Gregory rakoe Domain del Father of genetics, then known by the world. Is that your real name Joe Landesmuseum? Domain del Born July 20 1822 Kentish family in German-speaking and Roman Catholic Christianity in the city of Sendai, Dorff. The Kingdom of AustriaHe is the middle son of father Andre name tuan. Domain name and mother Dale tyrosine Domain del He has 1 sister and 1 brother man people classified in the family as well, but not with the wealthy students. His father is a farmer, he helped make the garden always. Make domain del. With the knowledge about plants as well, since the children. He also learn gardening and bee farming.De domain, the default high school education first in tropical cities, papo. At a later time. His father died from an accident. As his family broke down. De domain must leave school to help him work on a farm and have to work hard until the. Fall ill When he was approximately 17 years of age.At last The family of de lachueng decided to sell the land of the domain, the RAI and lead all of the existing money. His sister, he sees that there is a need to use the money to study because.De domain favorite from her children, fearing the money she gave to him, to the section of the study until the end of the existing funds, but it's still not enough. In between. Lachueng to work with the de domain. Subsequently, de domain later when he had a job, and then the return of sister. He was sent by her son learn to finish University. พอเริ่มเป็นหนุ่ม เขาเข้าเรียนที่สถาบันปรัชญาแห่ง โอโลมุทส์ ซึ่งเป็นวิทยาลัยแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งโอโลมุทส์ โดยบรรดาอาจารย์สอนหนังสือในสถาบันแห่งนี้จะเป็นพระในนิกายออกัสติเนียน สถาบันแห่งนี้เน้นการเรียนการสอนด้านปรัชญา เทววิทยา วรรณกรรมลาติน ด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ขั้นพื้นฐาน เมนเดลเข้าเรียนที่นี่ในปี ค.ศ. 1840 และเรียนได้เพียงภาคเรียนเดียวแต่ก็ต้องหยุดไปหนึ่งปีเพราะล้มป่วย จากนั้นเขาก็กลับมาเรียนใหม่จนกระทั่งจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1843 และเริ่มการฝึกเพื่อเป็นพระ จากการแนะนำของครูวิชาฟิสิกส์ให้แก่เขา เขาจึงได้ไปบวชในนิกายออกัสติเนียน ที่โบสถ์นิกายออกัสติเนียนแห่งเซนต์โธมัส ในบรึนโน ในปี ค.ศ. 1843 ซึ่งเมื่อตอนที่เขาเกิดมานั้นเขา มีชื่อว่าโจฮันน์ เมนเดล แต่พอเมื่อบวชเป็นพระแล้วเขาได้ฉายานำหน้าชื่อเดิมว่า “เกรเกอร์” กลายเป็น “เกรเกอร์ โจฮันน์ เมนเดล” นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาIn 1851 he was sent to study at the University of Vienna. And back to work at the original church in 1853 to physics teacher. He teaches up to 15 years, and have an outstanding teaching is accepted. It is in the. He must travel to anywhere in the u.s. those illnesses. With strong health and rarely fall ill and be called back the measure. At the same time that he was ordained as a monk, then. He has to get the diploma examination, but because the teacher-rated low because of biology as his teacher then Sub-District Committee do not understand the answer, therefore, to see that the domain had little knowledge of dating almost to the exam grade. The fact that both the domain de had scientific knowledge as well.ก่อนที่จะมาเป็น “บิดาแห่งพันธุศาสตร์” ได้นั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจจากบรรดาศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งเวียนนาและเจ้าอาวาสของโบสถ์ คือ ซีริล ฟรานซ แนปป์ ที่สนับสนุนและกระตุ้นให้เขาศึกษาความหลากหลายของพืช และแหล่งที่เป็นสถานศึกษาเกี่ยวกับพืชของเขานั้น นั่นก็คือสวนของโบสถ์นั้นเอง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ปลูกฝังเขามาในด้านนี้คือ การที่เขามีบิดาเป็นชาวไร่ จึงทำให้เขาชอบศึกษาการแพร่พันธุ์ของพืชชนิดต่างๆ From domain de lakhoei work in the vineyards before. And thus, he has knowledge of the plants as well. Domain, various types of crops are relayed de a lot in the garden behind the Church. He started noticing the difference of each tree, both originating from the same origins, and different varieties together. So he started today about genetics and began to experiment. He worked in the garden of the temple guards that are routinely available, chances are of many types, each type of difference. This difference makes the domain de lanuek doubt. He wondered, what happens is the cause of life in spite of the same address, color, size. และรูปร่างแตกต่างกันไป อีกทั้งเขาไม่พอใจและไม่เห็นด้วยกับทฤษฏีกำเนิดชีวิตของชาร์ล ดาร์วิน จึงได้เริ่มทำการทดลองด้วยการปลูกถั่วและบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามวิธีการของเขาเอง ระหว่างปี ค.ศ. 1856 ถึงปี ค.ศ. 1863 เขาได้ทดลองเพาะต้นถั่วราว 29,000 ต้น เขาได้ผสมพันธุ์ถั่วเดียวกันและต่างพันธุ์ เป็นจำนวนแตกต่างถึง 22 ชนิดของต้นถั่ว เพื่อศึกษาลักษณะทั้งหมด เป็นเวลารวม 8 ปีเต็ม สาเหตุที่เขาเลือกต้นถั่วเพื่อการทดลองนี้ เนื่องจากต้นถั่วเป็นพืชล้มลุก ใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโตสั้น และมีพันธุ์ที่แตกต่างกันมากมายหลายพันธุ์ เช่น ชนิดต้นใหญ่ ต้นเตี้ย ส่วนเมล็ดบางชนิดสีเขียว สีเหลือง และสีน้ำตาล ดังนั้นดอกก็ย่อมมีสีที่ แตกต่างกันด้วย เช่นกัน คือ ดอกบางชนิดสีขาว สีม่วงแกมแดง ซึ่งลักษณะของดอกต้นถั่วนี้คือเหตุผลที่สำคัญที่สุดเนื่องจากดอกของต้นถั่วซึ่งเรียกกันตามลักษณะทางพฤกษศาสตร์ว่า ดอกสมบูรณ์เพศ คือ ดอกที่มีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ย่อมเป็นการง่ายต่อการนำมาทดลองซึ่ง ในขั้นต้นเมนเดลได้หว่านเมล็ดพืชลงบริเวณแปลงทดลอง ในเรือนเพาะชำ และปล่อยให้ต้นถั่วผสมพันธ์และเจริญเติบโตกันเองตามธรรมชาติ จากผลการทดลองพบว่าต้นถั่วมีขนาดไม่เท่ากันบางต้นสูง บางต้นเตี้ย อีกทั้งเมล็ดก็มีสีต่างกัน บางต้นเหลืองอ่อน บางต้นสีน้ำตาล การทดลองครั้งแรกจึงไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะเมนเดลไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จากนั้นเขาจึงทำการทดลองอีกครั้งหนึ่ง โดยการใช้กระดาษห่อดอกที่ต้องการผสมพันธุ์
การแปล กรุณารอสักครู่..