พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
ปีหมินกั๋วที่ 92 เดือนธันวาคม ปี ขุ่ยเว่ย
เราคือ
พระพุทธจี้กง รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดาเจ้า เขียนอักษรเป็นบทเกริ่นนำหนังสือเล่มนี้
สภาวะแห่งโลกปัจจุบัน แสง สี เสียงทำให้ลุ่มหลง สูญสิ้นสัญชาตญาณ และวิจารณญาณเดิม พระอนุตตรธรรมมารดามิอาจทนเห็นดีชั่วล้วนติดอยู่ในสุรา นารี เงินตรา และอารมณ์ หลงทิศทางมิรู้กลับคืน จึงได้เมตตาประทานพระโอวาท กล่าวตักเตือนเหล่าสาธุชนคนบุญในโลกหล้า
ให้บำเพ็ญฝึกฝนจิตตนเที่ยงตรงและช่วยให้ผู้อื่นเที่ยงตรง โปรดตนโปรดผู้อื่นช่วยตนช่วยผู้อื่น ภาษาง่าย ๆ คำกล่าวเตือนบอกให้ศิษย์รักและสาธุชนคนบุญได้รับรู้ จงตั้งใจฟังสาส์นจากพระอนุตตรธรรมมารดา เจ้าเชื่อฟังและน้อมปฏิบัติผู้ที่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงไป ในทางที่ดี ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ที่โชคดี
พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พระโอวาทชี้แนะจากพระอนุตตรธรรมมารดาเจ้า
ปีหมินกั๋วที่ 92 เดือนธันวาคม ปีขุ่ยเว่ย
ฟ้าดินยะเยือกหนาวเย็นจับใจ หิมะตกโปรยปรายลมหนาวพัดพา
บัดนี้พระแม่ลงสู่แดนโลกา โอวาทแห่งธรรมาเตือนลูกรักแจ้งธรรม
หลุดพ้นการเกิดตายรู้แจ้งญาณ หลักแท้ญาณวิถีจิตรู้หน้าเดิม
ผู้มีจิตดีงามมาแต่แรกเริ่ม งดงามเดิมดั่งอยู่เหนือโลกีย์
กาลบัดนี้อย่าหลงโลกควรรู้ตื่นแจ้ง ชีวิตเปลี่ยนแปลงไม่แท้จีรัง
จริงจริงเท็จเท็จเท็จจริงตื่นแจ้งชัด มองประจักษ์ชัดร่างนี้คือกายปลอม
หมั่นฝึกฝนบำเพ็ญจึงรู้ญาณตน วิสุทธิ์หมดจดญาณเดิมงดงาม
มิมีแปดเปื้อนบริสุทธิ์ใสขาว ญาณเดิมสกาวคงศักยภาพจริง
วิจารณญาณคือต้นญาณเดิม หลักญาณเพิ่มเคลื่อนไหวคือมอบชีวิต
กายใจบำเพ็ญคือช่วยดวงจิต ช่วยชนช่วยจิตตนไม่ต่ำลง
จากชนสู่อริยาต้องเข้าถึงญาณ ฟ้าคนประสานช่วยชาวโลกา
แดนโลกดีงามบำเพ็ญญาณหนา ญาณอยู่คงพาชีวิตดำเนิน
ชีวิตอยู่ได้อาศัยจิตญาณ ญาณจากสังขารม้วยไร้ชีวา
ญาณเดิมจริงแท้อมตะสูญญตา สืบทอดนานมาสงบมั่นคง
สมาธิมั่นคิดตรองรู้ธรรมแท้ ที่พระแม่ได้มอบให้ในสังขาร
สงบจิตคิดไตร่ตรองแท้ในญาณ ธรรมอยู่ในกายสังขารประจักษ์พุทธจิต
ทราบหรือไม่ ?
วันนี้ประทานโอวาทเพียงเท่านี้ เวลามีจำกัดพักชั่วคราว
วันหน้ามีโอกาสจึงประทาน กล่าวลาลูกรักกลับแดนเดิม
พระโอวาทชี้แนะจากพระอนุตตรธรรมมารดาเจ้า
ปีหมินกั๋วที่ 93 วันที่ 10 เดือนอ้าย ปีเจี๋ยเซิน
แม่ลงสู่แดนโลกาประทานโอวาท กล่าวสะอาดหมดสิ้นถึงเภทภัย
ประทับญาณพบลูกแสดงจิตจริงใจ หวังบุตรชายหญิงควรรู้ตื่นตน
บัดนี้ถึงกาลตรุษจีนปลายเหมันต์ ใบไม้ผลิเริ่มผันลมหนาวพัด
ลมโชยหนาวยะเยือกไร้น้ำใจนัก น้ำค้างหนักยามเช้ายิ่งหนาวทวี
ดอกไม้บานทนหนาวเหน็บร่วงโรย ดั่งฝนโปรยปรายหนาวเย็นใบไม้ผลิ
สัญลักษณ์ชะตาประเทศในปีนี้ ฤดูหนาวมีอบอุ่น ฤดูใบไม้ผลิหมอกจัด
ต้นถงผลัดใบบ่งถึงใบไม้ผลิ ฤดูร้อนมีฝนชุกพายุพัด
พายุพัดมาปีแห่งการเก็บกวาด เก็บสิ้นกวาดคนชั่วหลายสิบคน
เริ่มใบไม้ร่วงพายุพัดอีกครา ฝนกระหน่ำพาซ้ำมาพายุพัด
พายุเก็บกวาดยิ่งรุนแรงจัด กวาดล้างพัดความชั่วกลางพายุแรง
ปีนี้มีพายุสี่เกิดขึ้นได้ ทั้งใกล้ไกลต่างมีคลื่นโถมซัด
ชาวประมงพบเจออุปสรรคหนัก ประสบกับเจ้ากรรมทวงหนี้กรรมแค้น
คลื่นทะเลกระหน่ำทั่วทุกทิศ พายุฤทธิ์บ้าคลั่งคลื่นพันฟุต
มีเพียงสร้างกุศลเนื้อนาบุญ เพื่อหย่อนหยุดเภทภัยเคราะห์ร้ายแปร
คนดีล้วนได้รับการโปรดฉุด รู้เร่งหยุดเพื่อบำเพ็ญพ้นเภทภัย
คนชั่วร้ายในโลกหล้านี้ไซร์ ล้วนต้องได้รับโทษอย่างรุนแรง
รู้หรือเปล่า ? ฮา ฮา...
ปลายปีนี้จะมีอีกหนึ่งเภทภัย สิบคนกลายมีป่วยห้ารักษายาก
โรคภัยเร้าเจ้ากรรมทวงหนี้วิบาก โรคติดต่อแพร่มากอย่างกว้างไกล
เชื้อโรคยากทำลายขยายเร็ว พาหะเร่งนำโรคแพร่ง่ายติดต่อ
พ้นป่วยนี้บุญกุศลต้องเพียงพอ สร้างบุญหนอเพื่อเพิ่มพูนบุญกุศล
เมื่อผิดเร่งรู้แก้ไข คือ เมธี คนบุญมีฉุดช่วยพ้นโรคภัย
เมธีบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือได้ บำเพ็ญใจฝึกฝนจริงพุทธะเมตตา
รู้หรือเปล่า ?
ใจแม่แสนสงสารเหล่าลูกรัก โอวาทกลั่นจากใจแจ้งญาณแยบยล
ปลุกให้ตื่นเภทภัยอยู่ตรงหน้าตน ยากฝืนทนพ้นภัยร้ายในคราวนี้
เพชฌฆาตตัวการก่อกรรมชั่ว สัตว์ร้องรัวระงมวอนขอชีวิต
มนุษย์ไม่เฉลียวใจกรรมลิขิต โลภกินมิตรเนื้อเขาเราอิ่มเอม
เพียงหนึ่งช้อนคร่าชีวินเสียสิ้นสูญ หนี้เพิ่มพูนหนึ่งคำเคี้ยวสร้างกรรมหนา
ไอความชั่วพวยพุ่งสูงสู่เมฆา สรรพสัตว์ถึงเวลาทวงหนี้กรรม
ร้องคร่ำครวญเจ็บปวดแสนทรมาน ทุกถิ่นฐานนองเชื้อโรคแลพิษร้าย
กินเนื้อข้าคืนเนื้อข้ามาเสียเร็วไว มิเหลือใครหนีรอดพ้นหนี้กรรมทวง
คงเหลือเพียงผู้ถือศีลลิ้นกินเจ มิรวนเรประทานภูมิต้านทานโรคา
บุญเสริมส่งแปรภัยร้ายกลายชีวา งามสง่าทั้งกายใจตลอดกาล
รู้หรือเปล่า?
ติดต่อกันเจ็ดปีล้วนมีภัย ทั้งเล็กใหญ่ล้วนปรากฏมีให้เห็น
ทั้งเชื้อโรคโรคร้ายพาลไม่ละเว้น แหล่งน้ำเหม็นเป็นน้ำเน่าเน่าเศร้าใจ
อากาศผันนั้นเป็นสื่อโรคติดต่อ คนสัตว์หนอผลัดกันป่วยด้วยโรคร้าย
อีกอาหารสารเป็นพิษบิดลำไส้ แพร่กระจายทั่วทิศไกลยากฟื้นฟู
เกิดโรคใหม่มากมายน่าฉงน เดี๋ยวดีเดี๋ยวทุกข์ทนเกินวินิจฉัย
กายต่างกันเชื้อโรคยังติดต่อได้ พิษร้ายแรงกายเจ็บปวดเหลือคณา
ยากเยียวยารักษาไว้ให้หายขาด วายชีวาเป็นคำตอบคำสุดท้าย
คร่าชีวิตต่างล้มเจ็บแลล้มตาย ดั่งใบไม้ร่วงระบาดเป็นทวีคูณ
ทั้งอาเจียนท้องไส้เสียสมดุล ตัวร้อนกรุ่นทรมานสังขารเหลือ
คร่าชีวิตหนึ่งในเจ็ดน่าเหลือเชื่อ เป็นดั่งเหยื่อยากเยียวยารักษาทัน
ต้องเจ็บปวดทรมานยากพรรณา โทษใครหนาเรียกดินฟ้าน้ำตาพร่างพรู
คนรักร้างหลีกห่างไกลสุดกู่ ยากได้อยู่ดูแลใจไข้ร้ายแรง
สถานการณ์บ้านเมืองเรื่องดังกล่าว ใช่เรื่องเล่ากล่าวกันไร้แก่นสาร
ทุกตรอกชอกชอยไหนภัยแผ้วพาน บ้างอาการคันไม่หยุดยากบรรยาย
เว้นชีวิตกินเจผันภัยทั้งผอง เชื้อร้ายป้องต้านทานได้แม้ร้ายหนา
สุขภาพดีปล่อยชีวิตสิ้นโรคา อาหารคือตัวยารักษาโรคภัย
โรคหลากหลายจากชีวิตพิศดาร เหมือนกึ่งฝันเสียงวิญญาณร้องโหยหา