Nine of the enemy army, the history of Thailand's national women's two brothers psychotherapist inscriptions of Thalang, Which locals fight the Burmese army. Protecting your home city, survived a brave second sample was occupied until the enemy army back to. Once aware of the Lord God kan King Rama I the great skyline. Has graciously appointed as Thao Thep krasatri and Thao Sri sunthon, so as he likes and inductee in the brave story of a psychotherapist two heroines of Thalang, at that time a proud inscription engraved in the memories of the city's residents and of residents of both Nations as long as Thailand until today. Inter alia, to provide the life history studies of the people that have been hailed as heroes, heroines and national up. There is a possibility that the results of the study and understand. Not just praise but no evidence of historical information that would save lives and stories, event of Thao Thep krasatri Thao Sri soonthorn came to offer the following: Thao Thep krasatri The original extension that "Chan" section Thao Sri suntorn. The original extension that "Pearl" is the owner of PHO Thalang. Name the location of the island that time at home that takhian Jom Home-Thailand. Maternal ancestry owner city thairaburi Chan and Mook have brother and sister join their parents for another 3 people is clean and glowing bitches. Thao Thep krasatri or Chan was born in Ayutthaya period around the year 2280 when Buddhist school as girls, had married for the first time with loyal fisting. Jom son, Mr. Kongmueangnakhonsithamrat, and when the deceased loyal fisting. Thalang has returned to the city. A new marriage with the former Prince Chumphon mueangkra had a son pimon male female total interconnectedness-Jui and Gold candle prang is aluminum. God your husband ever go out pimon owns the town phatthalung is one term before returning to Chao Phraya Thalang, 83110 Thalang, which is connected from the younger brother Thao Thep krasatri. Thao Sri sunthon or section pearls. Found no evidence for details about family life in what may be his marriage to a Permanent Secretary, but did not have a child together, and some that you should not get married so in detail, evidence. Thus is the story of Thao Thep krasatri mostly. For both events, your psychotherapist, as is recorded in the Royal Chronicles of the reign of Chao Phraya vol. 1 Rattanakosin tipakorn saiphatana Wong. There are the following. "...ฝ่ายกองทัพพม่าซึ่งพระเจ้าอังวะให้ยกลงไปตีหัวเมืองไทยฝ่ายตะวันตกตามชายทะเลนั้นก็ยกกองทัพบกเรือลงไปพร้อมกันอยู่ ณ เมืองมะริด แต่เดือนอ้าย ปีมะเส็ง สัปตศก (พ.ศ.๒๓๒๘) แกงวุ่นแมงยี่ แม่ทัพใหญ่จึงให้ยี่วุ่น เป็นนายทัพถือพล ๓,๐๐๐ กับนายทัพนายกองทั้งปวงยกทัพเรือลงไปทางทะเลไปตีเมืองถลาง แล้วให้เนมโยคุงนรัดเป็นทัพหน้ากับนายทัพนายกองทั้งปวงถือพล ๒,๕๐๐ ยกทัพบกมาทางเมืองกระบุรี เมืองระนอง เข้าตีเมืองชุมพร ตัวแกงวุ่นแมงยี่แม่ทัพใหญ่ถือพล ๔,๕๐๐ ยกหนุนมาทั้ง ๒ ทัพ เป็นคน ๗,๐๐๐..." "...ฝ่ายยี่วุ่นแม่ทัพเรือพม่าก็ยกทัพเรือลงไปตีเมืองตะกั่วป่าตะกั่วทุ่งแตก แล้วยกไปถึงเกาะถลาง ให้พลทหารขึ้นบกเข้าตั้งค่ายล้อมเมืองถลางไว้เป็นหลายค่าย และเมื่อกองทัพพม่าไปถึงเมืองนั้น พระยาถลางถึงแก่กรรมเสียก่อนแล้ว ยังหาได้ตั้งเจ้าเมืองใหม่ไม่ และจันภรรยาพระยาถลางกับน้องหญิงคนหนึ่งชื่อมุก คิดอ่านกับกรมการทั้งปวงเกณฑ์ไพร่พลตั้งค่ายใหญ่สองค่าย ป้องกันรักษาเมืองเป็นสามารถ และตัวภรรยาพระยาถลางกับน้องผู้หญิงนั้น องอาจกล้าหาญมิได้เกรงกลัวย่อท้อต่อข้าศึก เกณฑ์กรมการกับพลทหารทั้งชายหญิงออกระดมยิงปืนใหญ่น้อยนอกค่ายสู้รบกับพม่าทุกวัน ทัพพม่าจะหักเอาเมืองมิได้ แต่สู้รบกันอยู่ประมาณเดือนเศษ พม่าขัดเสบียงอาหารจะหักเอาเมืองมิได้ ก็เลิกทัพลงเรือกลับไป..." จากศึกถลางครั้งนี้แม้บ้านเมืองจะรอดจากการยึดครองของพม่าไปได้ แต่ก็มีสภาพบอบช้ำจากภัยสงครามอย่างมาก ท่านผู้หญิงจันต้องรับภาระกอบกู้สถานการณ์ทุกด้าน ตั้งแต่การจัดหาข้าวปลาอาหารสำหรับชาวเมือง ไปจนถึงการฟื้นฟูการประกอบอาชีพ การทำมาหากิน ซึ่งมีการทำเหมืองแร่ดีบุกเป็นสำคัญ ท้าวเทพกระษัตรีหรือท่านผู้หญิงจันในฐานะภริยาเจ้าเมืองถลาง ได้มีหนังสือไปถึงพระยาราชกปิตัน หรือฟรานซิสไลท์ เจ้าเมืองปีนังแจ้งข่าวเรื่องศึกพม่า และขอความอนุเคราะห์เรื่องเสบียงอาหารของชาวเมืองที่กำลังขาดแคลนดังนี้ "หนังสือท่านผู้หญิงจำเมรินมายังท่านพญาราชกปิตันเหล็กก็ให้แจ้งด้วยมีหนังสือฝากให้แก่นายเรือตะหน้าวถือมาเถิงเป็นใจความว่า เมื่อท่านอยู่ ณ เมืองบังลา รู้ข่าวไปว่า พม่ายกมาตีเมืองถลาง จะได้เมืองถลางประการใด แลตูข้าลูกเต้าทั้งปวงจะได้ไปด้วยหรือประการใดมิแจ้ง ต่อท่านมาถึงเมืองไซ รู้ไปว่าเมืองถลางไม่เสียแก่พม่า แลตูข้าลูกเต้าทั้งปวงอยู่ดีกินดี ค่อยวางใจลงในหนังสือ มีเนื้อความเป็นหลายประการนั้นขอบใจเป็นหนักหนา พระคุณท่านหาที่สุดมิได้ แลอยู่ทุกวันนี้ ณ เมืองถลาง พม่าตีบ้านเมืองเป็นจลาจลอดข้าวปลาอาหารเป็นหนักหนา ตูข้ายกมาตั้งทำดีบุกอยู่ ณ ตะปำ ได้ดีบุกบ้างเล็กน้อย เอาซื้อข้าวแพง ได้เท่าใด เอาซื้อสิ้นเท่านั้น... อนึ่ง ตูข้าได้จัดดีบุกสิบภารา เป็นส่วนเจ้าลิบแปดภารา ส่วนตูข้าสองภารา จัดให้มาแก่ท่านและเจ้าลิบนั้นได้แต่งให้จีนเฉียวพี่ชาย และตูข้าได้แต่งนายแช่มจินเสมียนอิ่ว คุมเอาดีบุกไปถึงท่านให้ช่วยจัดซื้อข้าวให้ อนึ่ง ถ้าข้าว ณ เกาะปุเหล้าปีนังขัดสน ขอท่านได้ช่วยแต่งให้ผู้หนึ่งผู้ใดไปช่วยจัดซื้อข้าว ณ เมืองไซ ถ้าได้ข้าวแล้วนั้นขอท่านได้ช่วยแต่งสุหลุปกำปั่นเอามาส่งให้ทัน ณ เดือนสิบเอ็ด เห็นว่าจะได้รอดชื่อเห็นหน้าท่านสืบไป..." จากหลักฐานดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ในฐานะเป็นภริยาเจ้าเมือง ท้าวเทพกระษัตรีต้องรับภาระช่วยเหลือหน้าที่ราชการของสามีทั้งในการปกครอง การติดต่อซื้อขายกับพ่อค้าชาวต่างชาติ ทั้งในยามปกติและในยามที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะขาดแคลนเสบียงอาหาร ซึ่งเป็นผลมาจากการศึกสงคราม ทั้งนี้เพื่อช่วยในการฟื้นฟู และบรรเทาความอดอยากของราษฎร ด้วยการเร่งรัดให้ชาวเมืองช่วยกันผลิตดีบุก เพื่อนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนกับข้าวและอาวุ
การแปล กรุณารอสักครู่..