ATTN: คนเคยทุกข์ ลูกศิษย์โง่ ท่านถามว่า...... 1.ขอความกรุณาช่วยให้ความ การแปล - ATTN: คนเคยทุกข์ ลูกศิษย์โง่ ท่านถามว่า...... 1.ขอความกรุณาช่วยให้ความ จีนดั้งเดิม วิธีการพูด

ATTN: คนเคยทุกข์ ลูกศิษย์โง่ ท่านถา

ATTN:
คนเคยทุกข์ ลูกศิษย์โง่
ท่านถามว่า......

1.ขอความกรุณาช่วยให้ความกระจ่าง
ระหว่างคำว่า "ปรุงแต่ง" กับ "จินตนาการ" เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้างครับ ?

2.ขอความกรุณาจากอาจารย์ด้วยครับ อีกคำว่า "พิจารณา" เหมือนหรือต่างกันกับ "ปรุงแต่ง" อย่างไรบ้างครับ ?
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

Answer:

คำว่า "ปรุงแต่ง" หมายถึง

1).เมื่อใดที่ท่านมีผัสสะเกิดขึ้น
ตรงตาเมื่อแลเห็น
ตรงหูเมื่อได้ยิน
ตรงจมูกเมื่อได้กลิ่น
ตรงลิ้นเมื่อลิ้มรส
ตรงผิวกายเมื่อได้สัมผัส
ตรงที่จิตเมื่อนึกคิดขึ้นมาได้เอง

โดยอายตนะทั้งหกนั้น
เมื่อมันสั่นสะเทือนเพราะเกิดผัสสะแล้ว
จิตของท่านก็จะสั่นสะเทือนเป็นการ"รับรู้" สิ่งนั้นทันที

2).สิ่งที่ท่านรับรู้นั้นอาจเป็นสรรพสิ่ง
อาจเป็นเรื่องราว เหตุการณ์ สถานการณ์
อาจจะเป็นความรู้ หรืออาจจะเป็นอะไรก็ได้

3).เมื่อจิตเกิดการรับรู้สิ่งนั้นเรื่องนั้นแล้ว
จิตก็จะพยายามเรียนรู้ว่า
สิ่งที่ตนกำลังสัมผัสรู้ดูเห็นนั้นมันคืออะไร
โดยชั้นแรกจิตมันจะถามหาจากประสบการณ์
ซึ่งจิตเองบันทึกเอาไว้ตั้งแต่อดีตกาลนั่น

ถ้าจิตค้นไม่พบประสบการณ์ตรง
มันก็จะพยายามแสวงหาข้อมูลใกล้เคียงแทน
สิ่งที่เรียกว่า "การปรุงแต่ง" มันจะเกิดขึ้นตรงนี้เอง
ให้ท่านย้อนไปดูภาพ "ช่อดอกไม้กับผีเสื้อ" สิ
จิตที่ปรุงแต่งสำหรับท่านที่ไม่เคยเห็นภาพนี้
ก็จะแลเห็นเป็นภาพใบหน้าผู้หญิงแสนสวยทันที
ทั้งๆที่แท้จริงแล้วมันเป็นแค่ช่อดอกไม้กับผีเสื้อเท่านั้น

นี่คือ นัยสำคัญของกระบวนการปรุงแต่งล่ะ

ดังนั้น.......
เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ความรู้สึกทั้งหลายหรือ "กิเลส" นี่แหละ
มันล้วนเกิดจากการปรุงแต่งของจิตทั้งสิ้น

ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าสวยก็ชอบ
ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าไม่สวยหรือขี้เหร่ก็ไม่ชอบ
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าสวยไม่สวย
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าชอบ-ไม่ชอบ

ถ้าปรุงแต่งเสียงที่ได้ยินแล้วว่าไพเราะดีก็ชอบ
ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าไม่ไพเราะเลยก็ไม่ชอบ
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าไพเราะหรือไม่
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าชอบฟังหรือไม่

เราเรียกขั้นตอนสำคัญนี้ว่า "การรับเอา" นั่นเอง
.....................................................................

คำว่า "จินตนาการ" หมายถึง......

1.การกำหนดนึกขึ้นมาเองของจิต

2.เป็นการนึกโดยที่อายตนะภายนอกทั้งห้า
มิพักต้องมีผัสสะกับสิ่งใดทั้งสิ้น

3.เป็นการกำหนดนึกถึงเรื่องราว เหตุการณ์
สถานการณ์นั้นๆขึ้นมาเอง หรือ มโนเอาเอง

4.การมโนเอาเองนี้มักจะเป็นไป
ตามอารมณ์รู้สึกนึกคิดในปัจจุบันขณะ
ตามนิสัยในการมองโลก
ตามนิสัยในการดำเนินชีวิตของคนๆนั้นเป็นสำคัญ

5.การมโนเอาเองนี้ก็คือ........

1).การวาดฝันขึ้นมาในอากาศ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เพราะเป็นเรื่องของอดีต

2).การวาดฝันขึ้นมาในอากาศ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มันยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยในปัจจุบัน
เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต

3).การวาดฝันทั้งสองเงื่อนไขที่กล่าวนี้
ล้วนเป็นเรื่องของจิตที่สร้างภาพ "มายา" ขึ้นมา
คือ สร้างสิ่งไม่จริงให้เกิดขึ้นที่ในจิตท่านเองทั้งสิ้น

4).ดังนั้น.......
การสร้างภาพมายาที่เกิดขึ้นที่ในจิตดังว่านี้
พระบิดาจึงทรงให้เรียกว่า "การสร้างจินตนาการ"

ส่วนเหตุการณ์ เรื่องราว หรือสถานการณ์
ที่จิตท่านมันมโนขึ้นมาเองนั้น
พระบิดาจึงทรงให้เรียกว่า "จินตนาการ"

5).อันจินตนาการสำหรับมนุษย์โลกทั้งหลายนั้น
มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ

5.1 จินตนาการที่ไม่จริงในอดีต
หรือเป็นจริงไม่ได้ในอนาคต
เราจะเรียกว่า "เพ้อฝัน"

หากนำสิ่งที่เพ้อฝันซึ่งไม่จริงมากล่าวให้ผู้อื่นฟัง
เราจะเรียกว่า "เพ้อเจ้อ"

5.2 จินตนาการถึงสิ่งที่จะเป็นความจริงในอนาคตได้
หรือจินตนาการในสิ่งที่ท่านทำให้มันเป็นจริงได้
อย่างนี้เราจึงจะเรียกว่า "การคิดสร้างสรรค์" ล่ะนะ
...........................................................................

คำว่า "พิจารณา" หมายถึง

1.การใช้กลไกอายตนะภายนอก
เรียนรู้สรรพสิ่งใดสรรพสิ่งหนึ่ง
หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สัมผัสรู้ดูเห็นนั้น
อย่างตั้งใจและใส่ใจ

2.โดยความตั้งใจและใส่ใจนั้น
เป็นไปเพื่อการเรียนรู้เท่านั้นว่า
อะไรเป็นอะไร
ถูกต้องเหมาะสมดีงามหรือไม่
ควรรับรู้และรับเอาหรือไม่แค่ไหนอย่างไร เป็นต้น

3.การพิจารณา เป็นการเรียนรู้สรรพสิ่งนั้นๆ
ด้วยการ "มองไปตามความจริง" ที่ได้เห็น
คิดวิเคราะห์ไปตามความจริงที่สรรพสิ่งนั้นมีหรือเป็น
โดยมุ่งเน้นที่แก่นแท้ คือ คุณสมบัติของสิ่งนั้น
ด้วยการมองข้ามผ่านมายาไปให้ได้
...............................................................................

เอเมน....สาธุ......

ป.วิสุทธิปัญญา
15-12-2014
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (จีนดั้งเดิม) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ATTN:
คนเคยทุกข์ ลูกศิษย์โง่
ท่านถามว่า......

1.ขอความกรุณาช่วยให้ความกระจ่าง
ระหว่างคำว่า "ปรุงแต่ง" กับ "จินตนาการ" เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้างครับ ?

2.ขอความกรุณาจากอาจารย์ด้วยครับ อีกคำว่า "พิจารณา" เหมือนหรือต่างกันกับ "ปรุงแต่ง" อย่างไรบ้างครับ ?
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

Answer:

คำว่า "ปรุงแต่ง" หมายถึง

1).เมื่อใดที่ท่านมีผัสสะเกิดขึ้น
ตรงตาเมื่อแลเห็น
ตรงหูเมื่อได้ยิน
ตรงจมูกเมื่อได้กลิ่น
ตรงลิ้นเมื่อลิ้มรส
ตรงผิวกายเมื่อได้สัมผัส
ตรงที่จิตเมื่อนึกคิดขึ้นมาได้เอง

โดยอายตนะทั้งหกนั้น
เมื่อมันสั่นสะเทือนเพราะเกิดผัสสะแล้ว
จิตของท่านก็จะสั่นสะเทือนเป็นการ"รับรู้" สิ่งนั้นทันที

2).สิ่งที่ท่านรับรู้นั้นอาจเป็นสรรพสิ่ง
อาจเป็นเรื่องราว เหตุการณ์ สถานการณ์
อาจจะเป็นความรู้ หรืออาจจะเป็นอะไรก็ได้

3).เมื่อจิตเกิดการรับรู้สิ่งนั้นเรื่องนั้นแล้ว
จิตก็จะพยายามเรียนรู้ว่า
สิ่งที่ตนกำลังสัมผัสรู้ดูเห็นนั้นมันคืออะไร
โดยชั้นแรกจิตมันจะถามหาจากประสบการณ์
ซึ่งจิตเองบันทึกเอาไว้ตั้งแต่อดีตกาลนั่น

ถ้าจิตค้นไม่พบประสบการณ์ตรง
มันก็จะพยายามแสวงหาข้อมูลใกล้เคียงแทน
สิ่งที่เรียกว่า "การปรุงแต่ง" มันจะเกิดขึ้นตรงนี้เอง
ให้ท่านย้อนไปดูภาพ "ช่อดอกไม้กับผีเสื้อ" สิ
จิตที่ปรุงแต่งสำหรับท่านที่ไม่เคยเห็นภาพนี้
ก็จะแลเห็นเป็นภาพใบหน้าผู้หญิงแสนสวยทันที
ทั้งๆที่แท้จริงแล้วมันเป็นแค่ช่อดอกไม้กับผีเสื้อเท่านั้น

นี่คือ นัยสำคัญของกระบวนการปรุงแต่งล่ะ

ดังนั้น.......
เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ความรู้สึกทั้งหลายหรือ "กิเลส" นี่แหละ
มันล้วนเกิดจากการปรุงแต่งของจิตทั้งสิ้น

ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าสวยก็ชอบ
ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าไม่สวยหรือขี้เหร่ก็ไม่ชอบ
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าสวยไม่สวย
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าชอบ-ไม่ชอบ

ถ้าปรุงแต่งเสียงที่ได้ยินแล้วว่าไพเราะดีก็ชอบ
ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าไม่ไพเราะเลยก็ไม่ชอบ
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าไพเราะหรือไม่
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าชอบฟังหรือไม่

เราเรียกขั้นตอนสำคัญนี้ว่า "การรับเอา" นั่นเอง
.....................................................................

คำว่า "จินตนาการ" หมายถึง......

1.การกำหนดนึกขึ้นมาเองของจิต

2.เป็นการนึกโดยที่อายตนะภายนอกทั้งห้า
มิพักต้องมีผัสสะกับสิ่งใดทั้งสิ้น

3.เป็นการกำหนดนึกถึงเรื่องราว เหตุการณ์
สถานการณ์นั้นๆขึ้นมาเอง หรือ มโนเอาเอง

4.การมโนเอาเองนี้มักจะเป็นไป
ตามอารมณ์รู้สึกนึกคิดในปัจจุบันขณะ
ตามนิสัยในการมองโลก
ตามนิสัยในการดำเนินชีวิตของคนๆนั้นเป็นสำคัญ

5.การมโนเอาเองนี้ก็คือ........

1).การวาดฝันขึ้นมาในอากาศ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เพราะเป็นเรื่องของอดีต

2).การวาดฝันขึ้นมาในอากาศ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มันยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยในปัจจุบัน
เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต

3).การวาดฝันทั้งสองเงื่อนไขที่กล่าวนี้
ล้วนเป็นเรื่องของจิตที่สร้างภาพ "มายา" ขึ้นมา
คือ สร้างสิ่งไม่จริงให้เกิดขึ้นที่ในจิตท่านเองทั้งสิ้น

4).ดังนั้น.......
การสร้างภาพมายาที่เกิดขึ้นที่ในจิตดังว่านี้
พระบิดาจึงทรงให้เรียกว่า "การสร้างจินตนาการ"

ส่วนเหตุการณ์ เรื่องราว หรือสถานการณ์
ที่จิตท่านมันมโนขึ้นมาเองนั้น
พระบิดาจึงทรงให้เรียกว่า "จินตนาการ"

5).อันจินตนาการสำหรับมนุษย์โลกทั้งหลายนั้น
มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ

5.1 จินตนาการที่ไม่จริงในอดีต
หรือเป็นจริงไม่ได้ในอนาคต
เราจะเรียกว่า "เพ้อฝัน"

หากนำสิ่งที่เพ้อฝันซึ่งไม่จริงมากล่าวให้ผู้อื่นฟัง
เราจะเรียกว่า "เพ้อเจ้อ"

5.2 จินตนาการถึงสิ่งที่จะเป็นความจริงในอนาคตได้
หรือจินตนาการในสิ่งที่ท่านทำให้มันเป็นจริงได้
อย่างนี้เราจึงจะเรียกว่า "การคิดสร้างสรรค์" ล่ะนะ
...........................................................................

คำว่า "พิจารณา" หมายถึง

1.การใช้กลไกอายตนะภายนอก
เรียนรู้สรรพสิ่งใดสรรพสิ่งหนึ่ง
หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สัมผัสรู้ดูเห็นนั้น
อย่างตั้งใจและใส่ใจ

2.โดยความตั้งใจและใส่ใจนั้น
เป็นไปเพื่อการเรียนรู้เท่านั้นว่า
อะไรเป็นอะไร
ถูกต้องเหมาะสมดีงามหรือไม่
ควรรับรู้และรับเอาหรือไม่แค่ไหนอย่างไร เป็นต้น

3.การพิจารณา เป็นการเรียนรู้สรรพสิ่งนั้นๆ
ด้วยการ "มองไปตามความจริง" ที่ได้เห็น
คิดวิเคราะห์ไปตามความจริงที่สรรพสิ่งนั้นมีหรือเป็น
โดยมุ่งเน้นที่แก่นแท้ คือ คุณสมบัติของสิ่งนั้น
ด้วยการมองข้ามผ่านมายาไปให้ได้
...............................................................................

เอเมน....สาธุ......

ป.วิสุทธิปัญญา
15-12-2014
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (จีนดั้งเดิม) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ATTN:
คนเคยทุกข์ ลูกศิษย์โง่
ท่านถามว่า......

1.ขอความกรุณาช่วยให้ความกระจ่าง
ระหว่างคำว่า "ปรุงแต่ง" กับ "จินตนาการ" เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้างครับ ?

2.ขอความกรุณาจากอาจารย์ด้วยครับ อีกคำว่า "พิจารณา" เหมือนหรือต่างกันกับ "ปรุงแต่ง" อย่างไรบ้างครับ ?
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

Answer:

คำว่า "ปรุงแต่ง" หมายถึง

1).เมื่อใดที่ท่านมีผัสสะเกิดขึ้น
ตรงตาเมื่อแลเห็น
ตรงหูเมื่อได้ยิน
ตรงจมูกเมื่อได้กลิ่น
ตรงลิ้นเมื่อลิ้มรส
ตรงผิวกายเมื่อได้สัมผัส
ตรงที่จิตเมื่อนึกคิดขึ้นมาได้เอง

โดยอายตนะทั้งหกนั้น
เมื่อมันสั่นสะเทือนเพราะเกิดผัสสะแล้ว
จิตของท่านก็จะสั่นสะเทือนเป็นการ"รับรู้" สิ่งนั้นทันที

2).สิ่งที่ท่านรับรู้นั้นอาจเป็นสรรพสิ่ง
อาจเป็นเรื่องราว เหตุการณ์ สถานการณ์
อาจจะเป็นความรู้ หรืออาจจะเป็นอะไรก็ได้

3).เมื่อจิตเกิดการรับรู้สิ่งนั้นเรื่องนั้นแล้ว
จิตก็จะพยายามเรียนรู้ว่า
สิ่งที่ตนกำลังสัมผัสรู้ดูเห็นนั้นมันคืออะไร
โดยชั้นแรกจิตมันจะถามหาจากประสบการณ์
ซึ่งจิตเองบันทึกเอาไว้ตั้งแต่อดีตกาลนั่น

ถ้าจิตค้นไม่พบประสบการณ์ตรง
มันก็จะพยายามแสวงหาข้อมูลใกล้เคียงแทน
สิ่งที่เรียกว่า "การปรุงแต่ง" มันจะเกิดขึ้นตรงนี้เอง
ให้ท่านย้อนไปดูภาพ "ช่อดอกไม้กับผีเสื้อ" สิ
จิตที่ปรุงแต่งสำหรับท่านที่ไม่เคยเห็นภาพนี้
ก็จะแลเห็นเป็นภาพใบหน้าผู้หญิงแสนสวยทันที
ทั้งๆที่แท้จริงแล้วมันเป็นแค่ช่อดอกไม้กับผีเสื้อเท่านั้น

นี่คือ นัยสำคัญของกระบวนการปรุงแต่งล่ะ

ดังนั้น.......
เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ความรู้สึกทั้งหลายหรือ "กิเลส" นี่แหละ
มันล้วนเกิดจากการปรุงแต่งของจิตทั้งสิ้น

ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าสวยก็ชอบ
ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าไม่สวยหรือขี้เหร่ก็ไม่ชอบ
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าสวยไม่สวย
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าชอบ-ไม่ชอบ

ถ้าปรุงแต่งเสียงที่ได้ยินแล้วว่าไพเราะดีก็ชอบ
ถ้าปรุงแต่งแล้วเห็นว่าไม่ไพเราะเลยก็ไม่ชอบ
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าไพเราะหรือไม่
ทั้งๆที่ไม่ต้องมีใครถามท่านเลยว่าชอบฟังหรือไม่

เราเรียกขั้นตอนสำคัญนี้ว่า "การรับเอา" นั่นเอง
.....................................................................

คำว่า "จินตนาการ" หมายถึง......

1.การกำหนดนึกขึ้นมาเองของจิต

2.เป็นการนึกโดยที่อายตนะภายนอกทั้งห้า
มิพักต้องมีผัสสะกับสิ่งใดทั้งสิ้น

3.เป็นการกำหนดนึกถึงเรื่องราว เหตุการณ์
สถานการณ์นั้นๆขึ้นมาเอง หรือ มโนเอาเอง

4.การมโนเอาเองนี้มักจะเป็นไป
ตามอารมณ์รู้สึกนึกคิดในปัจจุบันขณะ
ตามนิสัยในการมองโลก
ตามนิสัยในการดำเนินชีวิตของคนๆนั้นเป็นสำคัญ

5.การมโนเอาเองนี้ก็คือ........

1).การวาดฝันขึ้นมาในอากาศ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เพราะเป็นเรื่องของอดีต

2).การวาดฝันขึ้นมาในอากาศ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มันยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยในปัจจุบัน
เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต

3).การวาดฝันทั้งสองเงื่อนไขที่กล่าวนี้
ล้วนเป็นเรื่องของจิตที่สร้างภาพ "มายา" ขึ้นมา
คือ สร้างสิ่งไม่จริงให้เกิดขึ้นที่ในจิตท่านเองทั้งสิ้น

4).ดังนั้น.......
การสร้างภาพมายาที่เกิดขึ้นที่ในจิตดังว่านี้
พระบิดาจึงทรงให้เรียกว่า "การสร้างจินตนาการ"

ส่วนเหตุการณ์ เรื่องราว หรือสถานการณ์
ที่จิตท่านมันมโนขึ้นมาเองนั้น
พระบิดาจึงทรงให้เรียกว่า "จินตนาการ"

5).อันจินตนาการสำหรับมนุษย์โลกทั้งหลายนั้น
มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ

5.1 จินตนาการที่ไม่จริงในอดีต
หรือเป็นจริงไม่ได้ในอนาคต
เราจะเรียกว่า "เพ้อฝัน"

หากนำสิ่งที่เพ้อฝันซึ่งไม่จริงมากล่าวให้ผู้อื่นฟัง
เราจะเรียกว่า "เพ้อเจ้อ"

5.2 จินตนาการถึงสิ่งที่จะเป็นความจริงในอนาคตได้
หรือจินตนาการในสิ่งที่ท่านทำให้มันเป็นจริงได้
อย่างนี้เราจึงจะเรียกว่า "การคิดสร้างสรรค์" ล่ะนะ
...........................................................................

คำว่า "พิจารณา" หมายถึง

1.การใช้กลไกอายตนะภายนอก
เรียนรู้สรรพสิ่งใดสรรพสิ่งหนึ่ง
หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สัมผัสรู้ดูเห็นนั้น
อย่างตั้งใจและใส่ใจ

2.โดยความตั้งใจและใส่ใจนั้น
เป็นไปเพื่อการเรียนรู้เท่านั้นว่า
อะไรเป็นอะไร
ถูกต้องเหมาะสมดีงามหรือไม่
ควรรับรู้และรับเอาหรือไม่แค่ไหนอย่างไร เป็นต้น

3.การพิจารณา เป็นการเรียนรู้สรรพสิ่งนั้นๆ
ด้วยการ "มองไปตามความจริง" ที่ได้เห็น
คิดวิเคราะห์ไปตามความจริงที่สรรพสิ่งนั้นมีหรือเป็น
โดยมุ่งเน้นที่แก่นแท้ คือ คุณสมบัติของสิ่งนั้น
ด้วยการมองข้ามผ่านมายาไปให้ได้
...............................................................................

เอเมน....สาธุ......

ป.วิสุทธิปัญญา
15-12-2014
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (จีนดั้งเดิม) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ATTN :遭受門徒
fool您的人們請求那…


1….請幫助流洒在詞「可疑」和「想像力之間的」
如不同或他們做着什麼,先生?

2。請,先生,與從另一個詞的一位老師, 「考慮」像或不同對「可疑」。他們做着什麼,先生?『

Khun。答復


詞「可疑」手段

1)。當您有感覺,

,當她看見了他的眼睛。當耳朵聽見了

平直的鼻子,當您可能嗅到它在她的舌頭,當被品嘗的平直的身體皮膚

,當它直接地在頭腦接觸,當拾起他們自己的

由羞辱。六,
,當它震動了,因為已經有斡旋的
您的頭腦將是震動「知道」那,當

2)您知道的.what,它也許必須是所有事情況也許是關於事件的一個故事也許是知識的

或它也許是任何

3)。當頭腦是明白它,然後某事時

頭腦將試圖獲悉什麼他們尋找經驗我知道它是一樓
什麼頭腦將自討苦吃從經驗從過去時那裡

記錄的頭腦
如果您的頭腦不是被找到的查尋直接經驗
它將設法尋找信息
附近而不是什麼稱「可疑」。它將發生這裡它
回到看圖片的您「花花束與蝴蝶「
的為您從未準備的頭腦,被看見這
看見了一名俏麗的婦女的面孔,當
實際上,竟管它是花花束,并且蝴蝶

這為過程煮熟的

如此只是重大的我.......
因此我們對您會說真相, ye是
感覺,或者「激情」
它由您的頭腦香料所有造成所有

,如果烹調,然後看見它是美好像
,如果烹調,然後看見了它不是俏麗或醜惡的,它不喜歡
沒有需要詢問任何人在賭氣他。那不是秀麗秀麗不是
,竟管沒人要求您是像那樣-不喜歡

,如果煮熟的甜聲音,然後那它是好,如果烹調,像
看它。它不是像那樣不是講話的
沒有需要,即使我問他音樂是否不是
,竟管必須有沒人要求的您聽它,像或我們叫這重要步不是的

, 「作為」。它是
……………………………………………………………詞「想像力」意味的

。.....

1。頭腦

2.的想法。我認為它是五
的羞辱。外在物產,必須有什麼的感覺

3。它是故事事件
情況的想法。本身或者獨自地。

4。對於此,當根據
看看習性的
世界在人的生活中獨自時地,是重要

5.m.它經常是
對在今天習性的情感知覺。這是Ajarn .....

1)。作的懸而未決
哪些是事情它未曾發生前面,因為它是關於過去


2)。作懸而未決,
它未曾發生。今天
,因為它是未來

3)的問題。作兩個條件:這是頭腦的問題是所有
生成圖像「神話」對
是為了創造不是真實的事,那裡更多在您自己的

4)的頭腦裡。因此.......
創造在此的頭腦裡發生作為那
的圖像神話父親,他將稱「想像力」


說實在的他的,它是由
決定父親的事件或情況,以便他叫「想像力」

5)。人的一個幻想世界;它
有2個格式:5.1

從前不是真實的或在將來的
想像力。是真實的不是我們將指「夢想的」


,如果不是真實的,他說,聽其他人
我們的浪漫史將稱「錯覺」

5。2想像什麼在將來是真相。
或想像什麼您做做它現實。
這我們如此將告訴「創造性思為」,因此長的
…………………………………………………………………

詞「考慮」手段

1。使用機制感到羞恥。外在

學會所有什麼事接觸知識的一個或任何問題看


2和故意地和薪水注意。由意圖和注意,

怎樣學會。那是什麼
不是適當的品行或
should不多遠是明白和作為或者等等

3。要得知由
考慮「的事神色到真相」是看
認為分析符合真相有或是與焦點的
在什麼的精華的所有事是通過神話與的被忽略的
的特點,
…………………………………………………………………….

阿門….保祐是…


聖徒智慧12-15-2014
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: