นี่คืออีเมล์ที่ยาวและเขียนยากมากสำห

นี่คืออีเมล์ที่ยาวและเขียนยากมากสำหรับฉัน,โปรดถามซ้ำถ้าหากคุณสงสัยหรือไม่เข้าใจ.
ช่วงเวลาที่โหดร้ายในชีวิตของฉันคือ ธันวาคม 2012 ฉันรู้เรื่องที่ อดีตสามีของฉันมีภรรยานอกสมรส.ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับฉัน,เขาก็ยังไปนอนค้างคืนที่บ้านของเธอ,ในตลอดระยะเวลาที่ฉันรับราชการอยู่ที่พื้นที่เสี่ยงภัย,และจนกระทั่งฉันย้ายอยู่ที่นี่.ฉันร้องให้อย่างหนัก,ไม่กิน,ไม่นอน,และฉันคิดฆ่าตัวตายในตอนนั้น.เขารับรู้ว่าฉันเสียใจมาก,แต่ไม่มีคำว่า... ขอโทษจากปากของเขา,ที่โกหกฉันว่า เลิกเป็นสามีของเธอ,ก่อนแต่งงานกับฉัน.
-สาเหตุที่ฉันเสียใจมากเพราะ,ฉันทิ้งบ้าน,ทิ้งพ่อแม่ ครอบครัวที่รักฉันมาก.เพื่ออยู่กับเขาและลูกที่นี่,แต่ฉันยอมอดทนให้ผู้ชายคนนึงเอาเปรียบฉัน, ทำร้ายจิตใจฉัน เช่น
- ค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายในบ้านฉันรับผิดชอบทั้งหมด,ค่าใช้จ่ายของลูก.เขาขอร้องให้ฉันกู้เงินจำนวนมาก,เพื่อช่วยเหลือธุรกิจของเขา,แต่เขาให้ฉันรับผิดชอบหนี้สินและดอกเบี้ยเพียงลำพัง.
-เขาไม่ช่วยรับผิดชอบชีวิตลูก, เช่น ฉันต้องไปราชการต่างจังหวัด. และให้เขาดูแลลูก,บ่อยครั้งที่เขาไม่ให้ลูกอาบน้ำหรือกินข้าว,และกินยาแก้ไข้,เมื่อลูกชายป่วยและทิ้งให้ลูกอยู่ตามลำพัง.เพราะเขารีบร้อนที่จะไปเล่นการพนัน.
-สัปดาห์มี 7 วัน. เขามานอนค้างที่บ้าน 1-2 ครั้ง ,ทั้งที่ร้านอาหารของเขาอยู่ใกล้บ้านประมาณ 7 กิโลเมตร,บ่อยครั้งที่เขามาดื่มเหล้ากับเพื่อนๆห่างจากบ้านแค่ 300 เมตร. แต่เขาไม่เคยสนใจว่า, ฉันกับลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง.
-สำคัญมากๆคือ, เขาเป็นนักการพนันที่ร้ายแรงและเล่นการพนันทั้งกลางวันและกลางคืน,เกือบทุกครั้งที่เขามานอนบ้าน. ฉันต้องรอเขาจนกระทั่งเช้า.และเขาไม่เคยมีเวลาสำหรับการพักผ่อน,หรือทำกิจกรรมกับครอบครัว.
-ถ้าหากเขาต้องทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ. ฉันเข้าใจได้แน่นอนว่า, ไม่สามารถพบเจอครอบครัวได้บ่อย.แต่สำหรับเขา, ฉันมองว่า, เขาในอายุ 60 ปี, แต่เขาไม่มีความพร้อมที่จะเป็นพ่อหรือสามีของใคร. เพราะความรับผิดชอบของเขาเท่ากับวัยรุ่นอายุ 16 ปี.
-สำคัญกว่านั้นคือ, ตลอดเวลาจะมีภรรยาและลูกนอกสมรสเพิ่มขึ้น.และแสดงตัวตนหลายคน,บ่อยครั้งที่ฉันได้รับการดูถูกเหยียดหยามผ่านทางพ่อแม่ของฉัน, พี่และน้องชาย,ญาติของฉันและนักเรียนของฉัน.ทำฉันให้สิ้นสุดความอดทน. ฉันขอหย่าเขาเมื่อ, เมษายน 2015. แต่เขาปฏิเสธการหย่า.
-ฉันจึงฟ้องหย่าเมื่อ กรกฎาคม 2015 และในศาลวันนั้น. เขาปฏิเสธที่จะช่วยฉันรับผิดชอบหนี้สิน.ฉันจึงตัดสินใจว่า, ตลอดระยะเวลาของชีวิตคู่. ฉันรับผิดชอบทุกอย่างเพียงลำพัง. ถ้าหากฉันยังอดทนต่อไป,ฉันจะต้องเป็นคนป่วยโรคจิตแน่นอน. เพราะฉันเครียดมาก.ลูกชายของฉันจะเป็นอย่างไร,ถ้าหากเขาไม่มีฉันและมีพ่อที่ขาดความรับผิดชอบ.
-ฉันตัดสินใจรับหนี้สินทั้งหมด,จำนวน 2-3 ล้านบาทไทยเพียงคนเดียว. เพราะฉันไม่ต้องการเจอหน้าเขาในศาลระดับสูงกว่านี้.
ในชีวิตของฉันไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ. ฉันผิดพลาดเฉพาะเรื่องนี้, ทำให้ฉันมั่นใจว่า, เลี้ยงลูกได้ลำพังเพราะ.
-5 ปี ที่ฉันทำงานและเรียนไปด้วยใน 1 สัปดาห์. ฉันไม่มีวันหยุดและหลังจากเรียนจบ,ฉันทำงานทันทีและซื้อบ้านหลังแรกเมื่ออายุ 28 ปี.และสร้างบ้านหลังที่สองเมื่ออายุ 30 ปี. ตั้งแต่ก่อนที่จะแต่งงานกับเขา,ทุกครั้งที่มีรายได้เพิ่ม. ฉันจะซื้อที่ดินแปลงเล็กๆสะสมไว้.
-ที่ฉันบอกคุณไม่ได้หมายว่า, ฉันเก่งกว่าคนอื่น.แต่ถ้ามองคนในประเทศของฉันในวัยอายุ 28-30 ปี. พวกเขาจะยังสนุกสนานกับการใช้ชีวิต, เช่น กิน เที่ยว ดื่ม,ไม่ได้สนใจเรื่องของการสร้างตัวเอง.
-ตลอดเวลาฉันใช้ชีวิตอย่างประหยัด, ฉันไม่เคยวิ่งตามกระแสแฟชั่นหรือเทคโนโลยี.ฉันจะให้รางวัลหรือซื้อของขวัญให้ตัวเองบ้าง,บางครั้งและเกือบจะไม่มีเลย.
-บางทีฉันก็คิดว่า, ผู้ชายในโลกนี้ที่ไม่เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบผู้หญิง.ยังคงมีหรือหาพบได้หรือไม่.และฉันเป็นผู้หญิงที่มีหนี้สินและมีลูกชายวัย 9 ปีที่ต้องดูแล.
-ตลอดเวลาฉันเป็นพ่อ, แม่, พี่, เพื่อนให้ลูกชายของฉัน.ในเวลากลางคืน ,ฉันต้องกลายเป็นหมอนข้างของลูก.ขาของเขามักจะวางอยู่บนหน้าท้องฉัน.หรือเขาจะต้องนอนหนุนแขนฉันก่อนนอน.และตอนเช้าที่ฉันตื่น,ฉันมักจะพบเท้าหรือก้นของเขาอยู่ใกล้ใบหน้าของฉัน.
-ทำให้ฉันคิดว่า, จะมีผู้ชายคนใหนที่ยอมรับผู้หญิงที่ต้องนอนค้างกับลูกครึ่งคืน.และมีเวลาให้เขาในอีกครึ่งคืนที่เหลือได้.ฉันหมายถึง ถ้าฉันแต่งงานใหม่, ฉันก็ยังคงต้องนอนกอดลูกชายให้เขาหลับ,ก่อนที่จะไปหาสามีฉันได้.
-ลูกชายของฉันเขายังเด็กและต้องการฉัน.แต่อีก 1-3 ปี, เมื่อเขาโตมากขึ้น. เขาอาจจะรักฉันน้อยลง. เพราะเมื่อเขามีเพื่อน.ตอนนั้นฉันคงเหงามาก,และนี่คือเหตุผลที่ฉันต้องการแต่งงานใหม่และมีลูกเล็กเพิ่มอีก.(แต่ทุกอย่างมาจากการตัดสินใจของสามีใหม่ของฉันด้วย, เพราะการมีลูกคือ, ภาระที่ยิ่งใหญ่.)
-ฉันก็เห็นด้วยที่คุณบอกว่า, คุณโสด. เพราะคุณไม่พบผู้หญิงที่เข้าใจคุณว่า, ไม่สามารถแยกจากครอบครัวเขาได้.
ันก็คิดว่า, ถ้าหากฉันไม่เจอผู้ชายที่เข้าใจฉัน.ฉันไม่สามารถแยกจากลูกชายและพ่อแม่ของฉันได้.การตัดสินใจอยู่เป็นโสดคงจะสำหรับฉันและลูก.
-คนที่เราสามารถแลกเปลี่ยนความรู้สึก,ความคิดเห็นได้และการให้อิสระไม่ควบคุมกัน.มีพื้นที่ว่างส่วนตัวหรือได้ทำในกิจกรรมที่ชอบหรือสนใจ,ค่อนข้างที่จะหายากในความคิดของฉัน.ถึงแม้ว่า, ฉันจะรักคุณ. แต่คุณบอกว่า, ตั้งค่าให้ฉันเป็นแค่เพื่อนรักของคุณ.ฉันก็ควรเคารพในความคิดเห็นของคุณ.เพราะทุกคนต่างต้องการเวลาที่เป็นส่วนตัว,กระทั่งคนที่รักกันก็ต้องการวันหยุด.
-ตั้งแต่เราเริ่มคุยกันจนกระทั่งถึงตอนนี้.ฉันมั่นใจว่า, ฉันเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญมากพอที่จะพูดความจริงในชีวิตของฉันกับคุณ.ซึ่งอยู่ที่คุณจะพิจารณาว่า, ฉันคือผู้หญิงในรูปแบบใดกันแน่.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Here is an email that I wrote a long and very hard for, please repeat the question if you are suspicious, or you do not understand.Brutal moments in my life is that I know in December 2012, former husband and wife outside my marriage. before he married me, he went on to go to sleep overnight at her home, in government service I receive over a period of time are at risk areas, and until I moved here. I sing, not hard, eat, sleep, and I do not think of suicide at that time. He recognized that I am gutted, but there are no words ... An apology from his mouth is a lie, that I quit before her husband, marry me.-Cause I'm gutted because I left behind, abandoned homes, parents. Family love him so much. I and the ball here, but I agree, patience, honest man, I'm hurting like my soul.-Rent and expenses in my home is responsible for all expenses of the child, he asked me a loan. a lot of money, to help his business, but he gives me the interest liabilities and responsibilities alone.-เขาไม่ช่วยรับผิดชอบชีวิตลูก, เช่น ฉันต้องไปราชการต่างจังหวัด. และให้เขาดูแลลูก,บ่อยครั้งที่เขาไม่ให้ลูกอาบน้ำหรือกินข้าว,และกินยาแก้ไข้,เมื่อลูกชายป่วยและทิ้งให้ลูกอยู่ตามลำพัง.เพราะเขารีบร้อนที่จะไปเล่นการพนัน.-สัปดาห์มี 7 วัน. เขามานอนค้างที่บ้าน 1-2 ครั้ง ,ทั้งที่ร้านอาหารของเขาอยู่ใกล้บ้านประมาณ 7 กิโลเมตร,บ่อยครั้งที่เขามาดื่มเหล้ากับเพื่อนๆห่างจากบ้านแค่ 300 เมตร. แต่เขาไม่เคยสนใจว่า, ฉันกับลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง.-สำคัญมากๆคือ, เขาเป็นนักการพนันที่ร้ายแรงและเล่นการพนันทั้งกลางวันและกลางคืน,เกือบทุกครั้งที่เขามานอนบ้าน. ฉันต้องรอเขาจนกระทั่งเช้า.และเขาไม่เคยมีเวลาสำหรับการพักผ่อน,หรือทำกิจกรรมกับครอบครัว.-ถ้าหากเขาต้องทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ. ฉันเข้าใจได้แน่นอนว่า, ไม่สามารถพบเจอครอบครัวได้บ่อย.แต่สำหรับเขา, ฉันมองว่า, เขาในอายุ 60 ปี, แต่เขาไม่มีความพร้อมที่จะเป็นพ่อหรือสามีของใคร. เพราะความรับผิดชอบของเขาเท่ากับวัยรุ่นอายุ 16 ปี.-สำคัญกว่านั้นคือ, ตลอดเวลาจะมีภรรยาและลูกนอกสมรสเพิ่มขึ้น.และแสดงตัวตนหลายคน,บ่อยครั้งที่ฉันได้รับการดูถูกเหยียดหยามผ่านทางพ่อแม่ของฉัน, พี่และน้องชาย,ญาติของฉันและนักเรียนของฉัน.ทำฉันให้สิ้นสุดความอดทน. ฉันขอหย่าเขาเมื่อ, เมษายน 2015. แต่เขาปฏิเสธการหย่า.-ฉันจึงฟ้องหย่าเมื่อ กรกฎาคม 2015 และในศาลวันนั้น. เขาปฏิเสธที่จะช่วยฉันรับผิดชอบหนี้สิน.ฉันจึงตัดสินใจว่า, ตลอดระยะเวลาของชีวิตคู่. ฉันรับผิดชอบทุกอย่างเพียงลำพัง. ถ้าหากฉันยังอดทนต่อไป,ฉันจะต้องเป็นคนป่วยโรคจิตแน่นอน. เพราะฉันเครียดมาก.ลูกชายของฉันจะเป็นอย่างไร,ถ้าหากเขาไม่มีฉันและมีพ่อที่ขาดความรับผิดชอบ.-ฉันตัดสินใจรับหนี้สินทั้งหมด,จำนวน 2-3 ล้านบาทไทยเพียงคนเดียว. เพราะฉันไม่ต้องการเจอหน้าเขาในศาลระดับสูงกว่านี้.ในชีวิตของฉันไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ. ฉันผิดพลาดเฉพาะเรื่องนี้, ทำให้ฉันมั่นใจว่า, เลี้ยงลูกได้ลำพังเพราะ.-5 ปี ที่ฉันทำงานและเรียนไปด้วยใน 1 สัปดาห์. ฉันไม่มีวันหยุดและหลังจากเรียนจบ,ฉันทำงานทันทีและซื้อบ้านหลังแรกเมื่ออายุ 28 ปี.และสร้างบ้านหลังที่สองเมื่ออายุ 30 ปี. ตั้งแต่ก่อนที่จะแต่งงานกับเขา,ทุกครั้งที่มีรายได้เพิ่ม. ฉันจะซื้อที่ดินแปลงเล็กๆสะสมไว้.-ที่ฉันบอกคุณไม่ได้หมายว่า, ฉันเก่งกว่าคนอื่น.แต่ถ้ามองคนในประเทศของฉันในวัยอายุ 28-30 ปี. พวกเขาจะยังสนุกสนานกับการใช้ชีวิต, เช่น กิน เที่ยว ดื่ม,ไม่ได้สนใจเรื่องของการสร้างตัวเอง.-ตลอดเวลาฉันใช้ชีวิตอย่างประหยัด, ฉันไม่เคยวิ่งตามกระแสแฟชั่นหรือเทคโนโลยี.ฉันจะให้รางวัลหรือซื้อของขวัญให้ตัวเองบ้าง,บางครั้งและเกือบจะไม่มีเลย.-บางทีฉันก็คิดว่า, ผู้ชายในโลกนี้ที่ไม่เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบผู้หญิง.ยังคงมีหรือหาพบได้หรือไม่.และฉันเป็นผู้หญิงที่มีหนี้สินและมีลูกชายวัย 9 ปีที่ต้องดูแล.-ตลอดเวลาฉันเป็นพ่อ, แม่, พี่, เพื่อนให้ลูกชายของฉัน.ในเวลากลางคืน ,ฉันต้องกลายเป็นหมอนข้างของลูก.ขาของเขามักจะวางอยู่บนหน้าท้องฉัน.หรือเขาจะต้องนอนหนุนแขนฉันก่อนนอน.และตอนเช้าที่ฉันตื่น,ฉันมักจะพบเท้าหรือก้นของเขาอยู่ใกล้ใบหน้าของฉัน.-ทำให้ฉันคิดว่า, จะมีผู้ชายคนใหนที่ยอมรับผู้หญิงที่ต้องนอนค้างกับลูกครึ่งคืน.และมีเวลาให้เขาในอีกครึ่งคืนที่เหลือได้.ฉันหมายถึง ถ้าฉันแต่งงานใหม่, ฉันก็ยังคงต้องนอนกอดลูกชายให้เขาหลับ,ก่อนที่จะไปหาสามีฉันได้.
-ลูกชายของฉันเขายังเด็กและต้องการฉัน.แต่อีก 1-3 ปี, เมื่อเขาโตมากขึ้น. เขาอาจจะรักฉันน้อยลง. เพราะเมื่อเขามีเพื่อน.ตอนนั้นฉันคงเหงามาก,และนี่คือเหตุผลที่ฉันต้องการแต่งงานใหม่และมีลูกเล็กเพิ่มอีก.(แต่ทุกอย่างมาจากการตัดสินใจของสามีใหม่ของฉันด้วย, เพราะการมีลูกคือ, ภาระที่ยิ่งใหญ่.)
-ฉันก็เห็นด้วยที่คุณบอกว่า, คุณโสด. เพราะคุณไม่พบผู้หญิงที่เข้าใจคุณว่า, ไม่สามารถแยกจากครอบครัวเขาได้.
ันก็คิดว่า, ถ้าหากฉันไม่เจอผู้ชายที่เข้าใจฉัน.ฉันไม่สามารถแยกจากลูกชายและพ่อแม่ของฉันได้.การตัดสินใจอยู่เป็นโสดคงจะสำหรับฉันและลูก.
-คนที่เราสามารถแลกเปลี่ยนความรู้สึก,ความคิดเห็นได้และการให้อิสระไม่ควบคุมกัน.มีพื้นที่ว่างส่วนตัวหรือได้ทำในกิจกรรมที่ชอบหรือสนใจ,ค่อนข้างที่จะหายากในความคิดของฉัน.ถึงแม้ว่า, ฉันจะรักคุณ. แต่คุณบอกว่า, ตั้งค่าให้ฉันเป็นแค่เพื่อนรักของคุณ.ฉันก็ควรเคารพในความคิดเห็นของคุณ.เพราะทุกคนต่างต้องการเวลาที่เป็นส่วนตัว,กระทั่งคนที่รักกันก็ต้องการวันหยุด.
-ตั้งแต่เราเริ่มคุยกันจนกระทั่งถึงตอนนี้.ฉันมั่นใจว่า, ฉันเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญมากพอที่จะพูดความจริงในชีวิตของฉันกับคุณ.ซึ่งอยู่ที่คุณจะพิจารณาว่า, ฉันคือผู้หญิงในรูปแบบใดกันแน่.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

This is a long email and write very difficult for me, please ask repetitive questions or if you do not understand.
The brutal moments in my life was in December 2012, I know that. My ex-husband had a second wife. Before he married me, he had to sleep overnight at her house, in the period that I serve at-risk areas, and until I moved here. I do. cried hard, not eating, not sleeping, and I was suicidal at the time. he knows that I'm very sorry, but no matter ... Apology from his mouth, that I was lying. Quitting her husband, before marrying me.
- Cause I'm very sorry because I left the house, leaving his parents. The family loves me so much. To be with him and the ball here, but I'm not a patient man, exploiting me, hurt me, like
- the rent and the cost of my responsibility, at the expense of children. he begged me to recover a lot of money, to help his business, but he gave me the responsibility and debt interest alone.
- he did not help for my life, like I have to go to the provincial government. And his children, who often do not give the child a bath or eat, and eat aspirin, when his son was sick and left the children alone. I was in a hurry to go gamble.
- A week has seven. day. he spends the night at home 1-2 times, both at a restaurant near his home, about seven kilometers, often he was drinking with friends just 300 meters away from the house. but he did not do that. My son is doing.
- is very important, he is a gambler and a serious gambling day and night, almost every time he comes home to sleep. I had to wait until the morning. And they never have time to relax, or do activities with the family.
- If he had to work in other provinces or abroad. I understand, of course, can not find a family as often. But for him, I think, in 60 years, but he is not ready to be a father or husband, anybody. Because of his responsibilities as a teenager 16 years.
- More important, always with his wife and children out of wedlock has increased. The presence of several people, Often, I was snobbish through his parents. I, and my brother, my cousin and my students. I also make endless patience. I divorced him when, in April 2015. However, he refused to divorce.
- I filed for divorce in July 2015 and on that day in court. He refused to help me responsible for the liability. I decided that, for the duration of the marriage. I'm responsible for everything alone. If I have to endure, I will definitely have a mental illness. It's very stressful. My son would be, if I did not have a father and irresponsible.
- I decided to accept all liabilities, of 2-3 million baht Thailand alone. Because I do not want to face him in court higher than this.
In my life I never had parents. My only mistake about it, I'm sure, because raising children alone.
-5 Years I worked and went to school with in one week. I never stopped, and after graduation, I worked on it and buying a first home. age 28 years. and create a second home at the age of 30 years. since before I married him, every time there is more revenue. I would buy a little land accumulation.
- I do not mean to tell you that, I'm better than anyone else. But if someone in my age 28-30 years old. They are also fun to use. life, like eat, drink, do not care about the building itself.
- throughout my life savings, I have never run the current fashion or technology. I'll give you a prize or a gift to myself, sometimes. and almost none at all.
- Maybe, I thought, a man in this world who are not selfish and exploiting women. it is still there, or found or not. and I am a woman with debt and has a son aged nine years is required. take care.
- all this time I was the father, mother, brother, friend to my son. at night. I have become a bolster of the ball. His legs are placed on the abdomen me. He shall lie bolster my arm before bed. The morning I woke up, I always found the feet or buttocks are close. my face.
- I think, to have a man to accept that women be lodged with half a night. and the next time he has left half the night. I mean. If I remarry, I still have to sleep hugging his son to sleep, before I have to find a husband.
- He's my son and I want to. But another 1-3 years, when he grew up. He may love me less. When his friend. I was lonely a lot, and this is why I want to marry and have children more. (But everything comes from the decision of the husband of me, because having a baby is. great burden.)
- I agree with you that, you're single. you do not see women who understand that, can not be separated from his family.
the purpose of it was thought that, if I'm not that guy. understand me. I can not be separated from her son, and my parents had. the decision Bach would be for me and the children.
- people can share their feelings, opinions, and providing independent control. there is an empty space. private or doing activities like or are interested in, rather rare in my opinion. Although, I do love you. but you say, set me as I love you. I should respect. in your opinion. because everyone needs time privacy, even people who love each other, it's like a holiday.
- since we started to talk until now. I am sure, I am a woman brave enough. to speak the truth in my life with you. This is for you to consider that, I was a woman in any form, anyway.