5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สมชายพลอยเ

5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
สมชายพลอยเลื่อมแสง (2547) ศึกษาทัศนคติและการรับรู้เรื่องรูปร่างความเครียดและความต้องการควบคุมน้าหนักของวัยรุ่นไทยเป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หาความชุกและปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการลดน้าหนักของวัยรุ่นไทยโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการแสดงพฤติกรรมอย่างมีเหตุผล (Theory of Resasoned Action) เป็นพื้นฐานทาการในกลุ่มวัยรุ่นไทยที่กาลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นถึงระดับปริญญาตรีของประเทศไทยจานวน 492 คนเครื่องมือในการศึกษาผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) จากผู้เชี่ยวชาญและให้ค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยง (Cronbach’s alpha coefficient) เท่ากับ 0.8803 การวิเคราะห์องค์ประกอบ (Factor Analysis) หาความตรงเชิงโครงสร้าง (Construct Validity) พบว่า 22 ข้อคาถามเรื่องทัศนคติและการรับรู้เรื่องรูปร่างประกอบด้วย 4 องค์ประกอบที่สามารถอธิบายความแปรปรวนในเรื่องที่จะศึกษาได้ร้อยละ 51.81 ผลการสำรวจพบว่าวัยรุ่นให้อัตราการตอบกลับ 42.0 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆกับการตัดสินใจลดน้าหนักด้วยไคสแควร์ t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance) รวมทั้งการหาสมการทานายการตัดสินใจลดน้าหนักของวัยรุ่นด้วยสมการถดถอยโลจิสติก (Logistic Pegression Analysis) พบว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจในรูปร่างของตนเองมักให้ความคิดเห็นว่ารูปร่างของตนเองอ้วนกว่าความจริงและด้วยกว่าค่าดัชนีมวลกายมาตรฐาน (BMI) ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดโดยวัยรุ่นและที่คิดว่าตนเองอ้วนมากร้อยละ64.7 อยู่ในเกณฑ์รูปร่างมาตรฐานตามดัชนีมวลกายปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจของวัยรุ่นคือการรับรู้รูปร่างผ่านคนรอบข้างเช่นนพมาศศรีขวัญ (2547) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อพฤติกรรมการลดน้าหนักการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงการรับรู้การควบคุมกลุ่มพฤติกรรมและพฤติกรรมการลดน้าหนักของวัยรุ่นหญิงเป็นการวิจัยเชิงบรรยายเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อพฤติกรรมการลดน้าหนักการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมและพฤติกรรมการลดน้าหนักของวัยรุ่นหญิงกลุ่มตัวอย่างคือวัยรุ่นหญิงจานวน 90 รายที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 4 ชุดคือแบบสอบถามทัศนคติต่อพฤติกรรมการลดน้าหนักประกอบด้วยแบบสอบถามความเชื่อเกี่ยวกับผลของการลดน้าหนักกับแบบสอบถามการประเมินผลของการลดน้าหนักตามความเชื่อแบบสอบถามการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงประกอบด้วยแบบสอบถามความเชื่อเกี่ยวกับความคาดหวังของกลุ่มอ้างอิงกับแบบสอบถามแรงจูงใจที่จะคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงแบบสอบถามการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมประกอบด้วยแบบสอบถามความเชื่อเกี่ยวกับความคาดหวังของกลุ่มอ้างอิงกับแบบสอบถามแรงจูงใจที่จะคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงแบบสอบถามการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมประกอบด้วยแบบสอบถามความเชื่อเกี่ยวกับการควบคุมพฤติกรรมกับแบบสอบถามการรับรู้การ14
ควบคุมพฤติกรรมและแบบสอบถามพฤติกรรมการลดน้าหนักผ่านการตรวจสอบถามตรงตามเนื้อหาและความเที่ยงโดยวิธีแอลฟ่าครอนบาคมีค่าเท่ากับ .73, .88, .94, .86, .73, .81, และ .86 ตามลาดับวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ยการเบี่ยงเบนมาตรฐานหาความสัมพันธ์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. พฤติกรรมการลดน้าหนักของวัยรุ่นหญิงถูกต้องระดับปานกลาง ( = 59.44) 2 วัยรุ่นหญิงมีทัศนคติทางบวกต่อพฤติกรรมการลดน้าหนักในระดับต่ำ ( = 23.30) การรับรู้การควบคุมพฤติกรรมการมีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญกับพฤติกรรมการลดน้าหนักในวัยรุ่นหญิง (r = .283, p < .05) 4. ทัศนคติต่อพฤติกรรมการลดน้าหนักการคล้อยกลุ่มอ้างอิงสามารถร่วมกันพยากรณ์พฤติกรรมการลดน้าหนักในวัยรุ่น (= .089, F = 2.792, p < .05)
ปวีณายุกตานนท์ (2549) ศึกษาปัจจัยคิดสรรที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนของวัยรุ่นหญิงตอนปลายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนของวัยรุ่นหญิงตอนปลายที่มีอายุระหว่าง 18 – 21 ปีในเขตกรุงเทพมหานครกลุ่มตัวอย่างจานวน 416 คนแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่มีพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนจานวน 210 คนและกลุ่มที่ไม่มีพฤติกรรมใช้ยาลดความอ้วนจานวน 206 คนโดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปแบบลดความพึงพอใจในรูปลักษณ์แบบวัดอิทธิพลของสื่อแบบวัดอิทธิพลของกลุ่มเพื่อนแบบวัดอิทธิของครอบครัวและแบบวัดความเชื่อเกี่ยวกับยาลดความอ้วนข้อมูลวิเคราะห์โดยสถิติการวิเคราะห์การจำแนกกลุ่ม (Discriminant Analysis) ด้วยวิธีการคัดเลือกตัวแปรเข้าชมการจำแนกกลุ่ม (Stepwise) โดยใช้สถิติทดสอบWilks’ Lamdaเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแปรเข้าวิเคราะห์ผลการวิจัยแสดงว่ามี 5 ปัจจัยที่มีค่าอำนาจจำแนกความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นหญิงตอนปลายที่มีและไม่มีพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ความเชื่อในประสิทธิภาพของยาลดความอ้วนความไม่พึงพอใจในรูปลักษณ์อิทธิพลของสื่อความเชื่อในผลกระทบของยาลดความอ้วนและรายได้เฉลี่ยแต่ละเดือนโดยทั้ง 5 ปัจจัยสามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และมีความถูกต้องในการพยากรณ์อำนาจจำแนกสูงร้อยละ 97.40
นฤมลฝีปากเพราะ (2549) ศึกษาพฤติกรรมการเผชิญปัญหาเรื่องโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในเขตกรุงเทพมหานครการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาณช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเผชิญปัญหาเรื่องอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในเขตกรุงเทพมหานครและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเผชิญปัญหาเรื่องโรคอ้วนหรือโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 701 คนโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลแบบสอบถามทัศนคติเรื่องโรคอ้วนแบบสอบถามอัตมโนทัศน์แบบวัดการเผชิญปัญหาของวัยรุ่นแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการลดน้าหนักและจำแนกกลุ่มตัวอย่างตามดัชนีมวลกายได้กลุ่มตัวอย่างที่มีโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Independence t-test, Pearson correlation, multiple regression ผลการศึกษาพบว่าคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการเผชิญปัญญาหาเรื่องโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินเหมาะสมปานกลาง 67.8% มีพฤติกรรมลดน้าหนักไม่เหมาะสม 16

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

5. related research Somchai gem sequins light (2547 (2004)) study of attitudes and perceptions regarding the shape of stress and needs more control of the Thai teen is hard to study, analyze the sector cut across this time intended for the prevalence and the factors that affect the demand for reducing heavy Thai teen's uncle by applying theory of behavior shows why (the Theory of Action Resasoned) is basic to the Thai teen groups that are studying in junior secondary classes to undergraduate programs in Thai were 492 people tools to study through checking the content-oriented (Validity Content) from Korea.Yawachan and precision coefficients (Cronbach alpha coefficient) equals 0.8803 element analysis (Factor Analysis) for the structural (Construct Validity) found that the 22-question Re: attitudes and perceptions regarding the shape consists of 4 elements one at a time.Can explain the variance in 51.81 per cent to study research has found that the teens, the rate of reply to 42.0 analysis the relationship between the various factors on the decision to discount more heavily by CAI square? T-test and ANOVA (Analysis of Variance), as well as finding the equation to reduce heavy creative decisions, employers of teenagers with a regression equation logistics (Logistic Analysis Pegression) found that the majority of teens are not satisfactory in their shapes often comment that their shape.Onguan over truth and by than the standard body mass index (BMI) at the World Health Organization defined by the teens and think ourselves very 64.7 per cent fat. Standard shapes are based on body mass index, there are many factors that influence the decisions of teenagers is to recognize the shapes through the surrounding ones, such as nopmat Sri slogan (2547 (2004)) has studied the relationship between attitudes towards the reduction of heavy creative behaviour oriented reference group recognized.Rokwop control group behavior, and the behavior of adolescent girls reduce heavy uncle is a descriptive research to study the relationship between attitudes towards the reduction of heavy creative behaviour oriented reference group recognized behavioral control and reduction behavior of heavy creative team groups women, adolescence,Ngakhue teenage girls were 90 entries from multiple sampling step tool used in research there is a set of 4 questionnaires, attitude towards the reduction of heavy creative behaviour questionnaire consists of beliefs about the effects of reducing heavy uncle with a questionnaire to evaluate the effect of reduction of creative solutions.By faith oriented query reference group consists of a questionnaire about the expectations of the Group refers to the questionnaire in accordance with motivation to query reference group on recognized behavior control consists of a questionnaire about the expectations of the Group refers to the questionnaire in accordance with motivation to query reference group on recognized behavior control consists of a questionnaire about controlling the behavior with a questionnaire to recognize the 14.Behavioral control and query behavior to reduce heavy Uncle verified asked suit content and precision by how l Alfa cross naba khami .73 to .86, .94, .88, .73, .81, and La-based analysis by level .86 average standard deviation correlation coefficient value relation of Pier.Regression analysis and multiples results are as follows: 1. the behaviour of the adolescent girls reduce heavy Uncle correct medium (= 59.44) 2 teen girls have a positive attitude towards the reduction of heavy creative behaviour in low level (= 23.30) cognitive behavioral control having a positive relationship with a significant reduction in heavy creative habits in adolescent girls. (R = p < .05, .283) 4. attitudes toward the behavior to reduce the heavy dependency on Uncle khloiklum can share reduction behaviour prediction of heavy creative teens (.089 = F < = p, .05, 2.792) ปวีณายุกตานนท์ (2549) ศึกษาปัจจัยคิดสรรที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนของวัยรุ่นหญิงตอนปลายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนของวัยรุ่นหญิงตอนปลายที่มีอายุระหว่าง 18 – 21 ปีในเขตกรุงเทพมหานครกลุ่มตัวอย่างจานวน 416 คนแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่มีพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนจานวน 210 คนและกลุ่มที่ไม่มีพฤติกรรมใช้ยาลดความอ้วนจานวน 206 คนโดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปแบบลดความพึงพอใจในรูปลักษณ์แบบวัดอิทธิพลของสื่อแบบวัดอิทธิพลของกลุ่มเพื่อนแบบวัดอิทธิของครอบครัวและแบบวัดความเชื่อเกี่ยวกับยาลดความอ้วนข้อมูลวิเคราะห์โดยสถิติการวิเคราะห์การจำแนกกลุ่ม (Discriminant Analysis) ด้วยวิธีการคัดเลือกตัวแปรเข้าชมการจำแนกกลุ่ม (Stepwise) โดยใช้สถิติทดสอบWilks’ Lamdaเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแปรเข้าวิเคราะห์ผลการวิจัยแสดงว่ามี 5 ปัจจัยที่มีค่าอำนาจจำแนกความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นหญิงตอนปลายที่มีและไม่มีพฤติกรรมการใช้ยาลดความอ้วนปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ความเชื่อในประสิทธิภาพของยาลดความอ้วนความไม่พึงพอใจในรูปลักษณ์อิทธิพลของสื่อความเชื่อในผลกระทบของยาลดความอ้วนและรายได้เฉลี่ยแต่ละเดือนโดยทั้ง 5 ปัจจัยสามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และมีความถูกต้องในการพยากรณ์อำนาจจำแนกสูงร้อยละ 97.40 นฤมลฝีปากเพราะ (2549) ศึกษาพฤติกรรมการเผชิญปัญหาเรื่องโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในเขตกรุงเทพมหานครการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาณช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเผชิญปัญหาเรื่องอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในเขตกรุงเทพมหานครและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเผชิญปัญหาเรื่องโรคอ้วนหรือโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 701 คนโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลแบบสอบถามทัศนคติเรื่องโรคอ้วนแบบสอบถามอัตมโนทัศน์แบบวัดการเผชิญปัญหาของวัยรุ่นแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการลดน้าหนักและจำแนกกลุ่มตัวอย่างตามดัชนีมวลกายได้กลุ่มตัวอย่างที่มีโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Independence t-test, Pearson correlation, multiple regression ผลการศึกษาพบว่าคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการเผชิญปัญญาหาเรื่องโรคอ้วนหรือภาวะน้าหนักเกินเหมาะสมปานกลาง 67.8% มีพฤติกรรมลดน้าหนักไม่เหมาะสม 16

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

5. Related research
Somchai Light Blue Ribbon (2547) studied the attitudes and perceptions about the shape, weight control, stress and needs of adolescents Thailand analytical cross-sectional study aimed to determine the prevalence and impact factor. to the need to reduce the weight of Teen Thailand by the theory of behavior rationally (Theory of Resasoned Action) is fundamental to keep adolescents Thailand who are currently studying in junior high school and undergraduate of numbers. 492 persons in the study validated content validity (Content Validity) expert and a coefficient of reliability (Cronbach's alpha coefficient) was 0.8803 component analysis (Factor Analysis) Validity structure (Construct Validity) found. 22 The question of attitudes and perceptions about the shape consists of four elements that can explain the variation in the study was 51.81 percent, the survey results showed that teens response rate 42.0 Analysis of the relationship between various factors and. to lose weight with the chi-square t-test and ANOVA (Analysis of Variance) as well as finding the equations predict the decision to reduce the weight of adolescents with regression Logistics (Logistic Pegression Analysis). found that most teens are unhappy with the shape of their own, often noted that the shape of their weight than truth and with a BMI standards (BMI), the World Health Organization defined by teenagers and who consider themselves overweight hundred. 64.7 Was in the shape standards according to BMI factors greatly influence the decisions of teenagers is to recognize shapes by his peers as Perry Srikwan (2547) studied the relationship between attitudes and behavior to reduce the weight of the past. According to the reference group, perceived behavioral control group behavior and reduce the weight of the young women of this study was to describe the relationship between attitudes and behavior to reduce the weight of subjective norm, perceived behavioral control and behavior. Reducing the weight of the sample was female teen girls number 90 from the multi-stage sampling was used in the study were four sets of questionnaires Attitude towards weight reduction, a questionnaire about faith. The effect of weight reduction on the questionnaire assessment of weight reduction based on the belief questionnaire consisted norms, beliefs about the expectations of the group, according to a query incentive to comply. perceived behavioral control is a questionnaire relating to the expectations of the group, according to a query incentive to norms, perceived behavioral control consisted beliefs about behavioral control arm. The 14 playoff against perceived
behavioral control and weight reduction behavior questionnaires were tested for content validity and reliability using Cronbach alpha is equal. 73, .88, .94, .86. , .73, .81, and. 86, respectively, analyzed by the standard deviation of the average correlation coefficient of Pearson correlation and multiple regression analysis results can be summarized as follows: 1. avoidance behavior. weight of female adolescents correct level (= 59.44) 2 teen girls have positive attitude towards weight reduction, low (= 23.30), perceived behavioral control are positively correlated significantly with. behavioral weight reduction in teenage girls (r = .283, p <.05) 4. Attitude towards reducing weight deference reference group could predict behavior in teens lose weight (= .089, F =. 2.792, p <.05)
answer-application Amatanont (2549) consider such factors associated with drug use behavior among female adolescents lose weight at the end, with the objective to determine the factors associated with drug use behavior. At the end of obese adolescents aged 18 - 21 years in Bangkok totaling 416 samples were divided into 2 groups, which have a habit of using pills totaling 210 individuals and groups, drug use behaviors. The number of obese people in the sample, 206 respondents generic lower satisfaction in shape measuring the influence of media influence measurement of the influence of family and friends is a measure beliefs about the pills. Data were analyzed by statistical analysis of the classification. (Discriminant Analysis) by means of selected variables traffic classification (Stepwise) using test Wilks' Lamda a criterion for the selection of variables to analyze the results of the study show that there are five factors that have the power to distinguish between groups. Example girls end with and without behavior using pills, these factors include the belief in the effectiveness of the pills are not satisfied with the look and feel the influence of the media, the belief in the effect of pills and. The median income for each month of the 5 factors can distinguish between the two groups were not statistically significant level. 001 and is accurate in predicting the discrimination high percentage. 97.40
immaculate eloquent because (2549) study of coping with obesity or stress weight than the students in the 3rd Division of the research was a descriptive study at any time for the purpose of study. coping with stress, obesity or weight over 3 years of secondary school students in Bangkok and behavioral factors associated with coping with obesity or obesity or excess weight of the sample was a student of grade 3. No. 701 queries using personal information about obesity attitude questionnaire to measure self-concept of adolescents coping questionnaire about their behavior to reduce weight and body mass index, classify samples according to the sample. Obesity or the weight up data were analyzed using descriptive statistics Independence t-test, Pearson correlation, multiple regression results showed that the mean score coping behaviors intellectual chicanery obesity or stress weight than reasonable, moderate, 67.8% have a habit reduced. 16 Weight inappropriate