บทคัดย่องานวิจัยนี้เป็นการศึกษาความ

บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาความต้องการในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สามของนักศึกษามุสลิมจุดมุ่งหมายของงานวิจัยนี้คือ การสำรวจความต้องการ ทัศนคติ และปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 3 ของนักศึกษา ซึ่งสอบถามจากนักศึกษามุสลิมชั้นปีที่ 3 จำนวน 55 คน งานวิจัยนี้เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลในรูปของค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
โดยจำแนกตามเพศ พบว่าเพศหญิงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 36.36 / จำแนกตามอายุ พบว่า อายุระหว่าง 22-23 มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 58.18 / จำแนกตามภาษาแม่ พบว่า ภาษามลายูมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 81.82 / จำแนกตามภาษาที่สอง พบว่า ภาษาไทยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 70.91 / จำแนกตามความต้องการในการเรียนทักษะต่างๆในภาษาอังกฤษ พบว่า การพูดมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.18 / จำแนกตามทัศนคติของนักศึกษาต่อการเรียนภาษาอังกฤษ พบว่า ภาษาอังกฤษไม่ได้ยากเกินไปสำหรับฉันมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.36 และจำแนกตามปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษ พบว่า ไม่สามารถเขียนประโยคภาษาอังกฤษได้ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.25
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่านักศึกษามีความต้องการที่จะพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษให้มากขึ้น โดยเฉพาะทักษะการพูด นักศึกษามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 3 และนักศึกษาก็ยังมีปัญหาในด้านต่างๆในการเรียน โดยเฉพาะเรื่องการเขียน นักศึกษาไม่สามารถเขียนประโยคเป็นภาษาอังกฤษได้ นอกจากนี้นักศึกษามีต้องการในการเรียนภาษาอังกฤษจากสื่อการสอนที่หลากหลายในชั้นเรียน เพื่อให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจ สนุก และประสบผลสำเร็จมากขึ้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

AbstractThis is a research study on the use of English as the language of the Muslim students, the aim of this research is to explore the requirement. Attitudes and problems in learning English as the language of the students who ask for Muslim students, grade 3, the number of 55 persons filed this research by using a query. Data analysis consists of Analyze data by using the data analysis as a percentage of the average value and standard deviation.โดยจำแนกตามเพศ พบว่าเพศหญิงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 36.36 / จำแนกตามอายุ พบว่า อายุระหว่าง 22-23 มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 58.18 / จำแนกตามภาษาแม่ พบว่า ภาษามลายูมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 81.82 / จำแนกตามภาษาที่สอง พบว่า ภาษาไทยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 70.91 / จำแนกตามความต้องการในการเรียนทักษะต่างๆในภาษาอังกฤษ พบว่า การพูดมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.18 / จำแนกตามทัศนคติของนักศึกษาต่อการเรียนภาษาอังกฤษ พบว่า ภาษาอังกฤษไม่ได้ยากเกินไปสำหรับฉันมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.36 และจำแนกตามปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษ พบว่า ไม่สามารถเขียนประโยคภาษาอังกฤษได้ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.25ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่านักศึกษามีความต้องการที่จะพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษให้มากขึ้น โดยเฉพาะทักษะการพูด นักศึกษามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 3 และนักศึกษาก็ยังมีปัญหาในด้านต่างๆในการเรียน โดยเฉพาะเรื่องการเขียน นักศึกษาไม่สามารถเขียนประโยคเป็นภาษาอังกฤษได้ นอกจากนี้นักศึกษามีต้องการในการเรียนภาษาอังกฤษจากสื่อการสอนที่หลากหลายในชั้นเรียน เพื่อให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจ สนุก และประสบผลสำเร็จมากขึ้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Abstract
This research study needs to use English as a third of Muslim students, the aim of this research. To explore the attitudes and problems in learning English as a third of the students who ask for Muslim students in Year 3 of 55 workers were collected using a questionnaire. The data analysis Data were analyzed using percentages. Data were analyzed in terms of the mean and standard deviation
divided by gender. Found that most female Percentage 36.36 / stratified by age showed that most aged between 22-23 percent 58.18 / by the Malay Language as possible. Percentage 81.82 / BY second language in Thailand found that most. Percentage 70.91 / BY demand for skills in English were the most spoken. Percentage 4.18 / classified by the attitude of students towards learning English that English is not too difficult for me most. And 4.36 per cent by issues in learning English could not write English sentences, most likely as a percentage. 4.25
Research shows that students want to improve their English and more. Specifically speaking skills Students have a positive attitude towards learning English as a third language, and students also have problems in various fields of study. Especially writing Students can not write a sentence in English. In addition, students are required to learn English from a variety of teaching materials in class. To make learning interesting and fun, much more successful.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Abstract
.This research studied the demand in using English as a third language of the Muslim students aim of this research is to survey requirements. Attitudes and problems in learning English is the language 3 of students.3 number 55. This research questionnaire was used to collect data. Data analysis consisted of The data were analyzed by percentage. Analysis of data in the form of mean and standard deviation
.The population showed that most females, were 36.36 / classified by age, found that aged between 22-23 most, were 58.18. Population by language found that most Malay, were 81.82 / by second language, it was found that the Thai most, were 70.91. Classified according to needs in learning skills in English, it was found that most of the speech, the per cent 4.18 / classified according to students' attitudes towards English learning, it was found that English is not too difficult for me the most, were 4.36 and classification problem in learning English. Can't write the English sentences. Most were 4.25
.The result shows that students need to develop more English, especially speaking skills. The students have a positive attitude toward learning English is the language 3.Especially in writing. Students cannot write a sentence in English. The students need in learning English from a variety of materials in the classroom. To make learning interesting, fun.

.