When waste period. The second position was Chao Phraya Nakhon SI thammarat 2310. The capital rights. Mr. creature servants (rat), issued to the public. Permanent location is the Nakhon SI thammarat official keeper. But know the city waste found at the Burmese period. There is no boss, ruling the capital rights. A Prince named Nakhon SI thammarat is one of independent Kingdom.In the years since Lord 2312 krung Thonburi Yatra to subdue and capture the Chao Nakhon (rats), and that the owner does not have the robots rebellion charge against terrorist countries. But a riot because the country is the Church, and the Government are at Thon buri, and, Her grandson Prince of Nara Suriyawong to Nakhon SI thammarat town.Later, the owner an access mahanak die God, thon buri Is that God (the Rat), there has been a public devotion and present Government do with daughters ratbut (Phra Phong narin thonlae Indra forgive) is a shrub of the Sacred Heart Church, metropolitan officials out to dominate Nakhon SI thammarat and Nakhon SI thammarat in 1623 as a God. Thasima (nu) when tightening the officials Sunday night, 11.3 month Chula sakarat 1138 (2319) eighth year of monkey.Later, King Buddha FA male kite world (King Rama I) is that God Nakhon SI thammarat. There is the old disability. Unable to rule the country so please come back to retire in Bangkok and please, Lord Viceroy (Pat) son Prince as the Regent Bangkok Nakhon SI thammarat. Tuesday night 8-11 months Hotel Chula sakarat 1146 (2327) era, but a dragon is the only cruise ranks as a tradition. When the khrangkrung Kingdom of Nakhon SI thammarat is the capital city and a King as a prathetrat, 8 years.There is the Chao Phraya Nakhon SI thammarat tips (Pat) service until the reign. Rama Rama (Rama II) yard napalai has programmed everything he raised as King and Lord, Honorary Council positions to maintain custody of Chao Phraya Nakorn (Noi), phubet (Pat) is the Chao Phraya Nakhon SI thammarat () new.แต่มีเรื่องปรากฏหลักฐานในสมัยนั้นว่า เจ้าพระยานคร (น้อย) นี้ที่จริงเป็นราชบุตรลับของพระเจ้ากรุงธนบุรี เนื่องจากเมื่อครั้งเจ้านคร (หนู) ทำราชการอยู่ที่กรุงธนบุรี และถวายธิดาทำราชการฝ่ายในแก่พระเจ้ากรุงธนบุรี และมีน้องสาว (ปราง) มาอยู่ด้วยในวังคนหนึ่ง ความปรากฏตามพงศาวดารว่า เจ้าพระยาพิชัยราชา เจ้าเมืองสวรรคโลกให้ไปขอ เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงทราบ ก็ทรงพระพิโรธ ว่าเจ้าพระยาพิชัยราชาบังอาจ จะเป็นคู่เขยของพระองค์ ให้เอาไปประหารเสีย ต่อมาวงศ์ญาติเจ้านคร จึงนำธิดา (ปราง) คนนี้ ถวายพระเจ้ากรุงธนบุรี เสีย ต่อมาเจ้าพระยานคร (พัฒน์) เมื่อครั้งยังเป็นอุปราชเมืองนครอยู่ ภริยาซึ่งเป็นบุตรเจ้านคร (หนู) เสียชีวิต เจ้าพระยานคร (พัฒน์) ทำความชอบได้เข้าเฝ้าครั้งหนึ่ง พระเจ้ากรุงธนบุรีเห็นว่าภริยาเสียชีวิต ก็สงสารจึงจะพระราชทานธิดาเจ้านคร (หนู) ให้ใหม่ และให้นำตัวธิดาคนเล็กเจ้านคร (หนู) ไปพระราชทาน แต่นางในกระซิบว่า ดูเหมือนว่านางจะขาดระดูอยู่ แต่พระเจ้ากรุงธน ตรัสว่า "ได้ออกปากให้เขาแล้ว ก็พาไปเถอะ" เมื่อท้าวนาง พาธิดาเจ้านครไปส่งนั้น เจ้าอุปราช (พัฒน์) ก็ทราบความลับนั้น มีความยำเกรงพระบารมี ก็ต้องรับไว้เป็นท่านผู้หญิงกิตติมศักดิ์ อยู่ตลอดอายุ และนางนั้นก็มีบุตรกับเจ้าพระยานคร (พัฒน์) เพียงคนเดียว คือ เจ้าพระยานคร (ปริก)
การแปล กรุณารอสักครู่..