พระราชกรณียกิจด้านความมั่นคงภายในปร

พระราชกรณียกิจด้านความมั่นคงภายในประเทศ

แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระราชภาระหนักยิ่งในการพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกรผู้ด้อยโอกาสทั้งหลายให้ดีขึ้นอยู่แล้วก็ตาม แต่ไม่เคยทรงลืมทหาร ตำรวจ และพลเรือน ผู้ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในถิ่นทุรกันดารเพื่อความสงบสุขและมั่นคงของชาติบ้านเมือง ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่เขาเหล่านั้นอยู่เสมอ ดังเช่นในยุคที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้ยึดพื้นที่รอยต่อของสามจังหวัด ได้แก่เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และเลย (เขาค้อ – ภูขัด – ภูหินร่องกล้า) ซึ่งจัดว่าเป็นชัยภูมิที่แข็งแกร่งเป็นฐานที่มั่น ทำให้กองทัพภาคที่ ๓ และ กอ.รมน.ภาค ๓ ต้องใช้เวลาในการปราบปรามยาวนานถึง ๑๕ ปี มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองบาดเจ็บและเสียชีวิตไม่น้อยจากการปะทะกันในห้วงเวลานั้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีความห่วงใย อย่างมาก ได้เสด็จฯ ไปทรง เยี่ยมทหาร ตำรวจ ถึงฐานปฏิบัติการบ่อยครั้ง เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจ โดยมิได้ทรงเกรงกลัวต่อภัยอันตราย ทั้งยังเสด็จฯ เยี่ยมผู้ที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ และพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้พิการ ทุพพลภาพ ส่วนผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัคิหน้าที่ ทั้งสองพระองค์ก็ได้เสด็จฯ ในการพระราชทานเพลิงศพทุกครั้ง ครอบครัวผู้เสียชีวิตก็มิได้ทรงทอดทิ้ง ต่างได้รับพระราชทานความช่วยเหลือตามสมควร ก่อให้เกิดขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก ดังจะหยิบยกมาเป็นตัวอย่างต่อไปนี้- พ.ศ. ๒๕๑๐ เสด็จฯ เยี่ยมทหาร ตำรวจที่บ้านห้วยโก๋น อำเภอทุ่งช้างจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองปะทะกับผู้ก่อการร้ายบ่อยครั้ง เมื่อเสด็จฯ ถึงจังหวัดน่าน ทรงทราบว่ามีทหารบาดเจ็บจากการต่อสู้ตกค้างอยู่บนเขาอีก ๔ นาย ก็รับสั่งให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ในขบวนเสด็จฯ ไปรับมารักษาพยาบาล อีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสด็จฯ เยี่ยมประชาชนและเจ้าหน้าที่ฯ ในตำบลปอน อำเภอทุ่งช้าง เพียงคืนเดียว ผู้ก่อการร้ายได้ใช้ปืนครกยิงเข้าไปในที่ตั้งหน่วยทหาร ใกล้พื้นที่ที่จะเสด็จฯ เจ้าหน้าที่ผู้ถวายความปลอดภัยก็ได้กราบบังคมทูลฯ ขอให้ทรงงดการเสด็จฯ แต่ทรงมีพระราชดำรัสกับผู้ใกล้ชิดว่า “…..เมืองไทยอยู่รอดมาได้ทุกกาลสมัย ก็ด้วยกำลังทหารที่เข้มแข็ง….” “…เขาเสียสละชีวิต เลือดเนื้อ เพื่อพวกเราอย่างกล้าหาญ เราควรจะช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้…” นี่คือน้ำพระราชหฤทัยที่จะไม่ทรงทอดทิ้งผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อบ้านเมือง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Gives stability inside the country. แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระราชภาระหนักยิ่งในการพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกรผู้ด้อยโอกาสทั้งหลายให้ดีขึ้นอยู่แล้วก็ตาม แต่ไม่เคยทรงลืมทหาร ตำรวจ และพลเรือน ผู้ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในถิ่นทุรกันดารเพื่อความสงบสุขและมั่นคงของชาติบ้านเมือง ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่เขาเหล่านั้นอยู่เสมอ ดังเช่นในยุคที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้ยึดพื้นที่รอยต่อของสามจังหวัด ได้แก่เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และเลย (เขาค้อ – ภูขัด – ภูหินร่องกล้า) ซึ่งจัดว่าเป็นชัยภูมิที่แข็งแกร่งเป็นฐานที่มั่น ทำให้กองทัพภาคที่ ๓ และ กอ.รมน.ภาค ๓ ต้องใช้เวลาในการปราบปรามยาวนานถึง ๑๕ ปี มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองบาดเจ็บและเสียชีวิตไม่น้อยจากการปะทะกันในห้วงเวลานั้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีความห่วงใย อย่างมาก ได้เสด็จฯ ไปทรง เยี่ยมทหาร ตำรวจ ถึงฐานปฏิบัติการบ่อยครั้ง เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจ โดยมิได้ทรงเกรงกลัวต่อภัยอันตราย ทั้งยังเสด็จฯ เยี่ยมผู้ที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ และพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้พิการ ทุพพลภาพ ส่วนผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัคิหน้าที่ ทั้งสองพระองค์ก็ได้เสด็จฯ ในการพระราชทานเพลิงศพทุกครั้ง ครอบครัวผู้เสียชีวิตก็มิได้ทรงทอดทิ้ง ต่างได้รับพระราชทานความช่วยเหลือตามสมควร ก่อให้เกิดขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก ดังจะหยิบยกมาเป็นตัวอย่างต่อไปนี้- พ.ศ. ๒๕๑๐ เสด็จฯ เยี่ยมทหาร ตำรวจที่บ้านห้วยโก๋น อำเภอทุ่งช้างจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองปะทะกับผู้ก่อการร้ายบ่อยครั้ง เมื่อเสด็จฯ ถึงจังหวัดน่าน ทรงทราบว่ามีทหารบาดเจ็บจากการต่อสู้ตกค้างอยู่บนเขาอีก ๔ นาย ก็รับสั่งให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ในขบวนเสด็จฯ ไปรับมารักษาพยาบาล อีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสด็จฯ เยี่ยมประชาชนและเจ้าหน้าที่ฯ ในตำบลปอน อำเภอทุ่งช้าง เพียงคืนเดียว ผู้ก่อการร้ายได้ใช้ปืนครกยิงเข้าไปในที่ตั้งหน่วยทหาร ใกล้พื้นที่ที่จะเสด็จฯ เจ้าหน้าที่ผู้ถวายความปลอดภัยก็ได้กราบบังคมทูลฯ ขอให้ทรงงดการเสด็จฯ แต่ทรงมีพระราชดำรัสกับผู้ใกล้ชิดว่า “…..เมืองไทยอยู่รอดมาได้ทุกกาลสมัย ก็ด้วยกำลังทหารที่เข้มแข็ง….” “…เขาเสียสละชีวิต เลือดเนื้อ เพื่อพวกเราอย่างกล้าหาญ เราควรจะช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้…” นี่คือน้ำพระราชหฤทัยที่จะไม่ทรงทอดทิ้งผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อบ้านเมือง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Domestic security duties

.Even the king shall have royal heavy burden in the development of civilian populace living and well depends on disadvantaged by then. But he has never left the military, police and civilian.He performed various duties To comfort and encouragement to them always. As in the era of Communist terrorists have seized the area of the junction of three provinces of Phetchabun, Phitsanulok, and (at - Phu polishing. -Which is considered as a strong เป็นฐานที่มั่น Chaiyaphum, army and three and Geo.รมน.Part 3 takes in suppression of long lasting 15 years have the people injured and died not from the clash at that time. The king and queenSignificantly, her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn, great military, police, base often. To comfort and encouragement. By not fear danger, and His Majesty's sufferer from duty.Disability, and deaths from practice, บัคิ functions. Both of you have come. In the cremation time. The family of the deceased, it hath not forsaken. Both received assistance as appropriate.It is put forward as an example the following - B.