การเคี่ยว และ การปั่นน้ำตาลทรายดิบข

การเคี่ยว และ การปั่นน้ำตาลทรายดิบ
ขบวนการเคี่ยวน้ำตาลเป็นกระบวนการตกผลึกน้ำตาลเพื่อแยกน้ำตาลออกจากน้ำเชื่อม หลักการเคี่ยวน้ำตาลจะอาศัยการแลกเปลี่ยนความร้อนของไอน้ำกับน้ำเชื่อมโดยผ่านท่อสแตนเลสและควบคุมอุณหภูมิจุดเดือดของน้ำตาลให้ต่ำกว่าจุดเดือดของบรรยากาศ คือให้ภายในหม้อเคี่ยวมีสภาพเป็นสุญญากาศที่ 26-28 นิ้วของปรอท ซึ่งจะทำให้จุดเดือด ของน้ำตาลในหม้อเคี่ยวมีค่าประมาณ 60-65 องศาเซนติเกรดทางโรงงานจัดระบบการเคี่ยวเป็น 2 ชนิด โดยชนิดแรกเป็นการเคี่ยวน้ำตาลทรายดิบ ส่วนชนิดที่ 2 จะเป็นการเคี่ยวน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ การเคี่ยวน้ำตาลทรายดิบจะจัดระบบการเคี่ยว เป็นแบบ 2 ระบบครึ่ง (Two Boiling and A Half System) คือ A-C, B-C การเคี่ยวครั้งแรก(หม้อเคี่ยว A) จะส่งน้ำเชื่อมเข้าหม้อเคี่ยวเพื่อระเหยน้ำจนน้ำเชื่อมถึงจุดอิ่มตัวที่น้ำเชื่อมจะตกผลึกก็ส่งเชื้อ (Seed Magma) เข้าเพื่อเลี้ยงผลึกให้โตขึ้นและจะเลี้ยงผลึกจนได้ขนาดเม็ดตามต้องการ ควบคุมค่าความข้นประมาณ 92-93 บริกซ์ น้ำตาลที่ได้ในลักษณะนี้เรียกว่า เอแมสสิคิท(A-Massecuite)ในแมสสิคิทนั้น จะประกอบด้วยน้ำเลี้ยงผลึก (Mother Liquor) และผลึกน้ำตาลจากนั้นจะนำแมสสิคิท ลงพักในรางกวน (Crystallizer) เพื่อรอการปั่นแยกน้ำตาลและน้ำเลี้ยงผลึกออกจากกัน น้ำเลี้ยงผลึกหลังจากที่ปั่นแยกแล้วเรียกว่า น้ำเหลือง (Molasses) ผลึกน้ำตาลที่แยกออกมาได้จัดเป็นน้ำตาลที่มีความหวานสูงซึ่งจะนำเข้าระบบผลิตน้ำตาลรีไฟน์และทรายขาวต่อไป ในน้ำเหลืองที่ได้นี้ยังมีความหวานสูงพอที่จะนำมาทำให้ตกผลึกได้อีก จึงได้ปั๊มส่งเข้าสู่ขบวนการเคี่ยวเพื่อเคี่ยวน้ำตาลบี (B-Massecuite) การเคี่ยวน้ำตาลบีครั้งแรกจะนำน้ำเชื่อมส่งเข้าหม้อเคี่ยวก่อนเพื่อระเหยน้ำจนถึงจุดอิ่มตัวแล้วป้อนเข้าเชื้อ (Seed Magma) แล้วเคี่ยวน้ำเชื่อมจนเต็มหม้อเรียกว่าเชื้อ B จากนั้นก็แบ่งเป็น 2 ส่วนเพื่อส่งให้หม้อเคี่ยว เคี่ยวเป็นน้ำตาล B โดยเปิดน้ำเหลืองเลี้ยงจนเต็มหม้อควบคุมค่าความข้นประมาณ 93-94 บริกซ์ น้ำตาลที่ในลักษณะที่เรียกว่า B แมสวควิท (C-Massecuite) ควบคุมค่าความข้นประมาณ 93-94 บริกซ์จึงปล่อยลงพักในรางกวนเพื่อเตรียมปั่นแยกเม็ดน้ำตาลและโมลาสออกจากกันน้ำตาลที่ได้ออกมาจัดเป็น น้ำตาลทรายดิบที่จะส่งขายต่างประเทศต่อไป โมลาสที่ได้ยังมีความหวานสามารถที่จะนำมาทำให้ตกผลึกได้จึงนำมาใช้เคี่ยวเป็นน้ำตาลซี(C-Massecuite) การเคี่ยวน้ำตาลซีหรือน้ำตาลเกรดต่ำ จัดว่าเป็นการเคี่ยวขั้นสุดท้าย และในขั้นตอนนี้จะต้องหาวิธีที่จะทำให้ผลึกน้ำตาลตกผลึกมากที่สุด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตในขั้นตอนการเคี่ยวนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนในตอนแรกจะเคี่ยวเป็นเชื้อ (Seed) ก่อน โดยนำน้ำเชื่อมที่ส่งมาจากหม้อต้มเคี่ยวจนได้น้ำเชื่อม ที่มีจุดอิ่มตัวยิ่งยวด หลังจากนั้นนำน้ำตาลบดละเอียดใส่เข้าในหม้อเคี่ยวเพื่อเลี้ยงผลึกให้โตจากนั้นจะเลี้ยงต่อด้วยโมลาสเอ จนได้ระดับที่กำหนดไว้การเคี่ยวน้ำตาลในช่วงนี้เรียกว่าการเคี่ยวเชื้อซีจะทำการแบ่งเป็น 2 หรือ 3 ส่วน เข้าหม้อเคี่ยวเพื่อเคี่ยวน้ำตาลซี (C-Massecuite) ต่อไป หลังจากที่ได้แบ่งเชื้อน้ำตาลซีเข้าหม้อเคี่ยวเรียบร้อยก็จะนำโมลาสบีเลี้ยงผลึกต่อจนได้ระดับความข้นประมาณ 97-98 บริกซ์ จากนั้นจะปล่อยน้ำตาลซี ลงพักในรางกวนตั้งให้พักตัวเป็นระยะเวลาประมาณ 24-36 ชั่วโมง จึงนำมาปั่นแยกผลึก ผลึกน้ำตาลที่ได้จะนำมาเป็นเชื้อของน้ำตาลเอและบี (Seed Magma) สำหรับกากน้ำตาลที่ได้ในครั้งนี้เรียกว่า Final Molasses หรือกากน้ำตาลสุดท้ายจะถูกปั๊มส่งไปเก็บไว้ในถังพักเพื่อเตรียมส่งจำหน่าย

ผลลัพธ์ (อิตาลี) 1:

Lo zucchero grezzo e distaffatura.ขบวนการเคี่ยวน้ำตาลเป็นกระบวนการตกผลึกน้ำตาลเพื่อแยกน้ำตาลออกจากน้ำเชื่อม หลักการเคี่ยวน้ำตาลจะอาศัยการแลกเปลี่ยนความร้อนของไอน้ำกับน้ำเชื่อมโดยผ่านท่อสแตนเลสและควบคุมอุณหภูมิจุดเดือดของน้ำตาลให้ต่ำกว่าจุดเดือดของบรรยากาศ คือให้ภายในหม้อเคี่ยวมีสภาพเป็นสุญญากาศที่ 26-28 นิ้วของปรอท ซึ่งจะทำให้จุดเดือด ของน้ำตาลในหม้อเคี่ยวมีค่าประมาณ 60-65 องศาเซนติเกรดทางโรงงานจัดระบบการเคี่ยวเป็น 2 ชนิด โดยชนิดแรกเป็นการเคี่ยวน้ำตาลทรายดิบ ส่วนชนิดที่ 2 จะเป็นการเคี่ยวน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ การเคี่ยวน้ำตาลทรายดิบจะจัดระบบการเคี่ยว เป็นแบบ 2 ระบบครึ่ง (Two Boiling and A Half System) คือ A-C, B-C การเคี่ยวครั้งแรก(หม้อเคี่ยว A) จะส่งน้ำเชื่อมเข้าหม้อเคี่ยวเพื่อระเหยน้ำจนน้ำเชื่อมถึงจุดอิ่มตัวที่น้ำเชื่อมจะตกผลึกก็ส่งเชื้อ (Seed Magma) เข้าเพื่อเลี้ยงผลึกให้โตขึ้นและจะเลี้ยงผลึกจนได้ขนาดเม็ดตามต้องการ ควบคุมค่าความข้นประมาณ 92-93 บริกซ์ น้ำตาลที่ได้ในลักษณะนี้เรียกว่า เอแมสสิคิท(A-Massecuite)ในแมสสิคิทนั้น จะประกอบด้วยน้ำเลี้ยงผลึก (Mother Liquor) และผลึกน้ำตาลจากนั้นจะนำแมสสิคิท ลงพักในรางกวน (Crystallizer) เพื่อรอการปั่นแยกน้ำตาลและน้ำเลี้ยงผลึกออกจากกัน น้ำเลี้ยงผลึกหลังจากที่ปั่นแยกแล้วเรียกว่า น้ำเหลือง (Molasses) ผลึกน้ำตาลที่แยกออกมาได้จัดเป็นน้ำตาลที่มีความหวานสูงซึ่งจะนำเข้าระบบผลิตน้ำตาลรีไฟน์และทรายขาวต่อไป ในน้ำเหลืองที่ได้นี้ยังมีความหวานสูงพอที่จะนำมาทำให้ตกผลึกได้อีก จึงได้ปั๊มส่งเข้าสู่ขบวนการเคี่ยวเพื่อเคี่ยวน้ำตาลบี (B-Massecuite) การเคี่ยวน้ำตาลบีครั้งแรกจะนำน้ำเชื่อมส่งเข้าหม้อเคี่ยวก่อนเพื่อระเหยน้ำจนถึงจุดอิ่มตัวแล้วป้อนเข้าเชื้อ (Seed Magma) แล้วเคี่ยวน้ำเชื่อมจนเต็มหม้อเรียกว่าเชื้อ B จากนั้นก็แบ่งเป็น 2 ส่วนเพื่อส่งให้หม้อเคี่ยว เคี่ยวเป็นน้ำตาล B โดยเปิดน้ำเหลืองเลี้ยงจนเต็มหม้อควบคุมค่าความข้นประมาณ 93-94 บริกซ์ น้ำตาลที่ในลักษณะที่เรียกว่า B แมสวควิท (C-Massecuite) ควบคุมค่าความข้นประมาณ 93-94 บริกซ์จึงปล่อยลงพักในรางกวนเพื่อเตรียมปั่นแยกเม็ดน้ำตาลและโมลาสออกจากกันน้ำตาลที่ได้ออกมาจัดเป็น น้ำตาลทรายดิบที่จะส่งขายต่างประเทศต่อไป โมลาสที่ได้ยังมีความหวานสามารถที่จะนำมาทำให้ตกผลึกได้จึงนำมาใช้เคี่ยวเป็นน้ำตาลซี(C-Massecuite) การเคี่ยวน้ำตาลซีหรือน้ำตาลเกรดต่ำ จัดว่าเป็นการเคี่ยวขั้นสุดท้าย และในขั้นตอนนี้จะต้องหาวิธีที่จะทำให้ผลึกน้ำตาลตกผลึกมากที่สุด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตในขั้นตอนการเคี่ยวนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนในตอนแรกจะเคี่ยวเป็นเชื้อ (Seed) ก่อน โดยนำน้ำเชื่อมที่ส่งมาจากหม้อต้มเคี่ยวจนได้น้ำเชื่อม ที่มีจุดอิ่มตัวยิ่งยวด หลังจากนั้นนำน้ำตาลบดละเอียดใส่เข้าในหม้อเคี่ยวเพื่อเลี้ยงผลึกให้โตจากนั้นจะเลี้ยงต่อด้วยโมลาสเอ จนได้ระดับที่กำหนดไว้การเคี่ยวน้ำตาลในช่วงนี้เรียกว่าการเคี่ยวเชื้อซีจะทำการแบ่งเป็น 2 หรือ 3 ส่วน เข้าหม้อเคี่ยวเพื่อเคี่ยวน้ำตาลซี (C-Massecuite) ต่อไป หลังจากที่ได้แบ่งเชื้อน้ำตาลซีเข้าหม้อเคี่ยวเรียบร้อยก็จะนำโมลาสบีเลี้ยงผลึกต่อจนได้ระดับความข้นประมาณ 97-98 บริกซ์ จากนั้นจะปล่อยน้ำตาลซี ลงพักในรางกวนตั้งให้พักตัวเป็นระยะเวลาประมาณ 24-36 ชั่วโมง จึงนำมาปั่นแยกผลึก ผลึกน้ำตาลที่ได้จะนำมาเป็นเชื้อของน้ำตาลเอและบี (Seed Magma) สำหรับกากน้ำตาลที่ได้ในครั้งนี้เรียกว่า Final Molasses หรือกากน้ำตาลสุดท้ายจะถูกปั๊มส่งไปเก็บไว้ในถังพักเพื่อเตรียมส่งจำหน่าย

ผลลัพธ์ (อิตาลี) 3:

Per purea di miscelazione e lo zucchero greggio
Il movimento di zucchero di noce di cocco è il processo di cristallizzazione dello zucchero per separare lo zucchero da sciroppo.È l'interno del recipiente interno per cuocere è un vuoto di 26-28 in di mercurio che farà il punto di ebollizione dello zucchero nel recipiente interno a sobbollire è di circa 60-65 gradi centigradi il sistema in fabbrica è un sobbollire 2 tipi dal tipo nel primo bollire lo zucchero grezzo.2 è il calore di zucchero di canna con spiagge di sabbia bianca e lo zucchero pura sabbia bianca del calore di zucchero di canna, greggio come sistema di ebollizione, 2 semi-sistema (ebollizione due e una metà di sistema è a-c,Il B-C sobbollire per la prima volta (il recipiente interno per cuocere un) sarà inviato per lo sciroppo e la pentola bollire per evaporare acqua fino a quando lo sciroppo al punto di saturazione in corrispondenza dello sciroppo cristallizzazione. Essi inviato l'igienizzatore (seed magma)Controllare la spessa circa 92-93 บ zucchero in questo modo è chiamato un kit แ (a-massecuite) in แ kit contiene l'acqua madre di intrattenimento liquore di cristallo) e zucchero cristallino è poi แ kit per rimanere in un labirinto (cristallizzatore)L'acqua dribbling i cristalli dopo che il vaso frullatore Spalato, e chiamato linfodrenaggio (melassa) zucchero cristallino che è venuto fuori del negozio è che lo zucchero dolce alta, che importa il sistema di produzione di zucchero, connessione internet Wi Fi e spiagge di sabbia bianca.Esso ha la pompa per la circolazione a sobbollire per riscaldare lo zucchero di canna il grasso (b-massecuite) calore Brown Sugar Mill la prima volta porterà sciroppo nella pentola bollire prima di evaporare l'acqua fino al punto di saturazione e quindi entrare in sterilizzatore (semi) magmaB. Quindi egli è diviso in 2 sezioni per inviare alla pentola a sobbollire cuocere lo zucchero B da aprire un drenaggio linfatico entertainment fino a quando il vaso pieno controllo dello spessore di circa 93-94 บ zucchero in un modo che è chiamato B il Massachusetts, Sukhumvit (c-massecuite) il controllo dello spessore di circa 93-94Lo zucchero greggio invierà le vendite del paese il modulo classe che è anche una dolce può essere utilizzato per effettuare la cristallizzazione. È usato come un bollire lo zucchero pc (c-massecuite) il calore di zucchero di canna o di zucchero a basso grado è il sobbollire finaleAl fine di aumentare l'efficienza del processo di produzione nel processo a sobbollire è suddiviso in 2 fasi nell'inizio a sobbollire come un asciugamano prima coltiva applicando lo sciroppo che provengono da il recipiente interno e far bollire fino a quando lo sciroppo è il punto di saturazione più importanza.Per impostare il calore di zucchero di canna in questo intervallo è chiamato a sobbollire sanitizer pc si dividono in 2 o 3 sezioni in pentola a sobbollire il calore di zucchero di canna pc seguenti (c-massecuite)97-98 บ e quindi rilasciare lo zucchero in giù in un labirinto imposta di soggiorno per un periodo di circa 24 a 36 ore per il separatore di cristallo di zucchero cristallino è applicato ad una sterile di zucchero e grasso (semi) magma per il melasso in questo periodo di tempo è denominatoLa melassa o melasse ultimo sarà la pompa per mantenerla nel serbatoio per preparare per inviare la
concessionario