บทคักย่อการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประส

บทคักย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทำสวนผักของเกษตรกรอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของพฤติกรรมในการทำสวนผักของเกษตรกรอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี และเพื่อศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะในการทำสวนผักของเกษตรกรในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ เกษตรกรที่ทำสวนผัก จำนวน 3005 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสัดส่วน ได้ตัวอย่างที่ต้องการศึกษาทั้งหมดจำนวน 350 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ย สถิติทดสอบที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of variance) และการเปรียบเทียบเชิงซ้อนด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Fisher’s Least Significant Difference : LSD)
ผลการศึกษา พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย โดยมีอายุอยู่ในช่วง 41-45 ปี ระดับการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่จบมัธยมศึกษาตอนต้น รายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ในช่วง 10,000-15,000 บาท พื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมดน้อยกว่า7 ไร่ พื้นที่การทำสวนผักน้อยกว่า 5 ไร่ ส่วนใหญ่ใช่เงินทุนตัวเอง ได้ศึกษาการทำสวนผักด้วยตนเอง ใช้ระยะเวลาในการปลูกผัก 1-2 เดือน การเพาะปลูก พบว่ามี ปลูกผักบุ้งเป็นส่วนใหญ่ การใช้ปุ๋ยส่วนใหญ่ พบว่า เป็นปุ๋ยเคมี การใช้ยาฆ่าแมลงส่วนใหญ่ พบว่า เป็นยาฆ่าแมลงแบบสารเคมี ลักษณะการปลูกผัก พบว่า มีลักษณะการปลูกผักแบบหลายชนิด วิธีการจำหน่ายผัก พบว่า ขายส่งในตลาดพื้นที่ และแหล่งน้ำในการเพาะปลูก พบว่า เป็นสระบ่อของตนเอง
พฤติกรรมการทำสวนผักในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ส่วนใหญ่เกษตรกรจะใช้ยาฆ่าแมลงแบบสารเคมี รองลงมาคือ มีการเว้นระยะการเก็บเกี่ยวหลังจากการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง
ผลการศึกษา การเปรียบเทียบพฤติกรรมการทำสวนผักของเกษตรกรในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พบว่า ช่วงอายุ ระดับการศึกษา รายได้ และอาชีพนอกภาคการเกษตรที่แตกต่างกันมีผลทำให้พฤติกรรมการทำสวนผักแตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย ส่วนเพศ ที่แตกต่างกันมีผลทำให้พฤติกรรมการทำสวนผักไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Chapter short Puncakการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทำสวนผักของเกษตรกรอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของพฤติกรรมในการทำสวนผักของเกษตรกรอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี และเพื่อศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะในการทำสวนผักของเกษตรกรในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ เกษตรกรที่ทำสวนผัก จำนวน 3005 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสัดส่วน ได้ตัวอย่างที่ต้องการศึกษาทั้งหมดจำนวน 350 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ย สถิติทดสอบที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of variance) และการเปรียบเทียบเชิงซ้อนด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Fisher’s Least Significant Difference : LSD)ผลการศึกษา พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย โดยมีอายุอยู่ในช่วง 41-45 ปี ระดับการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่จบมัธยมศึกษาตอนต้น รายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ในช่วง 10,000-15,000 บาท พื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมดน้อยกว่า7 ไร่ พื้นที่การทำสวนผักน้อยกว่า 5 ไร่ ส่วนใหญ่ใช่เงินทุนตัวเอง ได้ศึกษาการทำสวนผักด้วยตนเอง ใช้ระยะเวลาในการปลูกผัก 1-2 เดือน การเพาะปลูก พบว่ามี ปลูกผักบุ้งเป็นส่วนใหญ่ การใช้ปุ๋ยส่วนใหญ่ พบว่า เป็นปุ๋ยเคมี การใช้ยาฆ่าแมลงส่วนใหญ่ พบว่า เป็นยาฆ่าแมลงแบบสารเคมี ลักษณะการปลูกผัก พบว่า มีลักษณะการปลูกผักแบบหลายชนิด วิธีการจำหน่ายผัก พบว่า ขายส่งในตลาดพื้นที่ และแหล่งน้ำในการเพาะปลูก พบว่า เป็นสระบ่อของตนเองพฤติกรรมการทำสวนผักในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ส่วนใหญ่เกษตรกรจะใช้ยาฆ่าแมลงแบบสารเคมี รองลงมาคือ มีการเว้นระยะการเก็บเกี่ยวหลังจากการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงผลการศึกษา การเปรียบเทียบพฤติกรรมการทำสวนผักของเกษตรกรในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พบว่า ช่วงอายุ ระดับการศึกษา รายได้ และอาชีพนอกภาคการเกษตรที่แตกต่างกันมีผลทำให้พฤติกรรมการทำสวนผักแตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย ส่วนเพศ ที่แตกต่างกันมีผลทำให้พฤติกรรมการทำสวนผักไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The much abbreviated
.The much abbreviated
.The purpose of this research is To study the behavior of farmers growing vegetables at Nong SUEA District, Pathum Thani province. To compare the difference of behavior in vegetable gardening of farmers Nong SUEA District Pathum Thani province.Pathum Thani province. The population is farmers growing vegetables were 3005, using random sampling method and proportion. The sample to study the 350 people. Statistical frequency, percentage.LSD)
the results showed that the samples are mostly male, age range in 41-45 years, educational level, it was found that the majority of graduate school. Average income per month in the 10 000-15,,The average, t-test, and one-way analysis of variance (t-test) (One-Way Analysis of variance) and เปรียบเทียบเชิงซ้อน method least significant difference (Fisher 's Least Significant Difference:000 baht farming area than the 7 Rai area vegetable growing less than 5 rai. Most right capital itself. Study of vegetable gardening themselves, take time to grow vegetables 1-2 months cultivation has found, planting a morning glory.Discovered that a chemical fertilizer using pesticides mostly found as a chemical pesticides, the vegetable, it was found that the characteristics of several kinds of vegetables Method of selling vegetable wholesale market, it was found that in the area, and the water in the cultivation.Behavior of vegetable gardening in Nong SUEA District, Pathum Thani Province, most farmers use pesticides แบบสารเคมี, followed by a spaced harvest after the spraying of pesticides
.The study of comparison of farmers growing vegetables in Nong SUEA District, Pathum Thani Province, it was found that the age, education level, income. And career outside agriculture affects the behavior of different vegetable gardening is different.05 which, according to the hypothesis, sex, affect the behavior of different vegetable gardening 001 respectively significantly 0.05 which do not follow the hypothesis

.0.