❝.. เรื่องราวของความเป็นอิสระในธรรมชาติแห่งพุทธะ
มิใช่การลงมือทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
และอีกหลายๆอย่าง
เพื่อให้ความเป็นอิสระแห่งพุทธะมันเกิดขึ้น
การจินตนาการขึ้นมาว่าจะต้อง “เดินหนีจาก”
จากจุดที่ยืนอยู่ไปสู่จุดๆนั้น
ซึ่งมันเป็นปากประตู
ที่จะต้องก้าวข้ามกองทุกข์ทั้งปวง
ไปสู่ดินแดนแห่งอิสระเสรี
และการก้าวข้ามปากประตูเข้าไป
แล้วเรียกมันว่า “การบรรลุ”
ความเข้าใจเช่นนี้ ย่อมนำไปสู่
การเดินบนเส้นทางที่คิดว่า
จะทำให้บรรลุอะไรสักอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
และจะไม่มีวันได้เจอปากประตูแห่งอิสระภาพนั้น
ก็เพราะธรรมชาติแห่งพุทธะที่เป็นความอิสระนั้น
มันเป็นความอิสระโดยเนื้อหามันเองอยู่แล้ว
ความคิดที่จะต้องลุถึง
มันกลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง
ที่จะมาปิดบังมิให้ตระหนักชัดในพุทธะนั้นได้
เพราะความว่างมันคือธรรมชาติแห่งพุทธะ
เป็นความอิสระที่บริบูรณ์อยู่แล้ว
มันเป็นความอิสระโดยตัวมันเอง
ซึ่งนอกเหนือความหลุดพ้นหรือความไม่หลุดพ้น
อันเป็นส่วนที่จะไข่วคว้ามาในฐานะแห่งการบรรลุ
และเมื่อยังคงเห็นความแตกต่างระหว่างจุดมืดมัว
ที่คิดว่ากำลังยืนอยู่และปากประตูแห่งการลุถึงความรู้แจ้ง
อันคือความอิสระเป็นภาวะที่แยกจากกัน
และต้องทำภาวะอันคือหนทางที่อยู่ปลายทางให้เกิดขึ้น
ก็จะตกไปสู่ข้อวัตรปฏิบัติอะไรสักอย่างหนึ่ง
ที่มันจะช่วยให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง
ก็เพราะว่าความเป็นอิสระตามธรรมชาตินั้น
มันเป็นธรรมชาติของมันเอง
มันมิใช่ภาวะธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเลย
มันจึงมิได้เป็นอะไรๆเพื่อให้ต้องได้ลุถึงมัน
เมื่อเข้าใจถึงความที่มันเป็นอิสระโดยคุณลักษณะของมันเอง
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้ใครมาลุถึง
เธอก็เป็นอิสระไปแล้วทันที
โดยเป็นเนื้อหาเดียวกันแบบกลมกลืน
กับความเป็นอิสระตามธรรมชาติ
แบบไม่ต้องออกแรงพยายามลุถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย
ก็นั่นแหละ อิสระแล้ว
จะต้องลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า
ตัวเองยังขาดความอิสระอยู่ทำไม ? ..❞
The core of zen