ส่วนที่ใช้ เมล็ด ราก ก้านใบ และใบอ่อน ส่วนที่ใช้กันมากคือเมล็ด สารสำคัญที่พบ กรดอะมิโน 18 ชนิด แร่ธาตุที่สำคัญได้แก่ สังกะสี,เหล็ก,ทองแดง,แคลเซียม,เจอมันเนียม, เซเรเนียม และฟอสฟอรัส มีโปรตีนมากกว่าโฮลวีต มีวิตามิน ซี เอ และบี 2 มีแอนติอ็อกซิแดนต์คาโรตีนอยด์ จำนวนมากเช่น ไทอามีน เบต้าแคโรทีนและซีซานทีน มีพอลิแซ็กคาไรด์ 22 ชนิด โดยมี 4 ชนิดที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนโมเลกุลหลักในร่างกาย เมื่อเกิดการทำงานร่วมกันแล้วจะทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมและนำพาคำสั่งต่างๆ ซึ่งเซลล์ของร่างกายใช้ในการติดต่อสื่อสารถึงกัน ผลลัพธ์คือระบบการทำงานของร่างกายจะสมบูรณ์ขึ้นและร่างกายใช้เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีมีอายุยืนยาว
สรรพคุณ แก้ไอ วิงเวียนศรีษะ ยาบำรุงร่างกายให้แข็งแรง แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงไต ปอด เลือด ตับ และสายตา
เพิ่มความสามารถในการมองเห็น รักษาโรคตาบอดกลางคืน แก้โรคไตพร่อง ช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณ ชะลอความชรา ลดน้ำหนัก เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ช่วยต่อต้านมะเร็งและสามารถหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดผู้เป็นเบาหวาน ลดความดันโลหิต ยับยั้งการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
ช่วยสร้างเม็ดเลือดแข็งแรง ปรับปรุงเซลล์เม็ดเลือดขาว เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยระบบเจริญพันธุ์ ป้องกันอาการคลื่นไส้ของหญิงมีครรภ์ ลดอาการอักเสบและโรคไขข้ออักเสบ เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ กระดูกช่วยให้เหงือกแข็งแรง ปรับปรุงระบบการย่อย ป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความเครียด อาการปวดศีรษะ ช่วยในการนอนหลับ ช่วยในเรื่องความจำ ทำให้รู้สึกสดชื่น
การใช้ เป็นเครื่องปรุงอาหารได้ เช่น ตุ๋นกับเนื้อสัตว์เป็นอาหารบำรุง โดยทั่วไปใช้เก๋ากี้ประมาณครั้งละ 6-12 กรัม ต้มรับประทานน้ำ ดื่มแทนน้ำชา ทำเป็นยาเม็ดลูกกลอน ดองเหล้า หรือต้มจนเปื่อยกรองเอากากออก ทำเป็นขนมรับประทานเป็นของว่าง เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งในยุคนี้ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม ใหม่ๆ สามารถเปลี่ยนเก๋ากี้ ให้กลายมาเป็นน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น รสชาติอร่อย กลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่อยู่ในรูปน้ำผลไม้เสริมสร้างและบำรุงสุขภาพ