“กะเหรี่ยง” เดิมเป็นคำที่คนมอญใช้เรียกกลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่ป่าเขา (คือพรมแดนประเทศไทย-พม่า) ปัจจุบันเรียกว่า กะเหรี่ยงโปว์ เรียกตัวเองว่า“เกอะญา”
“กะหร่าง” เป็นคำที่ใช้เรียกลุ่มคนเดียวกัน แต่มีลักษณะต่างไปด้วยภาษาและการแต่งกาย ซึ่งก็คือกะเหรี่ยงสะกอ ที่มักเรียกตัวเองว่า “เกอะญอ”
คำว่า “เกอะญา” นี้เอง ที่นักวิชาการคิดว่าได้เพี้ยนกลายเป็นคำว่า karyan ซึ่งเป็นคำพม่าโบราณที่ใช้เรียกเหมารวมกลุ่มคนทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งเพี้ยนกลายเป็นคำที่หลากหลายตามกลุ่มคนที่ใช้ภาษาต่างกันในเวลาต่อมา สรุปได้ดังนี้
“กะเหรี่ยง” ซึ่งเป็นคำที่คนมอญใช้เรียกกะเหรี่ยงสะกอ และคนไทยใช้เรียกกะเหรี่ยงทั้ง 2 กลุ่ม
“กะหร่าง” ซึ่งเป็นคำที่คนมอญใช้เรียกกะเหรี่ยงโปว์
“คะหยิ่น” ซึ่งเป็นคำที่คนพม่าใช้เรียกกะเหรี่ยงทั้ง 2 กลุ่ม โดยมีนัยของความป่าเถื่อนซ่อนอยู่ด้วย
“ยาง” ซึ่งเป็นคำที่คนพูดภาษาไตทางตอนเหนือและคนไทยภาคเหนือ (คนเมือง) ใช้เรียกกะเหรี่ยงทั้ง 2 กลุ่มและอาจกล่าวได้ว่ามีนัยของความล้าหลังอยู่
ในยุคสมัยใหม่ได้มีการแยกชนกลุ่มน้อยต่างๆ และเรียกอย่างเหมารวมว่า “กะเหรี่ยง” มักจะมาพร้อมทัศนคติในแง่ลบ เช่น ความล้าหลัง ความป่าเถื่อน การศึกษาต่ำ
ดังนั้นชาวสะกอจึงได้รณรงค์ให้เรียกกลุ่มตนว่า “ปกาเกอะญอ” แปลว่าคนป่าหรือผู้อาศัยอยู่ในป่า ซึ่งบ่งบอกถึงความมีศักดิ์ศรี แต่ชื่อดังกล่าวกลับไม่ได้รับการยอมรับจากชาวโปว์ ซึ่งเรียกตนเองว่า “โพล่ง”
ท้ายที่สุด เมื่อมีการเรียกรวมกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งสะกอและโปว์ เพื่อสร้างจิตสำนึกชาติพันธุ์ สร้างความเข้มแข็งและเพิ่มอำนาจต่อรองกับภาครัฐ จึงได้มีการนำเอาคำว่า“กะเหรี่ยง” กลับมาใช้อีกครั้งในการตั้งชื่อองค์กรและขบวนการเคลื่อนไหวต่างๆ ดังนี้
“กะเหรี่ยง” คือ คำที่ใช้เรียกรวมกลุ่มชาติพันธุ์ทั้ง 2 กลุ่ม คือ สะกอและโปว์ โดยมีนัยเชิงลบเล็กน้อย
“ปกาเกอะญอ” คือ คำที่กลุ่มกะเหรี่ยงสะกอใช้เรียกตนเอง และบุคคลภายนอกใช้เรียกที่สุภาพกว่า “กะเหรี่ยง เผ่าสะกอ”
“โพล่ง” คือคำที่กลุ่มกะเหรี่ยงโปว์ใช้เรียกตนเอง และบุคคลภายนอกใช้เรียกที่สุภาพกว่า “กะเหรี่ยง เผ่าโปว์”
กะเหรี่ยงเผ่าสะกอ หรือ กะเหรี่ยง หรือ ปกาเกอะญอ นั้น อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของเมืองไทย มีภาษาตระกูลทิเบต-พม่า
กะเหรี่ยงเผ่าโปว์ หรือ กะหร่าง หรือ โพล่ง นั้น อาศัยอยู่ตะเข็บชายแดนแถว เพชรบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์
แต่ถึงแม้จะเป็นกะเหรี่ยง แต่ทั้ง 2 เผ่านี้ ก็มีการแต่งตัวคนละแบบ และพูดคนละภาษา จึงไม่ควรนำมาเหมารวมกัน