เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินแนวโน้มสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ในครึ่งหลังปีนี้ ว่า มีโอกาสขยายตัวดีขึ้น หลังเดือน มิ.ย.เติบโต 7.3% จากความเชื่อมั่น และการลงทุนมีมากขึ้น แต่บริษัทขนาดใหญ่ยังคงรอการลงทุนจากภาครัฐ โดยมองว่า ความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อจากการประเมินภาวะเศรษฐกิจ ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ต่ำสุด ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ต่อจากนี้ไปจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้น แต่ต้องติดตามปัจจัยภายนอกและภายในประกอบด้วย
ทั้งนี้ สินเชื่อรวมเดือน มิ.ย.ปีนี้ เติบโต 7.3% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 10.9 ล้านล้านบาท หรือมีสินเชื่อใหม่ เพิ่มขึ้นประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก ขณะที่สินเชื่อของธุรกิจขนาดกลางและย่อม มีอัตราขยายตัวได้สูงกว่าสินเชื่อรวม โดยเดือน มิ.ย. ขยายตัว 9.1% คิดเป็นวงเงินประมาณ 4 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่โตมาจากธนาคารกสิกรไทย
นอกจากนี้ สินเชื่อรายใหญ่ เดือน มิ.ย. มีอัตราเติบโตประมาณ 3.9% ขณะที่สินเชื่อรายย่อย โต 8.8% ซึ่งนำโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ส่วนสถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ขณะนี้ ค่อนข้างทรงตัว โดยเดือน มิ.ย. มีสัดส่วนที่ระดับ 2.3% เทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 2.4% ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง เพราะความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น ฐานะธนาคารพาณิชย์ขณะนี้แข็งแกร่ง ผลกำไรถือว่าค่อนข้างสูง ประกอบกับเงินกองทุนอยู่ระดับสูงในอัตรา 15% และธนาคารต่างๆ ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยการยืดอายุหนี้ออกไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สิ่งที่ ธปท.ต้องติดตามดูคือ ภาคท่องเที่ยว เนื่องจากยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมา ซึ่งในความเป็นจริง ภาคท่องเที่ยว สามารถเห็นเงินสดที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริงได้อย่างชัดเจน.