1.แก่งคุดคู้
อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงคานประมาณ 3 กิโลมเตร แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินขนาดหใญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขงห่างจาก ตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร ประกอบด้วยหินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมาก ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบจรด สองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งทะเลไทยซึ่ง กระแสน้ำเชี่ยวกราก เวลาที่เหมาะ ที่จะมาชมแห่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็น เกาะแก่งต่าง ๆ ชัดเจน บริเวณแก่ง มีร้านอาหารจำหน่ายมากมาย
2.ชมทะเลหมอกภูทอก
จุดชมทัศนีย์ภาพเมืองเชียงคาน และทะเลหมอก สวยงามริมฝั่งโขงที่แปลกตา หาดูได้ยากยิ่ง จากเชียงคาน ใช้ทาง หลวงหมายเลข 211 ทางไป อ.ปากชม ผ่านแยก “แก่งคุดคู้”ไม่ไกลจะมีแยกทางขวามือ (สังเกตุป้าย สถานีทวนสัญญาณ 483) ระยะทางเข้าไปประมาณ 5 ก.ม. มีถนนสะดวกขึ้นถึงยอดภูทอก นอกจากจะรอ ชมพระอาทิตย์ และทะเลหมอกได้สวยงามมาก ในช่วงฤดูหนาวแล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างงดงาม ต่อด้วยแสงสีระยิบระยับยามค่ำของเมืองเชียงคาน ทิวเขาสลับซับซ้อนสุดตา ไกลถึงฝั่งลาว เหมาะยิ่งสำหรับผู้ที่ หลง ไหลการถ่ายภาพมุมกว้าง การเดินทางจากตัวอำเภอเชียงคานนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสายรอบเมืองไป แก่งคุดคู้ได้ซึ่งห่าง จากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร
3.หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ มีบ้านที่สร้างขึ้น ตามแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาวไทดำ รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็น อยู่ในอดีตและยังมีการรวมกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองของชาวบ้าน โดยสามารถชมการทอผ้าและเลือกซื้อสินค้าเป็น ของฝากได้ นักท่องเที่ยวที่สนใจที่จะ สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ชาวไทดำแบบโฮมสเตย์ สามารถติดต่อ ได้ที่ สมาคมอนุรักษ์วัฒนธรรม ไทดำก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ โทร. 08 1048 2000 พัก 1 คืน อาหาร 2 มื้อ ราคา 300 บาท/คน การเดินทาง ใช้เส้นทางเลย-เชียงคานไปประมาณ 38 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้า ทางไปบ้าน นาสีจนถึงบ้านาป่าหนาดอีกประมาณ 10 กิโลเมตร พระใหญ่ภูคกงิ้วเป็นพระพุทธรูปปางลีลา ประทานพรหล่อด้วย ไฟเบอร์ผสมเรซิ่นสีทองทั้งองค์ สูง 19 เมตร ตัวฐานกว้าง 7.2 เมตร สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องใน วโรกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2542 และ ในมหา มงคลแห่งราชพิธีราชาภิเษก ครบ 50 ปี พ.ศ. 2543 สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2544 บริเวณโดยรอบ สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขง และประเทศลาวได้ การเดินทาง จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวง หมายเลข 201 (เลย-เชียงคาน) ไป 47 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกตรงไปจนถึงบ้านท่าดีหมี่ และเลี้ยวขวาที่โรงเรียน บ้านท่าดีหมีไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
4. วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน
อยู่ที่บ้านผาแบ่น ตำบลบุฮม การเดินทาง ใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชม ระยะทาง 6 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้าน ผาแบ่นมีทางแยกเข้าบ้านอุมุง 3 กิโลเมตร จะถึงทางขึ้นเขาเป็นทางลูกรังระยะทาง 1 กิโลเมตร พระพุทธบาท ภูควายเงิน เป็นรอยพระพุทธบาทยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กว้าง 65 เซนติเมตร ประดิษฐานบนหินลับมีด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อพ.ศ. 2478 รอยพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นที่เคารพ สักการะของ ชาวบ้านในแถบนี้มาก สมัยก่อนครั้งที่การเดินทางมานมัสการยังลำบาก เชื่อกันว่าคนที่มีบุญวาสนา เท่านั้นจึงจะ เดินทางมากราบไหว้ได้ คนที่วาสนาไม่ถึงจะต้องมีเหตุให้มาไม่ได้ ทั้งที่ตั้งใจไว้อย่างเต็มที่ก็ตาม บางคนก็หลงทาง ทุกปีในวันขึ้น15 ค่ำ เดือน 3 ทางวัดจะจัดงานสมโภชประจำปีถือเป็นงานสำคัญของชาวบ้านในแถบนี้