ทำไมต้อง 2 องศา จากการประเมินการเปล

ทำไมต้อง 2 องศา

จากการประเมินการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับที่ 5 (The Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC AR5) ระบุว่าหากโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่า 2 องศาเซลเซียสนับจากช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ตามมาจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศ ถิ่นที่อยู่อาศัย และสิ่งมีชีวิตต่างๆ โลกจะพบกับวิฤตอย่างใหญ่หลวงจนไม่อาจกู้คืน รศ.ดร.อำนาจ ชิดไธสง รองผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในคณะผู้จัดทำรายงาน IPCC AR4 ปี 2007 กล่าวว่า

“ในทางวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า หากอุณหภูมิโลกสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส กลไกของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป จนมนุษย์เราไม่สามารถที่จะควบคุมหรือหันกลับมาทำให้อุณหภูมิมันลดลงต่ำกว่า 2 องศา นักวิทยาศาสตร์ต่างก็บอกว่า 2 องศานี้น่าจะเป็นจุดที่ยังปลอดภัย เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจ สังคมเดินหน้าไปได้โดยไม่เกิดความเสียหายระดับหายนะ”

นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าถ้าอุณหภูมิเกิน 2 องศาเซลเซียส จะเกิดพายุที่รุนแรง คลื่นความร้อนเกิดถี่ขึ้น หลายแห่งทั่วโลกประสบกับภาวะภัยแห้งแล้งอย่างหนัก ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงมาก จนหลายเมืองที่อยู่ตามแนวชายฝั่งอาจจะจมอยู่ใต้น้ำ เกิดภาวะน้ำทะเลเป็นกรดทำลายระบบนิเวศชายฝั่งทะเลให้เสียสมดุล และสัตว์หลายชนิดจะสูญพันธุ์โดยเฉพาะสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ จากรายงานของ IPCC ประเมินว่าเมื่อโลกร้อนขึ้น 2 องศาทั้งสัตว์และพืชจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์สูงถึงร้อยละ 20-30 ธารน้ำแข็งในเขตอาร์กติกจะละลายเพิ่มขึ้นปีละกว่าร้อยละ 10-30 น้ำจืดที่มีอยู่เพียงน้อยนิดบนผิวโลกจะลงอีกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปัจจุบันนี้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นไปแล้ว 0.85 องศาเซลเซียส นับจากช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม (ประมาณปี ค.ศ 1880) (รายงาน IPCC AR5, 2013) ถ้าเรายังไม่เริ่มลงมือทำอะไรตอนนี้ แน่นอนว่าอุณหภูมิของโลกก็จะสูงขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียสภายในครึ่งศตวรรษนี้ และยังจะเพิ่มเป็น 4 องศาเซลเซียสในปลายศตวรรษ ซึ่งเร็วกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้มาก

ดร.ชโลทร แก่นสันติสุขมงคล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปรียบเทียบผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นแล้วจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกในช่วงที่ผ่านมาว่า จากการศึกษาผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปี พ.ศ. 2548 ของทีมวิจัยมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ ประเทศอังกฤษ ระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 0.6 องศาเซลเซียส ในขณะนั้นได้ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างมาก เช่น น้ำแข็งในทะเลอาร์กติกลดลงถึงร้อยละ 15-20 ปะการังทั่วโลกร้อยละ 82 เกิดการฟอกขาว และสิ่งมีชีวิตบนโลกสูญพันธุ์ไปแล้วถึงร้อยละ 8

ในอนาคตถ้าหากอุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น 4 องศาเซลเซียส ทะเลจะมีความเป็นกรดสูงมาก เนื่องจากความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้าไปอยู่ในน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจะกระทบกับการเจริญเติบโตของสัตว์ทะเลที่มีหินปูนเป็นองค์ประกอบ เช่น ปะการัง รวมทั้งสัตว์มีเปลือกอย่าง กุ้ง และหอย นั่นหมายความว่า ทรัพยากรประมงแหล่งอาหารของมนุษย์ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ดร.อำนาจ กล่าวต่ออีกว่า

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับทะเลหรือมหาสมุทรเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เพราะสภาพอากาศของโลกควบคุมโดยมหาสมุทร ผืนดินเรามีนิดเดียวเมื่อเทียบกับทะเล ถ้าทะเลเปลี่ยน อะไรก็ทานไม่อยู่ เพราะกว่าที่จะเปลี่ยนทะเลได้ต้องใช้พลังมหาศาล ทีนี้พลังมหาศาลนี้ก็จะสะท้อนมาเปลี่ยนบรรยากาศเหมือนกัน แล้วเมื่อเปลี่ยนแล้ว หวนกลับยากมาก ต้องใช้เวลาเป็นพันๆ ปี”

มีการประเมินออกมาแล้วว่าถ้าจะรักษาระดับอุณหภูมิของโลกไว้ที่ 2 องศาเซลเซียส ดังนั้นตั้งแต่ตอนนี้จนถึงปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) เราจะต้องลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างน้อยร้อยละ 80 ในรายงานของ IPCC ฉบับล่าสุด ปี พ.ศ. 2556 ได้ฉายภาพให้เราเห็นสิ่งที่เรียกว่า งบดุลย์คาร์บอน หรือ Carbon Budget นั่นคือ หากเราต้องการคงระดับอุณหภูมิของโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส โลกสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสม นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2423 (ค.ศ. 1880) จนถึงสิ้นศตวรรษ คือ พ.ศ. 2643 (ค.ศ.2100) ได้สูงสุดไม่เกิน 2,990 กิกะตันคาร์บอนไดออกไซด์ (GtCO2) แต่ที่ผ่านมาจนถึงปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ.2012) โลกเราปล่อยไปแล้วเฉลี่ยประมาณ 1,948.77 กิกะตันคาร์บอนไดออกไซด์ หมายความว่าภายในช่วงเวลาไม่ถึง 90 ปีที่เหลือนี้ เราสามารถปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกแค่เพียง 987.23 กิกะตัน แต่ถ้ายังเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งปล่อยคาร์บอนกันในอัตราที่เป็นอยู่เช่นในปัจจุบัน เราก็จะใช้งบฯ ที่มีเหลือหมดไปในเวลาเพียงแค่ 25 ปี ซึ่งหมายถึงอุณหภูมิของโลกจะสูงเกิน 2 องศาแน่นอน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Why 2 degrees. From assessment to climate change, vol. 5 (The Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change: the IPCC AR5) specifies that, if the world temperature rises more than 2 degrees Celsius since the industrial revolution range. Climate change will affect the subsequent enormous ecological. Residents and the world will encounter various creatures with enormous rit until may not recover. Assoc. Prof. Dr. Amnat Chitthaisong Deputy Director of the joint graduate school of energy and environment. King Mongkut's University of technology Thonburi, which used to be one of the IPCC AR4 report of 2007 said. "In the scientific world, the high temperatures expected to exceed 2 degrees Celsius. Mechanism of changes in the human world until we are not able to control the temperature back or it drops below 2 degrees, the scientists would say that 2 degrees, this is probably the point at which the economic system to provide secure yet. The society move forward without catastrophe damage levels. " นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าถ้าอุณหภูมิเกิน 2 องศาเซลเซียส จะเกิดพายุที่รุนแรง คลื่นความร้อนเกิดถี่ขึ้น หลายแห่งทั่วโลกประสบกับภาวะภัยแห้งแล้งอย่างหนัก ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงมาก จนหลายเมืองที่อยู่ตามแนวชายฝั่งอาจจะจมอยู่ใต้น้ำ เกิดภาวะน้ำทะเลเป็นกรดทำลายระบบนิเวศชายฝั่งทะเลให้เสียสมดุล และสัตว์หลายชนิดจะสูญพันธุ์โดยเฉพาะสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ จากรายงานของ IPCC ประเมินว่าเมื่อโลกร้อนขึ้น 2 องศาทั้งสัตว์และพืชจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์สูงถึงร้อยละ 20-30 ธารน้ำแข็งในเขตอาร์กติกจะละลายเพิ่มขึ้นปีละกว่าร้อยละ 10-30 น้ำจืดที่มีอยู่เพียงน้อยนิดบนผิวโลกจะลงอีกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปัจจุบันนี้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นไปแล้ว 0.85 องศาเซลเซียส นับจากช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม (ประมาณปี ค.ศ 1880) (รายงาน IPCC AR5, 2013) ถ้าเรายังไม่เริ่มลงมือทำอะไรตอนนี้ แน่นอนว่าอุณหภูมิของโลกก็จะสูงขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียสภายในครึ่งศตวรรษนี้ และยังจะเพิ่มเป็น 4 องศาเซลเซียสในปลายศตวรรษ ซึ่งเร็วกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้มาก ดร.ชโลทร แก่นสันติสุขมงคล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปรียบเทียบผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นแล้วจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกในช่วงที่ผ่านมาว่า จากการศึกษาผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปี พ.ศ. 2548 ของทีมวิจัยมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ ประเทศอังกฤษ ระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 0.6 องศาเซลเซียส ในขณะนั้นได้ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างมาก เช่น น้ำแข็งในทะเลอาร์กติกลดลงถึงร้อยละ 15-20 ปะการังทั่วโลกร้อยละ 82 เกิดการฟอกขาว และสิ่งมีชีวิตบนโลกสูญพันธุ์ไปแล้วถึงร้อยละ 8 ในอนาคตถ้าหากอุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น 4 องศาเซลเซียส ทะเลจะมีความเป็นกรดสูงมาก เนื่องจากความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้าไปอยู่ในน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจะกระทบกับการเจริญเติบโตของสัตว์ทะเลที่มีหินปูนเป็นองค์ประกอบ เช่น ปะการัง รวมทั้งสัตว์มีเปลือกอย่าง กุ้ง และหอย นั่นหมายความว่า ทรัพยากรประมงแหล่งอาหารของมนุษย์ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ดร.อำนาจ กล่าวต่ออีกว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับทะเลหรือมหาสมุทรเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เพราะสภาพอากาศของโลกควบคุมโดยมหาสมุทร ผืนดินเรามีนิดเดียวเมื่อเทียบกับทะเล ถ้าทะเลเปลี่ยน อะไรก็ทานไม่อยู่ เพราะกว่าที่จะเปลี่ยนทะเลได้ต้องใช้พลังมหาศาล ทีนี้พลังมหาศาลนี้ก็จะสะท้อนมาเปลี่ยนบรรยากาศเหมือนกัน แล้วเมื่อเปลี่ยนแล้ว หวนกลับยากมาก ต้องใช้เวลาเป็นพันๆ ปี” มีการประเมินออกมาแล้วว่าถ้าจะรักษาระดับอุณหภูมิของโลกไว้ที่ 2 องศาเซลเซียส ดังนั้นตั้งแต่ตอนนี้จนถึงปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) เราจะต้องลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างน้อยร้อยละ 80 ในรายงานของ IPCC ฉบับล่าสุด ปี พ.ศ. 2556 ได้ฉายภาพให้เราเห็นสิ่งที่เรียกว่า งบดุลย์คาร์บอน หรือ Carbon Budget นั่นคือ หากเราต้องการคงระดับอุณหภูมิของโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส โลกสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสม นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2423 (ค.ศ. 1880) จนถึงสิ้นศตวรรษ คือ พ.ศ. 2643 (ค.ศ.2100) ได้สูงสุดไม่เกิน 2,990 กิกะตันคาร์บอนไดออกไซด์ (GtCO2) แต่ที่ผ่านมาจนถึงปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ.2012) โลกเราปล่อยไปแล้วเฉลี่ยประมาณ 1,948.77 กิกะตันคาร์บอนไดออกไซด์ หมายความว่าภายในช่วงเวลาไม่ถึง 90 ปีที่เหลือนี้ เราสามารถปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกแค่เพียง 987.23 กิกะตัน แต่ถ้ายังเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งปล่อยคาร์บอนกันในอัตราที่เป็นอยู่เช่นในปัจจุบัน เราก็จะใช้งบฯ ที่มีเหลือหมดไปในเวลาเพียงแค่ 25 ปี ซึ่งหมายถึงอุณหภูมิของโลกจะสูงเกิน 2 องศาแน่นอน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Why second-degree assessment of climate change No. 5 (The Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC AR5) states that if global temperatures rise more than 2 degrees Celsius since the Industrial Revolution. As climate change will impact largely on the ecosystem. Habitats And various creatures In England, the world will face an enormous and can not recover. Prof. Dr. Joris against the Sabres, deputy director of the Joint Graduate School of Energy and Environment. Technology This was one of the authors of the report said the 2007 IPCC AR4 "scientifically predicted. If global temperatures within 2 degrees Celsius of global change mechanisms. We as humans are unable to control it or turn the temperature drops below 2 degrees C. The scientists are saying that this is the point where the two are safe. To economy Social progress without damaging the Holocaust " Scientists estimate that if temperatures exceed two degrees Celsius will cause severe storms. Heat waves occurred more frequently Many of the world suffered heavy drought disaster. Sea level rise much higher. Many cities along the coast could be submerged. Severe water acidic, destroying the coastal ecosystems out of balance. And animal species to extinction, especially amphibians water from the IPCC report estimates that global warming to 2 degrees, both animals and plants at risk of extinction as high as 20-30 percent of the glaciers in the Arctic. to dissolve an annual increase of 10-30 per cent of fresh water available on the surface to be little more than 20 percent of today's global average temperature rise to 0.85 degrees Celsius since the Industrial Revolution (approx. year. 1880) (report IPCC AR5, 2013), if we do not start doing something now. Of course, that global temperatures will rise to 2 degrees Celsius within this century. And will also add a 4 degrees Celsius by the end of the century. This is faster than we expected earlier this Dr. Choltr. Core peace ceremony Faculty of Economics Thammasat University Comparison of the effects that have already occurred from the rise in global temperatures in the past. A study of the impact and damage caused by climate change in the year 2548, the research team of the University of Exeter in England indicate that the temperature rise to 0.6 degrees Celsius, while it has an impact on the world. very much like the Arctic sea ice drops to 15-20 percent of global coral bleaching caused 82 percent. And life on Earth extinct percent. 8 in the future if global temperatures rise 4 degrees Celsius, the sea is very high acidity. As the concentration of carbon dioxide into the waters rise. So will affect the growth of sea creatures such as coral limestone elements including animals like shrimp and oyster shells that means. Fisheries human food supply will be affected, according to Dr. Power said that "what is happening with the sea or ocean is very scary. Because of global climate regulation by oceans. We have a little land compared to the sea. The Sea Change What not to eat Because that would require a sea change in power. Now, this force will reflect the change of scenery as well. When Changed Back hard Having spent thousands Year " assessment was that it would maintain the global temperature to 2 degrees Celsius, so from now until the year 2593 (2050), we have to reduce greenhouse gas emissions down. less than 80 percent in the latest issue of the IPCC report, the year 2556 is projected to have a so-called. Carbon Carbon Budget or the balance sheet, that is, if we want to maintain the global temperature not to exceed 2 degrees Celsius, global emissions of carbon dioxide can accumulate since the year 2423 (1880) until the end of the century. Fri. . 2643 (2100) up to 2990 giga tons of carbon dioxide (GtCO2), but the past year until 2555 (2012) was released to the world average of about 1948.77 giga tons of carbon dioxide. This means that within a period of less than 90 years remaining. We can release more carbon dioxide just 987.23 giga tons, but if the burning of fossil fuels, which emit carbon at rates as well as the present. We will use the statement The rest have disappeared in just 25 years, which means global temperatures to two degrees above absolute.