ปลาบู่ทองณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเศรษฐีชื่อทอง มีภรรยา 2 คน ชื่อขนิษฐา แ การแปล - ปลาบู่ทองณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเศรษฐีชื่อทอง มีภรรยา 2 คน ชื่อขนิษฐา แ อังกฤษ วิธีการพูด

ปลาบู่ทองณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเศรษ

ปลาบู่ทอง

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเศรษฐีชื่อทอง มีภรรยา 2 คน ชื่อขนิษฐา และขนิษฐี นางขนิษฐาเป็นเมียหลวงมีลูกสาวชื่อเอื้อย เป็นคนสวยน่ารัก ใจบุญสุนทาน นางขนิษฐีภรรยาน้อย มีลูกสาว 2 คนคือ อ้าย และอี่ ดีกรีของความร้ายกาจหาที่เปรียบไม่ได้
ที่ท่าน้ำ
ทุกๆเช้าเศรษฐีทองออกไปทอดแหหาปลาจะมีภรรยาทั้ง 2 ผลัดเปลี่ยนกันเป็นคนพายเรือ

วันนี้เป็นวันที่นางขนิษฐาจะเป็นคนพายเรือ อากาศร้อนอบอ้าวมากเหมือนจะเป็นลางสังหรณ์อะไรสักอย่าง สัตว์เลี้ยงในบ้านไม่ว่าจะเป็นหมู เป็ด ไก่ แม้กระทั่งลิง ส่งเสียงระงม เดินมาส่งนางขนิษฐาที่ท่าน้ำ
“แม่จ๋า แม่พายเรือดีๆนะจ๊ะ แม่รีบกลับนะคะแม่” เอื้อยลูกสาว
“จ๊ะลูก ลูกต้องระวังตัวด้วยนะ อย่าดื้อกับน้า กับน้องนะลูก บาย”
“ค่ะแม่” “ พวกเรากลับกันเถอะพี่ลิง พี่หมู พี่เป็ด พี่ไก่ ตอนเย็นค่อยมาคอยรับแม่”
ในเรือ
บ่ายคล้อยแล้วสอง สามีภรรยาทอดแหไม่ได้ปลาสักตัว เศรษฐีทองก็เริ่มโมโห
“แกนี่ตัวซวยพายเรือมาทีไรจับปลาไม่เคยได้”

“กลับเถอะพี่ จะจับไปทำไมเราร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี”
“ข้ายังไม่รวย เข้าใจไหม คำว่า “ไม่พอ” ถ้าเมื่อไหร่ที่ข้าบอกว่า”พอ”นั่นเหละ “ข้ารวย”
“แกอย่าส่งเสียงดังเหมือนปลามาติดร่างแหแล้ว” “ใช่จริงๆ ปลาบู่ตัวโตเชียว เย็นนี้ข้ากินปลาตัวนี้”
“พี่ปล่อยมันไปเถอะ”
“อีนี่อยากตายหรือไง” “พายต่อไป เผื่อมันจะมาติดอีกสักตัว”
“จ๊ะพี่”
เศรษฐีทองก็ทอดแหต่อไป ส่วนนางขนิษฐาก็แอบเอาปลาบู่ทิ้งน้ำ
“แกๆๆๆเอาปลาบู่ไปทิ้งทำไม อยากตายนะมึง” ว่าแล้วก็เอาไม้พายตีนางขนิษฐาตกน้ำไป แล้วตัวเองก็พายเรือกลับบ้าน
ที่บ้าน
เอื้อยผู้น่าสงสารก็กวาดบ้านโดยมีอ้าย และอี่ ดุด่า ใช้งานอยู่ เศรษฐีทองเดินขึ้นบ้านมาคนเดียว นางขนิษฐีภรรยาน้อยออกไปต้อนรับ
“พี่ขากลับมาแล้วได้ปลาเยอะไหมคะพี่”
“พ่อกลับมาแล้ว แม่ละคะ” เอื้อยถามถึงแม่
“แม่แกนะเหรอไปรอซิที่ท่าน้ำไม่เกิน 3 วันก็มา” เศรษฐีตอบเอื้อย

“พี่ขาน้องดีใจมากๆเลยค่ะที่พี่กลับมาคนเดียวและเป็นของน้องคนเดียว มีความสุขจริงจริ๊ง 5555”
ยามว่างเอื้อยลงไปที่ท่าน้ำร้องเรียกแม่
“แม่จ๋ากลับมาเร็วๆนะคะแม่ เอื้อยคิดถึงแม่ค่ะ” เอื้อยคร่ำครวญ
ในน้ำ
หอย ปู ปลา กุ้งที่อยู่ในน้ำคุยปรึกษากัน
“พี่หอยจ๋า ปูอยากบอกพี่เอื้อยเหลือเกินว่าแม่ตายแล้ว” กุ้งแทรกขึ้นมาว่า”อย่าเลยเดี่ยวพี่เอื้อยรับไม่ได้”
“ใช่ๆ ให้เวลารักษาพี่เอื้อยก่อนเถอะ เราขึ้นไปปลอบพี่เอื้อยดีกว่า” ปลาแนะนำ
ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ก็ขึ้นมาคุยกับเอื้อย
“เอื้อยคิดถึงแม่เหลือเกิน” “แม่จ๋ากลับมาหาเอื้อยเถอะค่ะ”
“แม่กลับมาแล้วลูก” เสียงจากปลาบู่ตัวโตที่เพิ่งว่ายน้ำเข้ามา ปลาบู่จึงเล่าเหตุการณ์ร้ายให้ลูกฟัง
แม่จ๋าแม่อยู่ในน้ำนี่นะจ๊ะ ลูกจะเอารำข้าวมาให้
ทุกวัน เอื้อยจะนำรำข้าวมาโปรยให้แม่ทาน อย่างมีความสุข แต่ความสุขอยู่ไม่นาน อี่เห็นสะกดรอยตามเมื่อรู้ก็ไปบอกอ้าย “พี่อ้ายเราต้องจับปลาตัวนั้นมาให้แม่ต้มเปรตให้เราทาน”

“ช่ายๆๆเรื่องร้ายๆพี่ถนัด ไปกันเถอะ” สองพี่น้องก็จับปลาบู่มาให้นางขนิษฐีต้มเปรต ช่วยกันกินเหลือแต่เกร็ดปลาสีทองซึ่งเป็ดคาบมาจากใต้ถุน
“พี่เอื้อยจ๋าตอนที่พี่เอื้อยไปให้อาหารหมู อ้ายจับแม่ปลาบู่มากิน เหลือเกล็ดปลาอยู่เกร็ดเดียวนี่ล่ะ”
“พี่จะพาฝังดินไว้” 3 วันต่อมา เกล็ดปลาที่ฝังไว้กลายเป็นต้นมะเขือ เอื้อยแสนจะดีใจที่จะมีแม่คุยด้วย
“แม่จ่าดีใจจังเลย เราได้คุยกันอีก”
“นั่นซิลูก”
ไม่รอดพ้นสายตาที่สอดรู้สอดเห็นของอ้ายและอี่ได้ สองพี่น้องจึงถอนต้นมะเขือทิ้ง เอาลูกไปใส่แกง คราวนี้ไก่ก็จิกเมล็ดมาให้ เอื้อย
“พี่เอื้อยอีกแล้วเหลือแต่เมล็ดมะเขืออยู่เมล็ดเดียว”
เอื้อยจึงพาไปฝังดิน กลายเป็นต้นโพธิ์ที่สวยงาม ไม่มีใครมาทำร้ายแม่ของเอื้อยได้อีก ยามว่างเอื้อยก็จะมาคุยกับแม่
ท้าวทรงธรรม กษัตริย์เมืองพาราณสี ซึ่งปกครองบ้านเมืองอย่างร่มเย็นเป็นสุข ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล แต่ท้าวทรงธรรมขาดมเหสีเคียงคู่ จึงได้ออกประพาสตามหมู่บ้านชานเมือง ได้มาพบต้นโพธิ์ทองกับเอื้อย ทรงพอพระทัยจึงให้ไพล่พลขุดแต่ไม่สำเร็จ เอื้อยจึงขออนุญาตแม่

“แม่จ๋า พระราชาท่านจะพาแม่ไปในอยู่ในวัง แม่ไปกับพระองค์ท่านเถอะ” สิ้นคำพูด ไพล่พลก็สามารถขุดต้นโพธิ์ออกได้
“ ไม่หรอกเราจะนำเจ้าไปด้วย เจ้าเป็นคนที่มีบุญญาธิการสมควรที่จะเป็นมเหสีของข้า”
จบการแสดง

แต่นิทานเรื่องปลาบู่ทองมิได้จบเพียงแค่นี้ เพราะเอื้อยเข้าไปอยู่ในวัง นางขนิษฐีก็ออกอุบายให้เอื้อยมาเยี่ยมพ่อที่บ้านโดนกับดักต้องตกลงไปในกะทะน้ำร้อนตายกลายเป็นนกแขกเต้า อ้ายก็ปลอมตัวเป็นเอื้อยเข้าวัง นกแขกเต้าก็บินกลับมาหาท้าวทรงธรรม อ้ายจับได้เอาได้แม่ครัวแกง แต่นกแขกเต้าหนีได้ไปพึ่งฤาษี ฤาษีก็ชุบชีวิตให้เอื้อยกลายเป็นคน แล้วเสกลูกชายให้เอื้อยเลี้ยงแก้เหงา เมื่อลูกถามถึงพ่อเอื้อยจึงเล่าเรื่องอดีตให้ลูกฟัง ลูกชายของเอื้อยจึงเดินทางเข้าวังไปทูลความจริงให้ท้าวทรงธรรมทรงทราบ ท้าวทรงธรรมจึงจัดขบวนไปรับเอื้อยเข้าวัง ส่วนอ้ายกลัวความผิดชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน ที่จริงแล้วเอื้อยได้ทูลขอชีวิตอ้ายไว้แล้ว

Happy ending………
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ปลาบู่ทองณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเศรษฐีชื่อทอง มีภรรยา 2 คน ชื่อขนิษฐา และขนิษฐี นางขนิษฐาเป็นเมียหลวงมีลูกสาวชื่อเอื้อย เป็นคนสวยน่ารัก ใจบุญสุนทาน นางขนิษฐีภรรยาน้อย มีลูกสาว 2 คนคือ อ้าย และอี่ ดีกรีของความร้ายกาจหาที่เปรียบไม่ได้ที่ท่าน้ำทุกๆเช้าเศรษฐีทองออกไปทอดแหหาปลาจะมีภรรยาทั้ง 2 ผลัดเปลี่ยนกันเป็นคนพายเรือวันนี้เป็นวันที่นางขนิษฐาจะเป็นคนพายเรือ อากาศร้อนอบอ้าวมากเหมือนจะเป็นลางสังหรณ์อะไรสักอย่าง สัตว์เลี้ยงในบ้านไม่ว่าจะเป็นหมู เป็ด ไก่ แม้กระทั่งลิง ส่งเสียงระงม เดินมาส่งนางขนิษฐาที่ท่าน้ำ“แม่จ๋า แม่พายเรือดีๆนะจ๊ะ แม่รีบกลับนะคะแม่” เอื้อยลูกสาว“จ๊ะลูก ลูกต้องระวังตัวด้วยนะ อย่าดื้อกับน้า กับน้องนะลูก บาย”“ค่ะแม่” “ พวกเรากลับกันเถอะพี่ลิง พี่หมู พี่เป็ด พี่ไก่ ตอนเย็นค่อยมาคอยรับแม่”ในเรือบ่ายคล้อยแล้วสอง สามีภรรยาทอดแหไม่ได้ปลาสักตัว เศรษฐีทองก็เริ่มโมโห“แกนี่ตัวซวยพายเรือมาทีไรจับปลาไม่เคยได้”“กลับเถอะพี่ จะจับไปทำไมเราร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี”“ข้ายังไม่รวย เข้าใจไหม คำว่า “ไม่พอ” ถ้าเมื่อไหร่ที่ข้าบอกว่า”พอ”นั่นเหละ “ข้ารวย”“แกอย่าส่งเสียงดังเหมือนปลามาติดร่างแหแล้ว” “ใช่จริงๆ ปลาบู่ตัวโตเชียว เย็นนี้ข้ากินปลาตัวนี้”“พี่ปล่อยมันไปเถอะ”
“อีนี่อยากตายหรือไง” “พายต่อไป เผื่อมันจะมาติดอีกสักตัว”
“จ๊ะพี่”
เศรษฐีทองก็ทอดแหต่อไป ส่วนนางขนิษฐาก็แอบเอาปลาบู่ทิ้งน้ำ
“แกๆๆๆเอาปลาบู่ไปทิ้งทำไม อยากตายนะมึง” ว่าแล้วก็เอาไม้พายตีนางขนิษฐาตกน้ำไป แล้วตัวเองก็พายเรือกลับบ้าน
ที่บ้าน
เอื้อยผู้น่าสงสารก็กวาดบ้านโดยมีอ้าย และอี่ ดุด่า ใช้งานอยู่ เศรษฐีทองเดินขึ้นบ้านมาคนเดียว นางขนิษฐีภรรยาน้อยออกไปต้อนรับ
“พี่ขากลับมาแล้วได้ปลาเยอะไหมคะพี่”
“พ่อกลับมาแล้ว แม่ละคะ” เอื้อยถามถึงแม่
“แม่แกนะเหรอไปรอซิที่ท่าน้ำไม่เกิน 3 วันก็มา” เศรษฐีตอบเอื้อย

“พี่ขาน้องดีใจมากๆเลยค่ะที่พี่กลับมาคนเดียวและเป็นของน้องคนเดียว มีความสุขจริงจริ๊ง 5555”
ยามว่างเอื้อยลงไปที่ท่าน้ำร้องเรียกแม่
“แม่จ๋ากลับมาเร็วๆนะคะแม่ เอื้อยคิดถึงแม่ค่ะ” เอื้อยคร่ำครวญ
ในน้ำ
หอย ปู ปลา กุ้งที่อยู่ในน้ำคุยปรึกษากัน
“พี่หอยจ๋า ปูอยากบอกพี่เอื้อยเหลือเกินว่าแม่ตายแล้ว” กุ้งแทรกขึ้นมาว่า”อย่าเลยเดี่ยวพี่เอื้อยรับไม่ได้”
“ใช่ๆ ให้เวลารักษาพี่เอื้อยก่อนเถอะ เราขึ้นไปปลอบพี่เอื้อยดีกว่า” ปลาแนะนำ
ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ก็ขึ้นมาคุยกับเอื้อย
“เอื้อยคิดถึงแม่เหลือเกิน” “แม่จ๋ากลับมาหาเอื้อยเถอะค่ะ”
“แม่กลับมาแล้วลูก” เสียงจากปลาบู่ตัวโตที่เพิ่งว่ายน้ำเข้ามา ปลาบู่จึงเล่าเหตุการณ์ร้ายให้ลูกฟัง
แม่จ๋าแม่อยู่ในน้ำนี่นะจ๊ะ ลูกจะเอารำข้าวมาให้
ทุกวัน เอื้อยจะนำรำข้าวมาโปรยให้แม่ทาน อย่างมีความสุข แต่ความสุขอยู่ไม่นาน อี่เห็นสะกดรอยตามเมื่อรู้ก็ไปบอกอ้าย “พี่อ้ายเราต้องจับปลาตัวนั้นมาให้แม่ต้มเปรตให้เราทาน”

“ช่ายๆๆเรื่องร้ายๆพี่ถนัด ไปกันเถอะ” สองพี่น้องก็จับปลาบู่มาให้นางขนิษฐีต้มเปรต ช่วยกันกินเหลือแต่เกร็ดปลาสีทองซึ่งเป็ดคาบมาจากใต้ถุน
“พี่เอื้อยจ๋าตอนที่พี่เอื้อยไปให้อาหารหมู อ้ายจับแม่ปลาบู่มากิน เหลือเกล็ดปลาอยู่เกร็ดเดียวนี่ล่ะ”
“พี่จะพาฝังดินไว้” 3 วันต่อมา เกล็ดปลาที่ฝังไว้กลายเป็นต้นมะเขือ เอื้อยแสนจะดีใจที่จะมีแม่คุยด้วย
“แม่จ่าดีใจจังเลย เราได้คุยกันอีก”
“นั่นซิลูก”
ไม่รอดพ้นสายตาที่สอดรู้สอดเห็นของอ้ายและอี่ได้ สองพี่น้องจึงถอนต้นมะเขือทิ้ง เอาลูกไปใส่แกง คราวนี้ไก่ก็จิกเมล็ดมาให้ เอื้อย
“พี่เอื้อยอีกแล้วเหลือแต่เมล็ดมะเขืออยู่เมล็ดเดียว”
เอื้อยจึงพาไปฝังดิน กลายเป็นต้นโพธิ์ที่สวยงาม ไม่มีใครมาทำร้ายแม่ของเอื้อยได้อีก ยามว่างเอื้อยก็จะมาคุยกับแม่
ท้าวทรงธรรม กษัตริย์เมืองพาราณสี ซึ่งปกครองบ้านเมืองอย่างร่มเย็นเป็นสุข ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล แต่ท้าวทรงธรรมขาดมเหสีเคียงคู่ จึงได้ออกประพาสตามหมู่บ้านชานเมือง ได้มาพบต้นโพธิ์ทองกับเอื้อย ทรงพอพระทัยจึงให้ไพล่พลขุดแต่ไม่สำเร็จ เอื้อยจึงขออนุญาตแม่

“แม่จ๋า พระราชาท่านจะพาแม่ไปในอยู่ในวัง แม่ไปกับพระองค์ท่านเถอะ” สิ้นคำพูด ไพล่พลก็สามารถขุดต้นโพธิ์ออกได้
“ ไม่หรอกเราจะนำเจ้าไปด้วย เจ้าเป็นคนที่มีบุญญาธิการสมควรที่จะเป็นมเหสีของข้า”
จบการแสดง

แต่นิทานเรื่องปลาบู่ทองมิได้จบเพียงแค่นี้ เพราะเอื้อยเข้าไปอยู่ในวัง นางขนิษฐีก็ออกอุบายให้เอื้อยมาเยี่ยมพ่อที่บ้านโดนกับดักต้องตกลงไปในกะทะน้ำร้อนตายกลายเป็นนกแขกเต้า อ้ายก็ปลอมตัวเป็นเอื้อยเข้าวัง นกแขกเต้าก็บินกลับมาหาท้าวทรงธรรม อ้ายจับได้เอาได้แม่ครัวแกง แต่นกแขกเต้าหนีได้ไปพึ่งฤาษี ฤาษีก็ชุบชีวิตให้เอื้อยกลายเป็นคน แล้วเสกลูกชายให้เอื้อยเลี้ยงแก้เหงา เมื่อลูกถามถึงพ่อเอื้อยจึงเล่าเรื่องอดีตให้ลูกฟัง ลูกชายของเอื้อยจึงเดินทางเข้าวังไปทูลความจริงให้ท้าวทรงธรรมทรงทราบ ท้าวทรงธรรมจึงจัดขบวนไปรับเอื้อยเข้าวัง ส่วนอ้ายกลัวความผิดชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน ที่จริงแล้วเอื้อยได้ทูลขอชีวิตอ้ายไว้แล้ว

Happy ending………
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ปลาบู่ทอง

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเศรษฐีชื่อทอง มีภรรยา 2 คน ชื่อขนิษฐา และขนิษฐี นางขนิษฐาเป็นเมียหลวงมีลูกสาวชื่อเอื้อย เป็นคนสวยน่ารัก ใจบุญสุนทาน นางขนิษฐีภรรยาน้อย มีลูกสาว 2 คนคือ อ้าย และอี่ ดีกรีของความร้ายกาจหาที่เปรียบไม่ได้
ที่ท่าน้ำ
ทุกๆเช้าเศรษฐีทองออกไปทอดแหหาปลาจะมีภรรยาทั้ง 2 ผลัดเปลี่ยนกันเป็นคนพายเรือ

วันนี้เป็นวันที่นางขนิษฐาจะเป็นคนพายเรือ อากาศร้อนอบอ้าวมากเหมือนจะเป็นลางสังหรณ์อะไรสักอย่าง สัตว์เลี้ยงในบ้านไม่ว่าจะเป็นหมู เป็ด ไก่ แม้กระทั่งลิง ส่งเสียงระงม เดินมาส่งนางขนิษฐาที่ท่าน้ำ
“แม่จ๋า แม่พายเรือดีๆนะจ๊ะ แม่รีบกลับนะคะแม่” เอื้อยลูกสาว
“จ๊ะลูก ลูกต้องระวังตัวด้วยนะ อย่าดื้อกับน้า กับน้องนะลูก บาย”
“ค่ะแม่” “ พวกเรากลับกันเถอะพี่ลิง พี่หมู พี่เป็ด พี่ไก่ ตอนเย็นค่อยมาคอยรับแม่”
ในเรือ
บ่ายคล้อยแล้วสอง สามีภรรยาทอดแหไม่ได้ปลาสักตัว เศรษฐีทองก็เริ่มโมโห
“แกนี่ตัวซวยพายเรือมาทีไรจับปลาไม่เคยได้”

“กลับเถอะพี่ จะจับไปทำไมเราร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี”
“ข้ายังไม่รวย เข้าใจไหม คำว่า “ไม่พอ” ถ้าเมื่อไหร่ที่ข้าบอกว่า”พอ”นั่นเหละ “ข้ารวย”
“แกอย่าส่งเสียงดังเหมือนปลามาติดร่างแหแล้ว” “ใช่จริงๆ ปลาบู่ตัวโตเชียว เย็นนี้ข้ากินปลาตัวนี้”
“พี่ปล่อยมันไปเถอะ”
“อีนี่อยากตายหรือไง” “พายต่อไป เผื่อมันจะมาติดอีกสักตัว”
“จ๊ะพี่”
เศรษฐีทองก็ทอดแหต่อไป ส่วนนางขนิษฐาก็แอบเอาปลาบู่ทิ้งน้ำ
“แกๆๆๆเอาปลาบู่ไปทิ้งทำไม อยากตายนะมึง” ว่าแล้วก็เอาไม้พายตีนางขนิษฐาตกน้ำไป แล้วตัวเองก็พายเรือกลับบ้าน
ที่บ้าน
เอื้อยผู้น่าสงสารก็กวาดบ้านโดยมีอ้าย และอี่ ดุด่า ใช้งานอยู่ เศรษฐีทองเดินขึ้นบ้านมาคนเดียว นางขนิษฐีภรรยาน้อยออกไปต้อนรับ
“พี่ขากลับมาแล้วได้ปลาเยอะไหมคะพี่”
“พ่อกลับมาแล้ว แม่ละคะ” เอื้อยถามถึงแม่
“แม่แกนะเหรอไปรอซิที่ท่าน้ำไม่เกิน 3 วันก็มา” เศรษฐีตอบเอื้อย

“พี่ขาน้องดีใจมากๆเลยค่ะที่พี่กลับมาคนเดียวและเป็นของน้องคนเดียว มีความสุขจริงจริ๊ง 5555”
ยามว่างเอื้อยลงไปที่ท่าน้ำร้องเรียกแม่
“แม่จ๋ากลับมาเร็วๆนะคะแม่ เอื้อยคิดถึงแม่ค่ะ” เอื้อยคร่ำครวญ
ในน้ำ
หอย ปู ปลา กุ้งที่อยู่ในน้ำคุยปรึกษากัน
“พี่หอยจ๋า ปูอยากบอกพี่เอื้อยเหลือเกินว่าแม่ตายแล้ว” กุ้งแทรกขึ้นมาว่า”อย่าเลยเดี่ยวพี่เอื้อยรับไม่ได้”
“ใช่ๆ ให้เวลารักษาพี่เอื้อยก่อนเถอะ เราขึ้นไปปลอบพี่เอื้อยดีกว่า” ปลาแนะนำ
ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ก็ขึ้นมาคุยกับเอื้อย
“เอื้อยคิดถึงแม่เหลือเกิน” “แม่จ๋ากลับมาหาเอื้อยเถอะค่ะ”
“แม่กลับมาแล้วลูก” เสียงจากปลาบู่ตัวโตที่เพิ่งว่ายน้ำเข้ามา ปลาบู่จึงเล่าเหตุการณ์ร้ายให้ลูกฟัง
แม่จ๋าแม่อยู่ในน้ำนี่นะจ๊ะ ลูกจะเอารำข้าวมาให้
ทุกวัน เอื้อยจะนำรำข้าวมาโปรยให้แม่ทาน อย่างมีความสุข แต่ความสุขอยู่ไม่นาน อี่เห็นสะกดรอยตามเมื่อรู้ก็ไปบอกอ้าย “พี่อ้ายเราต้องจับปลาตัวนั้นมาให้แม่ต้มเปรตให้เราทาน”

“ช่ายๆๆเรื่องร้ายๆพี่ถนัด ไปกันเถอะ” สองพี่น้องก็จับปลาบู่มาให้นางขนิษฐีต้มเปรต ช่วยกันกินเหลือแต่เกร็ดปลาสีทองซึ่งเป็ดคาบมาจากใต้ถุน
“พี่เอื้อยจ๋าตอนที่พี่เอื้อยไปให้อาหารหมู อ้ายจับแม่ปลาบู่มากิน เหลือเกล็ดปลาอยู่เกร็ดเดียวนี่ล่ะ”
“พี่จะพาฝังดินไว้” 3 วันต่อมา เกล็ดปลาที่ฝังไว้กลายเป็นต้นมะเขือ เอื้อยแสนจะดีใจที่จะมีแม่คุยด้วย
“แม่จ่าดีใจจังเลย เราได้คุยกันอีก”
“นั่นซิลูก”
ไม่รอดพ้นสายตาที่สอดรู้สอดเห็นของอ้ายและอี่ได้ สองพี่น้องจึงถอนต้นมะเขือทิ้ง เอาลูกไปใส่แกง คราวนี้ไก่ก็จิกเมล็ดมาให้ เอื้อย
“พี่เอื้อยอีกแล้วเหลือแต่เมล็ดมะเขืออยู่เมล็ดเดียว”
เอื้อยจึงพาไปฝังดิน กลายเป็นต้นโพธิ์ที่สวยงาม ไม่มีใครมาทำร้ายแม่ของเอื้อยได้อีก ยามว่างเอื้อยก็จะมาคุยกับแม่
ท้าวทรงธรรม กษัตริย์เมืองพาราณสี ซึ่งปกครองบ้านเมืองอย่างร่มเย็นเป็นสุข ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล แต่ท้าวทรงธรรมขาดมเหสีเคียงคู่ จึงได้ออกประพาสตามหมู่บ้านชานเมือง ได้มาพบต้นโพธิ์ทองกับเอื้อย ทรงพอพระทัยจึงให้ไพล่พลขุดแต่ไม่สำเร็จ เอื้อยจึงขออนุญาตแม่

“แม่จ๋า พระราชาท่านจะพาแม่ไปในอยู่ในวัง แม่ไปกับพระองค์ท่านเถอะ” สิ้นคำพูด ไพล่พลก็สามารถขุดต้นโพธิ์ออกได้
“ ไม่หรอกเราจะนำเจ้าไปด้วย เจ้าเป็นคนที่มีบุญญาธิการสมควรที่จะเป็นมเหสีของข้า”
จบการแสดง

แต่นิทานเรื่องปลาบู่ทองมิได้จบเพียงแค่นี้ เพราะเอื้อยเข้าไปอยู่ในวัง นางขนิษฐีก็ออกอุบายให้เอื้อยมาเยี่ยมพ่อที่บ้านโดนกับดักต้องตกลงไปในกะทะน้ำร้อนตายกลายเป็นนกแขกเต้า อ้ายก็ปลอมตัวเป็นเอื้อยเข้าวัง นกแขกเต้าก็บินกลับมาหาท้าวทรงธรรม อ้ายจับได้เอาได้แม่ครัวแกง แต่นกแขกเต้าหนีได้ไปพึ่งฤาษี ฤาษีก็ชุบชีวิตให้เอื้อยกลายเป็นคน แล้วเสกลูกชายให้เอื้อยเลี้ยงแก้เหงา เมื่อลูกถามถึงพ่อเอื้อยจึงเล่าเรื่องอดีตให้ลูกฟัง ลูกชายของเอื้อยจึงเดินทางเข้าวังไปทูลความจริงให้ท้าวทรงธรรมทรงทราบ ท้าวทรงธรรมจึงจัดขบวนไปรับเอื้อยเข้าวัง ส่วนอ้ายกลัวความผิดชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน ที่จริงแล้วเอื้อยได้ทูลขอชีวิตอ้ายไว้แล้ว

Happy ending………
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ปลาบู่ทอง

.At the village of one with rich gold name has a wife 2 man named sister and younger sister, her sister เป็นเมียหลวง has a daughter named เอื้อย is pretty cute. Philanthropist her younger sister a concubine's daughter 2 people, and Yi.At the dock
every morning gold out Joker fish are rich wives 2 rotate to a rower

.Today is her younger sister is the oarsman. The hot weather very much like to bode something. Pets in the home such as pigs, ducks, chickens, even monkeys, a heated, walk นางขนิษฐา bath
."Mom, did you a good. You hurry back, mom." เอื้อย daughter
"baby, you have to be careful with it. Be good to you and your brother. Bye"
"Mom." "Let's go pee monkey, you pig, you duck, chicken, in the evening you can keep mother"
.In the late afternoon and two ships. Husband and wife Joker not fish one. The rich gold started off
"you jinx rowing coming catch never"

"go back you. Why do we will catch the wealthy tycoon "
."I'm still not rich, okay?" "not enough" when I said, "that's enough." "I will be rich"
"you don't make a sound like a fish to jail then." "yes, really big goby. This evening I eat this fish. "
" I let it go. "
."Bitch wants to die?" "pie. If it is stuck in a"
"baby sister"
millionaire gold next Joker And her sister secretly bring water goby
."You can really get to leave why die goby man" then he took the oars beat her sister fall into the water. You paddle home home
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: