The research evaluation process complaint handling In the province of saraburi. 1) is intended to evaluate the complaint handling process is currently studying the issue 2) Obstacles and develop a complaint management process 3) study of the performance of process management received a complaint after being developed. Conduct research using a model of evaluation of satek (Stake Evaluation Model) project, according to the estimates of the CIPP Model sataf foen beam (Stufflebeam) collects data by questionnaire and interview comments from 3 groups of samples: 1.) responsible for receiving complaints of the task unit, task group 2 people 30 service), and 3-5), the health insurance Subcommittee 8 man waterfall is a tool used in the research is the interview, and related documents. Analyze data using statistical value is the percent (%), average (X̅), and a content analysis. ผลการวิจัย กลุ่มตัวอย่างมีความเห็นในภาพรวมว่า ด้านบริบทและด้านผลผลิตมีความเหมาะสมในระดับมาก แต่ปัจจัยเบื้องต้นและกระบวนการดำเนินงาน มีความเหมาะสมเพียงในระดับปานกลาง จึงกำหนดแนวทางพัฒนาด้านปัจจัยเบื้องต้นและกระบวนการจัดการ ได้แก่ 1) ผู้บริหารและแพทย์ผู้ให้บริการต้องมีทัศนคติที่ดีต่อกระบวนการจัดการเรื่องร้องเรียน 2) ผู้บริหารต้องร่วมเป็นทีมทบทวนการจัดบริการทางการแพทย์ 3) แพทย์ผู้ให้บริการ ต้องให้ข้อมูลเพื่อสนับสนุนกระบวนการจัดการเรื่องร้องเรียนให้ทันเวลา 4) วิธีการได้ข้อมูลจากแพทย์ในที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ควรมีการปรับปรุงเพื่อลดการเผชิญหน้า 5) วิธีการวินิจฉัย ต้องอยู่บนบรรทัดฐานที่เป็นกลาง ไม่แสดงออกว่าฝ่ายใดผิด-ถูก 6) การรับคำร้องต้องทำในสถานที่เหมาะสมเป็นส่วนตัว ผู้รับคำร้องต้องมีประสบการณ์เจรจาไกล่เกลี่ย 7) การตรวจสอบข้อเท็จจริง ทีมเลขาฯ ควรพัฒนาเรื่องการอ่านเวชระเบียน และลงเยี่ยมบ้านผู้ร้องเรียนทุกราย 8) การสรุปผลการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ต้องระมัดระวังสำนวนสรุปความเสียหาย เพื่อป้องกันการนำไปใช้ฟ้องร้องทางคดี 9) ให้หน่วยบริการต้องรายงานการทบทวนการจัดบริการทางการแพทย์ ต่อคณะอนุกรรมการฯ จากผลการวิจัยได้มีการพัฒนาการจัดการเรื่องร้องเรียน ได้แก่ 1) เชิญผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านสูติกรรมเข้ามาเป็นอนุกรรมการฯ 2) ผลักดันให้หน่วยบริการทุกแห่ง มีทีมประเมินจัดการความเสี่ยง และสนับสนุนบุคลากร ให้เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3) เสนอ สปสช. จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นงวดแทนจ่ายครั้งเดียว ในกรณีที่มีความเสี่ยงว่าเงินช่วยเหลือเบื้องต้นอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และจัดโควตาให้ผู้รับผิดชอบงานเข้ารับการอบรมการไกล่เกลี่ยสันติวิธี 4) จัดทำแบบรายงานความคิดเห็นและการทบทวนการจัดบริการทางการแพทย์ แทนการเชิญแพทย์มาให้ข้อมูลในที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ 5) จัดทำเอกสารความรู้เกี่ยวกับโรคของผู้เสียหาย เพื่อสร้างความเข้าใจ 6) จัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในจังหวัด ผลการพัฒนาตั้งแต่ ตุลาคม 2555 ถึง กันยายน 2557 พบว่า 1) ระยะเวลาจากวันยื่นคำร้อง ถึงวันที่ได้รับการพิจารณาวินิจฉัย เป็นไปตามเกณฑ์ไม่เกิน 30 วัน 2) หน่วยบริการได้ทบทวนการจัดบริการทางการแพทย์ป้องกันเหตุซ้ำทุกครั้ง 3) ไม่เกิดคดีฟ้องหน่วยบริการ 4) ผู้ยื่นคำร้อง มีความพึงพอใจ ร้อยละ 91.67
การแปล กรุณารอสักครู่..
