เดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาลักษณะโครงสร้างโดยละเอียดพบว่า มีควา การแปล - เดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาลักษณะโครงสร้างโดยละเอียดพบว่า มีควา อังกฤษ วิธีการพูด

เดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาล

เดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาลักษณะโครงสร้างโดยละเอียดพบว่า มีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือ มีขนาดเล็กกว่า หัวกลม รู จมูกแยกจากกัน ปากเล็ก มีฟันหน้าและฟันกรามพัฒนาดี ไม่เป็นฟันยอดแหลมธรรมดาเหมือนๆกันอย่างวาฬ และมีเส้นขนที่ริมฝีปากตลอดชีวิต (สวัสดิ์ วงศ์ถิรวัฒน์, 2539)
พฤติกรรมของพะยูน
พะยูนจะมีการรวมเป็นฝูงและอยู่เป็นโดดเดี่ยวทั้งเมื่อน้ำขึ้นและน้ำลง มีการรวมเป็นฝูง ฝูงละ 2-3 ตัว และอาจจะพบพะยูนเป็นฝูงใหญ่ และมีลูกพะยูนอยู่ด้วย ซึ่งในปัจจุบันจะพบพะยูนมากที่สุด คือ ประเทศออสเตรเลีย
เรื่องของอาหารจากการสำรวจแหล่งหญ้าทะเลและได้สังเกตพฤติกรรมของพะยูน ที่เกาะตะลิบง จ.ตรัง พบว่าพะยูนจะเริ่มเข้ามาหากินหญ้าทะเลในช่วงที่น้ำทะเลกำลังขึ้น และกินหญ้าทะเลอยู่นานราว 2-3 ชั่วโมง พะยูนจะกินหญ้าทะเลพร้อมทั้งขึ้นมาหายใจทุกๆ 1-2 นาที และจึงดำลงไปกินหญ้าทะเลต่อ บางตัวจะกินหญ้าทะเลต่อในบริเวณใกล้ๆ ที่เดิม ในขณะที่บางตัวจะว่ายน้ำเปลี่ยนที่ไปประมาณ 1-5 เมตร โดยที่ลักษณะทิศทางการกินหญ้าทะเลของพะยูนไม่แน่นอน มีทั้งการหันด้านหัวสู่ชายฝั่ง หันหัวออกทะเล ลำตัวขนานกับชายฝั่ง หรือลำตัวทำมุมเฉียงกับชายหาด ซึ่งพะยูนส่วนใหญ่ที่พบจะกินหญ้าทะเลอยู่ห่างจากชายฝั่งมากกว่า 1 กิโลเมตร ในขณะที่น้ำลงมากพะยูนจะไปอาศัยอยู่ในร่องน้ำห่างชายฝั่งประมาณ 4-5 กิโลเมตร(สังเกตพบเห็นพะยูนอยู่ในร่องน้ำหลังน้ำลงประมาณ 2 ชั่วโมง) ซึ่งสอดคล้องกับกับงานของสุวรรณและคณะ(2536)

โดยพะยูนอาจจะกินหญ้าทะเลในช่วงน้ำขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน โดยที่พะยูนที่เกาะปาเลาส่วนใหญ่จะเข้ามากินหญ้าทะเลในตอนกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงจากอันตรายจากคนและสิ่งแวดล้อมอย่างอื่น สำหรับตอนเหนือของรัฐควีนแลนด์ประเทศออสเตรเลียพบว่าพะยูนจะเข้ามากินหญ้าทะเลในตอนกลางวัน ซึ่งจะกินหญ้าทะเลวันละประมาณ 30 กิโลกรัม แต่บางตำราระบุว่า กินอาหารประมาณวันละ 8 กิโลกรัม โดยใช้ปากเล็มหรืองับทั้งต้นพืชแล้วส่ายล้างสิ่งเกาะติดอื่นๆ แล้วกลืนทันทีโดยไม่เคี้ยว พะยูนอาจจะอาศัยประจำถิ่น หรือเคลื่อนย้ายถิ่นตามฤดูกาล (กาญจนา อดุลยานุโกศล และคณะ, 2540)
พะยูนระหว่างแม่กับลูกนั้นมีความสัมพันธ์กันมาก จะพบว่าแม่และลูกพะยูนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็นอย่างมาก ทั้งในขณะหากินและในขณะที่ว่ายน้ำ ลูกพะยูนและแม่จะว่ายน้ำหากินอยู่ใกล้ๆ กัน บางครั้งอาจจะห่างกันแต่จะอยู่ในรัศมีประมาณ 1 เมตร ขณะที่ขึ้นมาหายใจพร้อมกันลูกพะยูนจะอยู่ชิดช้างลำตัวแม่ หรืออยู่บนหลังของแม่ และขณะที่กำลังว่ายน้ำออกจากแหล่งหญ้าทะเลก็จะว่ายอยู่เคียงกันตลอด จากการติดตามสังเกตพฤติกรรมการกินหญ้าทะเลของแม่และลูกพะยูน พบว่าลูกพะยูนจะโผล่ขึ้นมาหายใจบ่อยกว่าแม่พะยูน โดยในขณะที่แม่พะยูนกำลังกินหญ้าทะเลอยู่ ลูกพะยูนโผล่ขึ้นมาหายใจ 2-3 ครั้ง แล้วแม่พะยูนจึงโผล่ขึ้นมาหายใจครั้งหนึ่ง
การสืบพันธุ์ของพะยูน
พะยูนไม่ได้ผสมพันธุ์ตามฤดูกาล จะมีการตั้งท้องนาน 13-15เดือน(บางตำราระบุว่าใช้เวลาประมาณ 385-400 วัน) จะมีการออกลูกครั้งละ 1 ตัว (บางตำราระบุว่ามีการออกลูกได้ถึงครั้งละ 2 ตัวได้ แต่มีน้อยมาก) มีลูกหนักเฉลี่ยประมาณ 20 กิโลกรัม(วารสารการประมง น้ำหนักแรกประมาณ 20-35 กิโลกรัม)โดยที่พะยูนเกิดใหม่จะมีน้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม โดยตัวแม่จะมีการดันลูกให้ขึ้นสู่ผิวน้ำทันที แล้วชะลอลูกไว้บนหลังในช่วงแรกๆ หลังคลอดเพื่อหัดให้ลูกหายใจและวายน้ำ โดยจะค่อยๆจมตัวเองและลอยขึ้นเป็นจังหวะ
แหล่งที่อยู่อาศัยและลักษณะนิสัยของพะยูน
พะยูนจะอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้ชายฝั่งทะเลนอกเขตน้ำกร่อย และชอบอาศัยอยู่ตามชายฝั่งน้ำ
ตื้นมากกว่าน้ำลึก หรือไม่เกิน 10 เมตร(โดยเฉลี่ยแล้วจะพบในความลึกประมาณ 3-5 เมตร) บริเวณที่ไม่ห่างไกลจากแหล่งหญ้าทะเลและเป็นที่ที่คลื่นลมไม่จัด บางครั้งอาจพบว่าเข้าไปในคลองน้ำกร่อยในป่าชายเลนโดยปกติจะมีการอาศัยอยู่ใต้น้ำ จะโผล่ขึ้นมาหายใจเอาอากาศบนผิวน้ำทุกๆ 3-5 นาที(หนังสือบางเล่มบอกว่าจะโผล่ทุกๆ 6-16 นาที) จะมีการจมตัวอยู่ในน้ำตลอดเวลา ปกติจะมีการทรงตัวอยู่ในแนวราบขนานกับพื้นท้องน้ำ เคลื่อนไหวอย่างช้า มีนิสัยรักสงบไม่ว่าจะอยู่เป็นฝูงหรืออยู่เพียงลำพัง แต่ส่วนมากแล้วจะอยู่เป็นฝูง สามารถอยู่ร่วมกับปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ได้ แต่ถ้ามีคนหรือสิ่งที่รบกวนอย่างอื่นเข้าใกล้จะมีการพุ่งตัวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พยูนจะโผล่ขึ้นมาหายใจเอาอากาศบนผิวน้ำทุกๆ 3-5 นาที
ความสามารถในการเคลื่อนที่
ปลาพะยูนสามารถว่ายน้ำเร็วปกติประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะว่ายได้เร็วถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในยามที่ตกใจหรือหลีกหนีสิ่งผิดปกติ
สถานภาพของพะยูนทั่วโลก
ถึงแม้ว่าพะยูนจะเป็นสัตว์คุ้มครองในประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ยังคงมีการอนุญาตให้ล่าได้ตามประเพณีความเชื่อเก่าของชาวอะบอริจิน และชาวเกาะบริเวณช่องแคบTorres พะยูนมักจะอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งนับวันจะถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ จากการขุดลอกร่องน้ำ การชะล้างหน้าดินจากบริเวณพื้นที่ทำเกษตรกรรมลงสู่ทะเล และมักจะได้รับอันตรายจากจากอวนขนาดใหญ่ เช่น อวนกระเบน หรืออวนฉลาม ซึ่งสภาพปัญหาของพะยูนจะคล้ายกับโลมา ยกตัวอย่างเช่น บริเวณ Great Barrior Reef (GBR) มีประชากรของพะยูนประมาณ 3,500 ตัว (ในปี1987) และอีก 4 ปีต่อมา (ในปี1991) ประชากรพะยูนลดลงเหลือ 1,700 ตัว การลดจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว ทำให้มันอยู่ในสภาวะที่ใกล้จะสูญพันธุ์ จะเห็นว่ามีการปัญหาของพะยูนจะคล้ายกับโลมาคือมีจำนวนลดลงอย่างมากทั่วโลก

โลมา
โลมา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งอาศัยน้ำที่มีสติปัญญาสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งมีเชื้อสายใกล้เคียงกับ วาฬ ในภาษาอังกฤษเรียกโลมาว่า Dolphin มาจากภาษากรีกโบราณδελφίς เดลฟิส (delphis) ตำนานกรีก เล่าว่า เทพแห่งไวน์ของกรีก ชื่อ ไดโอนีซอส (Dionysos) แปลงลงมาเป็นมนุษย์ และได้โดยสารเรือข้ามจากเกาะอิคาเรีย (Ikaria) ไปยังเกาะนาซอสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไดโอนีซอสนั้นแม้จะเป็นเทพ ทว่าไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าเรือลำที่ตนโดยสารไปนั้นเป็นเรือโจร ลูกเรือจะปล้นผู้โดยสารทุกคนถ้วนหน้า เมื่อถึงคราวของไดโอนีซอส เขาจึงถูกลูกเรือปล้น และคิดจะจับเขาไปขายเป็นทาส ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจำต้องแสดงตนว่าเป็นเทพ และสาปให้เรือมีเถาองุ่นขึ้นเต็ม มีเสียงขลุ่ยดังขึ้น พวกลูกเรือตกใจ จึงกระโดดน้ำหนีไปหมด และได้กลายร่างเป็นปลาโลมา มาจนกระทั่งท
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาลักษณะโครงสร้างโดยละเอียดพบว่า มีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือ มีขนาดเล็กกว่า หัวกลม รู จมูกแยกจากกัน ปากเล็ก มีฟันหน้าและฟันกรามพัฒนาดี ไม่เป็นฟันยอดแหลมธรรมดาเหมือนๆกันอย่างวาฬ และมีเส้นขนที่ริมฝีปากตลอดชีวิต (สวัสดิ์ วงศ์ถิรวัฒน์, 2539)พฤติกรรมของพะยูนพะยูนจะมีการรวมเป็นฝูงและอยู่เป็นโดดเดี่ยวทั้งเมื่อน้ำขึ้นและน้ำลง มีการรวมเป็นฝูง ฝูงละ 2-3 ตัว และอาจจะพบพะยูนเป็นฝูงใหญ่ และมีลูกพะยูนอยู่ด้วย ซึ่งในปัจจุบันจะพบพะยูนมากที่สุด คือ ประเทศออสเตรเลียเรื่องของอาหารจากการสำรวจแหล่งหญ้าทะเลและได้สังเกตพฤติกรรมของพะยูน ที่เกาะตะลิบง จ.ตรัง พบว่าพะยูนจะเริ่มเข้ามาหากินหญ้าทะเลในช่วงที่น้ำทะเลกำลังขึ้น และกินหญ้าทะเลอยู่นานราว 2-3 ชั่วโมง พะยูนจะกินหญ้าทะเลพร้อมทั้งขึ้นมาหายใจทุกๆ 1-2 นาที และจึงดำลงไปกินหญ้าทะเลต่อ บางตัวจะกินหญ้าทะเลต่อในบริเวณใกล้ๆ ที่เดิม ในขณะที่บางตัวจะว่ายน้ำเปลี่ยนที่ไปประมาณ 1-5 เมตร โดยที่ลักษณะทิศทางการกินหญ้าทะเลของพะยูนไม่แน่นอน มีทั้งการหันด้านหัวสู่ชายฝั่ง หันหัวออกทะเล ลำตัวขนานกับชายฝั่ง หรือลำตัวทำมุมเฉียงกับชายหาด ซึ่งพะยูนส่วนใหญ่ที่พบจะกินหญ้าทะเลอยู่ห่างจากชายฝั่งมากกว่า 1 กิโลเมตร ในขณะที่น้ำลงมากพะยูนจะไปอาศัยอยู่ในร่องน้ำห่างชายฝั่งประมาณ 4-5 กิโลเมตร(สังเกตพบเห็นพะยูนอยู่ในร่องน้ำหลังน้ำลงประมาณ 2 ชั่วโมง) ซึ่งสอดคล้องกับกับงานของสุวรรณและคณะ(2536)โดยพะยูนอาจจะกินหญ้าทะเลในช่วงน้ำขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน โดยที่พะยูนที่เกาะปาเลาส่วนใหญ่จะเข้ามากินหญ้าทะเลในตอนกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงจากอันตรายจากคนและสิ่งแวดล้อมอย่างอื่น สำหรับตอนเหนือของรัฐควีนแลนด์ประเทศออสเตรเลียพบว่าพะยูนจะเข้ามากินหญ้าทะเลในตอนกลางวัน ซึ่งจะกินหญ้าทะเลวันละประมาณ 30 กิโลกรัม แต่บางตำราระบุว่า กินอาหารประมาณวันละ 8 กิโลกรัม โดยใช้ปากเล็มหรืองับทั้งต้นพืชแล้วส่ายล้างสิ่งเกาะติดอื่นๆ แล้วกลืนทันทีโดยไม่เคี้ยว พะยูนอาจจะอาศัยประจำถิ่น หรือเคลื่อนย้ายถิ่นตามฤดูกาล (กาญจนา อดุลยานุโกศล และคณะ, 2540)พะยูนระหว่างแม่กับลูกนั้นมีความสัมพันธ์กันมาก จะพบว่าแม่และลูกพะยูนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็นอย่างมาก ทั้งในขณะหากินและในขณะที่ว่ายน้ำ ลูกพะยูนและแม่จะว่ายน้ำหากินอยู่ใกล้ๆ กัน บางครั้งอาจจะห่างกันแต่จะอยู่ในรัศมีประมาณ 1 เมตร ขณะที่ขึ้นมาหายใจพร้อมกันลูกพะยูนจะอยู่ชิดช้างลำตัวแม่ หรืออยู่บนหลังของแม่ และขณะที่กำลังว่ายน้ำออกจากแหล่งหญ้าทะเลก็จะว่ายอยู่เคียงกันตลอด จากการติดตามสังเกตพฤติกรรมการกินหญ้าทะเลของแม่และลูกพะยูน พบว่าลูกพะยูนจะโผล่ขึ้นมาหายใจบ่อยกว่าแม่พะยูน โดยในขณะที่แม่พะยูนกำลังกินหญ้าทะเลอยู่ ลูกพะยูนโผล่ขึ้นมาหายใจ 2-3 ครั้ง แล้วแม่พะยูนจึงโผล่ขึ้นมาหายใจครั้งหนึ่ง
การสืบพันธุ์ของพะยูน
พะยูนไม่ได้ผสมพันธุ์ตามฤดูกาล จะมีการตั้งท้องนาน 13-15เดือน(บางตำราระบุว่าใช้เวลาประมาณ 385-400 วัน) จะมีการออกลูกครั้งละ 1 ตัว (บางตำราระบุว่ามีการออกลูกได้ถึงครั้งละ 2 ตัวได้ แต่มีน้อยมาก) มีลูกหนักเฉลี่ยประมาณ 20 กิโลกรัม(วารสารการประมง น้ำหนักแรกประมาณ 20-35 กิโลกรัม)โดยที่พะยูนเกิดใหม่จะมีน้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม โดยตัวแม่จะมีการดันลูกให้ขึ้นสู่ผิวน้ำทันที แล้วชะลอลูกไว้บนหลังในช่วงแรกๆ หลังคลอดเพื่อหัดให้ลูกหายใจและวายน้ำ โดยจะค่อยๆจมตัวเองและลอยขึ้นเป็นจังหวะ
แหล่งที่อยู่อาศัยและลักษณะนิสัยของพะยูน
พะยูนจะอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้ชายฝั่งทะเลนอกเขตน้ำกร่อย และชอบอาศัยอยู่ตามชายฝั่งน้ำ
ตื้นมากกว่าน้ำลึก หรือไม่เกิน 10 เมตร(โดยเฉลี่ยแล้วจะพบในความลึกประมาณ 3-5 เมตร) บริเวณที่ไม่ห่างไกลจากแหล่งหญ้าทะเลและเป็นที่ที่คลื่นลมไม่จัด บางครั้งอาจพบว่าเข้าไปในคลองน้ำกร่อยในป่าชายเลนโดยปกติจะมีการอาศัยอยู่ใต้น้ำ จะโผล่ขึ้นมาหายใจเอาอากาศบนผิวน้ำทุกๆ 3-5 นาที(หนังสือบางเล่มบอกว่าจะโผล่ทุกๆ 6-16 นาที) จะมีการจมตัวอยู่ในน้ำตลอดเวลา ปกติจะมีการทรงตัวอยู่ในแนวราบขนานกับพื้นท้องน้ำ เคลื่อนไหวอย่างช้า มีนิสัยรักสงบไม่ว่าจะอยู่เป็นฝูงหรืออยู่เพียงลำพัง แต่ส่วนมากแล้วจะอยู่เป็นฝูง สามารถอยู่ร่วมกับปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ได้ แต่ถ้ามีคนหรือสิ่งที่รบกวนอย่างอื่นเข้าใกล้จะมีการพุ่งตัวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พยูนจะโผล่ขึ้นมาหายใจเอาอากาศบนผิวน้ำทุกๆ 3-5 นาที
ความสามารถในการเคลื่อนที่
ปลาพะยูนสามารถว่ายน้ำเร็วปกติประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะว่ายได้เร็วถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในยามที่ตกใจหรือหลีกหนีสิ่งผิดปกติ
สถานภาพของพะยูนทั่วโลก
ถึงแม้ว่าพะยูนจะเป็นสัตว์คุ้มครองในประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ยังคงมีการอนุญาตให้ล่าได้ตามประเพณีความเชื่อเก่าของชาวอะบอริจิน และชาวเกาะบริเวณช่องแคบTorres พะยูนมักจะอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งนับวันจะถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ จากการขุดลอกร่องน้ำ การชะล้างหน้าดินจากบริเวณพื้นที่ทำเกษตรกรรมลงสู่ทะเล และมักจะได้รับอันตรายจากจากอวนขนาดใหญ่ เช่น อวนกระเบน หรืออวนฉลาม ซึ่งสภาพปัญหาของพะยูนจะคล้ายกับโลมา ยกตัวอย่างเช่น บริเวณ Great Barrior Reef (GBR) มีประชากรของพะยูนประมาณ 3,500 ตัว (ในปี1987) และอีก 4 ปีต่อมา (ในปี1991) ประชากรพะยูนลดลงเหลือ 1,700 ตัว การลดจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว ทำให้มันอยู่ในสภาวะที่ใกล้จะสูญพันธุ์ จะเห็นว่ามีการปัญหาของพะยูนจะคล้ายกับโลมาคือมีจำนวนลดลงอย่างมากทั่วโลก

โลมา
โลมา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งอาศัยน้ำที่มีสติปัญญาสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งมีเชื้อสายใกล้เคียงกับ วาฬ ในภาษาอังกฤษเรียกโลมาว่า Dolphin มาจากภาษากรีกโบราณδελφίς เดลฟิส (delphis) ตำนานกรีก เล่าว่า เทพแห่งไวน์ของกรีก ชื่อ ไดโอนีซอส (Dionysos) แปลงลงมาเป็นมนุษย์ และได้โดยสารเรือข้ามจากเกาะอิคาเรีย (Ikaria) ไปยังเกาะนาซอสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไดโอนีซอสนั้นแม้จะเป็นเทพ ทว่าไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าเรือลำที่ตนโดยสารไปนั้นเป็นเรือโจร ลูกเรือจะปล้นผู้โดยสารทุกคนถ้วนหน้า เมื่อถึงคราวของไดโอนีซอส เขาจึงถูกลูกเรือปล้น และคิดจะจับเขาไปขายเป็นทาส ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจำต้องแสดงตนว่าเป็นเทพ และสาปให้เรือมีเถาองุ่นขึ้นเต็ม มีเสียงขลุ่ยดังขึ้น พวกลูกเรือตกใจ จึงกระโดดน้ำหนีไปหมด และได้กลายร่างเป็นปลาโลมา มาจนกระทั่งท
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The same is Cetacea but from the structure in detail and found that there is a huge difference, that is smaller than the round head hole. The nose, small mouth, there are separate anterior molar and well developed. Not plain, pointed teeth, like a whale. And hair lips for life (d d. 2539 thirapat,).The behavior of the manatees.Manatees are included as masses and be alone and when tide tide and the packs, and it 2-3, and may be found in a herd of manatees. And with the manatees in which today will find manatees most is Australia.On the subject of food from the seagrass beds and observe the behavior of the manatees. ตะลิบ Island, Trang, found that the manatees will start to a living sea grass during the tide is rising. And eat sea grass for a long time about 2-3 hours. Manatees eat sea grass and come up for air every 1-2 minutes. And thus go eat grass. Some will eat sea grass in the area near the place, while some will swim change to approximately 1-5 meters. Without the direction of eating seagrass dugong is uncertain. There are both turned the head to head the sea coast. Facing the body parallel to the coast or the torso angle เฉียงกับ beach. The manatees mostly found to eat seagrass away from the coast more than 1 kilometers. While many manatees to go live in a ditch water from shore about 4-5 kilometers (note the seen, Yu, in the sewers after low tide about 2 hours). According to the work of Suwan and faculty (2536).The manatees may eat seagrass in the flow both day and night. The manatees in Palau, mainly to eat sea grass in the night. To avoid the danger of people and the environment. For the northern Queensland Australia found that manatees to eat grass in the middle of the day. Which will eat sea grass a day for about 30 kilograms, but some texts indicate that eat per day 8 kg By the mouth trimming or bite the plants and other things stick shake wash And swallow immediately without chewing. Manatees may have lived in dialects. The local seasonal or move (kanchana vadhana.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: