ทฤษฎีการพยาบาลเป็นองค์ความรู้เฉพาะท

ทฤษฎีการพยาบาลเป็นองค์ความรู้เฉพาะทางการพยาบาล เริ่มขึ้นจากการพยายามหาคำตอบให้ตรงกันว่าการพยาบาลคืออะไร เหตุใดจึงต้องมีทฤษฎีการพยาบาล การใช้ทฤษฎีทางการพยาบาลเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือเพื่ออิสระภาพทางการดูแลในลักษณะที่เป็นศาสตร์ ดังนั้นจึงต้องมีการศึกษาวิจัยทางคลีนิค ฟลอเรนซ์ไนติงเกลเป็นบุคคลแรกที่พยายามสร้างศาสตร์การพยาบาลและเตรียมพยาบาลอย่างมีรูปแบบชัดเจน ลักษณะการพยาบาลในยุคของฟลอเรนซ์ ไนติงเกลจะมีลักษณะเป็นศิลปเชิงเทคนิค ( Technical arts ) ซึ่งเน้นหลักการและวิธีปฏิบัติ ศาสตร์ทางการพยาบาลของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ประกอบด้วย (1) Nursing proper ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่สตรีพึงมีในบทบาทของแม่ของสตรีโดยธรรมชาติ เช่น การให้ความรักความเมตตา (2) Nursing Sciences เป็นเทคนิคการพยาบาลที่ต้องเรียนรู้ระบบการพยาบาลในรูปแบบของฟลอเรนซ์
ไนติงเกล มีการนำมาใช้อยู่นานทั้งในยุโรปและอเมริกาจนถึงช่วงปี 1955 มีการเปลี่ยนแปลงในระบบการแพทย์จากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาชีพการพยาบาลได้รับการมองว่าเป็นวิชาชีพของสตรีในระดับแรงงาน ซึ่งในระยะนี้เริ่มมีผู้นำทางการพยาบาลพยายามสร้างศาสตร์การพยาบาลให้มีความชัดเจน และเริ่มมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาจนมีศาสตร์ของการพยาบาลขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความพยายามของกลุ่มนักวิชาการพยาบาลในประเทศสหรัฐอเมริการที่ตระหนักถึงความจำเป็นของการพัฒนาวิชาชีพให้ทัดเทียมกับวิชาชีพอื่นๆ และต้องการช่วยเหลือให้วิชาชีพพยาบาลมีหลักในการปฏิบัติงานที่มีระบบระเบียบ จากการศึกษาวิวัฒนาการของทฤษฎีการพยาบาลตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันพอสรุปได้เป็น 4 ระยะเวลา กล่าวคือ


1. ระยะก่อนปี ค.ศ. 1960
ในยุคนี้เป็นยุคในการพัฒนาความต่อเนื่องจากงานเขียนและการทำงานของ
ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล โดยมีการเริ่มมีการพัฒนาพื้นฐานของทฤษฎีจากแนวคิดของ จิตวิทยา สังคมศาสตร์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มนุษยศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์ มีการทำวิจัยทางการพยาบาลและมีวารสารวิจัยการพยาบาลเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1952 ซึ่งนับได้ว่าวิชาชีพพยาบาลยังไม่ได้มีศาสตร์ที่เป็นของตนเอง อย่างไรก็ตามพอที่จะกล่าวได้ว่า แนวความคิดเกี่ยวกับความรู้เฉพาะสาขาของวิชาชีพพยาบาล (a unique nursing body of knowledge) ได้เริ่มตั้งแต่สมัยของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (Nightingale, 1859) ซึ่งถือว่าเป็นผู้ริเริ่มการพยาบาลแผนใหม่ (Modern nursing)และเป็นผู้ที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าวิชาชีพพยาบาลเป็นวิชาชีพที่มีวิชาการที่แตกต่างไปจากวิชาการของแพทย์ พยาบาลต้องศึกษาเรื่องของพยาบาลเพื่อสามารถให้การบริการแก่ผู้ป่วยในบทบาทที่แตกต่างไปจากแพทย์ผู้ให้การรักษา
แนวคิดของไนติงเกล เกี่ยวกับความรู้เฉพาะสาขาการพยาบาล พอสรุปได้ว่า เป็นความรู้ซึ่งได้มาจากการสังเกตและบันทึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ป่วย และสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยที่มีผลกระทบต่อกระบวนการหายจากโรค (Reparative process) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ความรู้ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงบทบาทและการปฏิบัติการพยาบาลที่เน้นการจัดสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยเพื่อส่งเสริมกระบวนการหายจากโรค แม้ว่าจะได้มีการพยายามพิสูจน์และแสดงให้เห็นว่า วิชาชีพพยาบาลมีเนื้อหาสาระที่เป็นความรู้เฉพาะของวิชาชีพและเป็นศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่สมัยของไนติงเกลก็ตาม ก็มิได้มีการยอมรับและกล่าวถึงกันอย่างแพร่หลายนัก ความสนใจในเรื่องของการค้นหาความรู้เฉพาะสาขาการพยาบาลหรือทฤษฎีการพยาบาลมีการตื่นตัวและได้รับการกล่าวถึงอย่างจริงจัง ซึ่งในยุคนี้มีนักทฤษฎีเกิดขึ้นหลายคน อาทิ เพบพลาว ( Peplaul ) เฮนเดอร์สัน ( Henderson ) ฮอลล์ ( Hall )

2. ระยะปี ค.ศ. 1966-1970
ในยุคนี้เป็นยุคของการพัฒนาทฤษฎีซึ่งถือเป็นจุดมุ่งหมายหลักของนักทฤษฎีทั้งหลาย โดยมีแนวคิดในช่วงแรกที่มีทิศทางการพยาบาลมุ่งไปที่สัมพันธภาพระหว่างพยาบาลและผู้ป่วย แนวคิดทางการพยาบาลจิตเวชที่กว้างขวางทำให้พยาบาลให้ความสำคัญทางจิตใจของบุคคลมากขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีการพยาบาลหลายท่านได้พยายามกำหนดกรอบทฤษฎีการพยาบาลว่าควรเป็นทฤษฎีพื้นฐาน และเน้นทฤษฎีในระดับพรรณนาหรือระดับสั่งการ โดยมีข้อสรุปเกี่ยวกับทฤษฎีว่า การพยาบาลต้องมีทฤษฎีเป็นหลักในการปฏิบัติ พยาบาลสามารถสร้างทฤษฎีทางการพยาบาลได้ ในปี ค.ศ. 1960 เริ่มมีการเกิดทฤษฎีตามการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ซึ่ง อับเดลลาห์ (Faye Abdellah ) ได้พัฒนากลุ่มปัญหาทางการพยาบาล 21 ปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานความต้องการด้านกายภาพ ชีวภาพ และจิตสังคม และในปี ค.ศ. 1961 ออร์แลนโด ( Jean Orlando ) ได้สร้างทฤษฎีทางการพยาบาลชื่อ Nursing Process Theory ซึ่งมีหลักการเน้นไปที่การปฏิบัติการพยาบาลและสัมพันธภาพระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย ในปี ค.ศ. 1964 ฮอลล์ ( Lydia Hall ) ได้เสนอแนวคิด Core Care and Cure Theory ที่กล่าวถึงปฏิกิริยาระหว่างผู้ป่วย ร่างกายและโรค ในปี ค.ศ. 1968
เฮนเดอร์สัน ( Verginia Henderson ) ได้พัฒนาความหมายการพยาบาลและได้กำหนดองค์ประกอบพื้นฐานการพยาบาล 14 องค์ประกอบ และในปีเดียวกันนี้ การศึกษาของดิกคอฟ และเจมส์ (Dickoff & James, 1968) เรื่องทฤษฎีของทฤษฎี (Theory of theories) มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดรูปแบบและโครงสร้างของทฤษฎีการพยาบาล โดยทั้งสองท่านได้แสดงความคิดเห็นว่า ทฤษฎีการพยาบาลต้องเป็นทฤษฎีในระดับสูงสุดคือ เป็นทฤษฎีในระดับสร้างสถานการณ์ (Situation – producing theory) ซึ่งมีความหมายว่าเป็นทฤษฎีการพยาบาลที่นอกจากจะบอก อธิบาย หรือคาดคะเนสถานการณ์ที่เรียกว่าการพยาบาลแล้วยังต้องบอกแนวปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อีกด้วย
ในยุคนี้สมาคมพยาบาลอเมริกันได้มีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและทิศทางการพยาบาลที่ชัดเจนคือ มุ่งที่จะพัฒนาทฤษฎีและมีการสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการศึกษาถึงระดับปริญญาเอกทางการพยาบาลที่เน้นการวิจัยและการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ยุคนี้มีนักทฤษฎีการพยาบาลเสนอทฤษฎีการพยาบาลในลักษณะของแบบจำลองมโนทัศน์ ซึ่งนับว่าเป็นทฤษฎีระดับกว้าง อาทิเช่น ไวเดนบาค (Wiedenback ) คิง ( Imogene King ) โรเจอร์ ( Martha E Rogers)

3. ระยะปี ค.ศ. 1971-1980
ในยุคนี้เป็นยุคกำหนดโครงสร้างและองค์ประกอบของทฤษฎีให้ชัดเจน ตลอดจนแนวทางการวิเคราะห์และประเมินทฤษฎี มีการเผยแพร่ผลการทดลองและทดสอบกันอย่างแพร่หลาย ทำให้มีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีการพยาบาลอย่างกว้างขวางไปในกลุ่มวิชาชีพทั่วโลกจนได้รับการยอมรับ และมีการวิเคราะห์วิจา

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Nursing theory is a body of knowledge specific to nursing. Start by trying to find an answer to what is a match that the nurse why is nursing theory. Medical nursing theory to medical benefits, or to finance care for freedom in a way that is. Therefore, it must have an education research clinic, Florence graves, first Niagara to meet personalities trying to create science, nursing and nursing an explicit format. Characteristics of nursing in the age of Florence The outer gate will look like art to meet your technical (Technical arts) that focuses on the principles and practices of nursing sciences, Florence Nightingale Nursing consists of (1) proper, which is the characteristic that women are in the role of women by nature such as to love mercy (2) Nursing Sciences is a medical technique that must learn the format of the medical system in Florence.ไนติงเกล มีการนำมาใช้อยู่นานทั้งในยุโรปและอเมริกาจนถึงช่วงปี 1955 มีการเปลี่ยนแปลงในระบบการแพทย์จากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาชีพการพยาบาลได้รับการมองว่าเป็นวิชาชีพของสตรีในระดับแรงงาน ซึ่งในระยะนี้เริ่มมีผู้นำทางการพยาบาลพยายามสร้างศาสตร์การพยาบาลให้มีความชัดเจน และเริ่มมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาจนมีศาสตร์ของการพยาบาลขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความพยายามของกลุ่มนักวิชาการพยาบาลในประเทศสหรัฐอเมริการที่ตระหนักถึงความจำเป็นของการพัฒนาวิชาชีพให้ทัดเทียมกับวิชาชีพอื่นๆ และต้องการช่วยเหลือให้วิชาชีพพยาบาลมีหลักในการปฏิบัติงานที่มีระบบระเบียบ จากการศึกษาวิวัฒนาการของทฤษฎีการพยาบาลตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันพอสรุปได้เป็น 4 ระยะเวลา กล่าวคือ 1. ระยะก่อนปี ค.ศ. 1960 ในยุคนี้เป็นยุคในการพัฒนาความต่อเนื่องจากงานเขียนและการทำงานของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล โดยมีการเริ่มมีการพัฒนาพื้นฐานของทฤษฎีจากแนวคิดของ จิตวิทยา สังคมศาสตร์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มนุษยศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์ มีการทำวิจัยทางการพยาบาลและมีวารสารวิจัยการพยาบาลเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1952 ซึ่งนับได้ว่าวิชาชีพพยาบาลยังไม่ได้มีศาสตร์ที่เป็นของตนเอง อย่างไรก็ตามพอที่จะกล่าวได้ว่า แนวความคิดเกี่ยวกับความรู้เฉพาะสาขาของวิชาชีพพยาบาล (a unique nursing body of knowledge) ได้เริ่มตั้งแต่สมัยของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (Nightingale, 1859) ซึ่งถือว่าเป็นผู้ริเริ่มการพยาบาลแผนใหม่ (Modern nursing)และเป็นผู้ที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าวิชาชีพพยาบาลเป็นวิชาชีพที่มีวิชาการที่แตกต่างไปจากวิชาการของแพทย์ พยาบาลต้องศึกษาเรื่องของพยาบาลเพื่อสามารถให้การบริการแก่ผู้ป่วยในบทบาทที่แตกต่างไปจากแพทย์ผู้ให้การรักษา แนวคิดของไนติงเกล เกี่ยวกับความรู้เฉพาะสาขาการพยาบาล พอสรุปได้ว่า เป็นความรู้ซึ่งได้มาจากการสังเกตและบันทึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ป่วย และสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยที่มีผลกระทบต่อกระบวนการหายจากโรค (Reparative process) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ความรู้ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงบทบาทและการปฏิบัติการพยาบาลที่เน้นการจัดสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยเพื่อส่งเสริมกระบวนการหายจากโรค แม้ว่าจะได้มีการพยายามพิสูจน์และแสดงให้เห็นว่า วิชาชีพพยาบาลมีเนื้อหาสาระที่เป็นความรู้เฉพาะของวิชาชีพและเป็นศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่สมัยของไนติงเกลก็ตาม ก็มิได้มีการยอมรับและกล่าวถึงกันอย่างแพร่หลายนัก ความสนใจในเรื่องของการค้นหาความรู้เฉพาะสาขาการพยาบาลหรือทฤษฎีการพยาบาลมีการตื่นตัวและได้รับการกล่าวถึงอย่างจริงจัง ซึ่งในยุคนี้มีนักทฤษฎีเกิดขึ้นหลายคน อาทิ เพบพลาว ( Peplaul ) เฮนเดอร์สัน ( Henderson ) ฮอลล์ ( Hall )

2. ระยะปี ค.ศ. 1966-1970
ในยุคนี้เป็นยุคของการพัฒนาทฤษฎีซึ่งถือเป็นจุดมุ่งหมายหลักของนักทฤษฎีทั้งหลาย โดยมีแนวคิดในช่วงแรกที่มีทิศทางการพยาบาลมุ่งไปที่สัมพันธภาพระหว่างพยาบาลและผู้ป่วย แนวคิดทางการพยาบาลจิตเวชที่กว้างขวางทำให้พยาบาลให้ความสำคัญทางจิตใจของบุคคลมากขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีการพยาบาลหลายท่านได้พยายามกำหนดกรอบทฤษฎีการพยาบาลว่าควรเป็นทฤษฎีพื้นฐาน และเน้นทฤษฎีในระดับพรรณนาหรือระดับสั่งการ โดยมีข้อสรุปเกี่ยวกับทฤษฎีว่า การพยาบาลต้องมีทฤษฎีเป็นหลักในการปฏิบัติ พยาบาลสามารถสร้างทฤษฎีทางการพยาบาลได้ ในปี ค.ศ. 1960 เริ่มมีการเกิดทฤษฎีตามการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ ซึ่ง อับเดลลาห์ (Faye Abdellah ) ได้พัฒนากลุ่มปัญหาทางการพยาบาล 21 ปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานความต้องการด้านกายภาพ ชีวภาพ และจิตสังคม และในปี ค.ศ. 1961 ออร์แลนโด ( Jean Orlando ) ได้สร้างทฤษฎีทางการพยาบาลชื่อ Nursing Process Theory ซึ่งมีหลักการเน้นไปที่การปฏิบัติการพยาบาลและสัมพันธภาพระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย ในปี ค.ศ. 1964 ฮอลล์ ( Lydia Hall ) ได้เสนอแนวคิด Core Care and Cure Theory ที่กล่าวถึงปฏิกิริยาระหว่างผู้ป่วย ร่างกายและโรค ในปี ค.ศ. 1968
เฮนเดอร์สัน ( Verginia Henderson ) ได้พัฒนาความหมายการพยาบาลและได้กำหนดองค์ประกอบพื้นฐานการพยาบาล 14 องค์ประกอบ และในปีเดียวกันนี้ การศึกษาของดิกคอฟ และเจมส์ (Dickoff & James, 1968) เรื่องทฤษฎีของทฤษฎี (Theory of theories) มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดรูปแบบและโครงสร้างของทฤษฎีการพยาบาล โดยทั้งสองท่านได้แสดงความคิดเห็นว่า ทฤษฎีการพยาบาลต้องเป็นทฤษฎีในระดับสูงสุดคือ เป็นทฤษฎีในระดับสร้างสถานการณ์ (Situation – producing theory) ซึ่งมีความหมายว่าเป็นทฤษฎีการพยาบาลที่นอกจากจะบอก อธิบาย หรือคาดคะเนสถานการณ์ที่เรียกว่าการพยาบาลแล้วยังต้องบอกแนวปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อีกด้วย
ในยุคนี้สมาคมพยาบาลอเมริกันได้มีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและทิศทางการพยาบาลที่ชัดเจนคือ มุ่งที่จะพัฒนาทฤษฎีและมีการสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการศึกษาถึงระดับปริญญาเอกทางการพยาบาลที่เน้นการวิจัยและการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ยุคนี้มีนักทฤษฎีการพยาบาลเสนอทฤษฎีการพยาบาลในลักษณะของแบบจำลองมโนทัศน์ ซึ่งนับว่าเป็นทฤษฎีระดับกว้าง อาทิเช่น ไวเดนบาค (Wiedenback ) คิง ( Imogene King ) โรเจอร์ ( Martha E Rogers)

3. ระยะปี ค.ศ. 1971-1980
ในยุคนี้เป็นยุคกำหนดโครงสร้างและองค์ประกอบของทฤษฎีให้ชัดเจน ตลอดจนแนวทางการวิเคราะห์และประเมินทฤษฎี มีการเผยแพร่ผลการทดลองและทดสอบกันอย่างแพร่หลาย ทำให้มีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีการพยาบาลอย่างกว้างขวางไปในกลุ่มวิชาชีพทั่วโลกจนได้รับการยอมรับ และมีการวิเคราะห์วิจา

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Hospitals are only theoretical knowledge in nursing. Began by trying to find an answer to match that nursing is. Why are nursing theory. The use of nursing theories for medical purposes or for medical care in a manner that is independent science. Therefore, the need for clinical trials. Florence Nightingale was the first to try to create a science of nursing and nurse prepares a clear pattern. The hospital in Florence. Nightingale will look into the technical arts (Technical arts), which focuses on principles and practices. Nursing Florence Nightingale include (1) Nursing proper, a characteristic that women should have the role of the mother of a woman by nature, such as love, compassion, (2) Nursing Sciences is a technical nursing classes. Know the system in the form of nursing, Florence
Nightingale. Has been used for a long time, both in Europe and America until the year 1955 changes in the medical system of advances in science and technology. The nursing profession has been seen as a profession among women in the workforce. During this period, which began with nurse leaders try to build nursing science is clear. And improved continuously, especially in the United States until the science of nursing. As a result of the efforts of a group of nursing in the United States to recognize the need of professional development on par with other professions. And to help the nursing profession in practice with regulations. The study nursing theory of evolution from the beginning until now conclude the fourth period, namely : 1. Long before 1960 in this era in the development of continuous work and work. Florence Nightingale has started developing a theory based on the idea of psychology, social sciences, health sciences, humanities and behavioral sciences. Have done research in nursing and nursing research journal occurred in 1952, which indicates that nurses still do not have science on its own. Anyway, enough said. The concept of knowledge in specific fields of nursing (a unique nursing body of knowledge) has started since the days of Florence Nightingale (Nightingale, 1859), which is considered a pioneer in the medical plan (Modern nursing) and. who said clearly that nursing is a profession with academic distinction from the Department of Medicine. Nurses need to be able to study nursing services to patients in the different roles of doctors who treat the concept of a nightingale. Specific knowledge about nursing conclude that the knowledge derived from observation and notes about patient behavior. And the patient's environment that affects the healing from disease (Reparative process), a process that occurs naturally. Such knowledge points to the role of nursing and patient focused environment to promote healing from disease. Although it has been tried and proven shows. Nursing a content that is specific knowledge of the profession and a science since the time of the nightingale. It was accepted and discussed widely both. Interest in the story of the search for knowledge in specific fields of nursing or nursing theory has a fever and has been discussed seriously. In this era there arose many theorists such as Brian Payne Plough (Peplaul) Henry Henderson (Henderson) Hall (Hall) 2. year period from 1966 to 1970 in this era. the development of theory, which is the main aim of the theories. The idea in the first period with the nursing center on the relationship between nurses and patients. The concept makes extensive psychiatric nursing care to focus the minds of more people. Skilled nursing theory, many people have tried to define a theoretical framework that should be a basic tenet of nursing. And stressed the descriptive theory or command. The conclusion about the theory. Nursing requires a major theory in practice. Nurses can build nursing theories in 1960, starting with the theory of scientific studies which Abdel Salah (Faye Abdellah) has developed a nursing issue 21 issue based on physical needs. biological and psychosocial and 1961 in Orlando (Jean Orlando) has created a Nursing Theory Nursing Process Theory, which focuses on the relationship between nurses and nurse with a patient in the year. Fri. . 1964, Hall (Lydia Hall) Core Care and Cure Theory has suggested that the interaction between patients. Body and disease in 1968. Henry Anderson (Verginia Henderson) has developed the Nursing and define the basic elements of composition and 14 nurses in the same year. Study of Sephardic Novikov and James (Dickoff & James, 1968) theory of theories (Theory of theories) play a role in determining the form and structure of nursing theory. Both of you have commented on that. Nursing Theory is a theory at the highest level. A theory in the situation (Situation - producing theory), which means that a nursing theory that can be explained or predicted situation called the nurse also must practice in order to get the desired results on target. defined by the American Nurses Association has a role in defining the goals and direction of nursing is clear. Seeks to develop theory and to encourage schools to doctoral nursing education that focuses on research and the creation of new knowledge. Historically, this has a theory proposed by nurses in nursing theory of conceptual models. This is the theory of a sensitive destinations such as Bach (Wiedenback) King (Imogene King) Roger (Martha E Rogers) 3. year period from 1971 to 1980 in this era structure and composition theory. clear As well as analysis and evaluation of the theory. The results are published and widely tested. The dissemination of knowledge about nursing theory widely in professional groups around the world that have been recognized. The analysis was limited

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Nursing is a specialized knowledge in nursing. Start up of trying to find the answer to match that the nurse is. Why is it necessary to have the nursing.Therefore, it is necessary to study research in the clinic. Florence Nightingale is the first person to make nursing science and prepare nurses with รูปแบบชัดเจน. Characteristics of nursing in the era of Florence. The nightingale is a technical art.Arts) which focuses on the principles and practices. Nursing science of Florence Nightingale, consisting of (1) Nursing proper which is unique to that สตรีพ ึงมี in mother roles of women by nature. Such as giving love mercy (2) Nursing Sciences.Nightingale is used for a long time, both in Europe and America until the year 1955 changes in ระบบการแพทย์ from science and technology progress. The nursing profession has been seen as the profession of women in labor levelStart and development continuously, especially in the United States until the science of nursing.And want to help the nursing profession the main performance of system regulation. The evolution of the theories from the beginning to the present period indicated a 4 period of time. The
.

1 phase before 1990. 1960
in this era is the era in the development of continuity from the writings and the work of
.Florence Nightingale by has begin to develop the basis of the theory of the concept of psychology, social science, humanities, and Sciences And behavioral science. Research in nursing and the Journal of nursing research occurred in Ad1952 which indicates that the nursing profession still does not have a history of their own. However, enough to say. The concept of knowledge only branch of the nursing profession (a unique nursing body of knowledge) has started since the days of Florence., (Nightingale1859) which is considered a pioneer of Modern Nursing (Modern Nursing) and those who clearly said of vocational nursing academic profession with different from academic medicine.The concept of Nightingale on specific knowledge in nursing indicated that the knowledge which comes from the observation and record about the behavior of the patient. Environmental impact of patients cured of the disease process (Reparative.Which is a process that occurs naturally. Such knowledge, to indicate the role and practice focused on the environmental management of patients to promote the process of recovery from the disease.The nursing profession have the content that is only know of profession and science as the come of the nightingale. It is not accepted and discussed widely.Which in this era have happened many theorists such as able to plough (Peplaul) Henderson (Henderson) Hall (Hall)
.