การแสดงฟ้อนรำล้านนา  การฟ้อนรำเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของล้านนา ที่แสดง การแปล - การแสดงฟ้อนรำล้านนา  การฟ้อนรำเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของล้านนา ที่แสดง อังกฤษ วิธีการพูด

การแสดงฟ้อนรำล้านนา  การฟ้อนรำเป็นเ

การแสดงฟ้อนรำล้านนา
  การฟ้อนรำเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของล้านนา ที่แสดงออกถึงลักษณะนิสัยความอ่อนน้อม และละมุนละไมในการดำเนินชีวิตภายใต้ความเชื่อ ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา

ฟ้อนล้านนา มีต้นกำเนิดมาจากการร่ายรำเพื่อประกอบพิธีกรรม ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เกิดความพึงพอใจ ท่วงท่าการรำแต่ดั้งเดิม ไม่มีแบบแผน แต่แสดงออกมาจากความปลื้มปิติยินดี มีความสุขสนุกสนานเจือปนอยู่ เช่น ฟ้อนผี ฟ้อนแห่ครัวทาน เป็นต้น ต่อมาในราวรัชกาลที่ 6 พระราชชายาเจ้าดารารัศมีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้รวมท่าฟ้อนรำพื้นเมืองมาเรียบเรียงให้มีแบบแผน และกลายเป็นชุดฟ้อนที่รู้จักกันในปัจจุบัน ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแสดงเหล่านี้ จึงได้นำมาเป็นการแสดงสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีฟ้อนรำของท้องถิ่นอื่นๆ ในล้านนาด้วย มีทั้งหมด 13 การแสดงดังนี้

1.ฟ้อนเล็บ

เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของนาฏศิลป์ล้านนา ซึ่งมักจะแสดงในโอกาสพิเศษเพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติหรือฟ้อนสมโภชในทางพุทธศาสนา ท่าเดินของฟ้อนเล็บนี้ถือกันว่าได้เลียนแบบมาจากการเยื้องย่างของช้าง แต่เดิมการฟ้อนเล็บนี้ไม่มีท่ารำเฉพาะแน่นอน พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ได้ทรงโปรดปรับปรุงแก้ไขให้สวยงามและมีท่ารำเฉพาะแน่นอน

2.ฟ้อนดาบ

เป็นการแสดงศิลปะอย่างหนึ่งที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ป้องกันตัว เป็นการแสดงชั้นเชิงของการต่อสู้รวมกับท่าฟ้อนที่สวยงาม

3.ฟ้อนสาวไหม

เป็นการฟ้อนพื้นเมืองที่เลียนแบบมาจากการทอผ้าไหมของชาวบ้าน การฟ้อนสาวไหมเป็นการฟ้อนรำแบบเก่า เป็นท่าหนึ่งของฟ้อนเจิงซึ่งอยู่ในชุดเดียวกับการฟ้อนดาบ ลีลาการฟ้อนเป็นจังหวะที่คล่องแคล่วและรวดเร็ว (สะดุดเป็นช่วง ๆ เหมือนการทอผ้าด้วยกี่กระตุก)

ประมาณปี พ.ศ. 2500 คุณบัวเรียว รัตนมณีกรณ์ ได้คิดท่ารำขึ้นมาโดยอยู่ภายใต้การแนะนำของบิดา ท่ารำนี้ได้เน้นถึงการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องและนุ่มนวล ซึ่งเป็นท่าที่เหมาะสมในการป้องกันไม่ให้เส้นไหมพันกันในปี พ.ศ. 2507 คุณพลอยศรี สรรพศรี ช่างฟ้อนเก่าในวังของเจ้าเชียงใหม่องค์สุดท้าย (เจ้าแก้วนวรัฐ) ได้ร่วมกับคุณบัวเรียวขัดเกลาท่ารำขึ้นใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 คณะอาจารย์วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ ได้คิดท่ารำขึ้นมาเป็นแบบฉบับของวิทยาลัยเอง การฟ้อนของทางศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่เป็นการรวบรวมท่ารำที่สวยงามของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน

4.ระบำไก่

เป็นระบำชุดหนึ่งจากละครเรื่องพระลอตามไก่ เป็นการร่ายรำของบริวารของไก่แก้ว พระราชชายาได้ทรงคิดท่ารำขึ้นเนื่องในโอกาสฉลองกู่ (ที่บรรจุอัฐิ) ของเจ้านายเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2452 ที่ท่านทรงนำมารวบรวมไว้ที่วัดสวนดอก จากงานพระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงประทานให้แก่ท่าน

5.ฟ้อนเงี้ยว

เป็นการฟ้อนของเมืองเหนือ ที่ได้ดัดแปลงมากจากการละเล่นของไทยใหญ่ (เงี้ยว) ต่อมาครูช่างฟ้อนในคุ้มหลวงเชียงใหม่ได้ปรับปรุงแก้ไขให้สวยงามขึ้น

6.ระบำซอ

ได้ถูกแต่งและประดิษฐ์จากครูเพลงและครูช่างฟ้อนในคุ้มของเจ้าดารารัศมีในปี พ.ศ. 2470 ใช้ฟ้อนในโอกาสที่ถวายต้อนรับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเชียงใหม่ และในโอกาสสมโภชน์ช้างเผือกซึ่งน้อมเกล้าฯถวายให้ท่าน การแต่งกายเป็นชุดกระเหรี่ยง

7.ฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตา

เป็นการฟ้อนผสมระหว่างการฟ้อนในราชสำนักพม่าและรำไทยพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ทรงให้ครูช่างฟ้อนชาวพม่าและครูช่างฟ้อนในวังของท่านคิดท่ารำขึ้นมาระหว่างปี พ.ศ. 2458-2469 เครื่องแต่งกายเป็นแบบหญิงในราชสำนักพม่า ราชวงศ์คองบอง

8.ฟ้อนลื้อ

การฟ้อนนี้เดิมเป็นการฟ้อนของชาวไทยลื้อ หมู่บ้านหนองบัว อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน บรรพบุรุษของชาวไทยลื้อนี้เดิมเป็นพวกอพยพสงครามจากแคว้นสิบสองปันนาในมณฑลยูนานของจีน ชาวไทยลื้อเหล่านี้หลบหนีการต่อสู้ระหว่างพระเจ้าสิบสองปันนาและหลานชายซึ่งสู้รบกันในระหว่างปี พ.ศ.2365-2366 แตกต่างจากบรรพบุรุษของชาวไทยลื้อกลุ่มอื่นในทางตอนเหนือของประเทศไทยซึ่งอพยพมาก่อนหน้านี้ประมาณ 22 ปี ในฐานะเชลยสงคราม บางพวกก็ถูกชักชวนให้มาตั้งถิ่นฐานใหม่

9.ฟ้อนโยคีถวายไฟ

เจ้าแก้วนวรัฐ (พ.ศ. 2454-2482) เจ้าครองเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้ายได้ทรงให้นักดนตรีในวังของท่านและครูช่างฟ้อนชาวพม่าร่วมกันคิดท่ารำและบทเพลงขึ้นมาในโอกาสเสด็จประพาสเชียงใหม่ของกรมพระนครสวรรค์วรพินิจ โอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ. 2465 ท่ารำได้ดัดแปลงมาจากท่าฤาษีดัดตน เดิมเป็นการแสดงของผู้ชาย ในปี พ.ศ. 2477 ได้เปลี่ยนให้เป็นท่ารำของผู้หญิง เนื่องจากช่างฟ้อนผู้ชายหายาก

10.ฟ้อนน้อยใจยา

เป็นฉากหนึ่งของละครเพลงชื่อเดียวกัน ได้แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2464 โดยท้าวสุนทรโวหาร ถวายแก่เจ้าดารารัศมีในวันเกิดของท่าน ต่อมาเจ้าดารารัศมีได้ขัดเกลาบางตอนของละครและแต่งเพลงน้อยใจยาขึ้น ฉากนี้แสดงถึงน้อยใจยาชายหนุ่มผู้ยากจนได้ตัดพ้อต่อว่าแว่นแก้วสาวงามแห่งหมู่บ้าน ซึ่งจะแต่งงานกับส่างนันตาชายหนุ่มผู้ร่ำรวยแต่หน้าตาอัปลัษณ์ของอีกหมู่บ้านหนึ่ง แว่นแก้วบอกน้อยใจยาว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เป็นความเห็นชอบของบิดามารดาและได้ยืนยันความรักของเธอที่มีต่อเขา หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้วก็พากันหนีไป

11.ฟ้อนเทียน

ใช้ฟ้อนในเวลากลางคืน ไม่สวมเล็บ แต่ถือเทียนสองข้างประกอบการฟ้อนพระราชชายาฯได้ทรงปรับปรุงขึ้นจากการฟ้อนเล็บ เพื่อจะฟ้อนรับเสด็จรัชกาลที่ 7 ในคราวเสด็จประพาสเชียงใหม่ พ.ศ. 2469

12.ฟ้อนไต

ไตคือชื่อที่คนไทยใหญ่เรียกตัวเอง คนไทยใหญ่นี้นอกจากจะอาศัยอยู่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์แล้วยังอาศัยอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนด้วย ฟ้อนไตได้ถูกคิดท่ารำโดยครูแก้วและนางละหยิ่น ทองเขียวผู้เป็นภรรยา ผู้ซึ่งเป็นคนไทยใหญ่ด้วย โดยในระหว่าง พ.ศ. 2483-97 ขณะที่ นางละหยิ่นได้อาศัยที่เชียงใหม่กับครูแก้ว นางได้เห็นการแสดงฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตาและได้ประทับใจมาก เมื่อนางกับครูแก้วกลับไปอยู่แม่ฮ่องสอนแล้ว จึงได้คิดท่ารำของฟ้อนไตขึ้นจากท่ารำของรำไทย พม่า และฟ้อนเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2500

13.รำวง

เกิดจากรำโทนของนครพนมและได้แพร่หลายไปยังภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย ต่อมาจอมพล ป.พิบูลสงครามได้มีคำสั่งให้ก
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Lanna dancing show. Dancing is the distinctive identity of the Lanna expressing context and characteristic lamoon Lamai in daily life under the beliefs and faith: Buddhism. Lanna Thai dance Originates from the dancing to make ritual, sacred satisfaction. The traditional dance posture There are no conventions but display out of cheer. Happy fun, such as the Ghost Dance mix Dance parade Prep kitchen, etc. Later, in the reign of King Rama v Royal Princess 6 racks showcase in King Chulalongkorn. His daughter in God the small earthen cistern thawit pills. The owner of the city include the port of dancing native came to compose a dance series and become a scheme known today. Chiang Mai Cultural Center recognizes the importance of these It has been taken as a show for tourists. There are also other local dancing in Lanna. All 13 are shown as follows:1. the nail The unique importance of Lanna dance which is often shown on special occasions to welcome our guest of honor, or dance in the Buddhist Sompoch. Port of this nail gun that mimic the indent from the elephant's Grill. Originally the nail is not absolutely specific dance stance. His wife had died in the reign of revision 5 was to make beautiful and unique dance has certainly. 2. the sword dance As one of the art show that features associated with a martial display tact of fighting, combined with a beautiful dance postures. 3. extraordinary girl? As a native dance that mimics the Silk weaving village. Silk girl dance as dancing the dance of the old port, which is in the same series, Sheng dance sword. Cadence rhythmic dance that is agile and fast (notably wide like weaving with a loom dropped) Approximately 2500 (1957) you think Mani Ratana taper BOA Korn tha dance coming up, under the guidance of father. This dance stance highlights the ongoing movement and soft, which is the appropriate stance to prevent thousands of silk in phloisi dance artist you prefer 2507 (1964) SI Kao Vang of Chiang Mai last element (the owner solving loop warat) is together with you can taper new dance at BOA. In 2520 (1977), Faculty of teacher college dance in Chiang Mai have a dance posture is typical of the College itself. Dance of the Chiang Mai cultural center is a collection of beautiful dancing posture on both sides together. 4. chicken dance As one of dance drama "lotam chicken is a chicken dancing Steiner's glasses. His wife thought he was dancing posture on the occasion of celebrating the Ku (this) of the boss of the city in which he brought 2452 (1909) collected at Wat suan dok from his thesis of Prince narathip's five House composers give to people. 5. dance bent As a dance of the North that were adapted from traditional Thai Yai (bent) Later, the teacher dance artist in Chiang Mai was revised, and beautiful. 6. dance saw Has been appointed and the invention of dance artist and teacher from the music teacher in the showcase of dance based on 2470 (1927) on the occasion of reception upon his Majesty King Prajadhipok Rama Thai Chiang Mai on Chang puek phot durability which is appropriate to you? Her dress is the chutkra Hotel Hotel Lyon. 7. dance curtain mui Chiang. It is a mixture of dance dance dance in Myanmar and Thai Royal wife, he had a teacher and skilled teachers by the Burmese artist dance dance in the Palace of the people think tha dance created between 2458 (1915)-2469 dress as a princess in the royal dynasty of Myanmar's budget hotkeys. 8. dance cloths The original dance is dance of the Thai Lue. The village of Nong Bua, Amphoe tha Wang PHA of Nan province. The Thai Lue people's ancestors originally migrated from the war as the Limousin region in Xishuangbanna in Yunnan province of China. These Thai Lue people fleeing fighting between God, Xishuangbanna and nephew who fought each other during the 2366-2365 (1822) differ from other groups of Thai Lue people ancestors in the North of the country, which previously were Thai, about 22 years as a prisoner of war, some of them were settlers given solicitation. 9. fire dance was an ascetic. The owner solving loop warat (2454 (1911)-2482), the last element of the city-owned thing, musician and teacher in his palace by the Burmese artist sharing a dance idea tha song and dance up on the occasion of the Thai Chiang Mai's Phra Nakhon sawan's son, wonphinit Department in King Chulalongkorn in 2465 (1922) tha tha have been adapted from dancing hermit bending. Originally a men's show. In a dancing posture changed 2477 (1934) of women because of the rare male dance artist. 10. dance little wonder drug. As one scene of the same name, drama dressed up in Classic old figure of speech was by 39/2464 (1921) showcase on your birthday. The showcase has some discipline of theatre and music are a little pill. This scene represents the young men who prescription grievance broke glass glasses that were to blame, the village beauty girl marry a young man eyes nganan spore high-income people, but look up the lat of a village. Glass glasses tell ya that all matters are minimal, this is not her fault, but it is the opinion of the parents, and confirmed her love towards him. After improving understanding of each other and then fled. 11. dance, candle Used to dance in the night not wearing nail but holds two candles side fonphra assembling of the chaya have improved from the nail to get his extraordinary reign 7 in Chiang Mai Thai 2469 (1926) 12. dance the kidney. The kidney is the name that most Thai people call themselves. This large Thai people living in the Shan State of Myanmar, Mae Hong Son province has performed live with Lupus has been accounted for by the dance teacher Mrs. Pier glass, green, gold, and a wife who's Layin, a large Thai workers by 97-2483 (1940), during, while. A woman who lived with Chiang Mai yin teacher glass. She has been seen to display extraordinary eye and mui curtain Chiang impressed. When her son went to live with the kaeoklap. So think of the dancing posture dance dance dance's kidney from Thai. Myanmar and Thai dance in 2500 (1957) 13. romvong Due to its tone and dance were prevalent in other sectors of the country to the Thai. Later field marshal p. pibulsongkram ordered to.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การแสดงฟ้อนรำล้านนา
  การฟ้อนรำเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของล้านนา ที่แสดงออกถึงลักษณะนิสัยความอ่อนน้อม และละมุนละไมในการดำเนินชีวิตภายใต้ความเชื่อ ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา

ฟ้อนล้านนา มีต้นกำเนิดมาจากการร่ายรำเพื่อประกอบพิธีกรรม ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เกิดความพึงพอใจ ท่วงท่าการรำแต่ดั้งเดิม ไม่มีแบบแผน แต่แสดงออกมาจากความปลื้มปิติยินดี มีความสุขสนุกสนานเจือปนอยู่ เช่น ฟ้อนผี ฟ้อนแห่ครัวทาน เป็นต้น ต่อมาในราวรัชกาลที่ 6 พระราชชายาเจ้าดารารัศมีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้รวมท่าฟ้อนรำพื้นเมืองมาเรียบเรียงให้มีแบบแผน และกลายเป็นชุดฟ้อนที่รู้จักกันในปัจจุบัน ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแสดงเหล่านี้ จึงได้นำมาเป็นการแสดงสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีฟ้อนรำของท้องถิ่นอื่นๆ ในล้านนาด้วย มีทั้งหมด 13 การแสดงดังนี้

1.ฟ้อนเล็บ

เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของนาฏศิลป์ล้านนา ซึ่งมักจะแสดงในโอกาสพิเศษเพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติหรือฟ้อนสมโภชในทางพุทธศาสนา ท่าเดินของฟ้อนเล็บนี้ถือกันว่าได้เลียนแบบมาจากการเยื้องย่างของช้าง แต่เดิมการฟ้อนเล็บนี้ไม่มีท่ารำเฉพาะแน่นอน พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ได้ทรงโปรดปรับปรุงแก้ไขให้สวยงามและมีท่ารำเฉพาะแน่นอน

2.ฟ้อนดาบ

เป็นการแสดงศิลปะอย่างหนึ่งที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ป้องกันตัว เป็นการแสดงชั้นเชิงของการต่อสู้รวมกับท่าฟ้อนที่สวยงาม

3.ฟ้อนสาวไหม

เป็นการฟ้อนพื้นเมืองที่เลียนแบบมาจากการทอผ้าไหมของชาวบ้าน การฟ้อนสาวไหมเป็นการฟ้อนรำแบบเก่า เป็นท่าหนึ่งของฟ้อนเจิงซึ่งอยู่ในชุดเดียวกับการฟ้อนดาบ ลีลาการฟ้อนเป็นจังหวะที่คล่องแคล่วและรวดเร็ว (สะดุดเป็นช่วง ๆ เหมือนการทอผ้าด้วยกี่กระตุก)

ประมาณปี พ.ศ. 2500 คุณบัวเรียว รัตนมณีกรณ์ ได้คิดท่ารำขึ้นมาโดยอยู่ภายใต้การแนะนำของบิดา ท่ารำนี้ได้เน้นถึงการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องและนุ่มนวล ซึ่งเป็นท่าที่เหมาะสมในการป้องกันไม่ให้เส้นไหมพันกันในปี พ.ศ. 2507 คุณพลอยศรี สรรพศรี ช่างฟ้อนเก่าในวังของเจ้าเชียงใหม่องค์สุดท้าย (เจ้าแก้วนวรัฐ) ได้ร่วมกับคุณบัวเรียวขัดเกลาท่ารำขึ้นใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 คณะอาจารย์วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ ได้คิดท่ารำขึ้นมาเป็นแบบฉบับของวิทยาลัยเอง การฟ้อนของทางศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่เป็นการรวบรวมท่ารำที่สวยงามของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน

4.ระบำไก่

เป็นระบำชุดหนึ่งจากละครเรื่องพระลอตามไก่ เป็นการร่ายรำของบริวารของไก่แก้ว พระราชชายาได้ทรงคิดท่ารำขึ้นเนื่องในโอกาสฉลองกู่ (ที่บรรจุอัฐิ) ของเจ้านายเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2452 ที่ท่านทรงนำมารวบรวมไว้ที่วัดสวนดอก จากงานพระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงประทานให้แก่ท่าน

5.ฟ้อนเงี้ยว

เป็นการฟ้อนของเมืองเหนือ ที่ได้ดัดแปลงมากจากการละเล่นของไทยใหญ่ (เงี้ยว) ต่อมาครูช่างฟ้อนในคุ้มหลวงเชียงใหม่ได้ปรับปรุงแก้ไขให้สวยงามขึ้น

6.ระบำซอ

ได้ถูกแต่งและประดิษฐ์จากครูเพลงและครูช่างฟ้อนในคุ้มของเจ้าดารารัศมีในปี พ.ศ. 2470 ใช้ฟ้อนในโอกาสที่ถวายต้อนรับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเชียงใหม่ และในโอกาสสมโภชน์ช้างเผือกซึ่งน้อมเกล้าฯถวายให้ท่าน การแต่งกายเป็นชุดกระเหรี่ยง

7.ฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตา

เป็นการฟ้อนผสมระหว่างการฟ้อนในราชสำนักพม่าและรำไทยพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ทรงให้ครูช่างฟ้อนชาวพม่าและครูช่างฟ้อนในวังของท่านคิดท่ารำขึ้นมาระหว่างปี พ.ศ. 2458-2469 เครื่องแต่งกายเป็นแบบหญิงในราชสำนักพม่า ราชวงศ์คองบอง

8.ฟ้อนลื้อ

การฟ้อนนี้เดิมเป็นการฟ้อนของชาวไทยลื้อ หมู่บ้านหนองบัว อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน บรรพบุรุษของชาวไทยลื้อนี้เดิมเป็นพวกอพยพสงครามจากแคว้นสิบสองปันนาในมณฑลยูนานของจีน ชาวไทยลื้อเหล่านี้หลบหนีการต่อสู้ระหว่างพระเจ้าสิบสองปันนาและหลานชายซึ่งสู้รบกันในระหว่างปี พ.ศ.2365-2366 แตกต่างจากบรรพบุรุษของชาวไทยลื้อกลุ่มอื่นในทางตอนเหนือของประเทศไทยซึ่งอพยพมาก่อนหน้านี้ประมาณ 22 ปี ในฐานะเชลยสงคราม บางพวกก็ถูกชักชวนให้มาตั้งถิ่นฐานใหม่

9.ฟ้อนโยคีถวายไฟ

เจ้าแก้วนวรัฐ (พ.ศ. 2454-2482) เจ้าครองเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้ายได้ทรงให้นักดนตรีในวังของท่านและครูช่างฟ้อนชาวพม่าร่วมกันคิดท่ารำและบทเพลงขึ้นมาในโอกาสเสด็จประพาสเชียงใหม่ของกรมพระนครสวรรค์วรพินิจ โอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ. 2465 ท่ารำได้ดัดแปลงมาจากท่าฤาษีดัดตน เดิมเป็นการแสดงของผู้ชาย ในปี พ.ศ. 2477 ได้เปลี่ยนให้เป็นท่ารำของผู้หญิง เนื่องจากช่างฟ้อนผู้ชายหายาก

10.ฟ้อนน้อยใจยา

เป็นฉากหนึ่งของละครเพลงชื่อเดียวกัน ได้แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2464 โดยท้าวสุนทรโวหาร ถวายแก่เจ้าดารารัศมีในวันเกิดของท่าน ต่อมาเจ้าดารารัศมีได้ขัดเกลาบางตอนของละครและแต่งเพลงน้อยใจยาขึ้น ฉากนี้แสดงถึงน้อยใจยาชายหนุ่มผู้ยากจนได้ตัดพ้อต่อว่าแว่นแก้วสาวงามแห่งหมู่บ้าน ซึ่งจะแต่งงานกับส่างนันตาชายหนุ่มผู้ร่ำรวยแต่หน้าตาอัปลัษณ์ของอีกหมู่บ้านหนึ่ง แว่นแก้วบอกน้อยใจยาว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เป็นความเห็นชอบของบิดามารดาและได้ยืนยันความรักของเธอที่มีต่อเขา หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้วก็พากันหนีไป

11.ฟ้อนเทียน

ใช้ฟ้อนในเวลากลางคืน ไม่สวมเล็บ แต่ถือเทียนสองข้างประกอบการฟ้อนพระราชชายาฯได้ทรงปรับปรุงขึ้นจากการฟ้อนเล็บ เพื่อจะฟ้อนรับเสด็จรัชกาลที่ 7 ในคราวเสด็จประพาสเชียงใหม่ พ.ศ. 2469

12.ฟ้อนไต

ไตคือชื่อที่คนไทยใหญ่เรียกตัวเอง คนไทยใหญ่นี้นอกจากจะอาศัยอยู่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์แล้วยังอาศัยอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนด้วย ฟ้อนไตได้ถูกคิดท่ารำโดยครูแก้วและนางละหยิ่น ทองเขียวผู้เป็นภรรยา ผู้ซึ่งเป็นคนไทยใหญ่ด้วย โดยในระหว่าง พ.ศ. 2483-97 ขณะที่ นางละหยิ่นได้อาศัยที่เชียงใหม่กับครูแก้ว นางได้เห็นการแสดงฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตาและได้ประทับใจมาก เมื่อนางกับครูแก้วกลับไปอยู่แม่ฮ่องสอนแล้ว จึงได้คิดท่ารำของฟ้อนไตขึ้นจากท่ารำของรำไทย พม่า และฟ้อนเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2500

13.รำวง

เกิดจากรำโทนของนครพนมและได้แพร่หลายไปยังภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย ต่อมาจอมพล ป.พิบูลสงครามได้มีคำสั่งให้ก
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Show dance style
. The dance is a unique distinction of Lanna. Expressing characteristic humility, Suave and living under the belief. Faith in Buddhism

.Lanna dance originated from dance to the rite. Make sacred satisfaction moves, but traditional dances. No pattern, but expressed from the great joy. Happy fun additives, such as the ghost danceEtc. later in the story 6 consort เจ้าดารารัศมี in King Chulalongkorn Rama director The daughter of Chandragupta Maurya, the governor of Chiang Mai. Include dance posture compiled to native structure.Chiang Mai cultural center realizes the importance of these performances. The show for tourists. There are also other local dance in Na, have all 13 show as follows:
.
.

. 1 Thai DanceUnique key of dance style. Which is often shown in a special occasion to welcome the guests or dance to celebrate in Buddhism. Gait of the dance of love this held that have imitated the pose of the elephant.Consort of King Rama. 5 เจ้าดารารัศมี freely rectify to beautiful and dance specialized course
.
.

2 sword dance is one art characteristic associated with combat. A tactic of fighting, combined with the posture beautiful dance 3 silk-reeling dance

.

.A folk dance that imitated silk weaving of the villagers. The silk-reeling dance is a dance form old. Is one of Zheng and dance which is in series with a sword dance. Styles of dance rhythm is maneuverable and fast., like a weaving loom)
.
about year 2500 you lotus Ryo. Jewel equipment. Think dance up staying under the guidance of his father. This dance has highlighted the continuous and smooth movement. Which is the proper posture in preventing silk thousands in 2002.2507 you jewelry Sri sabhasri's old dance palace of you mai last (Chao Keo naovarat). And you dance a new refined lotus Ryo later in the year.2520 teachers college drama. Think up a dance version of the college. Dance of the Chiang Mai cultural center is a collection of beautiful dance of both parties together

.

. 4 chicken danceA set of พระลอตามไก่ dance drama. A dance of the host of ไก่แก้ว. Consort has thought of the dance up on the occasion of the celebration of Ku (packing) of bones boss Chiang Mai City in 2009.2452 you brought gathered at Wat suandok. From the project of "of his compositions at the king 5 expressed d given you

.

. 5 Snake DanceA dance of North The adapted from the play of large (curved) later teachers dance in good Royal Mai devices cook make more beautiful

6. Dances SEO.

.It was written and fabricated from music teachers and teachers of dance in worth เจ้าดารารัศมี in 2002.2470 used on occasion offer welcome dance king Prajadhipok Chiang Mai Royal Highness. And on the occasion of the method presented short answers for you. The dress is set Karen

7. Dance curtain Mui Chiang eye

.A dance mix between dance in the Burmese and Thai consort เจ้าดารารัศมี had ครูช่าง Burmese dance and dance teachers in your palace think dance up during the year. BC2458-2469 dress as a woman in the Burmese konbaung Dynasty

8. Dance you

.This original dance is a dance of the Thai Lue, Nong BUA village region seven, the ancestors of this original Thai Lue was a refugee from Xishuangbanna in Yunnan Regional War of China.B.Professor 2365-2366 differs from the ancestors of the Thai Lue another group in northern Thailand, which migrate มาก่อนหน้า about 22 years as prisoners of war. Some of them have been persuaded to new settlers. ฟ้อนโยคีถวายไฟ



9 Chao Keo naovarat (1999)2454-2482) city Mai last had his palace musicians and teachers of Burma dance together dance and song in the opportunity came aboard Mai Department of heaven should consider the campusB.Professor 2465 dance was adapted from the original hermit exercise is a show of man, the 2477 has changed to a dance of women. Because the man's dance rare

10. Dance น้อยใจยา

.As one of the musical scene the same name has written up in 1980.2464 by Tao sunthorn eloquence, offering to เจ้าดารารัศมี in your birthday Later เจ้าดารารัศมี has refined some episodes of the drama and wrote น้อยใจยา.Which is married to abate Nanta a rich guy but looks อัปลั interview of one village. น้อยใจยา eyewear say that all of this is not her fault.After working together, they fled
.
.

11 candle dance the dance in the night, do not wear nail, but holding a candle, two sides of a royal lady dance company has improved from the dance of love. To dance to 7 reign at the time came aboard in Chiang Mai, the 2469

12. Dance kidney

.ไตค is named the big call. In addition to live in this big Thai Shan. Cystic fibrosis and also live in the country. The kidney was thought dance dance by teacher glass and her หยิ่น green gold. The wife.During B.Prof.2483-97 as. Her หยิ่น have lived in Chiang Mai and teacher glass. She presented dance curtain Mui Chiang eyes and was very impressed. When her teacher and glass back in Mae Hong son. Hence the dances of the kidney from dance dance of dance Myanmar.In B.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: