เราขอกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า
สัจธรรมแห่งองค์จิตจักรวาลนั้น
แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
1.ธรรมดา:
หมายถึง ความจริงที่ปรากฏอยู่ในมิติโลกด้านกายภาพ
ซึ่งท่านทั้งหลายสามารถสัมผัสรู้ดูเห็นอยู่ทั่วไป
เพราะเป็นสิ่งที่ท่านเป็นอยู่ มีอยู่ สัมผัสอยู่ รู้อยู่ ระลึกได้อยู่ เป็นต้น
ซึ่งท่านจะสามารถเข้าใจความจริงเหล่านี้ได้
โดยวิธีคิดวิเคราะห์ด้วยสติปัญญาของสมองซีกซ้าย
ที่เป็นความฉลาดในระบบอัตโนมัติ
ท่านทั้งหลายจึงต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนช่างสังเกต
รู้จักฉุกคิด ฉลาดเรียนรู้
ฝึกเป็นคนมีเหตุผลและใช้เหตุผลเป็น
2.ธรรมชาติ:
หมายถึง ความจริงที่จริงแท้ที่อยู่เบื้องหลังมิติโลกด้านกายภาพ
ที่มันเป็นของมันอยู่ และมันมีของมันอยู่แล้วในธรรมชาติ
ซึ่งเป็นความจริงในมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้
ที่สัมผัสรู้ดูเห็นด้วยอายตนะภายนอกทั้งห้าไม่ได้
นอกจากจะต้องใช้วิธีสังเคราะห์ด้วยปัญญาญาณของสมองซีกขวา
ที่เป็นความฉลาดในระบบกดปุ่มเท่านั้น
จึงจะสามารถเข้าถึงความจริงที่จริงแท้ทั้งหลายได้
ท่านทั้งหลายจึงต้องเรียนรู้วิธีกดปุ่มใช้สมองซีกขวา
และฝึกฝนมันให้ชำนาญ
ด้วยการฉลาดที่จะนำเอาองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้
สู่การนำมาใช้ประโยชน์
เพื่อชีวิตและจิตวิญญาณตนเองในเชิงสร้างสรรค์ให้จงได้
3.เหนือธรรมชาติ:
หมายถึง ความจริงทั้งปวงที่มนุษย์โลกไม่รู้ว่าตนยังไม่รู้
แต่เป็นความจริงที่มนุษย์ทุกคนต้องรู้
ซึ่งสัจธรรมความจริงในระดับสูงสุดนี้นั้น
ท่านทั้งหลายมิอาจใช้สติปัญญา และปัญญาญาณที่มีอยู่ในตน
เข้าถึงองค์ความรู้ขั้นสูงสุดเหล่านี้ด้วยตนเองได้
นอกจากเรียนรู้ผ่านทางบุตรเอกแห่งพระบิดาเท่านั้น
เพราะองค์ความรู้ระดับสุดยอดนี้
มีเพียงองค์จิตจักรวาลแต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น
ที่จะสามารถกล่าวความจริงต่อบุตรมนุษย์ของพระองค์ได้
ซึ่งพระองค์ได้ทรงเมตตาต่อท่านทั้งหลายมาโดยตลอด
ด้วยการสื่อพระโอวาทผ่าน "เรา" มา ได้ 3 ยุคแล้วจนบัดนี้
สัจธรรมระดับอนุตรธรรมนี้
หากท่านทั้งหลายไม่รู้ แก่นแท้ของท่านก็หลุดพ้นไม่ได้
รู้แล้วไม่เชื่อก็หลุดพ้นไม่ได้
ซึ่งท่านต้องทำสามเหลี่ยมกับพระบิดาผ่านมาทางเราเท่านั้น
แก่นแท้ของท่านเป็นใคร
มาจากไหน ใครอนุญาตให้มา
มาเกิดเป็นมนุษย์ทำไม
มีหน้าที่ต้องทำสิ่งใดบ้าง
คำตอบจากคำถามเหล่านี้แหละ
คือ แก่นแห่งอนุตรธรรมโดยแท้.....
เอเมน....สาธุ.....
ป.วิสุทธิปัญญา
4-09-2014