The history of organic jasmine rice, Surin สุรินทร์เป็นดินแดนที่มีการปลูกข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในประเทศและของโลก มีพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 3 ล้านไร่ โดยเฉพาะที่สำคัญข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์เป็นข้าวที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ จังหวัดได้ประกาศนโยบายเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมีและสารพิษ มาตั้งแต่ปี 2542 และคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ 12 พ.ย. 2544 ให้จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดนำร่องในเรื่องการเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทยและจังหวัดกำลังพัฒนาเกษตรอินทรีย์ไปสู่มาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มผลผลิตและปริมาณการส่งออกต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2547 จังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศใช้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ (มก.สร.) เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ในปี 2549 ปัจจุบันจังหวัดได้พัฒนาเกษตรอินทรีย์ไปสู่มาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มผลผลิตและปริมาณการส่งออกโดยสมัครขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ทั้ง 3 มาตรฐาน คือ มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.), มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand (มก.อช.) ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ (มก.สร.) นอกจากนี้ แหล่งปลูกข้าวในจังหวัด โดยเฉพาะแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ได้พัฒนาเป็นแหล่งการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีโฮมสเตย์ (Home Stay) ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย From the reputation of Surin jasmine rice The mill section portraying David Surin jasmine rice has a try to experiment it appears that quality. So get ordering Surin jasmine rice. Continued up to the present, but in 2555 (2012) 2553 (2010) has ordered 2,000 baht each, for a total value of 36 tan 18,000 million baht. To be used in processing section and another section will lead you to sell in his project. By have signed contracts, when jasmine rice February 14 2555 (2012) และจังหวัดสุรินทร์ได้มีการจัดงานวันงานวันข้าวหอมมะลิไทย ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการรักษาเอกลักษณ์ และเพิ่มมูลค่าผลผลิตของข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ตลอดจนเพื่อเป็นการสนองตอบนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายเกษมศักดิ์ แสนโภชน์ ที่ประกาศ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542 ในการที่จะทำให้จังหวัดสุรินทร์ เป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมีและสารพิษ ภายในปี พ.ศ.2549 จังหวัดสุรินทร์ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จึงได้ริเริ่มจัดงานวันข้าวหอมมะลิไทยขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12-18 พฤษภาคม พ.ศ.2543 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ผลการจัดงาน ครั้งแรกสามารถเผยแพร่ชื่อเสียงและเอกลักษณ์ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ได้เป็นที่ปรากฏ (งานวันข้าวหอมมะลิไทย. 2557 : มิถุนายน 15) และได้มีการจัดงานติดต่อกันมาจนถึงครั้งที่ 7 ในชื่องานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์และผ้าไหมสุรินทร์ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน ส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงวัฒนธรรม ทั้งดนตรี นาฏศิลป์ พื้นเมืองของจังหวัดสุรินทร์ การเดินแบบชุดแต่งกายผ้าไหมที่ทำจากผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจังหวัดสุรินทร์มีศักยภาพและความได้เปรียบ ทั้งทางด้านพื้นฐานการผลิตการเกษตรที่หลากหลาย ข้าวหอมมะลิเป็นพืชหลัก และเป็นสินค้าส่งออกของจังหวัดสุรินทร์ที่สำคัญ เพราะความ มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น คือ “หอม ยาว ขาว นุ่ม” สำหรับผ้าไหมไทยเป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดเป็นจังหวัดที่ผลิตผ้าไหมพื้นเมืองที่มีลวดลาย เอกลักษณ์โดดเด่น สวยงาม เป็นที่ยอมรับแก่นานาอารยะประเทศ โดยผู้ทอใช้วิธีการทอ ทุกขั้นตอนด้วยแรงงานและฝีมือของคนที่มีอาชีพทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผลงานมาจากการใช้ความรู้ ความสามารถและภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ จึงควรที่จะอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลาน
การแปล กรุณารอสักครู่..
