พลับพลาตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ากำแพงช

พลับพลา
ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ากำแพงชั้นนอก ด้านซ้ายมือของทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาท เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เดิมเรียกกันว่า "คลังเงิน" จากตำแหน่งที่ตั้งสันนิษฐานว่าคงเป็นที่พักเตรียมพระองค์สำหรับกษัตริย์ หรือเจ้านายชั้นสูงที่เสด็จมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่พักจัดขบวนสิ่งของถวายต่าง ๆ จากการขุดแต่งบริเวณนี้เมื่อปี พ.ศ. 2511 ได้พบโบราณวัตถุจำนวนมาก มีทั้งรูปเคารพ เครื่องประดับ และเหรียญสำริด เป็นเหตุให้เรียกกันว่า "คลังเงิน"

สะพานนาคราช
สะพานนาคราช ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโคปุระด้านทิศใต้สร้างด้วยหินทราย มีผังเป็นรูปกากบาท กว้าง 4 ม. ยาว 31.70 ม. ยกพื้นสูง ราวสะพานทำเป็นตัวนาค ที่ปลายราวสะพานทำเป็นรูปนาคราชชูคอแผ่พังพานเป็นรูปนาค 7 เศียร สะพานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางเข้าสู่ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อเรื่องจักรวาล เชื่อว่าเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์ คตินีถือสืบกันมาในศาสนาฮินดูและพุทธศาสนานิกายมหายาน

ซุ้มประตูและกำแพงแก้ว
ซุ้มประตูหรือโคปุระ ตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวกำแพงแก้ว อยุ่ในแนวตรงกันหมดทั้ง 4 ด้าน คือ ทิศเหนือ-ใต้ อยู่ตรงกึ่งกลางของกำแพง ทิศตะวันออก-ตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย ผังโดยรอบของซุ้มประตูมีลักษณะเป็นรูปกากบาท จากกำแพงแก้วเข้ามาด้านในเชื่อกันว่าเป็นดินแดนของโลกสวรรค์ อันเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า

ชาลาทางเดิน
ก่อสร้างด้วยหินทราย เชื่อมต่อระหว่างซุ้มประตูด้านทิศใต้ของระเบียงคดที่ล้อมรอบปราสาทประธาน โดยทำทางเดินยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร แบ่งเป็น 3 ช่องทางเดิน ผังทำเป็นรูปกากบาท จากการบูรณะพบเศษกระเบื้องมุงหลังคาและบราลีดินเผาจำนวนมาก สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นระเบียงโปร่ง หลังคามุงกระเบื้อง รองรับด้วยเสาไม้

ซุ้มประตูและระเบียงคด
เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายยกพื้นสูง อยู่ล้อมรอบปราสาทประธาน ระเบียงคดมีลักษณะคล้ายกำแพงแก้วทั้ง 4 ด้าน โดยมีตำแหน่งที่ตั้งตรงกับแนวของประตูเมือง และประตูทางเข้าปราสาทประธาน ปรากฏหลักฐานสำคัญที่ซุ้มประตูด้านทิศใต้ บริเวณกรอบประตูพบจารึกภาษาเขมร อักษรขอมโบราณ ระบุศักราชตรงกับ พ.ศ. 1651-1655 กล่าวถึงการสร้างรูปเคารพ การสร้างเมือง ตลอดจนปรากฏพระนามของขุนนางชั้นสูง และพระนามมหากษัตริย์คือ พระเจ้าธรณินทรวรมันที่1

ประสาทประธาน
เป็นส่วนสำคัญที่สุดของปราสาทหินพิมาย เป็นปราสาทองค์ใหญ่ สร้างขึ้นราวพุทธศรรตวรรษที่ 16-17 ก่อสร้างด้วยศิลาทรายสีขาวหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งแตกต่างจากศาสนสถานแบบขอมในที่อื่น ๆ ซึ่งมักจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ปราสาทประธานประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ มณฑป และ เรือนธาตุ มีการจำหลักลวดลายประดับตามส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าบัน ทับหลัง มักจำหลักเป็นภาพเล่าเรื่องรามเกียรติ์และเรื่องราวทางพุทธศาสนา ยกเว้นทางด้านทิศใต้ จำหลักเป็นภาพศิวนาฏราช ภายในเรือนธาตุเป็นส่วนสำคัญที่สุดเรียกว่า ห้องครรภคฤหะ เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพสำคัญ พื้นห้องตรงมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีร่องน้ำมนต์ต่อลอดผ่านพื้นห้องออกไปทางด้านนอก เรียกว่า ท่อโสมสูตร

ปรางค์หินแดง
สร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางด้านขวาของปรางค์ประธาน มีมุขยื่นออกไปทั้ง 4 ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือ มีทับหลังหินทรายจำหลักภาพเล่าเรื่องมหากาพย์มหาภารตะ ตอนกรรณะล่าหมูป่า ส่วนกรอบประตูด้านอื่นคงเหลือร่องรอยเฉพาะเสาประดับกรอบประตูศิลปะแบบเขมรประดับอยู่

ปรางค์ประธาน
สร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางด้านขวาของปรางค์ประธาน มีมุขยื่นออกไปทั้ง 4 ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือ มีทับหลังหินทรายจำหลักภาพเล่าเรื่องมหากาพย์มหาภารตะ ตอนกรรณะล่าหมูป่า ส่วนกรอบประตูด้านอื่นคงเหลือร่องรอยเฉพาะเสาประดับกรอบประตูศิลปะแบบเขมรประดับอยู่

หอพราหมณ์
เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันกับบปรางค์หินแดง ในปี พ.ศ. 2493 ได้ค้นพบศิวลึงค์ สลักด้วยหินทรายจำนวน 7 ชิ้นอยู่ภายในหอพราหมณ์ เชื่อกันว่าอาคารหลังนี้คงเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ แต่จากรูปแบบและตำแหน่งที่ตั้งเดิมคงเป็นที่ตั้งของบรรณาลัยมากกว่า

ปรางค์พรหมทัต
ลักษณะของปรางค์องค์นี้ สร้างด้วยศิลาแลงตั้งอยู่ด้านหน้าของปราสาทประธานทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประตูทำเป็นมุขยื่นออกไปทั้ง 4 ทิศ ภายในองค์ปรางค์พบประติมากรรมสำคัญ 2 ชิ้น คือ ประติมากรรมรูปบุคคลขนาดใหญ่อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ สลักด้วยหินทราย สันนิษฐานว่าเป็นรูปจำลองของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ชาวบ้านเรียกว่า ท้าวพรหมทัต ส่วนอีกรูปเป็นรูปสตรีนั่งคุกเข่าสลักด้วยหินทราย ส่วนศีรษะและแขนหักหายไป เชื่อกันว่าเป็นรูปของพระนางชัยราขเทวีมเหสี ชาวบ้านเรียกตามนิยายพื้นบ้านว่า นางอรพิม ปัจจุบันประติมากรรมทั้ง 2 ชิ้นนี้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมาย

บรรณาลัย
ตั้งอยู่บริเวณลานชั้นนอก ระหว่างกำแพงแก้วและซุ้มประตูระเบียงคด ด้านทิศตะวันตกเป็นอาคาร 2 หลังขนาดเดียวกัน ผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกพื้นสูง ก่อด้วยหินทรายกั้นเป็นห้องยาวตลอดแนว พบร่องรอยหลุมเสารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เดิมคงเป็นหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง เชื่อกันว่าบรรณาลัยคือสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Tabernacle.Located at the front of the outer wall on the left side of the castle is a rectangular building. Formerly known as "Silver" from that location is assumed constant as he prepared for the King or the property boss came high religious rites as well as accommodation for various target things offered to them from digging taengboriwen this year have found numerous antiquities have 2511 both bronze coins and jewellery, idols. That is why this is called "library."Nakrat bridgePhimai sanctuary nakrat bridge Located in front of the entrance to the South create a co with sand stone. There is a cross 31.70 m long, 4 m wide with a floor raised railing is made as a Naga at the ends of the railing is the radiating neck phangphan nakrat-Shu is the Naga bridge has become one of the top 7, begin a journey to sacred religious sites, according to beliefs matter universe. Believe is the route between the human world to the heavenly world. Apocalypse Ney considered. in Hinduism and Buddhism, Mahayana Buddhism.Arch-and-glass wall.Arch or Pura In the middle of the wall of the glass. In the straight 4 all is a North-South direction of the Middle East-West to the North a little chart of the arch resembles the shape of a cross from a glass wall came in as the globe's heavenly realm of the gods.Construction of corridorsSandstone construction. Connection between the arch in the South side of the balcony, surrounding the Castle got its President by making the corridor floor raised about 1 m 3 chart lane is the cross found debris from roof tiles and pottery originally assumed many borali is airy balcony, tiled roof. Supported by wooden poles.Got balconies and Arch.A building with sandstone floor raised balcony surrounds the Castle resembles the President got all 4 sides by glass walls that match the concept of the city gate and the entrance to the Castle, Chairman. The evidence that the major arch in the South side area font Khmer inscription found door frame of northeastern Thailand. Identify the abdicated 1648-1657 a.d. match mentioned the respect the city, as well as appearing on his name and his name's King is a God thonnin thonwon it 1.Chairman of neuroscienceThe most important part of Castle Rock, Castle phimai Buddhist stories most word-generated 16-17 construction with white sand stone facing South, which is different from other places in the Khmer, which usually faces the East. The Castle consists of two main sections, the Chairman of the section is designed and elemental housings. The main motifs are accessory parts such as gable lintel often main photo story Ramayana, and Buddhist stories except the South side main photo nataraja. Inside the greenhouses, the element is the most important section called khap khriha statue is important-respected. The floor in the corner of North-East side have holy water per pass through the floor towards the outside. Ginseng pipe called a formula.Pagoda stone red.Created by the end of the 17th century, located on the right side of the President. There is a porch extends to all four northern entrance on the north side frame. There are main sandstone lintel picture storytelling rueangomha epic, the Mahabharata. The episodes complement whatever wild boar hunt section, another top door frames only traces remaining pillars adorn the door frame is the Khmer arts.Switzerland ThailandCreated by the end of the 17th century, located on the right side of the President. There is a porch extends to all four northern entrance on the north side frame. There are main sandstone lintel picture storytelling rueangomha epic, the Mahabharata. The episodes complement whatever wild boar hunt section, another top door frames only traces remaining pillars adorn the door frame is the Khmer arts.Hall of the brahmans.A building with sandstone and laterite. Located on the same base, red rocks boprang In the year 2493. siolueng discovery of 7 pieces of sandstone etched inside the Auditorium esque believed that this building would be the place that religious Brahmin but from its original location and format would be more than the University of Blida area editor.Prang prom KenichiCharacteristics of. Built with laterite is located in front of the Castle, Chairman of the Southeast side is a square shaped base. The doors do a front porch design elements inside the pagoda found two important pieces of sculpture, portrait sculpture is a large seated meditation, carved sandstone is assumed as images of Jayavarman 7 villagers called Thao prom Kenichi. The other image is the image women sitting on her knees with a carved sandstone. Section head and arm fractures disappear. It is believed is an image of God, Mrs. Chairakthewimhesi. The villagers call as folk novel that Mrs. Onphim At present, the two pieces of sculptures displayed in phimai National Museum.Banna University.The outer courtyard is located between the glass wall and Arch terrace West Cobb as two of the same size. Chart of a rectangular building with a floor raised sandstone formations the lengths along the room. Find traces the square pillar holes. The original wooden roof is tiled. Banna believed the University is kept sacred to religious Scriptures.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The tabernacle.Located at the front outer wall. On the left of the path to the castle. A rectangular building, originally called "the treasury" from a location presumably คงเป็นที่ stay prepared him for the king. Or master class coming religious rites As well as accommodation convoys dedicated things different from the excavation of this area the 2511 found many antiques. Both images. Jewelry and coins, bronze, a reason to call it "the treasury".The bridge, SerpentThe bridge serpent prasathinphimai. Located at the front entrance gopura South made of sand, a plan is a cross wide 4 m long 31.70 m high platform. The bridge railing pretend Naga. At the end of the rail bridge made this serpent conceited แผ่พังพาน a Naga 7 head. This bridge is a beginning of a journey into the sacred religious beliefs about two of the universe. Believe is the connection between the human world and the heavens. Consciousness has hold continuously in Hinduism and Mahayana BuddhismThe porch and a defensive wall.A porch or gopura is located midway along the defensive wall is in the whole of the matching 4 is north-south. At the center of the wall. The East - west quite North slightly. The layout of arch shaped cross. From the walled in is believed to be a land of heaven world. The address of the gods.Flame path.Was made of sand. The connection between the arch on the south side of the acoustic surrounded Castle president. By doing the high platform about 1 meters, is divided 3 aisle layout to a cross. From the restored roof tiles and pottery fragments found recurrence). Presumably a terrace airy tiled roof supported by pillars of wood.The porch and acoustic.The sandstone building is high platform around the castle president acoustic resemble the 4 glass walls. The location match the of the city gates. And the Castle Entrance president. Appear important evidence arch side.