กิมจิ[1] (เกาหลี: 김치, MC: Gimchi, MR: Kimch'i คิมชี) มีข้อสันนิษฐานกัน การแปล - กิมจิ[1] (เกาหลี: 김치, MC: Gimchi, MR: Kimch'i คิมชี) มีข้อสันนิษฐานกัน อังกฤษ วิธีการพูด

กิมจิ[1] (เกาหลี: 김치, MC: Gimchi, M

กิมจิ[1] (เกาหลี: 김치, MC: Gimchi, MR: Kimch'i คิมชี) มีข้อสันนิษฐานกันว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า "ชิมเช" (เกาหลี: 침채, ฮันจา: 沈菜, MC: chimchae, MR: ch'imch'ae) ที่แปลว่าผักดองเค็ม กิมจิเป็นอาหารเกาหลีประเภทผักดองที่อาศัยภูมิปัญญาก้นครัวของชาวเกาหลี ด้วยการหมักพริกสีแดงและผักต่างๆ โดยทั่วไปจะเป็นผักกาดขาว ชาวเกาหลีนิยมรับประทานกิมจิเกือบทุกมื้อ และยังนำไปปรุงเป็นส่วนประกอบอาหารอีกหลายอย่าง เช่น ข้าวต้ม ข้าวสวย ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่ จนถึงพิซซาและเบอร์เกอร์ ปัจจุบันกิมจิมีมากกว่า 187 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีรสเผ็ด เปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน แม้ปัจจุบันมีบริษัทอาหารผลิตกิมจิสำเร็จรูปหรือแบบสดขายตามห้างสรรพสินค้าก็ตาม แต่ชาวเกาหลีก็ยังนิยมทำกิมจิกินเองที่บ้าน

เนื้อหา [ซ่อน]
1 ประวัติ
1.1 จุดเริ่มต้นของกิมจิ
1.2 สมัยอาณาจักรโคเรียว
1.3 สมัยโชซอน
1.4 ยุคปัจจุบัน
2 ตัวสัญลักษณ์กิมจิ
3 กิมจิชนิดต่าง ๆ
4 สุขภาพ
5 ปัญหาไข่ปรสิตในกิมจิ
6 อ้างอิง
7 แหล่งข้อมูลอื่น
ประวัติ[แก้]
จุดเริ่มต้นของกิมจิ[แก้]
เป็นที่เชื่อกันว่าการทำกิมจิเป็นการดองผักที่ถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 7 ในยุคนั้นช่วงฤดูหนาวในประเทศเกาหลี จะมีอากาศหนาวจัดไม่เหมาะกับการเพาะปลูก ชาวเกาหลีจึงคิดวิธีการถนอมอาหารขึ้น เพื่อมาทดแทนผักสดที่หาได้ยาก หนึ่งในนั้นคือการทำผักดองเค็มด้วยเกลือหมักในไหแล้วนำไปฝังดิน จึงเป็นจุดกำเนิดของกิมจิในยุคสมัยต่อมา[2]

สมัยอาณาจักรโคเรียว[แก้]
มีการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับกิมจิจากตำรายารักษาโรคทางภาคตะวันออกของประเทศที่เรียกว่า "ฮันยักกูกึบบัง" (Hanyakgugeupbang) ในตำรากล่าวถึงกิมจิอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกคือหัวผักกาดฝานเป็นแผ่นดองด้วยซอสถั่วเหลืองเรียกว่า "กิมจิ-จางอาจิ" (Kimchi-jangajji) ชนิดที่สองใช้หัวไชโป๊เรียกว่า "ซุมมู โซกึมชอลรี" (Summu Sogeumjeori) เป็นที่เชื่อกันว่าได้มีการปรับปรุงรสชาติของกิมจิให้จัดจ้านขึ้น อีกทั้งเริ่มได้รับความนิยมว่าเป็นอาหารแปรรูปจึงเริ่มมีการทำกิมจิตลอดทั้งปีโดยไม่กำจัดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเหมือนก่อน ทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นในสมัยอาณาจักรโคเรียวนี้[ต้องการอ้างอิง]

สมัยโชซอน[แก้]
เล่ากันว่ากิมจิที่มีในสมัยโชซอน ชาวบ้านจะใช้ผักใบเขียวมาดองกับเกลือหรือเกลือกับเหล้าเท่านั้นซึ่งเรียกว่ารสดั้งเดิม[ต้องการอ้างอิง] ในเวลาต่อมาช่วงต้นศตวรรษที่ 17 (หลังจากที่ถูกญี่ปุ่นรุกรานในปี พ.ศ. 2135) จึงเริ่มมีการนำเข้าผักจากต่างประเทศ ส่วนพริกแดงจากญี่ปุ่นนำเข้ามาโดยพ่อค้าชาวโปรตุเกส พริกจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งในกิมจิหลังจากผ่านไปแล้ว 200 ปี ดั้งนั้นราวปลายสมัยราชวงศ์โชซอนสีของกิมจิจึงกลายเป็นสีแดง[ต้องการอ้างอิง]

ภายในราชสำนักโชซอนมีการทำกิมจิเพื่อใช้ถวายต่อกษัตริย์ในราชวงศ์โชซอนมีอยู่ด้วยกันสามชนิดได้แก่ "ชอทกุกจิ" (Jeotgukji) เป็นกิมจิที่ทำจากกะหล่ำปลีผสมกับปลาหมัก (ปลาหมักจะใช้เฉพาะคนชั้นสูงในสมัยนั้น) "คักดูกิ" (kkakdugi) เป็นกิมจิทำจากหัวผักกาด ส่วนชนิดสุดท้ายคือ "โชซอน มูซางซานชิก โยรีเจบ็อบ" (Joseon massangsansik yorijebeop) เป็นกิมจิน้ำตำราอาหารของราชสำนักโชซอน โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีการทำกิมจิน้ำโดยมีลูกแพร์เป็นส่วนผสมใช้ทำก๋วยเตี๋ยวเย็นโดยเฉพาะ เพื่อทำถวายกษัตริย์โกชอง (Gojong) กษัตริย์องค์รองสุดท้ายของโชซอน เพราะพระองค์โปรดก๋วยเตี๋ยวเย็นผสมในกิมจิน้ำพร้อมด้วยน้ำซุปเนื้อ

ยุคปัจจุบัน[แก้]
กิมจิเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกาหลีดังนั้นเวลามีการเดินทางในต่างแดนก็ไม่ลืมที่จะพกกิมจิติดตัวไปด้วย[ต้องการอ้างอิง] กิมจิจึงได้เริ่มแพร่หลายในวงกว้างโดยช่วงแรกเริ่มเข้าไปในประเทศใกล้เคียงก่อนคือ ประเทศจีน รัสเซีย รัฐฮาวาย และญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นชาติแรกที่นำกิมจิเป็นเครื่องเคียงในอาหารของชาติตนเอง[ต้องการอ้างอิง]โดยเรียกกิมจิของตนเองว่า คิมุชิ (Kimuchi) เพื่อให้เข้ากับการออกเสียงในภาษาญี่ปุ่น และกิมจิชนิดนี้มีการเปลี่ยนแปลงรสชาติให้เข้ากับอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ต่อมากิมจิจึงเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ชาวต่างชาติในหลายประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และไทย


ตัวสัญลักษณ์กิมจิ
ตัวสัญลักษณ์กิมจิ[แก้]
ตัวสัญลักษณ์กิมจิสร้างขึ้นโดย องค์กรการค้าเกษตรกรรมและการประมงเกาหลี (Korea Agro-Fisheries Trade Corporation) เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 เพื่อส่งเสริมกิมจิแท้จากประเทศเกาหลี และสร้างความแตกต่างระหว่างกิมจิเกาหลีและกิมจิญี่ปุ่น (Kimuchi) ให้ชัดเจนขึ้น ตัวสัญลักษณ์กิมจินี้พบได้เฉพาะกิมจิแท้ของประเทศเกาหลี ซึ่งต้องทำและผลิตจากวัตถุดิบในประเทศเกาหลีเท่านั้น โดยตัวสัญลักษณ์นี้เป็นเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศเกาหลี และอีกหลายเมืองหลายประเทศทั่วโลกได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน ฝรั่งเศส สเปน สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ เยอรมัน แคนาดา นิวซีแลนด์ ฮอลแลนด์ เปรู และประเทศไทย

กิมจิชนิดต่าง ๆ[แก้]
วัตถุดิบในการทำกิมจิโดยทั่วไปแล้วจะเป็นผักกาดขาว หัวผักกาด กระเทียม พริกแดง หัวหอมใหญ่ ปลาหมึก กุ้ง หอยนางรมหรืออาหารทะเลอื่น ๆ ขิง เกลือ และน้ำตาล

กิมจิมีมากมายหลายชนิดจากเอกสารของพิพิธภัณฑ์กิมจิในโซล กิมจิมีมากกว่า 187 ชนิดโดยจะแตกต่างกันตามถิ่นและสภาพอากาศ[ต้องการอ้างอิง] ตัวอย่างเช่นกิมจิหัวผักกาด (깍두기, kkakdugi) เป็นหัวผักกาดล้วนไม่มีผักกาดขาวผสม กิมจิแตงกวายัดไส้ (오이소배기, oisobaegi) และกิมจิผักกาดขาวที่ถือว่าเป็นกิมจิที่รู้จักกันมากที่สุดในนานาชาติ ซึ่งจะเป็นการผสมผักกาดขาว พริกแดง กระเทียม ขิง และน้ำซุบจากปลากะตัก (젓갈, jeotgal) เข้าด้วยกันซึ่งผักกาดขาวควรจะเป็นผักกาดขาวจีน จึงจะได้กิมจิที่มีรสชาติดีและจัด หากทำจากผักกาดขาวชนิดอื่นจะทำให้กิมจิมีรสชาติที่อ่อนลง[ต้องการอ้างอิง]

สุขภาพ[แก้]
กิมจิถูกจัดเป็นหนึ่งในห้าอาหารสุขภาพโดยเฮลท์แม็กกาซีน (Health Magazine) โดยให้เหตุผลว่ากิมจิอุดมด้วยวิตามิน ช่วยในการย่อยอาหาร และอาจจะช่วยรักษาโรคมะเร็ง[ต้องการอ้างอิง] สรรพคุณในกิมจิได้มาจากหลายปัจจัยเพราะว่ากิมจิทำมาจากผักกาดขาว หัวหอม และกระเทียม ผักทั้งสามอย่างนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ[ต้องการอ้างอิง] กิมจิยังมีโปรไบโอติกส์แลคโตแบซิลลัสที่ให้กรดแลคติก หลังจากการหมักเหมือนในโยเกิร์ตด้วย อีกทั้งกิมจิมีพริกแดงเป็นส่วนผสมหลักซึ่งก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน[ต้องการอ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Kimchi [1] (Korea: gimci, MC: Gimchi, MR: Kimch'i. Kim Chi) It is assumed that the cast comes from the words "Sheri Street" (Korea: cimcae, Hanja: shen cai, MC: chimchae, MR: ch'imch'ae) which means salty pickled vegetables. Kimchi is Korea food types who live kept in the pickle wisdom of Korea with red chili and fermented vegetables are generally white-lettuce. Popular Kimchi Korea people consecrated almost every meal and also to Cook several dishes, such as fried rice, boiled rice, soup, rice noodles, satu phissa and by phone until. There are currently more than 187 kind of kimchi, which in most cases, there will be sour and spicy scent spiciness. Even today, the company produces ready-made kimchi restaurant, or live by it Department, but nationals of Korea still top place to eat kimchi at home.Contents [Hide] 1 history1.1 origin of kimchiContemporary 1.2 taper chrome Kingdom.1.3 reign of Joseon Dynasty1.4 current era.2 the symbol for kimchi3 different types of kimchi4 health5 problems with egg parasites in kimchi6 references.7 other sourcesHistory [edit]The origin of kimchi 850.It is believed that kimchi is fermented vegetables that begin in the 19th century, the age of 7 in the winter in cold climate countries Korea is supplied is not suitable for planting. Korea people, so imagine how food preservation to substitute fresh vegetables that are difficult to find. One of them is to make salt salty fermented pickle in jars and buried underground, it is the origin of Kimchi in the following era [2]สมัยอาณาจักรโคเรียว[แก้]มีการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับกิมจิจากตำรายารักษาโรคทางภาคตะวันออกของประเทศที่เรียกว่า "ฮันยักกูกึบบัง" (Hanyakgugeupbang) ในตำรากล่าวถึงกิมจิอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกคือหัวผักกาดฝานเป็นแผ่นดองด้วยซอสถั่วเหลืองเรียกว่า "กิมจิ-จางอาจิ" (Kimchi-jangajji) ชนิดที่สองใช้หัวไชโป๊เรียกว่า "ซุมมู โซกึมชอลรี" (Summu Sogeumjeori) เป็นที่เชื่อกันว่าได้มีการปรับปรุงรสชาติของกิมจิให้จัดจ้านขึ้น อีกทั้งเริ่มได้รับความนิยมว่าเป็นอาหารแปรรูปจึงเริ่มมีการทำกิมจิตลอดทั้งปีโดยไม่กำจัดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเหมือนก่อน ทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นในสมัยอาณาจักรโคเรียวนี้[ต้องการอ้างอิง]สมัยโชซอน[แก้]เล่ากันว่ากิมจิที่มีในสมัยโชซอน ชาวบ้านจะใช้ผักใบเขียวมาดองกับเกลือหรือเกลือกับเหล้าเท่านั้นซึ่งเรียกว่ารสดั้งเดิม[ต้องการอ้างอิง] ในเวลาต่อมาช่วงต้นศตวรรษที่ 17 (หลังจากที่ถูกญี่ปุ่นรุกรานในปี พ.ศ. 2135) จึงเริ่มมีการนำเข้าผักจากต่างประเทศ ส่วนพริกแดงจากญี่ปุ่นนำเข้ามาโดยพ่อค้าชาวโปรตุเกส พริกจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งในกิมจิหลังจากผ่านไปแล้ว 200 ปี ดั้งนั้นราวปลายสมัยราชวงศ์โชซอนสีของกิมจิจึงกลายเป็นสีแดง[ต้องการอ้างอิง]ภายในราชสำนักโชซอนมีการทำกิมจิเพื่อใช้ถวายต่อกษัตริย์ในราชวงศ์โชซอนมีอยู่ด้วยกันสามชนิดได้แก่ "ชอทกุกจิ" (Jeotgukji) เป็นกิมจิที่ทำจากกะหล่ำปลีผสมกับปลาหมัก (ปลาหมักจะใช้เฉพาะคนชั้นสูงในสมัยนั้น) "คักดูกิ" (kkakdugi) เป็นกิมจิทำจากหัวผักกาด ส่วนชนิดสุดท้ายคือ "โชซอน มูซางซานชิก โยรีเจบ็อบ" (Joseon massangsansik yorijebeop) เป็นกิมจิน้ำตำราอาหารของราชสำนักโชซอน โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีการทำกิมจิน้ำโดยมีลูกแพร์เป็นส่วนผสมใช้ทำก๋วยเตี๋ยวเย็นโดยเฉพาะ เพื่อทำถวายกษัตริย์โกชอง (Gojong) กษัตริย์องค์รองสุดท้ายของโชซอน เพราะพระองค์โปรดก๋วยเตี๋ยวเย็นผสมในกิมจิน้ำพร้อมด้วยน้ำซุปเนื้อ
ยุคปัจจุบัน[แก้]
กิมจิเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกาหลีดังนั้นเวลามีการเดินทางในต่างแดนก็ไม่ลืมที่จะพกกิมจิติดตัวไปด้วย[ต้องการอ้างอิง] กิมจิจึงได้เริ่มแพร่หลายในวงกว้างโดยช่วงแรกเริ่มเข้าไปในประเทศใกล้เคียงก่อนคือ ประเทศจีน รัสเซีย รัฐฮาวาย และญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นชาติแรกที่นำกิมจิเป็นเครื่องเคียงในอาหารของชาติตนเอง[ต้องการอ้างอิง]โดยเรียกกิมจิของตนเองว่า คิมุชิ (Kimuchi) เพื่อให้เข้ากับการออกเสียงในภาษาญี่ปุ่น และกิมจิชนิดนี้มีการเปลี่ยนแปลงรสชาติให้เข้ากับอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ต่อมากิมจิจึงเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ชาวต่างชาติในหลายประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และไทย


ตัวสัญลักษณ์กิมจิ
ตัวสัญลักษณ์กิมจิ[แก้]
ตัวสัญลักษณ์กิมจิสร้างขึ้นโดย องค์กรการค้าเกษตรกรรมและการประมงเกาหลี (Korea Agro-Fisheries Trade Corporation) เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 เพื่อส่งเสริมกิมจิแท้จากประเทศเกาหลี และสร้างความแตกต่างระหว่างกิมจิเกาหลีและกิมจิญี่ปุ่น (Kimuchi) ให้ชัดเจนขึ้น ตัวสัญลักษณ์กิมจินี้พบได้เฉพาะกิมจิแท้ของประเทศเกาหลี ซึ่งต้องทำและผลิตจากวัตถุดิบในประเทศเกาหลีเท่านั้น โดยตัวสัญลักษณ์นี้เป็นเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศเกาหลี และอีกหลายเมืองหลายประเทศทั่วโลกได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน ฝรั่งเศส สเปน สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ เยอรมัน แคนาดา นิวซีแลนด์ ฮอลแลนด์ เปรู และประเทศไทย

กิมจิชนิดต่าง ๆ[แก้]
วัตถุดิบในการทำกิมจิโดยทั่วไปแล้วจะเป็นผักกาดขาว หัวผักกาด กระเทียม พริกแดง หัวหอมใหญ่ ปลาหมึก กุ้ง หอยนางรมหรืออาหารทะเลอื่น ๆ ขิง เกลือ และน้ำตาล

กิมจิมีมากมายหลายชนิดจากเอกสารของพิพิธภัณฑ์กิมจิในโซล กิมจิมีมากกว่า 187 ชนิดโดยจะแตกต่างกันตามถิ่นและสภาพอากาศ[ต้องการอ้างอิง] ตัวอย่างเช่นกิมจิหัวผักกาด (깍두기, kkakdugi) เป็นหัวผักกาดล้วนไม่มีผักกาดขาวผสม กิมจิแตงกวายัดไส้ (오이소배기, oisobaegi) และกิมจิผักกาดขาวที่ถือว่าเป็นกิมจิที่รู้จักกันมากที่สุดในนานาชาติ ซึ่งจะเป็นการผสมผักกาดขาว พริกแดง กระเทียม ขิง และน้ำซุบจากปลากะตัก (젓갈, jeotgal) เข้าด้วยกันซึ่งผักกาดขาวควรจะเป็นผักกาดขาวจีน จึงจะได้กิมจิที่มีรสชาติดีและจัด หากทำจากผักกาดขาวชนิดอื่นจะทำให้กิมจิมีรสชาติที่อ่อนลง[ต้องการอ้างอิง]

สุขภาพ[แก้]
กิมจิถูกจัดเป็นหนึ่งในห้าอาหารสุขภาพโดยเฮลท์แม็กกาซีน (Health Magazine) โดยให้เหตุผลว่ากิมจิอุดมด้วยวิตามิน ช่วยในการย่อยอาหาร และอาจจะช่วยรักษาโรคมะเร็ง[ต้องการอ้างอิง] สรรพคุณในกิมจิได้มาจากหลายปัจจัยเพราะว่ากิมจิทำมาจากผักกาดขาว หัวหอม และกระเทียม ผักทั้งสามอย่างนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ[ต้องการอ้างอิง] กิมจิยังมีโปรไบโอติกส์แลคโตแบซิลลัสที่ให้กรดแลคติก หลังจากการหมักเหมือนในโยเกิร์ตด้วย อีกทั้งกิมจิมีพริกแดงเป็นส่วนผสมหลักซึ่งก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน[ต้องการอ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Kimchi [1] (Korean: 김치, MC: Gimchi, MR: Kimch'i Kim Chee), with the assumption that the probability distortion of the word "tasting like" (Korean: 침채, Hanja:沈菜. , MC: chimchae, MR: ch'imch'ae) which means salty pickles. Kimchi is a Korean pickles wisdom scullery Koreans. With marinated red peppers and vegetables. Typically the lettuce. Koreans eat kimchi every meal. It also is used as an ingredient in many foods such as rice, fried rice, rice noodle stew to pizza and burgers. Currently there are over 187 types of kimchi, which are mostly spicy, sour and pungent odor. Today, the company produces food or fresh kimchi made ​​by the mall it. But it is also popular Korean kimchi at home eating Contents [hide] 1 History 1.1 The beginning of kimchi 1.2. The kingdom Goryeo Joseon 1.3 1.4 present two symbols kimchi 3. Kimchi various 4 Health 5 Problems parasites in kimchi 6 References 7 External links History [edit] The beginning of kimchi [edit] It is believed that the kimchi is fermented vegetables. founded in the 7th century in the winter in Korea. The cold weather is not suitable for cultivation. Koreans have no idea how the food was. To replace a rare vegetables. One of them is the salty pickles in jars marinated with salt and bring to burial. It is the origin of kimchi in the days to come, [2] the kingdom Goryeo [edit] have discovered evidence of kimchi from a textbook of medicine in the eastern part of the country called. "Honey, I shrug my Geun Sun" (Hanyakgugeupbang) mentioned in texts are 2 types of kimchi was beet slice, sliced ​​pickled in soy sauce called. "Kimchi - Zhang CHI" (Kimchi-jangajji) The second type of radish called "Zum Smooth huchuggaru Chul's" (Summu Sogeumjeori) is believed to have improved taste. Kimchi is a spicy They began to gain popularity as a food they have to make kimchi throughout the year, not only kill the winter as before. Both of which took place during the Goryeo Kingdom [citation needed] Joseon [edit] said that kimchi in Joseon. Locals take the greens preserved with salt or salt to taste wine, which is called [citation needed] Later, the early 17th century (after the Japanese invasion in the year 2135) began. vegetables are imported from abroad. The red peppers imported from Japan by Portuguese traders. Peppers are used as ingredients in kimchi after 200 years of the late Joseon Dynasty colors of kimchi has become red [citation needed] The court of Joseon's done. Kimchi is dedicated to the king of the Joseon Dynasty, there are three types of "Aldershot Kook Jin" (Jeotgukji) is made ​​of cabbage kimchi mixed with fermented fish. (Fish marinated uses only the highest in those days) "Govt Dugi" (kkakdugi) is made ​​of radish kimchi. The last type is "Joseon Smooth Santa Cruz Pasig Yori DJ Bob" (Joseon massangsansik yorijebeop) Kimchi is a cookbook of royal Joseon. The story goes that the kimchi juice with pear mixture is cool, especially for making noodles. Go to the king, Jean (Gojong), the second last king of Joseon. Because her favorite cold noodles mixed in kimchi water with bouillon today [edit] kimchi is indispensable for the Koreans, so the time they are traveling abroad, do not forget to carry kimchi. with them [citation needed] Kimchi was widely acclaimed by the early broadly into neighboring countries, namely China, Russia, Hawaii and Japan, especially in Japan. It is the first nation to put a side of kimchi is a national food self [citation needed] It is called Kimchi that their Yoshino Japan (Kimuchi) to match the pronunciation in Japanese. And kimchi, this has changed to a Japanese flavor more. The kimchi is so popular, and more. Among foreigners in many countries. Such as the US, China, Japan and Thailand to sign Kimchi Kimchi symbols [edit] The symbol kimchi created. Trade Organizations Agriculture and Fisheries, Korea (Korea Agro-Fisheries Trade Corporation) in June 2543 to promote authentic kimchi from Korea. And the difference between Korean kimchi and kimchi Japan (Kimuchi) to clear up. The symbol kimchi kimchi found only genuine Korea. This must be done and materials from Korea only. By this symbol are trademarks registered in Korea. And many other cities around the world including Hong Kong, Japan, Taiwan, China, France, Spain, United Kingdom, Germany, Canada, New Zealand, Holland, Indonesia, USA, Singapore, Thailand, Peru, and different types of kimchi. People [edit] Materials for making kimchi is typically a cabbage, radish, garlic, red pepper, onion, squid, shrimp, oysters and other seafood, ginger, salt and sugar, kimchi has many types of documents. the Kimchi Museum in Seoul. Kimchi has over 187 different species of the region and the weather [citation needed] For example, kimchi, radish (깍두기, kkakdugi) are not a turnip cabbage mixture. Stuffed cucumber kimchi (오이소 배기, oisobaegi) and kimchi cabbage kimchi is considered the most well-known internationally. Which is a blend of white cabbage, red pepper, garlic, ginger and pottage of anchovy (젓갈, jeotgal) together, which should be white cabbage, Chinese cabbage. To get a taste of kimchi and organized. If made ​​of lettuce and other will make kimchi tastes lighter [citation needed] Health [edit] Kimchi has been identified as one of the five food health health magazine (Health Magazine) by. argue that kimchi is rich in vitamins. Help in digestion And may help treat cancer [citation needed] properties in kimchi from many factors that kimchi is made ​​of cabbage, onions and garlic, vegetables, all three, it is well known that there. health benefits [citation needed] Kimchi also Probiotic lactobacilli Blackburn City Dallas to lactic acid. After fermentation, as in yogurt with. The kimchi is red pepper is the main ingredient, which is beneficial to health as well [want to.







































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ch'imch'ae ) ที่แปลว่าผักดองเค็มกิมจิเป็นอาหารเกาหลีประเภทผักดองที่อาศัยภูมิปัญญาก้นครัวของชาวเกาหลีด้วยการหมักพริกสีแดงและผักต่างๆโดยทั่วไปจะเป็นผักกาดขาวชาวเกาหลีนิยมรับประทานกิมจิเกือบทุกมื้อ1 kimchi [] (Korean:,, 김 치 MC: Gimchi MR: Kimch 'I Kim Shi) is the hypothesis that would be crazy from the word "shim Che" (Korean: 침채 ฮันจา:,, 沈 菜 MC: chimchae MR:,,Ch 'IMCH' AE) which means salty pickles Korean kimchi pickles is a type that relies on the wisdom of the Korean kitchen By the fermentation of red peppers and a variety of vegetables, typically a cabbage. Korean kimchi prefer to eat almost every meal.Such as boiled rice, soup, fried rice, stew noodles and pizza and burgers, present until the kimchi has more than 187 type. Most of which are spicy, sour, and odor.But still popular Korean kimchi to eat at home!Content [hidden]


1.1 1 history at the beginning of the Goryeo Kingdom 1.2 kimchi

1.3 Joseon
1.4 nowadays

3 2 symbolic kimchi. Various types of kimchi

5 egg parasites 4 health problems in the 6


7 reference other sources of history [solve]
.At the beginning of the kimchi [solve]
.It is believed that kimchi pickled vegetables was born at the turn of the century 7 in that era during the winter in Korea. A cold is not suitable for cultivation. The Koreans thought the method of preserving food.One of them is making pickles salted with salt fermentation in jars and the ground. The origin of the kimchi at the later [2]
.
Goryeo kingdom [Edit]
.The discovery of evidence about the texts from the medicine in the eastern part of the country is called the "Han't Gu GI system" (Hanyakgugeupbang). In the book covers kimchi 2 type. The first type is the turnip slice pickled sheet with soy sauce called.Both of this occurred during the reign of the kingdom of Korea [need references]
.
the Joseon Dynasty [solve]
.(Kimchi-jangajji) type II using radish naked called "zum Mu SEO Chul the Geum" (Summu Sogeumjeori) is believed to have improved the taste of the kimchi to be bold.It is said that kimchi with during the Joseon. People will use the green vegetables come with salt or salt and alcohol, which is called the original flavor [need reference]. In the early centuries later 17 (after the Japanese invasion in the 1930s2135) began to imported vegetables from abroad. The red pepper from Japan brought by the Portuguese. Pepper was used as ingredients in the past 200 kimchi after one year.
.Within the Joseon court has kimchi to use unto the king in the Joseon Dynasty there are three kinds including "jeotgukji" (Jeotgukji) is made from cabbage kimchi mix with fish paste. (fermented fish is used only the nobility in those days), "go ดูกิ".To do the king gojong (Gojong) the last king of Joseon. Because he loves a cold noodle mixed in water with kimchi broth
.Nowadays [Edit]

.Kimchi made of radish, the last type is "Joseon Musang San sik. Hyo RI J Bob" (Joseon massangsansik yorijebeop) is a water kimchi cookbook of the Joseon court.Kimchi is indispensable for Korean so when your trip abroad, do not forget ที่จะพก kimchi with [need references]. Kimchi the prevalent broadly by first started in nearby countries before.Russia, Hawaii and Japan, especially Japan. Regarded as the first national side in the kimchi food self [want] by the national reference call their kimchi that kimuchi (Kimuchi).This kind of change and kimchi taste along with the Japanese. Later, kimchi is popular more and more. Among the foreigners in countries such as the United States, China, Japan and Thailand
.



the symbolic symbolic kimchi kimchi [solve]
symbolic kimchi created by The trade, agriculture and fisheries, Korea (Korea Agro-Fisheries Trade Corporation) on June 2010.2543 to promote genuine kimchi from Korea. And make a difference between Korea and Japan Kimuchi kimchi (kimchi) to clear up the symbolic Kim Jin find only genuine kimchi in Korea.By this sign is the registered trademark in Korea. And many other cities, many countries around the world, including Japan, Hong Kong, Taiwan, China, France, Spain, the United Kingdom, the United States, Singapore, Indonesia. German.New Zealand, Holland, Peruvian and Thailand
.There are many different kinds of kimchi kimchi Museum from documents in Seoul, kimchi is more than 187 species by will vary by มถิ่น and weather [need references]. For example, 두 기 (깍 radish kimchi
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: