ประวัติ นายเฟอร์รุชชิโอ ลัมโบร์กีนี

ประวัติ นายเฟอร์รุชชิโอ ลัมโบร์กีนี เกิดในตระกูลชาวนา เขาได้มีความสนใจในด้านเครื่องยนต์เป็นพิเศษ ดัดแปลงเครื่องจักรกลที่ใช้ในไร่นา จนพ่อเห็นถึงความพยายามของลูกชายจึงส่งไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมจักรกล หลังจากที่เรียนจบไม่นานก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เขารับใช้ชาติทำงานให้กับฐานทัพอากาศอิตาลี หลังสงครามสิ้นสุด เขาได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิด และเริ่มต้นซ่อมแซมรถแทรกเตอร์ของอิตาลี ที่ใช้อะไหล่จากยวดยานของทหาร และนี่เองคือจุดเริ่มต้นในการตั้งโรงงานแทรกเตอร์ในชื่อว่า "Lamborghini Trattori S.p.A." ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นบริษัทผลิตรถแทร็กเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี และยังเป็นเจ้าของกิจการเครื่องปรับอากาศอีกด้วย
ลัมโบร์กีนี เริ่มมีฐานะมั่งคั่งและยังคงไม่ลืมความฝันในวัยเด็กของเขา จึงเริ่มซื้อ อัลฟา โรเมโอ, มาเซราติ, จากัวร์, แอสตัน มาร์ติน, เชฟโรเลต และเฟอร์รารี่ รถยนต์เหล่านี้กำเนิดขึ้นในยุค 1950-1960 มีเครื่องยนต์ที่ให้แรงม้ามากกว่ารถทั่วไปและควบคุมได้ยาก เขามักจะควบ เฟอร์รารี่ 250จีที วนเล่นรอบโรงงานของเขา และรู้สึกว่าเจ้าม้าลำพองนี้ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมดทั้งในเรื่องการควบคุมและส่วนของการให้บริการ จึงขับพุ่งตรงเพื่อไปพบกับ Enzo เฟอร์รารี่ ด้วยตัวเอง และเปิดใจในเรื่องที่เขารู้สึกย่ำแย่ที่มีต่อรถ เฟอร์รารี่ แต่ก็ได้ถูก เอ็นโซ เฟอร์รารี่ ผู้ก่อตั้งบริษัทเฟอร์รารี่ ตอกกลับไปว่า ลัมโบร์กีนี เป็นเพียงแค่คนบ้านนอกที่ไม่มีความรู้อะไรเลยในเรื่องที่เกี่ยวกับรถสปอร์ต ต่างกับเขาที่มีอยู่เต็มในสายเลือด
ด้วยแรงฮึด ลัมโบร์กีนี จึงอยากสร้างรถของตัวเองให้ดีกว่ารถ เฟอร์รารี่ ภายใต้ชื่อ ออโตโมบิล ลัมโบร์กีนี ( Automobile Lamborghini ) ในช่วงปี 1962 ซึ่งโรงงานห่างจาก โรงงานเฟอร์รารี่ เพียงแค่ 15 กม. เท่านั้น ต่อจากนั้นค่ายรถยนต์เจ้าของสัญลักษณ์กระทิงเปลี่ยวก็ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของวงการรถสปอร์ตในยุโรป ให้ได้ตื่นตะลึงกับรูปแบบของตัวรถลัมโบร์กีนี และเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ การวางตำแหน่งเครื่อง และการบังคับควบคุมที่วิศวกรและนักขับทดสอบของบริษัทร่วมกันคิดค้นและพัตนา จนเสร็จสมบูรณ์เป็น ลัมโบร์กีนี 350 จีทีวี ( Lamborghini 350 GTV )
เขาได้ขายกิจการรถแทร็กเตอร์และรถไถนาของ ลัมโบร์กีนี ให้กับบริษัท "เซม" ( Same ) ผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตร จากนั้นไม่นานบริษัทได้ประสบกับปัญหาทางการเงินจนถึงขั้นล้มละลายลงในปี 1977 และถูกซื้อโดยพี่น้องตระกูล มิมรัน( Mimran ) แต่เมื่อมารับช่วงต่อ กิจการก็ยังคงติดขัด จึงถูกขายต่อให้กับบริษัท ไครสเลอร์ แต่ก็ยังเกิดปัญหา จึงถูกขายต่ออีกทอดไปยังกลุ่มทุนจากอินโดนีเซีย และท้ายที่สุดบริษัท ออดี้ เอจี ก็ได้ทำให้ ลัมโบร์กีนี กลับมามั่นคงอีกครั้งจากการดูแลพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์จากวิศวกรและทีมงานจากเยอรมัน ที่มีความมุ่งมั่นบวกกับเงินทุนมหาศาลทำให้หวนสู่วงการซูเปอร์คาร์อีกครั้งในนามของ กัลลาร์โด และ มูร์เซียลาโก ซึ่งเป็นการผสานนวัตกรรมของ ลัมโบร์กีนี และ ออดี้ เข้าด้วยกัน ทำให้ขายได้มากกว่า 9,000 คันในเวลานั้น
เรื่องของวงการรถแข่งลัมโบร์กีนี มีวัตถุประสงค์ที่จะไม่เข้าร่วมรายการต่างๆ ตามปณิธานที่ว่า "I wish to build GT cars without defects - quite normal, conventional but perfect - not a technical bomb." “ผมปรารถนาที่จะสร้างรถ GT ที่ไร้ข้อบกพร่อง – ดูธรรมดา ได้มาตรฐานแต่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่มีแต่เทคโนโลยี” แต่หลังจากที่ ลัมโบร์กีนี ได้เสียชีวิตลงแต่เจตนารมย์นั้นก็ยังคงต่อเนื่อง จนมาถึงผู้บริหาร จอร์จ-เฮนรี่ โรสเสตติ ( Georges-Henri Rossetti ) ได้เข้าช่วยเหลือการพัฒนารถแข่งให้กับ บีเอ็มดับเบิ้ลยู มอเตอร์สปอร์ต ( BMW Motorsport ) แต่เป็นการสนับสนุนแบบไม่เป็นทางการ ทำให้หลังจากนั้นก็ทำให้เริ่มเป็นการเข้าสู่วงการการแข่งขันทีละน้อย รวมถึงการพัฒนา ลัมโบร์กินี กัลลาร์โด ในเวอร์ชัน GT3 และ ลัมโบร์กีนี มูร์เซียลาโก R-GT ที่ได้รับชัยชนะในรายการ "FIA GT Championship" ก็อาจมองได้ว่า ลัมโบร์กีนี กับวงการรถแข่ง ไม่มีอะไรที่หวือหวาเท่าไหร่นัก
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สายเลือดอิตาลี ก่อตั้งโดย Ferruccio Lamborghini ในปี ค.ศ. 1963 เน้นเจาะตลาดตลาดไปที่การผลิตรถสปอร์ต มีคู่แข่งทางตลาดที่สำคัญ คือเฟอร์รารี ซึ่งเป็นรถสัญชาติเดียวกัน ปัจจุบัน ลัมโบร์กีนี อยู่ในการครอบครองของเอาดี้ เอจี ในเครือโฟล์คสวาเกนกรุ๊ป

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Mr. Lambokini Foerutchio history Born in a farmer family. He was interested in the extra engines. Altering the machinery used in the farm until the father agreed to send the son's efforts to study engineering. Industrial mechanical Not long after they graduated, they formed the second world war. He is using a national working for air force base Italy. After the war ended. He traveled back to the homeland and to start Italy's tractor repair, used parts from the means of transportation of soldiers. And here is the starting point for the tractor factory, Lamborghini Trattori S.p.A "as" extremely successful large car manufacturing company has become the largest แทร็กเตอร์ in Italy, and also owns a joint-venture with air conditioning.Lam bo kini Begin wealthy position and still did not forget his childhood dreams started to buy Alfa Romeo, Jaguar, and Aston Martin, Cera Martin, Chevrolet, Ferrari. These cars were made in the era of 1950-1960 with the engine horsepower than conventional cars, and are difficult to control. He often alongside Ferrari 250 GT Loop play around his factory, and feel that this is not yet the owner lamphong horse needs it all in control and serving it with a direct approach to driver Enzo Ferrari itself and open mind in matters that he felt beyond toleration towards the vehicle. Ferrari Enzo but have been. Ferrari Founder of Ferrari company. To retort to that Lam bo kini is simply non-rural people know nothing at all about this subject in the different sports car with him contained in blood.To tie in with bo would therefore create kini LAM's own car, a better vehicle. Ferrari Under the name auto-mobile Bill Lam bo kini (Lamborghini Automobile) in 1962, which the factory away from the Ferrari factory, just 15 km only. Car camp, then owner of the lonely Bull symbol, it has created a new phenomenon of sport in Europe, has been fascinated with the patterns of the bo tree of kini car engine position and force control of the company's test driver and engineer together devised and putt to complete a bo na Lam kini 350 g-TV (the Lamborghini 350 GTV)เขาได้ขายกิจการรถแทร็กเตอร์และรถไถนาของ ลัมโบร์กีนี ให้กับบริษัท "เซม" ( Same ) ผู้ผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตร จากนั้นไม่นานบริษัทได้ประสบกับปัญหาทางการเงินจนถึงขั้นล้มละลายลงในปี 1977 และถูกซื้อโดยพี่น้องตระกูล มิมรัน( Mimran ) แต่เมื่อมารับช่วงต่อ กิจการก็ยังคงติดขัด จึงถูกขายต่อให้กับบริษัท ไครสเลอร์ แต่ก็ยังเกิดปัญหา จึงถูกขายต่ออีกทอดไปยังกลุ่มทุนจากอินโดนีเซีย และท้ายที่สุดบริษัท ออดี้ เอจี ก็ได้ทำให้ ลัมโบร์กีนี กลับมามั่นคงอีกครั้งจากการดูแลพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์จากวิศวกรและทีมงานจากเยอรมัน ที่มีความมุ่งมั่นบวกกับเงินทุนมหาศาลทำให้หวนสู่วงการซูเปอร์คาร์อีกครั้งในนามของ กัลลาร์โด และ มูร์เซียลาโก ซึ่งเป็นการผสานนวัตกรรมของ ลัมโบร์กีนี และ ออดี้ เข้าด้วยกัน ทำให้ขายได้มากกว่า 9,000 คันในเวลานั้นเรื่องของวงการรถแข่งลัมโบร์กีนี มีวัตถุประสงค์ที่จะไม่เข้าร่วมรายการต่างๆ ตามปณิธานที่ว่า "I wish to build GT cars without defects - quite normal, conventional but perfect - not a technical bomb." “ผมปรารถนาที่จะสร้างรถ GT ที่ไร้ข้อบกพร่อง – ดูธรรมดา ได้มาตรฐานแต่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่มีแต่เทคโนโลยี” แต่หลังจากที่ ลัมโบร์กีนี ได้เสียชีวิตลงแต่เจตนารมย์นั้นก็ยังคงต่อเนื่อง จนมาถึงผู้บริหาร จอร์จ-เฮนรี่ โรสเสตติ ( Georges-Henri Rossetti ) ได้เข้าช่วยเหลือการพัฒนารถแข่งให้กับ บีเอ็มดับเบิ้ลยู มอเตอร์สปอร์ต ( BMW Motorsport ) แต่เป็นการสนับสนุนแบบไม่เป็นทางการ ทำให้หลังจากนั้นก็ทำให้เริ่มเป็นการเข้าสู่วงการการแข่งขันทีละน้อย รวมถึงการพัฒนา ลัมโบร์กินี กัลลาร์โด ในเวอร์ชัน GT3 และ ลัมโบร์กีนี มูร์เซียลาโก R-GT ที่ได้รับชัยชนะในรายการ "FIA GT Championship" ก็อาจมองได้ว่า ลัมโบร์กีนี กับวงการรถแข่ง ไม่มีอะไรที่หวือหวาเท่าไหร่นักบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สายเลือดอิตาลี ก่อตั้งโดย Ferruccio Lamborghini ในปี ค.ศ. 1963 เน้นเจาะตลาดตลาดไปที่การผลิตรถสปอร์ต มีคู่แข่งทางตลาดที่สำคัญ คือเฟอร์รารี ซึ่งเป็นรถสัญชาติเดียวกัน ปัจจุบัน ลัมโบร์กีนี อยู่ในการครอบครองของเอาดี้ เอจี ในเครือโฟล์คสวาเกนกรุ๊ป

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

History of Ferrari, Ferruccio Lamborghini was born in a peasant family. He has a special interest in the engine. Modified heavy machinery used in the field. Until I saw the efforts of his son sent to study engineering. Mechanical Industry Shortly after graduation, it was World War II. He worked for the National Air Base, Italy. After the war He returned to his hometown. And start repairing tractors of Italy. Parts of the vehicles used by the military. And this is the start of the Facility as the "Lamborghini Trattori SpA" a great success. Become a manufacturing company tracks the largest in Italy. It also owns the air conditioning with
Lamborghini. Start a wealthy and still not forgotten dreams in his childhood began to buy Alfa Romeo, Maserati, Jaguar, Aston Martin, Chevrolet and Ferrari. These cars were born in 1950-1960 with more horsepower engine that is difficult to control the car and he always rides Ferrari 250 GTO were round his factory. And felt that the horse is not wildly can meet the needs of all in terms of control and service. We drove straight to meet Enzo Ferrari himself and an open mind on the subject, he felt bad for the Ferrari, but was Enzo Ferrari, founder of Ferrari react to Dallas. The Bourne Guinea's just a hillbilly, not knowing anything about the sport. And with him is full of blood
, with a strong resolve Lamborghini wanted to build his own car better than a Ferrari under Automobile Lamborghini (Automobile Lamborghini) in the period. The plant from 1962 Ferrari factory, just 15 km from the camp only on the car owner gaur was a new phenomenon of the sport in Europe. To be amazed with the model of the car Lamborghini. And engine technology Positioning device And the regulation of the engineers and test drivers of innovation and learned together. Complete the Lamborghini 350 GTV (Lamborghini 350 GTV)
was divested tracks router and plow the Lamborghini for the company, "Cem" (Same) machine manufacturer. Agricultural Machinery Soon after, the company was faced with financial problems to the point of bankruptcy in 1977 and was purchased by brothers MIM run (Mimran), but when I took over. Company is still jam The company was sold to Chrysler, but it still crashes. It was sold to another led to the capital of Indonesia. Finally, Audi AG has led Lamborghini to firm again, taking care of our products and a team of engineers from Germany. A commitment, combined with tremendous capital made ​​retrospective to the super car again in the name of Joanne Bordeaux and Murcia Lago, which combines the innovation of Lamborghini and Audi's. puts together sold more than 9,000 units at the time
of the racing industry Lamborghini. The purpose is not to join in. As our motto says "I wish to build GT cars without defects - quite normal, conventional but perfect - not a technical bomb." "I want to build a GT car is flawless - a simple but perfect standard. But the technology is not there, "but after a Lamborghini died, but the spirit is still ongoing. Until executives - George Henry Rose stays Comment (Georges-Henri Rossetti) was to support the development of racing. BMW Motorsport (BMW Motorsport), but is not officially supported. After that, it began to make an entry into the race a little. Including the development of Lamborghini Gallas Bordeaux version GT3 and Lamborghini Murcia La R-GT to get a win in the "FIA GT Championship", it may be viewed as Dallas. The Bourne Guinea to the racing industry. Nothing is striking how much
the car manufacturer founded by Ferruccio Lamborghini Italian pedigree in 1963, its target market to produce a sports car. There is a significant market rivals Ferrari, the car is the same nationality Lamborghini in the acquisition of Audi AG, a subsidiary of Volkswagen Group.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

History. You FIR model nation Oh, Lamborghini, born in the farmer. He is interested in the engine specially. Modified machinery used in field. Until I saw through the efforts of her son was sent to study engineering.After graduating soon became World War II. He served with the Italian Air Force base work after the war ended, he returned to the hometown. And start the repair tractor of Italy.And this was the beginning of setting up a tractor in a named "Lamborghini Trattori S.P.A. "That was a great success. Become the biggest tractors manufacturing company in Italy. And also owns air conditioning as well
.Lamborghini began to be wealthy, and remember his childhood dream, started to buy al FA, Jaguar, Maserati, Romeo, Aston Martin,Chevrolet and Ferrari cars these originated in the 1950-1960 have the engine that the horse than a car, general and hard to control. He always control 250 Ferrari gt of play around the factory.Then drive straight to meet with Enzo Ferrari himself and open in that he felt their bad with a Ferrari, but it is. Enzo Ferrari, the founders of Ferrari react to that, Lamborghini.He is full of different blood
.With to resolve, the Lamborghini wanted to create your own car better than a car, the Ferrari under the name auto Mobil Lamborghini (Automobile Lamborghini. ) during the year 1962 which factory away from the factory Ferrari just 15 km.Only after the car owner symbol กระทิงเปลี่ยว made the new phenomenon of sports cars in Europe. To be amazed with the theme of the car Lamborghini. And the technology of engine positioning machine.To complete a Lamborghini 350 GTV (Lamborghini 350 GTV)
.He sell tractors and tractor of Lamborghini to the company "same" (Same) manufacturers of agricultural machinery Soon after the company was faced with financial problems to step down in 1977 went bankrupt.Mi have it (Mimran), but when it comes to the enterprise still stuck, it was sold to the company, Chrysler, but also problems. It was sold again, leading to the capital group from Indonesia and finally company, Audi AG, ก็ได้ทำให้Back to the stable again from care product development from engineers and team from Germany. With a commitment plus enormous funding made retrospective to the super car again on behalf of the Galla, do and Namur C do go.Lamborghini and Audi together to sell more than 9.000 cars at that time
about the racing cars Lamborghini. Objective to attend various items according to determination that "I wish to build GT cars without defects - quite normal conventional,, But perfect - not a technical bomb."" I wish to build a car GT without defects - out of the ordinary, standard, but perfect. ไม่ใช่มีแต่ technology. "But after Lamborghini. Died down, but the intention that still continues until the executive George - Henry.(Georges-Henri Rossetti) to help the development of racing to BMX w motorsport (BMW Motorsport) but as an informal Make then make began as a debut competition gradually.Lamborghini Gallardo. In GT3 version and Lamborghini Murci é Lago R-GT gained victory in the "FIA GT Championship" could be viewed. Lamborghini with the race car. Nothing exciting much
.The company was founded by Italian car manufacturer, blood Ferruccio Lamborghini in 1975.1963 focused market penetration market to production sports car. A rival in major markets, Ferrari, which is the car the same nationality. At present, the Lamborghini. Be in the possession of the Audi AG, a subsidiary of Volkswagen Group
.