“ขอให้นักเรียนทุกคน..รีบมาเข้าแถว” เสียงคณะกรรมการนักเรียน เรียกนักเรี การแปล - “ขอให้นักเรียนทุกคน..รีบมาเข้าแถว” เสียงคณะกรรมการนักเรียน เรียกนักเรี อังกฤษ วิธีการพูด

“ขอให้นักเรียนทุกคน..รีบมาเข้าแถว”

“ขอให้นักเรียนทุกคน..รีบมาเข้าแถว”
เสียงคณะกรรมการนักเรียน เรียกนักเรียนมาเข้าแถวบริเวณสนามหน้าเสาธง มันเป็นประโยคยอดฮิตของคณะกรรมการนักเรียน ที่ทำกิจกรรมหน้าเสาธง เพราะใช้ติดต่อกันห้าวันต่อสัปดาห์
นักเรียนทยอยกันเดินลงอาคารเรียน กลุ่ม ม.1 ม.2 มักเร่งรีบกว่าห้องอื่นๆ ส่งเสียงดังโล้งเล้ง เล่นเตะต่อยกันไม่แยกชายหญิง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และที่สำคัญคือ ไม่รู้จักจะจัดแถวสักที กลุ่ม ม.3 เริ่มวัยหนุ่มวัยสาวก็ต้องช้าสักหน่อย ผัดแป้งแต่งหน้า ทาน้ำมันผม อมลูกอมให้ปากหอม และแน่นอนว่ากลิ่นน้ำหอมต้องแรงสักหน่อย การเยื้องย่างก็ต้องดูดี เพราะมีสายตาหลากหลายที่ดูเหมือนจะจับต้องร่างกาย ให้หวั่นใจอยู่ทุกช่วงของเวลา ต่างจับกลุ่มเสวนาพาทีเหมือนผู้ดีในงานเลี้ยงไฮโซ
กลุ่ม ม.4 ต้องวางมาดเข้าไว้ เพราะต่างเพิ่งมาพบกัน ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของกันและกัน หรือไม่รู้ว่าพวกที่รู้ มันจะปากสว่างเอาไปสาธยายให้เพื่อนใหม่ฟังหรือเปล่า กันกันเอาไว้ก่อน เผื่อเหลือเผื่อขาด มาดต้องมาดีหน่อย จัดแถวเป็นระเบียบเป็นกลุ่มแรกและกลุ่มเดียว กลุ่ม ม.5 ต้องวางท่า เพราะเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในส่วนของนักเรียนมากที่สุด เป็นคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายต่างๆ ที่ต้องทำกิจกรรมของโรงเรียน มีน้องๆ รู้จักมากมาย ไม่วางท่าได้อย่างไร วางไปวางมาไม่เข้าเป็นรูปแถวตรงสักที จะมีแต่แถวคดทั้งนั้น ส่วนกลุ่ม ม.6 เป็นไม้ใกล้ฝั่งเสียแล้ว กลายเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ ไม่ต้องมาร่วมงานโรงเรียนมากนัก ให้อ่านหนังสือเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อชื่อเสียงของโรงเรียนเป็นสำคัญ แถวเลยดูโหรงเหรงไปหน่อย
“ทั้งหมด ซ้ายหัน…จัดแถว”
“ทั้งหมด ขวาหัน…จัดแถวให้ตรงคอคนหน้าด้วยครับ”
คุณครูเริ่มลงจากอาคารเรียนและโรงอาหาร วันนี้วันแรกของการทำงาน มีเรื่องที่พูดคุยกันไม่แพ้นักเรียนเท่าใดนัก ต่างมายืนจับกลุ่มคุยกันหลังแถวของนักเรียน
“เคารพธงชาติ ธงขึ้น…ตรง…ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย…”
เสียงบ่นเกี่ยวกับประเทศไทย งึมงำงึมงำ ในสนาม เสียงนักเรียนลากเท้า ขยับจัดแถวกันไปมา แต่เสียงพูดคุยหัวเราะของบรรดาคุณครูทั้งหลาย เสียงยังดังมากกว่าเสียงร้องเพลงชาติของนักเรียนเสียอีก
“เอาใหม่ ไม่รักชาติกันหรือไร ครูลงรถมายังไม่ได้ยินเลย เดี๋ยวใครไม่ร้อง จะโดนหวาย” เสียงครูฝ่ายละเมิดสิทธิเด็กประกาศก้อง คงแก้เขินที่ตนเองมาโรงเรียนสาย คณะกรรมการนักเรียนรีบสั่งตรงและขึ้นเพลงใหม่ นักเรียนเสียงดังมากขึ้น แสดงว่านักเรียนรักชาติกันมากขึ้น หรืออาจจะรำคาญการจุกจิกจู้จี้ของผู้วางอำนาจ ส่วนกลุ่มที่ไม่รักชาติยังคงส่งเสียงคุยกันอย่างออกรสอยู่หลังแถวของนักเรียน
“อะระหัง สัมมา......” เสียงผู้นำสวดภาษาบาลี นำนักเรียนเป็นวรรคๆ การนำสวดต้องใช้คนที่มีความจำเป็นเลิศ เพราะเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่สวดกันมาเป็นปีสองปี หรือตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ยังไม่มีใครแปลเป็นไทยให้นักเรียนฟังเลยสักวัน นักเรียนประนมมือปากก็ว่าตามไป น้ำลายย้อยหยด บางวรรคก็หันมาคุยกันทางด้านหลัง บ้างก็ชำเลืองแลคุณครูกลุ่มหลังแถวนักเรียน ที่เปิดเสวนาขยายวงออกไปกว้างมากขึ้น ครูหลายคนหันมาแหวใส่นักเรียนของตนเอง ให้ตั้งใจสวดมนต์ แล้วตนเองก็หันมาเริ่มวงนินทากันต่อไป
“สวดใหม่ ไม่นับถือศรัทธาศาสนากันหรือไง คำดีดีไม่เอา” ฝ่ายกดขี่นักเรียน ออกคำสั่งอีก ผู้นำสวดเริ่มนำใหม่ เสียงนักเรียนดังขึ้นกว่าเดิม กลบเสียงของคนไม่มีศาสนาด้านหลังไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงของฝ่ายที่ไม่มีศาสนาด้านหลังแถวนักเรียน ก็ชนะอีกตามเคย
เสียงบ่นงึมงำเกี่ยวกับคำปฏิญาณตนดังอยู่ในลำคอ พอประสานเสียงกันออกมาเหมือนเสียงอึ่งอ่างได้น้ำใหม่ ยิ่งคำขวัญของโรงเรียน เสียงยิ่งกระจัดกระจาย เหมือนความสามัคคีของบุคลากรในโรงเรียนก็มิปาน
“ไอ้เลาเอ๋อ มานี่ ไม่เห็นเปิดปากเลย ไม่มีสัญชาติ ศาสนาเลยไอ้นี่” ครูฝ่ายถมปมด้อยตนเอง ตวาดลั่น
“เผียะ เผียะ”
“ใครมีปัญหา หือ ใครไม่ให้เฆี่ยนบอกมา” จอมโวยวายยังระรานต่อไป
นักเรียนเงียบกริบ ต่างก้มหน้างุด เลาเอ๋อยืนตรง ไม่กล้าแม้จะลูบคลำรอยที่ก้น เดี๋ยวรอยมันก็หาย แต่มันจะฝังอยู่ในจิตใจเขาตลอดกาล ครูหลังแถวไม่ได้มองมาทางนี้ แต่มองไปทางฝ่ายบริหาร ตกลงกันแล้วไงว่าจะไม่มีการเฆี่ยนอีก ระเบียบก็ออกมาชัดเจน มีคณะกรรมการตัดสินพฤติกรรมเด็ก ผู้ปกครองเสียเงินซื้อระเบียบการปกครองนักเรียนใหม่ไปแล้ว พวกเขาจะว่าอย่างไร หรือเห็นว่าเขาเป็นคนบ้านนอก เป็นชาวเขาไม่รู้เรื่องอะไร ท่านรองก็เบี่ยงสายตาเข้าหาท่านผู้อำนวยการ ที่ยืนหูแดงอยู่ในสนาม ซึ่งท่านคงกำลังตัดสินใจระหว่างความเห็นใจปมด้อยของครูคนนี้ หรือความถูกต้องตามระเบียบ ที่แน่นอนคือ ไม่มีใครช่วยเหลือนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ
“ให้มันรู้ไป เอ๊า ทำกิจกรรมต่อไปลูก” อารมณ์เริ่มเย็นลง หรือกลัววินัยขึ้นมาบ้าง
“สวัสดีครับ พุทธสุภาษิตประจำวันนี้ ขอเสนอคำว่า “อุชฌัตตะ พะลา พาลา คนโง่ชอบจ้องหาความผิดคนอื่น”
“สะหวัดดีเจ๊า สุภาษิตกำเมืองในวันนี้ ขอเสนอกำว่า “สอนเปิ้นไต่ขวา ตั๋วกลั๋วตกน้ำ” หมายความว่า สอนคนอื่นได้ แต่ตัวเองทำไม่ได้”
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
"Ask the students. .. everyone line up." A sound Student Committee. Call the student into the row pitch page flag poles. It's a popular student activities Committee page, because the flag pole used five days a week. Students together into group m school building 1 The other rooms are often accelerated m 2 ripkwa yell long and every play, kicks, punches, but not for men and women. A tireless traveler, and, most importantly, do not know the lock, row is held. Group m, 3. Start a youth, it must be a little slow fried dough make-up oiled hair. Candy, and of course a little fragrance strength roast must be indented, because it must be viewed with a variety of eyes that seem to touch the body of the message, the range of time difference, Redstone party Aristocrat like bape occasionally hiso. กลุ่ม ม.4 ต้องวางมาดเข้าไว้ เพราะต่างเพิ่งมาพบกัน ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของกันและกัน หรือไม่รู้ว่าพวกที่รู้ มันจะปากสว่างเอาไปสาธยายให้เพื่อนใหม่ฟังหรือเปล่า กันกันเอาไว้ก่อน เผื่อเหลือเผื่อขาด มาดต้องมาดีหน่อย จัดแถวเป็นระเบียบเป็นกลุ่มแรกและกลุ่มเดียว กลุ่ม ม.5 ต้องวางท่า เพราะเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในส่วนของนักเรียนมากที่สุด เป็นคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายต่างๆ ที่ต้องทำกิจกรรมของโรงเรียน มีน้องๆ รู้จักมากมาย ไม่วางท่าได้อย่างไร วางไปวางมาไม่เข้าเป็นรูปแถวตรงสักที จะมีแต่แถวคดทั้งนั้น ส่วนกลุ่ม ม.6 เป็นไม้ใกล้ฝั่งเสียแล้ว กลายเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ ไม่ต้องมาร่วมงานโรงเรียนมากนัก ให้อ่านหนังสือเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อชื่อเสียงของโรงเรียนเป็นสำคัญ แถวเลยดูโหรงเหรงไปหน่อย“ทั้งหมด ซ้ายหัน…จัดแถว”“ทั้งหมด ขวาหัน…จัดแถวให้ตรงคอคนหน้าด้วยครับ”คุณครูเริ่มลงจากอาคารเรียนและโรงอาหาร วันนี้วันแรกของการทำงาน มีเรื่องที่พูดคุยกันไม่แพ้นักเรียนเท่าใดนัก ต่างมายืนจับกลุ่มคุยกันหลังแถวของนักเรียน“เคารพธงชาติ ธงขึ้น…ตรง…ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย…”เสียงบ่นเกี่ยวกับประเทศไทย งึมงำงึมงำ ในสนาม เสียงนักเรียนลากเท้า ขยับจัดแถวกันไปมา แต่เสียงพูดคุยหัวเราะของบรรดาคุณครูทั้งหลาย เสียงยังดังมากกว่าเสียงร้องเพลงชาติของนักเรียนเสียอีก“เอาใหม่ ไม่รักชาติกันหรือไร ครูลงรถมายังไม่ได้ยินเลย เดี๋ยวใครไม่ร้อง จะโดนหวาย” เสียงครูฝ่ายละเมิดสิทธิเด็กประกาศก้อง คงแก้เขินที่ตนเองมาโรงเรียนสาย คณะกรรมการนักเรียนรีบสั่งตรงและขึ้นเพลงใหม่ นักเรียนเสียงดังมากขึ้น แสดงว่านักเรียนรักชาติกันมากขึ้น หรืออาจจะรำคาญการจุกจิกจู้จี้ของผู้วางอำนาจ ส่วนกลุ่มที่ไม่รักชาติยังคงส่งเสียงคุยกันอย่างออกรสอยู่หลังแถวของนักเรียน“อะระหัง สัมมา......” เสียงผู้นำสวดภาษาบาลี นำนักเรียนเป็นวรรคๆ การนำสวดต้องใช้คนที่มีความจำเป็นเลิศ เพราะเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่สวดกันมาเป็นปีสองปี หรือตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ยังไม่มีใครแปลเป็นไทยให้นักเรียนฟังเลยสักวัน นักเรียนประนมมือปากก็ว่าตามไป น้ำลายย้อยหยด บางวรรคก็หันมาคุยกันทางด้านหลัง บ้างก็ชำเลืองแลคุณครูกลุ่มหลังแถวนักเรียน ที่เปิดเสวนาขยายวงออกไปกว้างมากขึ้น ครูหลายคนหันมาแหวใส่นักเรียนของตนเอง ให้ตั้งใจสวดมนต์ แล้วตนเองก็หันมาเริ่มวงนินทากันต่อไป“สวดใหม่ ไม่นับถือศรัทธาศาสนากันหรือไง คำดีดีไม่เอา” ฝ่ายกดขี่นักเรียน ออกคำสั่งอีก ผู้นำสวดเริ่มนำใหม่ เสียงนักเรียนดังขึ้นกว่าเดิม กลบเสียงของคนไม่มีศาสนาด้านหลังไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงของฝ่ายที่ไม่มีศาสนาด้านหลังแถวนักเรียน ก็ชนะอีกตามเคยเสียงบ่นงึมงำเกี่ยวกับคำปฏิญาณตนดังอยู่ในลำคอ พอประสานเสียงกันออกมาเหมือนเสียงอึ่งอ่างได้น้ำใหม่ ยิ่งคำขวัญของโรงเรียน เสียงยิ่งกระจัดกระจาย เหมือนความสามัคคีของบุคลากรในโรงเรียนก็มิปาน“ไอ้เลาเอ๋อ มานี่ ไม่เห็นเปิดปากเลย ไม่มีสัญชาติ ศาสนาเลยไอ้นี่” ครูฝ่ายถมปมด้อยตนเอง ตวาดลั่น“เผียะ เผียะ”
“ใครมีปัญหา หือ ใครไม่ให้เฆี่ยนบอกมา” จอมโวยวายยังระรานต่อไป
นักเรียนเงียบกริบ ต่างก้มหน้างุด เลาเอ๋อยืนตรง ไม่กล้าแม้จะลูบคลำรอยที่ก้น เดี๋ยวรอยมันก็หาย แต่มันจะฝังอยู่ในจิตใจเขาตลอดกาล ครูหลังแถวไม่ได้มองมาทางนี้ แต่มองไปทางฝ่ายบริหาร ตกลงกันแล้วไงว่าจะไม่มีการเฆี่ยนอีก ระเบียบก็ออกมาชัดเจน มีคณะกรรมการตัดสินพฤติกรรมเด็ก ผู้ปกครองเสียเงินซื้อระเบียบการปกครองนักเรียนใหม่ไปแล้ว พวกเขาจะว่าอย่างไร หรือเห็นว่าเขาเป็นคนบ้านนอก เป็นชาวเขาไม่รู้เรื่องอะไร ท่านรองก็เบี่ยงสายตาเข้าหาท่านผู้อำนวยการ ที่ยืนหูแดงอยู่ในสนาม ซึ่งท่านคงกำลังตัดสินใจระหว่างความเห็นใจปมด้อยของครูคนนี้ หรือความถูกต้องตามระเบียบ ที่แน่นอนคือ ไม่มีใครช่วยเหลือนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ
“ให้มันรู้ไป เอ๊า ทำกิจกรรมต่อไปลูก” อารมณ์เริ่มเย็นลง หรือกลัววินัยขึ้นมาบ้าง
“สวัสดีครับ พุทธสุภาษิตประจำวันนี้ ขอเสนอคำว่า “อุชฌัตตะ พะลา พาลา คนโง่ชอบจ้องหาความผิดคนอื่น”
“สะหวัดดีเจ๊า สุภาษิตกำเมืองในวันนี้ ขอเสนอกำว่า “สอนเปิ้นไต่ขวา ตั๋วกลั๋วตกน้ำ” หมายความว่า สอนคนอื่นได้ แต่ตัวเองทำไม่ได้”
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: