"Mice are at the parent Union did not need to worry."[Driving alone will not keep duen duek mother concerned.]It's not just the three very late to put down myself. Mom, I really wake up other shit I don't have to drive yourself, please! I glimpse the eye looking Uncle taxi driver who is peek I ceiling glass car. This kind of situation, it's awfully scary Step up what I have been thinking, but not enough for a seat, then Uncle started coming up, what a weird questions like whether to stay who want to. Hair color a smile I need to plug in directly bala call mother address Shanghai, because I don't know who I will call once, say it's not by taxi. Is the mother not know her I took to commemorate and repair are common-O-;;Two weeks ago I took my mother's car to commemorate. Bumper CENTR จายย criticize dropped ~ Do I have to wait for parts that are coming, and between them, to earn money to pay for the spare parts to the shaking. Because of that I had to ask for a room rental? My mother, I extend a branch factory of Shanghai ngankradum to make both of you need to fly to fly between Shanghai and Thailand are the years with. I'm off to the big house for rent alone because it's too far from the school. My mother never used phone, until I took the car to the peoples of the Union's bumper is dropped. I tried to negotiate with the Union the imprint is the original value in advance? The issue is that I have not written in it (. ..)ฉันเริ่มชีวิตนักเขียนเมื่อตอนปีที่แล้ว หลังจากที่ฉันเขียน 'Green Man in Pluto เรื่องราวของฉันกับเอเลี่ยนตัวสีเขียวในดาวพลูโต' หลังจากหนังสือเล่มนั้นออกวางขายมันก็ทะยานขึ้นอันดับหนึ่งของหนังสือขายดี และค้างอยู่บนนั้นมาหลายเดือนแล้ว ฉันได้เงินมหาศาลจากการขายหนังสือเล่มนั้น แต่เงินพวกนั้นก็ถูกโอนเข้าบัญชีที่แม่เป็นคนดูแลไว้ทั้งหมดน่ะสิ!! T_T ฉันเลยต้องรีบเขียนเล่มสอง และเซ็นสัญญาใหม่ เปิดบัญชีใหม่ จะได้มีเงินมาชดใช้ค่ากันชนรถแม่ ถ้านับดูดีๆ แล้วกว่าจะถึงเดดไลน์ ฉันเหลือเวลาอีกราวๆ หนึ่งเดือนเท่านั้น -O-;;รถเลี้ยวเข้ามาในซอยอพาร์ตเมนต์ของฉันแล้ว และนั่นทำให้ฉันโล่งใจขึ้นเยอะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ไปไปซอยเปลี่ยวๆ ที่ไหนล่ะเนอะ[ประชุมวันนี้เป็นยังไงบ้างเนี่ย]“เรื่องแฟนหนังสือน่ะแม่ เห็นพี่เก้งบอกว่ามีจดหมายส่งเข้ามาที่สำนักพิมพ์เรียกร้องขอให้เจ้าของหนังสือออกมาเปิดเผยตัวสักที เพราะพวกเขาคลั่งไคล้กันมาก อะไรทำนองนั้น" ฉันยิ้มเจื่อนๆ เมือคิดถึงเรื่องนั้น จนถึงป่านนี้ฉันก็ยังไม่ได้เปิดตัวว่าเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้นที่ดังมากๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือทุกคนเข้าใจว่าฉันเป็นผู้ชายน่ะสิ แหงล่ะ ไม่ค่อยมีผู้หญิงเขียนนิยายแฟนตาซีไซไฟที่มีตัวเด่นเป็นผู้ชายผจญภัยไปเจอกับปีศาจในอวกาศหรอก แถมฉันยังใช้นามปากกาว่า ‘อัศวินดาวหาง’ แบบนั้นคนยิ่งเข้าใจว่าฉันเป็นผู้ชายเข้าไปกันใหญ่ พี่เก้ง กอง บ.ก. บอกว่าปล่อยไว้แบบนั้นก็ดีแล้ว ตอนแถลงข่าวเปิดตัวนักเขียนจะได้เป็นที่ฮือฮา[จริงๆ ก็ดีออกนะ แม่จะได้อวดกับเพื่อนๆ ได้สักที]
“หลังจากหนังสือเล่มสองออกก็คงจะเปิดตัวล่ะแม่" ฉันบอกและหาเรื่องวางสาย เพราะกำลังจะถึงที่หมายแล้ว เดี๋ยวแม่รู้ว่าฉันนั่งแท็กซี่เรื่องจะยิ่งวุ่นวายใหญ่โตมากกว่านี้ "แม่ๆ อีกสิบนาทีหนูโทรกลับนะ หรือถ้าหนูไม่โทรกลับแม่ก็โทรมาหาหนูด้วยนะ" ฉันพูดเสียงดังๆ เพื่อให้คนขับแท็กซี่ได้ยิน ในกรณีที่เขาคิดจะทำอะไรแผลงๆ น่ะนะ
แม่วางสายไปเรียบร้อยตอนรถจอดพอดี ฉันหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าและพบว่ามีแต่แบงก์พัน ไม่มีแบงก์ย่อยเลย
“เอ่อ...แบงก์พัน ลุงมีทอนมั้ยคะ"
“โหหนู แบงก์พันเลยเหรอ พี่ไม่มีเงินทอนหรอก" อายุจะห้าสิบแล้วมาแทนตัวว่าพี่นี่มันเกินไปมั้ยฮะ -_-;
“งั้นลุงรอนี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูขึ้นไปรื้อหาแบงก์ย่อยมาให้" ฉันเน้นคำว่าลุงกะให้อีกฝ่ายสำนึก
“เฮ้ยๆ จะไปแบบนี้ได้ยังไง ถ้าหนูขึ้นไปแล้วไม่กลับลงมา พี่จะทำยังไงล่ะ" แต่เขาก็ยังใช้คำว่าพี่อยู่ดี อี๋!
“หนูไม่หายไปไหนหรอกลุง"
“ใครๆ ก็พูดได้ทั้งนั้นล่ะ" ลุงคนขับแท็กซี่ทำฟึดฟัด "เอางี้ละกัน เดี๋ยวพี่ขึ้นไปเอาเงินที่ห้องหนูเอง"
“หือ -_-”
“แค่เอาเงินแล้วก็ลงมาเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นถ้าพี่โดนโกงค่าโดยสารจะทำยังไงล่ะ"
“แค่ร้อยห้าสิบ หนูไม่โกงหรอกลุง =_=”
“ร้อยห้าสิบก็เงินนะหนู!!”
“เอ่อ...” ฉันอึกอักพลางมองหาทางหนีทีไล่ "งั้นเดี๋ยวหนูลงไปขอยืมเงินคนตรงแถวใต้ตึกก็ได้ ลุงรออยู่นี่นะ" ฉันรีบเปิดประตูก้าวลงมา ลุงคนขับโวยวายก่อนจะตามลงมาด้วย
“เฮ้ยจะไปไหนก็ไปด้วยกันสิ จะหนีพี่เหรอไง"
“หนูแค่จะไปเอาเงินมาให้ ลุงจะตามลงมาทำไม" ฉันหันไปขมวดคิ้วมอง และเห็นว่าลุงคนนั้นใส่แค่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวสีเหลืองน่าเกลียดๆ กรี๊ดดดด นี่มันอะไรกันเนี่ย TOT
“ละ...ลุงเอาแบงก์พันไปเลยแล้วกัน และจะไปไหนก็ไป...” ฉันรีบหันหน้าหนีและยื่นแบงก์พันให้ไปเลย ลุงทำท่าเหมือนกำลังจะเดินเข้ามาเอา แต่ใครบางคนก็เดินมายืนข้างหลังและปัดมือฉันลงก่อน
“ทำอะไรของเธอน่ะ" ฉันเงยหน้าไปมองและพบว่าเป็น...
“ดั๊ก! O_O”
เขาคือผู้ชายแปลกหน้าที่ฉันเจอก่อนออกจากบ้าน ผู้ชายหน้าตาดีที่ทำหน้าเหมือนเห็นผีตอนเจอหน้าฉัน เขาไม่ใช่คนขาวจัด แต่ฉันชอบแบบนี้ล่ะ ผิวแทนนิดๆ เหมือนพวกคนเล่นกีฬา ผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกธรรมชาติ มันสะบัดไปสะบัดมาเวลาที่เขาขยับตัว ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นไว้ผมทรงนี้อาจจะดูแย่ แต่สำหรับเขาแล้วไม่เลย เขาดูดีมากๆ จนฉันอยากจะจับเขามาใส่กรอบรูปด้วยซ้ำไป แววตาของเขามันมีอะไรบางอย่างที่บอกได้เลยว่าหมอนี่น่ะไม่ธรรมดา มันเป็นประกายความเจ้าเล่ห์ ทะเล้นในแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ ที่สำคัญ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาสวยมาก ขนตายาวกว่าฉันที่เป็นผู้หญิงซะอีก นี่ถ้าฉันเป็นพวกบ้าผู้ชายคงจะกรี๊ดแหกปากลั่นอพาร์ตเมนต์ไปแล้วล่ะ
“ฉันชื่อแดช -_-” เขาพึมพำตอบก่อนจะหันไปมองหน้าลุงหื่น "ลุง ไม่อายลูกอายหลานบ้างเหรอไง โรคจิตก็ไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้าสิ ออกมาขับแเท็กซี่ระรานคนอื่นแบบนี้เห็นแล้วมันน่าแจ้งตำรวจจับจริงๆ"
“เฮ้ยไอ้หนุ่ม พูดจาดีๆ หน่อย แม่หนูนี่ทำท่าจะโกง พี่ก็เลยเดินตามไปเอาเงินค่าโดยสารเท่านั้นเอง"
“ลุงแอบมองฉันมาตลอดทาง แถมยังบอกว่าจะตามขึ้นไปเอาเงินที่ห้องด้
การแปล กรุณารอสักครู่..
