วันเข้าพรรษา ซึ่งอยู่ต่อจากวันอาสาฬหบูชา ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เดือนกรกฏาคมนี้ มีวันสำคัญทางพุทธศาสนาเราถึง 2 วัน วันนี้จึงนำเกร็ดความรู้ และสิ่งดีๆ มาบอกเล่าถึงความหมายของ “วันเข้าพรรษา” ว่าเกี่ยวข้องและสำคัญอย่างไรต่อพระสงฆ์ ในศาสนาพุทธของเรากัน
วันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ ซึ่งเป็นวันที่บ่งบอกถึงฤดูฝน ตามพระพุทธบัญญัติว่า เมื่อถึงวันเข้าพรรษาพระสงฆ์ต้องเข้าจำพรรษา ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งที่ทรงอนุญาตให้เข้าอาศัยอยู่ได้ โดยไม่ผิดกฎที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้อยู่จำพรรษาในสถานที่อันไม่สมควร เช่น ในโลงผี ในที่กลางแจ้ง ในกลด หรือแม้กระทั่ง ในตุ่ม ดังนั้น พระสงฆ์ต้องประพฤติปฎิบัติตามกิจของสงฆ์ คือก่อนที่ถึงวันเข้าพรรษา พระสงฆ์ ควรทำความสะอาดตามเสนาสนะสำหรับอยู่จำพรรษา รวมถึง พระอุโบสถ และอื่น
วันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ ซึ่งเป็นวันที่บ่งบอกถึงฤดูฝน ตามพระพุทธบัญญัติว่า เมื่อถึงวันเข้าพรรษาพระสงฆ์ต้องเข้าจำพรรษา ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งที่ทรงอนุญาตให้เข้าอาศัยอยู่ได้ โดยไม่ผิดกฎที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้อยู่จำพรรษาในสถานที่อันไม่สมควร เช่น ในโลงผี ในที่กลางแจ้ง ในกลด หรือแม้กระทั่ง ในตุ่ม ดังนั้น พระสงฆ์ต้องประพฤติปฎิบัติตามกิจของสงฆ์ คือก่อนที่ถึงวันเข้าพรรษา พระสงฆ์ ควรทำความสะอาดตามเสนาสนะสำหรับอยู่จำพรรษา รวมถึง พระอุโบสถ และอื่นๆ
โดยพระสงฆ์จะต้องประกอบพิธีอธิษฐานพรรษา คือการตั้งอธิษฐานใจของตนเองว่าตลอดฤดูกาลเข้าพรรษานี้ จะไม่ไปไหน ด้วยการเปล่งวาจาว่า “ข้าพเจ้าจะอยู่จำพรรษาในที่อาวาสนี้ตลอด ๓ เดือน” เริ่มตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ (ประมาณเดือนกรกฎาคม) ไปจนถึง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ (ประมาณเดือนตุลาคม) หลังจากเสร็จพิธีแล้ว พระสงฆ์ก็จะนำดอกไม้ ธูปเทียนไปขอขมาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ และพระเถระผู้ที่ตนเองนับถื