การที่กฎหมายจะเป็นกฎหมายได้นั้น มันเริ่มต้นมาจากมนุษย์เพราะมนุษย์เป็นก การแปล - การที่กฎหมายจะเป็นกฎหมายได้นั้น มันเริ่มต้นมาจากมนุษย์เพราะมนุษย์เป็นก อังกฤษ วิธีการพูด

การที่กฎหมายจะเป็นกฎหมายได้นั้น มัน

การที่กฎหมายจะเป็นกฎหมายได้นั้น มันเริ่มต้นมาจากมนุษย์เพราะมนุษย์เป็นกฎหมายและอีกหลายสิ่งหลายอย่างในโลกมนุษย์ กฎหมายได้เริ่มมาจากประวัติศาสตร์กฎหมายมีความใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาอารยธรรม และเป็นตัวที่กำหนดบริบทของให้กับประวัติศาสตร์ของสังคมอย่างกว้างขวางอีกด้วย ในบรรดานักกฎหมายและนักประวัติศาสตร์กฎหมาย ซึ่งใช้มุมมองในการมองกฎหมายในรูปแบบของความเป็นไปของพัฒนาการของกฎหมายและการอธิบายหลักกฎหมาย กฎหมายได้มีวิวัฒนาการหลายยุค ยุคที่1 กฎหมายชาวบ้าน (Volksrecht) กฎหมายในยุคนี้ปรากฏออกมาในรูปแบบของขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี ซึ่งมีองค์ประกอบสองประการคือ องค์ประกอบภายนอก คือต้องประพฤติปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและเป็นเวลานมนาน ส่วนองค์ประกอบภายใน ได้แก่สิ่งที่ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอนั้นได้รับการยอมรับกันในชุมชนว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ยุคที่2ยุคกฎหมายนักกฎหมาย (Juristenrecht) หรือหลักกฎหมายเป็นยุคที่กฎหมายเจริญขึ้นต่อจากยุคแรก ยุคแรกคนยังไม่สามารถแยกกฎหมายออกจากศีลธรรม แต่พอมาถึงยุคที่ 2 นี้ คนจะเริ่มมองเห็นว่ากฎหมายเป็นกฎเกณฑ์อีกแบบหนึ่งซึ่งแตกต่างจากศีลธรรมและจารีตประเพณี โดยเฉพาะกฎหมายที่เป็นขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี และยุคสุดท้าย ยุคที่3 ยุคกฎหมายเทคนิค (Technical Law) เมื่อสังคมเจริญขึ้น การติดต่อระหว่างคนในสังคมมีมากขึ้นและใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซับซ้อนยิ่งขึ้น เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตก็มีมากขึ้น ทำให้มีข้อขัดแย้งในสังคมมากขึ้น กฎเกณฑ์ที่เป็นแต่ขนบธรรมเนียมประเพณีไม่เพียงพอ จึงจำต้องมีกฎเกณฑ์ที่บัญญัติขึ้นมาทันทีเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ต่อมาวิวัฒนาการในยุคโรมันได้เกิดขึ้นกฎหมายในอดีตกาลที่มีอิทธิพลต่อกฎหมายปัจจุบันในภาคพื้นยุโรป ในอเมริกาใต้และบางประเทศในภาคพื้นเอเชียน่าจะได้แก่กฎหมายโรมัน
กฎหมายโรมันถือกำเนิดขึ้นในอาณาจักรโรมัน เมื่อปี 753 ก่อนคริสตกาล แบ่งการปกครองออกเป็นสามยุค คือยุคที่หนึ่ง ได้แก่ ยุคกษัตริย์ (Regal period) ตั้งแต่ปี 753-509 ก่อนคริสตกาล ยุคที่สอง ได้แก่ ยุคสาธารณรัฐ (Republic period) ตั้งแต่ปี 509 ถึงปี27 ก่อนคริสตกาล และยุคที่สาม ได้แก่ ยุคจักรวรรดิ์ (Imperial period) ตั้งแต่ปีที่ 27 ก่อน คริสตศักราชถึงปีคริสตศักราชที่ 565 และได้มีการจัดทำกฎหมาย12โต๊ะขึ้นพวกโรมันมีการประมวลกฎหมายเป็นครั้งแรกในยุคสาธารณรัฐเมื่อปี 451 ก่อนคริสตกาล สาเหตุหลักของการประมวลกฎหมายก็เนื่องจากมีการขัดแย้งกันระหว่างชนชั้น โดยในอาณาจักรโรมันขณะนั้นมีการแบ่งประชาชนออกเป็นสองชนชั้น คือกลุ่มหนึ่งเรียกกันว่าพวกพาทรีเซียน (Patrician) ซึ่งเป็นชั้นปกครองกับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นพวกสามัญชน เรียกกันว่า พวกเพลบเบียน (Plebeian)เกษตรกร นอกจากนี้บางตำรายังมีการกล่าวว่ามีชนชั้นที่สามซึ่งได้แก่พวก ไคลเอนท์ (Client) พวกไคลเอนท์เป็นพวกที่ลี้ภัยจากสงครามและอพยพมาพึ่งพาอาศัยอยู่กับชนชั้นสูง ในลักษณะที่ชนชั้นสูงเป็นผู้ให้ความอุปการะโดยมอบที่ดินให้แก่พวก ไคลเอนท์ทำกิน ต่อมาการสืบทอดกฎหมายโรมันสู่โลกสมัยใหม่
นับตั้งแต่จักรพรรดิจัสติเนียนได้ประมวลกฎหมายโรมันที่รวมเรียกในภายหลังว่า Copus Juris Civilis แล้ว ก็ได้มีการใช้กฎหมายนี้ในโรมันตะวันออกสืบทอดมาจนกระทั่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลตกอยู่ในอำนาจของพวกเตอร์กในปี ค.ศ.1453 จักรพรรดิจัสติเนียนทรงห้ามมิให้เขียนคำอธิบายกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีข้อขัดแย้งกันในภายหลัง แต่มีข้อยกเว้นอยู่ 2 ประการคือ ไม่ห้ามการทำดัชนีและการสรุปย่อข้อความกฎหมายของแต่ละหน้า ท้ายที่สุดข้อห้ามของจักรพรรดิจัสติเนียนก็ถูกละเลยโดยปริยายเมื่อมีการเรียบเรียงกฎหมายที่มีอยู่ใน Code, Digest และ Novels เสียใหม่เป็นภาษากรีกให้สั้นและง่ายอยู่ในเล่มเดียวกัน เรียกว่า Basilica จักรพรรดิลิโอ (Emperor Leo the Wise)1
สำหรับในจักรวรรดิโรมันตะวันตกนั้น เมื่อจักรวรรดิตกอยู่ในอำนาจของพวก อนารยชนแล้ว ชาวโรมันทางใต้ซึ่งได้แก่พวกที่อยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี ก็ถูกปกครองโดยกฎหมายโรมันผสมกับกฎหมายเผ่าชนของพวกอนารยชน ได้แก่ Lex Romana Visigothorum ส่วน Code, Institutes และ Novels ก็เป็นที่รู้จักสืบต่อมาบ้างในอิตาลี สำหรับ Digest นั้น ผู้คนได้ลืมหมดเสียแล้ว ในทางตอนเหนือของยุโรปไม่ปรากฏร่องรอยของกฎหมายโรมันเหลืออยู่เลย ได้นำมาประกาศใช้เป็นกฎหมาย จึงทำให้กฎหมายโรมันใช้กันต่อมาจนปี ค.ศ. 1453 นอกจากนี้ยังมีคู่มือกฎหมายที่เรียบเรียงโดยผู้พิพากษาแห่งเมืองซาโลนิกา (Salonica) ในปี ค.ศ.1345 ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นหลักกฎหมายของประเทศกรีกจนกระทั่งถูกยกเลิกไปเมื่อมีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งในปี ค.ศ.1946
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
The law is the law, it originates from a human, because humans are legal, and many many things in the human world. The law was derived from the history of law is closely as crucial to development and as a civilization that define the context of the history of the sangkhomayangkwang diagonal. Among lawyers and legal historian, which is used to view the law as a form of development of laws and legal principles description. The law has many evolutionary era era 1. Legal residents of this medieval law (Volksrecht) appears in the format of the customary tradition, which has two elements: an external element is required to perform on a regular basis and for a period of long ago. The element within the section: the things that regular practice is recognized in the community as to what is correct. Era 2 era law lawyers (Juristenrecht), or the age of legal principle is growing up from the first age. The first generation of people to not be able to distinguish the law from morality, but comes to this person will start at age 2 see that laws are the rules which differ from one another, morality and tradition, particularly as traditional customary law, and the final third age. Legal age technique (Technical Law) when a society growing up. The contact between the people in a society with more and more intimate. Tools for life, they are more. Cause conflict in the greater society. In a manner that is not enough, but assimilated so there must be a rule that the law came up immediately to solve the problem. Later, the Roman era in the evolution has occurred in the past tense, that influence the current law in the European continental. In South America, and some countries in Asia is likely to include a Roman law.กฎหมายโรมันถือกำเนิดขึ้นในอาณาจักรโรมัน เมื่อปี 753 ก่อนคริสตกาล แบ่งการปกครองออกเป็นสามยุค คือยุคที่หนึ่ง ได้แก่ ยุคกษัตริย์ (Regal period) ตั้งแต่ปี 753-509 ก่อนคริสตกาล ยุคที่สอง ได้แก่ ยุคสาธารณรัฐ (Republic period) ตั้งแต่ปี 509 ถึงปี27 ก่อนคริสตกาล และยุคที่สาม ได้แก่ ยุคจักรวรรดิ์ (Imperial period) ตั้งแต่ปีที่ 27 ก่อน คริสตศักราชถึงปีคริสตศักราชที่ 565 และได้มีการจัดทำกฎหมาย12โต๊ะขึ้นพวกโรมันมีการประมวลกฎหมายเป็นครั้งแรกในยุคสาธารณรัฐเมื่อปี 451 ก่อนคริสตกาล สาเหตุหลักของการประมวลกฎหมายก็เนื่องจากมีการขัดแย้งกันระหว่างชนชั้น โดยในอาณาจักรโรมันขณะนั้นมีการแบ่งประชาชนออกเป็นสองชนชั้น คือกลุ่มหนึ่งเรียกกันว่าพวกพาทรีเซียน (Patrician) ซึ่งเป็นชั้นปกครองกับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นพวกสามัญชน เรียกกันว่า พวกเพลบเบียน (Plebeian)เกษตรกร นอกจากนี้บางตำรายังมีการกล่าวว่ามีชนชั้นที่สามซึ่งได้แก่พวก ไคลเอนท์ (Client) พวกไคลเอนท์เป็นพวกที่ลี้ภัยจากสงครามและอพยพมาพึ่งพาอาศัยอยู่กับชนชั้นสูง ในลักษณะที่ชนชั้นสูงเป็นผู้ให้ความอุปการะโดยมอบที่ดินให้แก่พวก ไคลเอนท์ทำกิน ต่อมาการสืบทอดกฎหมายโรมันสู่โลกสมัยใหม่นับตั้งแต่จักรพรรดิจัสติเนียนได้ประมวลกฎหมายโรมันที่รวมเรียกในภายหลังว่า Copus Juris Civilis แล้ว ก็ได้มีการใช้กฎหมายนี้ในโรมันตะวันออกสืบทอดมาจนกระทั่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลตกอยู่ในอำนาจของพวกเตอร์กในปี ค.ศ.1453 จักรพรรดิจัสติเนียนทรงห้ามมิให้เขียนคำอธิบายกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีข้อขัดแย้งกันในภายหลัง แต่มีข้อยกเว้นอยู่ 2 ประการคือ ไม่ห้ามการทำดัชนีและการสรุปย่อข้อความกฎหมายของแต่ละหน้า ท้ายที่สุดข้อห้ามของจักรพรรดิจัสติเนียนก็ถูกละเลยโดยปริยายเมื่อมีการเรียบเรียงกฎหมายที่มีอยู่ใน Code, Digest และ Novels เสียใหม่เป็นภาษากรีกให้สั้นและง่ายอยู่ในเล่มเดียวกัน เรียกว่า Basilica จักรพรรดิลิโอ (Emperor Leo the Wise)1สำหรับในจักรวรรดิโรมันตะวันตกนั้น เมื่อจักรวรรดิตกอยู่ในอำนาจของพวก อนารยชนแล้ว ชาวโรมันทางใต้ซึ่งได้แก่พวกที่อยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี ก็ถูกปกครองโดยกฎหมายโรมันผสมกับกฎหมายเผ่าชนของพวกอนารยชน ได้แก่ Lex Romana Visigothorum ส่วน Code, Institutes และ Novels ก็เป็นที่รู้จักสืบต่อมาบ้างในอิตาลี สำหรับ Digest นั้น ผู้คนได้ลืมหมดเสียแล้ว ในทางตอนเหนือของยุโรปไม่ปรากฏร่องรอยของกฎหมายโรมันเหลืออยู่เลย ได้นำมาประกาศใช้เป็นกฎหมาย จึงทำให้กฎหมายโรมันใช้กันต่อมาจนปี ค.ศ. 1453 นอกจากนี้ยังมีคู่มือกฎหมายที่เรียบเรียงโดยผู้พิพากษาแห่งเมืองซาโลนิกา (Salonica) ในปี ค.ศ.1345 ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นหลักกฎหมายของประเทศกรีกจนกระทั่งถูกยกเลิกไปเมื่อมีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งในปี ค.ศ.1946
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
The law is the law. It was started by humans because humans are legal and many other things in the human world. Law began his legal history is very closely on the development of civilization. And is given to the historical context of widespread social as well. Among lawyers and legal history. This view of looking at the law in the form of the possibility of the development of law and legal description. Many medieval era law has evolved to one legal residents (Volksrecht) law in this era appears in the form of customs and traditions. Which has two components, namely, External components Is required to conduct a regular and a time immemorial. The interior features What are practiced regularly it has been well recognized in the community, that is correct. The second generation of the Lawyers Law. (Juristenrecht) or the law is the law that grow up from the first. The first one can not separate law from morality. But when it comes to age 2, people will begin to see that the law rules, which differ from one another and moral tradition. The law is a cultural tradition. The third and final season of the legal technique (Technical Law) on society flourish. The contact between people in society are becoming more and more closely. More complex Tools of living has increased. The conflict in society. But the rules are not enough traditions. It must have enacted statutes that come immediately to solve problems. The next evolution in Roman law have occurred in the past to influence the present law in Europe. In South America and some countries in Asia should include Roman law,
Roman law was established in the year 753 BC when the Roman subdivided into three eras. Is the one including the King (Regal period) from 753-509 BC The second period include the Republic (Republic period) from the year 509 to the year 27 BC and the third period, including the Imperial (Imperial period) since last year. 27 B.C. the year BCE to 565 and has prepared legislation 12 tables up Romans are codified for the first time in the republic in the year 451 BC, the main cause of the Code is due to the conflict. between classes In the Roman Empire as it has divided people into two classes. One group is called the Kawartha Tree Maker (Patrician), the ruling class with another group, which is a common parasite called them, delete (Plebeian) farmers. In addition, some texts also say that there are three classes which include the client (Client) their clients are refugees from the war and emigrated to rely on the elite. The manner in which the elite is sponsored by a grant of land to them. Client arable Later inherited the Roman law into the modern world
since the Emperor Justinian was codified Roman included later called Copus Juris Civilis then I have to use this law in the Eastern Roman inherited the capital Constantinople Adrianople fall. The power of Turkic emperor Justinian in AD 1453 had prohibited the written explanation of any law, to prevent conflict in the future. But there are two exceptions which are not prohibited by law, indexing and summarizing the text of each page. Finally, the prohibition of Emperor Justinian was ignored by default when editing existing laws in the Code, Digest and Novels remade into Greek as short and simple in the same book called Basilica emperor Julio (Emperor Leo. the Wise) 1
for the Roman Empire in the West. When the empire fell into the power of the Horde and the Romans to the south, including those in the south of France, Spain and Italy was ruled by Roman law, combined with legislation tribes of barbarians include Lex Romana Visigothorum the Code, Institutes and Novels. It is known in Italy for some successor Digest that people have forgotten already. In northern Europe, no vestiges of Roman law left. Were adopted as law. To make use of later Roman law until the year 1453 are also laws that guide compiled by Justice of the city of Salonika (Salonica) in the year 1345, which is said to be primary legislation. Greece was canceled until the announcement of the Civil Code in 1946.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The law is the law. It starts from the human being a law, and many things in the human world. Law started in the history of close forward to development of civilization.Among the lawyers and historians of the law. The use of point of view in view of law in the form of the progress of the development of law and explained the main law. The law has evolved many era. The 1 law people (Volksrecht).The second element is the external elements Is to conduct regular and time immemorial. Element within. The practical things from them were recognized in the community that was the right thing to do.(Juristenrecht). Law is the law or grow up from the first. The first people also cannot be separated from morality, law, but the period 2.The law is customary customary and the last period 3 era law enforcement techniques (Technical Law) when society grow. The contact between people in a society are more and closer more complicated.The conflict in the society more and more. The rules but the tradition is not enough. Must have the statutes enacted immediately to solve the problemIn South America and some countries in Asia should to the Roman law
.Roman law was born in the Roman Empire, when the year 753 BC. Divided into three age rule is first age, including the king (Regal period) since the year 753-509 before Chris ‹ al the second; The Republic (Republic period).509 year 27 BC and communications, including the Empire (Imperial period) since last year 27 before Christian era up to the year A.D. that 565.451 BC. The main causes of the code, because there was a dispute between classes. The Roman Empire at that time was divided into two classes, the people The one called the patricians (Patrician).Called the เพลบ bien (Plebeian) farmers. Additionally, some textbooks also said there was a third class, including the client ent (Client) the client geometry is one of refuge from the war and emigrated to rely on with the elite.Client ent do eat. Later inherited the Roman law to the modern world
.Since the Justinian code, including calls later that Roman had Copus Juris Civilis. It has used this Law in the city of Constantinople until the East Roman inherited fall into the power of the Turkic in Ad1453 Justinian had prohibited any written law in order to prevent a conflict later. But there are exceptions in 2 reasons. Don't stop indexing and summarizing the law text of each page.Code.And a new Digest Novels is Greek for short and simple in the same book, called Basilica emperor Leo (Emperor Leo the. Wise) 1
.In the Western Roman Empire. When the empire fell into the power of the barbarian and the Romans South including the south of France, Spain and Italy.The Lex Romana Visigothorum, the CodeAnd it is known Institutes Novels continue to Italy for Digest. People forget all lose. In northern Europe, showed no sign of Roman law left. Used to force.C.Professor 1453 also guide the law compiled by judge of the city of Salonica (Salonica) in A.D. 1345 which is said to be the law of Greece until terminated when the promulgation of the civil year. In 1946.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: