บทคัดย่อ
สื่อวีซีดีเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีชนิดหนึ่งที่นำมาใช้ในการเรียนด้วยเสียงและภาพเคลื่อนไหว กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ เหมาะสำหรับการเรียนรู้ของเด็กอย่างแท้จริง เด็กจะเรียนโดยการซึมซับขณะที่ชมวีซีดีด้วยความสนุกสนานเพราะวิซีดีสามารถนำเสนอการใช้ภาษาในสถานการณ์ที่เหมือนจริงให้แก่ผู้เรียน ผู้เรียนสามารถรับชมภาพและได้ฟังเสียงของเจ้าของภาษาไปด้วยเหมาะอย่างยิ่งต่อการพัฒนาทักษะการพูด ซึ่งจุดประสงค์ของการสอนทักษะการพูดนั้นมุ่งเน้นให้ผู้เรียนนำไปใช้เพื่อการสื่อสารในสถานการณ์จริง ซึ่งผู้เรียนจะต้องปฏิบัติตามแบบหรือตัวอย่างที่ถูกต้องเพื่อนำไปสู่การพูดที่มีประสิทธิภาพ จึงได้นำสื่อวีซีดีมาใช้ในการเรียนการสอน การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีซีดีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน ผู้ร่วมศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ จำนวน 1คน และนักเรียนชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้าเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึงเดือนธันวาคม 2558 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 4แผน วีซีดี จำนวน 4 เรื่อง และแบบประเมินทักษะการพูด เทคนิคที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ การสังเกตแบบไม่มีโครงสร้างโดยการบันทึกวีดิโอ การสังเกตของผู้ร่วมศึกษาค้นคว้า โดยการสนทนา และการเขียนอนุทินของนักเรียน การตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคการตรวจสอบแบบสามเส้าผู้ศึกษาค้นคว้านำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ และเสนอผลการศึกษาค้นคว้าโดยวิธีพรรณนา
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
วงจรที่ 1 ผู้ศึกษาค้นคว้าได้จัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 พบว่า นักเรียนส่วนมากฝึกพูดจากวีซีดียังไม่คล่อง ไม่สามารถออกเสียงให้เหมือนเสียงของเจ้าของภาษา ไม่เข้าใจในเรื่องที่พูด ไม่กล้าแสดงท่าทางและน้ำเสียงประกอบการพูด สรุปได้ว่านักเรียนทั้งหมดผ่านเกณฑ์การประเมินทักษะการพูดร้อยละ 15 ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ตั้งไว้ร้อยละ 70
วงจรที่ 2 ผู้ศึกษาค้นคว้าได้จัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 พบว่า นักเรียนทุกคนมีความกระตือรือร้นในการเรียนดีมากในส่วนทักษะการพูดนักเรียนครึ่งหนึ่งของห้องสามารถพูดได้ถูกต้องตามเนื้อหา พูดได้คล่องแคล่ว ออกเสียง สำเนียงใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากและทำท่าทางประกอบการพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติส่วนนักเรียนอีกครึ่งหนึ่งยังพูดไม่คล่อง สำเนียงและการออกเสียงยังไม่ใกล้เคียงกับเสียงของเจ้าของภาษาไม่กล้าแสดงท่าทางประกอบการพูดสรุปได้ว่านักเรียนทั้งหมดผ่านเกณฑ์การประเมินทักษะการพูดร้อยละ 50 ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ตั้งไว้ร้อยละ 70
วงจรที่ 3 ผู้ศึกษาค้นคว้าได้จัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 พบว่า นักเรียนทุกคนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมดีมาก นักเรียนส่วนมากพูดได้ถูกต้องตามเนื้อหา มีความคล่องแคล่วมากขึ้น มีการทำท่าทางประกอบการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ นักเรียนส่วนน้อยขณะที่ร่วมกิจกรรมกลุ่มพูดได้ดีพอสมควร แต่ถ้ากิจกรรมเดี่ยวจะขาดความมั่นใจ พูดเป็นคำ ๆ หยุดเป็นช่วง ๆสรุปได้ว่านักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินทักษะการพูดร้อยละ 65 ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ตั้งไว้ร้อยละ 70
วงจรที่ 4 ผู้ศึกษาค้นคว้าได้จัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 ผลการแก้ปัญหาพบว่า นักเรียนที่เรียนอ่อนมีความมั่นใจมากขึ้น สามารถพูดได้ถูกต้องตามเนื้อหา มีความคล่องแคล่วมากขึ้น สำเนียงใกล้เคียงกับเสียงของเจ้าของภาษา กล้าที่จะทำท่าทางประกอบการพูด สรุปได้ว่านักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์การประเมินที่ตั้งไว้ร้อยละ 70
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีซีดีและกิจกรรมที่หลากหลาย ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการด้านทักษะการพูด ผ่านเกณฑ์การประเมิน สามารถพูดได้ถูกต้องตามเนื้อหา มีความคล่องแคล่วในการพูด และทำท่าทางประกอบการพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศของนักเรียนให้บรรลุจุดประสงค์ได้