เล่าว่าอิมามบุคอรีย์กล่าวว่า“ฉันหวังว่าเมื่อใดที่ฉันได้พบกับพระผู้อภิบาลของฉัน พระองค์จะไม่ทรงคิดบัญชีกับฉัน เพราะฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการนินทา”
อิมามบุคอรีย ฺคอยระมัดระวังในการทำอิบาดะฮฺของท่านให้มีความประณีตอยู่เสมอ ท่านจะละหมาดและถือศีลอดที่เป็นซุนนะฮฺเป็นประจำ และจะท่องกุรอานทั้งหมดให้ลุล่วงเป็นประจำในเดือนรอมฎอน และท่องกุ
การแปล กรุณารอสักครู่..
