พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นนั้น คือการแต่งงานแบบนิกายชินโต ที่ การแปล - พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นนั้น คือการแต่งงานแบบนิกายชินโต ที่ อังกฤษ วิธีการพูด

พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น

พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นนั้น คือการแต่งงานแบบนิกายชินโต ที่คู่บ่าวสาวจะต้องสวมชุดแต่งงานแบบดั้งเดิมของศาลเจ้าชินโต ซึ่งเจ้าสาวมักจะสวมเป็นชุดกิโมโนสีขาว เกล้าผมขึ้น สวมหมวกหรือผ้าคลุมผม สวมรองเท้าเกี๊ยะ และต้องมีการซ้อมพิธีอยู่หลายครั้ง โดยเน้นการจัดงานแบบใหญ่โตและใช้งบประมาณสูง เพื่อให้เป็นเกียรติแก่คู่บ่าวสาวและครอบครัว

สิ่งสำคัญในการแต่งงานก็คือ สินสอด หรือ โกซูกิ (Goshugi) ที่แต่เดิมมักจะให้กันเป็นของที่มีความหมายเป็นมงคลอย่าง กิโมโน และ โอบิ แต่ภายหลังนิยมเปลี่ยนเป็นเงินแทน ซึ่งมักจะส่งให้เจ้าสาวก่อนล่วงหน้า หรืออยากจะให้ในวันงานเลยก็ทำได้เหมือนกัน ทั้งนี้ ไม่ได้มีการกำหนดแน่นอนว่าสินสอดจะต้องมีมูลค่าเท่าไหร่ เพียงแต่มักจะคำนวณจากเงินเดือนของเจ้าบ่าวบวกเพิ่มอีก 2-3 เท่า ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวก็มักจะมอบของตอบแทนมูลค่าครึ่งหนึ่งของสินสอดกลับไปให้เจ้าบ่าวด้วย ยกเว้นแต่แถบคันไซที่นิยมมอบของตอบแทนให้เจ้าบ่าวประมาณ 10% ของสินสอดที่ได้รับ

เมื่อถึงวันแต่งงาน คู่บ่าวสาวจะต้องชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ (Harai) ด้วยน้ำมิโซกิ (Misogi) โดยมีคนกลางเป็นผู้ทำพิธีให้ จากนั้นคู่บ่าวสาวจะต้องจิบสาเกจากถ้วย 3 ใบ ใบละ 3 ครั้ง รวมเป็น 9 ครั้ง และหลังจากจิบสาเกครบ 9 ครั้งแล้ว ทั้งคู่จะต้องวางถ้วยลงบนโต๊ะพร้อมกัน ห้ามไม่ให้มีใครวางถ้วยแตะโต๊ะก่อน เพื่อเป็นเคล็ดให้คู่เคียงคู่กันตลอดไป ไม่มีใครเสียชีวิตจากไปก่อน นอกจากนี้ คู่บ่าวสาวยังต้องเขียนวาทะสัญญามอบให้แก่กัน เพื่อเป็นคำมั่นให้กับคู่ชีวิตว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อกันจนวันตาย โดยมีพ่อแม่และญาติพี่น้องร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งใบวาทะสัญญานี้ไม่ใช่การจดทะเบียนสมรส เป็นเพียงแค่เครื่องเตือนใจแก่กันเท่านั้น จากนั้นก็สามารถเปลี่ยนชุดเป็นชุดกิโมโนและสูทแบบสากลเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองกับเพื่อนฝูงและครอบครัวได้

การแต่งงานแบบญี่ปุ่นนิยมแต่งงานกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และในเดือนมิถุนายน เนื่องจากแต่ก่อนเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นฤดูฝนชาวญี่ปุ่นไม่นิยมทำพิธีแต่งงานเพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่ตามสถานที่จัดงานแต่งงานต่าง ๆ ได้นำเอาเทพธิดากรีกโรมัน จูโน่ (ชื่อพ้องกับ June หรือ เดือนมิถุนายน) มาเป็นสัญลักษณ์เพื่อคอยคุ้มครองหญิงสาวให้มีความสุข จนทำให้ชาวญี่ปุ่นหลายคนจึงเกิดความเชื่อว่า หากได้แต่งงานในเดือนมิถุนายนแล้วจะมีความสุขนั่นเอง

นอกจากการแต่งงานแบบดั้งเดิมแล้ว การแต่งงานแบบญี่ปุ่นอีกแบบที่นิยมแต่งงานกันก็คือ การแต่งงานแบบคริสต์ นั่นคือการสวมแหวนหมั้นและเข้าทำพิธีแต่งงานในโบสถ์แบบชาวตะวันตก ซึ่งชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ไม่ได้นับถือคริสต์ก็นิยมทำพิธีแต่งงานแบบนี้ เนื่องจากความสะดวกและใช้งบประมาณน้อยกว่า
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
The traditional wedding ceremony, that Japan's traditional Shinto schools and that the bride and groom must wear a traditional wedding dress of a Shinto shrine. The bride usually wears a White Lady kind enough to cover my hair or hats. And the priest must be a practice many times. With an emphasis on celebrating the big budget and high to honor the bride and groom and family
.
It is important in a marriage, the dowry or Zucchini find (Goshugi) that was originally often, as meaningful as their sacred kimono and Obispo but later became popular instead of money, which is usually sent to the bride before the advance. This is. There are, of course, has not been determined whether the dowry must be worth much. But it is usually calculated on the salary of the groom added another 2-3 times. Except that it's popular, Kansai awarded compensation, approximately 10% of the groom a dowry received
.
When the wedding day The bride and groom will have to wash the body, purity (Harai) with water (Misogi) by Mizo-someone who is in the middle of the ceremony, the bride and groom to SIP sake from each leaf blade 3 cups 3 times as 9 times, and after sipping sake stop 9. Both will need to put the Cup down on the table at the same time. You are prohibited from placing a Cup to touch table. Tips to keep abreast partners forever. No one died from the first. In addition, the bride and groom must also write a contract granted watha. With parents and relatives joined the witness, a non-treaty watha registered marriage as simply a warning heart only.
Japan top wedding married in spring, and in June, because it is the rainy season in June before the nationals of Japan is not popular wedding ceremony because the weather is not permitting. Lol God daughters brought green-no karoman (a name synonymous with June or June) comes as a symbol to protect the girl, happy to make the people of Japan, so many people come to faith.
In addition to traditional marriage. Traditional Japan again a popular marriage is marriage, a Christian, that is to wear the engagement ring and wedding ceremony in the chapel of the Westerner. Due to budget and use less.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นนั้น คือการแต่งงานแบบนิกายชินโต ที่คู่บ่าวสาวจะต้องสวมชุดแต่งงานแบบดั้งเดิมของศาลเจ้าชินโต ซึ่งเจ้าสาวมักจะสวมเป็นชุดกิโมโนสีขาว เกล้าผมขึ้น สวมหมวกหรือผ้าคลุมผม สวมรองเท้าเกี๊ยะ และต้องมีการซ้อมพิธีอยู่หลายครั้ง โดยเน้นการจัดงานแบบใหญ่โตและใช้งบประมาณสูง เพื่อให้เป็นเกียรติแก่คู่บ่าวสาวและครอบครัว

สิ่งสำคัญในการแต่งงานก็คือ สินสอด หรือ โกซูกิ (Goshugi) ที่แต่เดิมมักจะให้กันเป็นของที่มีความหมายเป็นมงคลอย่าง กิโมโน และ โอบิ แต่ภายหลังนิยมเปลี่ยนเป็นเงินแทน ซึ่งมักจะส่งให้เจ้าสาวก่อนล่วงหน้า หรืออยากจะให้ในวันงานเลยก็ทำได้เหมือนกัน ทั้งนี้ ไม่ได้มีการกำหนดแน่นอนว่าสินสอดจะต้องมีมูลค่าเท่าไหร่ เพียงแต่มักจะคำนวณจากเงินเดือนของเจ้าบ่าวบวกเพิ่มอีก 2-3 เท่า ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวก็มักจะมอบของตอบแทนมูลค่าครึ่งหนึ่งของสินสอดกลับไปให้เจ้าบ่าวด้วย ยกเว้นแต่แถบคันไซที่นิยมมอบของตอบแทนให้เจ้าบ่าวประมาณ 10% ของสินสอดที่ได้รับ

เมื่อถึงวันแต่งงาน คู่บ่าวสาวจะต้องชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ (Harai) ด้วยน้ำมิโซกิ (Misogi) โดยมีคนกลางเป็นผู้ทำพิธีให้ จากนั้นคู่บ่าวสาวจะต้องจิบสาเกจากถ้วย 3 ใบ ใบละ 3 ครั้ง รวมเป็น 9 ครั้ง และหลังจากจิบสาเกครบ 9 ครั้งแล้ว ทั้งคู่จะต้องวางถ้วยลงบนโต๊ะพร้อมกัน ห้ามไม่ให้มีใครวางถ้วยแตะโต๊ะก่อน เพื่อเป็นเคล็ดให้คู่เคียงคู่กันตลอดไป ไม่มีใครเสียชีวิตจากไปก่อน นอกจากนี้ คู่บ่าวสาวยังต้องเขียนวาทะสัญญามอบให้แก่กัน เพื่อเป็นคำมั่นให้กับคู่ชีวิตว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อกันจนวันตาย โดยมีพ่อแม่และญาติพี่น้องร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งใบวาทะสัญญานี้ไม่ใช่การจดทะเบียนสมรส เป็นเพียงแค่เครื่องเตือนใจแก่กันเท่านั้น จากนั้นก็สามารถเปลี่ยนชุดเป็นชุดกิโมโนและสูทแบบสากลเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองกับเพื่อนฝูงและครอบครัวได้

การแต่งงานแบบญี่ปุ่นนิยมแต่งงานกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และในเดือนมิถุนายน เนื่องจากแต่ก่อนเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นฤดูฝนชาวญี่ปุ่นไม่นิยมทำพิธีแต่งงานเพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่ตามสถานที่จัดงานแต่งงานต่าง ๆ ได้นำเอาเทพธิดากรีกโรมัน จูโน่ (ชื่อพ้องกับ June หรือ เดือนมิถุนายน) มาเป็นสัญลักษณ์เพื่อคอยคุ้มครองหญิงสาวให้มีความสุข จนทำให้ชาวญี่ปุ่นหลายคนจึงเกิดความเชื่อว่า หากได้แต่งงานในเดือนมิถุนายนแล้วจะมีความสุขนั่นเอง

นอกจากการแต่งงานแบบดั้งเดิมแล้ว การแต่งงานแบบญี่ปุ่นอีกแบบที่นิยมแต่งงานกันก็คือ การแต่งงานแบบคริสต์ นั่นคือการสวมแหวนหมั้นและเข้าทำพิธีแต่งงานในโบสถ์แบบชาวตะวันตก ซึ่งชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ไม่ได้นับถือคริสต์ก็นิยมทำพิธีแต่งงานแบบนี้ เนื่องจากความสะดวกและใช้งบประมาณน้อยกว่า
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Traditional wedding ceremony of the Japanese. Is marriage a Shinto sects. The couple will have to wear a traditional wedding of a Shinto shrine. The bride usually wear a kimono, white hair, wearing a hat or scarf.And the need to practice the many times. By focusing on events and a big budget. To honor a couple and family
.
.The important thing in marriage is the dowry or go sugi (Goshugi) originally always together as a meaningful is favorable, kimono. And Obi, but later popular change money instead. The bride usually sent in advance.However, do not have the certainly dowry shall be valued very much. But often calculated from the groom's salary plus 2-3 imaginable.Except for the Philadelphia bar popular give reward to the groom's dowry was about 10%
.
.When the wedding day. The couple will have to cleanse the body of pure (Harai) with น้ำมิ โซกิ (Misogi) with the mediator is Baptist. Then the couple will have a sake cup 3 leaves each 3 times, a 9 times, and after a สาเกครบ 9.Both of them have put the cup on the table at the same time. Forbid who put the cup on the table. As a knack to be close together. No one died away. In addition, the couple also must write a speech given to the contract.The parents and relatives witnessed Which leaves the rhetoric this promise is not a marriage registration Just a reminder to each other.
.Japanese popular marriage married in the spring, and in June. Because before June, which is the season of popular Japanese not marry because of unfavorable weather conditions.. the Roman Greek goddess Juno (synonym with June or June). As a symbol to protect the girl happy. The Japanese people have beliefs.
.In addition to traditional marriage. Another popular Japanese marriage married is a Christian marriage That is to wear engagement rings and to marry in the church a westerner.Due to the convenience and cost less.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: