ประโยชน์ของดนตรีต่อเด็กโดย  ประพันธ

ประโยชน์ของดนตรีต่อเด็ก
โดย  ประพันธ์ศักดิ์   พุ่มอินทร์
 

                ดนตรี  เป็นศิลปะแห่งเสียงที่มนุษยชาติได้บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นไว้   นับตั้งแต่ที่มนุษย์ได้ยินเสียงจากธรรมชาติและพยายามลอกเลียนเสียง   จนกระทั่งสร้างเสียงดนตรีขึ้นได้   เสียงดนตรีอยู่คู่กับมนุษย์มาโดยตลอดไม่ว่าชนชาติใด  ภาษาใด  ความเชื่อทางศาสนาใด   ดนตรีสามารถเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่    อันแสดงถึงความเจริญทางจิตใจและอารยะธรรมของมนุษย์ชนชาติต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

               

การศึกษาดนตรีในปัจจุบันได้รับการยอมรับให้เป็นวิชาหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาเด็ก     จากการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์พบว่า   ดนตรีมีผลต่อการพัฒนาสมองเด็ก เนื่องจากในสมองมีสารเคมีบางตัวที่มีผลต่อความรู้สึก   ความจำ  การเรียนรู้   ความคิดสร้างสรรค์  ฯลฯ   เราเรียกสารนี้ว่า   สารสื่อสัญญาณในสมอง (Neurotransmitter)   ได้แก่   สารเพื่อเกิดการกระตุ้น (excitatory) และสารเพื่อการยับยั้ง  (inhibitory)  สารเคมีทั้ง 2 ชุดนี้  ช่วยทำให้เด็กมีความตั้งใจ  สนใจการเรียนรู้  มีสมาธิ    สารเคมีนี้จะหลั่งมากเมื่อมีเด็กมีกิจกรรมที่ผ่อนคลาย  เช่น    การออกกำลังกาย   การได้รับคำชมเชย   การเล่นเป็นกลุ่ม   การร้องเพลง     การได้รับการสัมผัสที่อบอุ่น  การเล่นดนตรีและการเรียนศิลปะโดยไม่ถูกบังคับ    กระบวนการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสุข  เกิดจากความสมดุลของสมองทั้งสองซีก           เมื่อสารเอนโดฟีน (endophine)  หลั่งออกมา  ทำให้เด็กมีความสุข  เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ของการเรียนรู้ที่มีคุณค่า    ถ้าสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้กระตุ้นให้เด็กมีความเครียด  กดดัน  แข่งขันเพื่อเอาชนะ  จะเป็นสารแอนดรีนาลีน (adrenalin)  ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ไม่พึงปรารถนา    และสร้างความทรงจำที่ไม่ดีให้กับเด็ก  

               

แนวคิดของความจำเป็นในการเรียนดนตรีสำหรับเด็กได้รับสำคัญมากขึ้น  ด้วยทฤษฎีความหลากหลายของสติปัญญา (Theory  of  Multiple  Intelligences)  ซึ่ง โฮเวิร์ด   การ์ดเนอร์ (Howard  Gardner) ได้ศึกษาและจำแนกความเก่งของคนไว้ 7 ประการหลัก  ได้แก่  ด้านภาษา (verbal/linguistic)  ด้านดนตรี/ จังหวะ (musical/rhythmic) ด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ (logical/ mathematical)  ด้านการเคลื่อนไหว (body/kinesthetic) ด้านศิลปะ/มิติสัมพันธ์ (visual/spatial)  ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล/การสื่อสาร (interpersonal) และด้านความรู้สึก/ความลึกซึ้งภายในจิตใจ (intrapersonal)  ความเก่งหรือความสามารถนี้มีรูปแบบการพัฒนาเฉพาะตัว  มีรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามสังคม  และวัฒนธรรม  แนวคิดนี้แตกต่างไปจากเรื่อง  IQ  หรือ  ความฉลาด  ซึ่งความเชื่อดั้งเดิมถือว่า  ความฉลาดวัดได้จากการทดสอบในเด็กเพียงบางวิชา  เช่น  คณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์  ภาษาศาสตร์     แต่ปัจจุบัน  คำจำกัดความว่า  “ ฉลาด”  “เก่ง”  “ พรสวรรค์”           ได้เปลี่ยนไปแล้ว    ดังเช่น  นักกีฬาชื่อดัง  เช่น  ภราดร  ศรีชาพันธ์    หรือ  นักดนตรีอย่าง  วาเนสซ่า  เมย์   ก็ถือได้ว่าเป็นอัจริยะทางด้านต่าง ๆ  ที่เขาและเธอถนัด  ซึ่งสามารถทำได้ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไป    และเมื่อเรามองถึงภูมิหลังของบุคคลอัจฉริยะทั้งหลายจะพบว่า  เขาเหล่านั้นไม่ได้บังเอิญเกิดมาเก่งเพียงอย่างเดียว   แต่ได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้องและต่อเนื่องมาตั้งแต่เยาว์วัย  จากครอบครัว พ่อ แม่  ญาติพี่น้อง               ครู  อาจารย์  โรงเรียน  และสังคม   ที่เอื้อหนุนให้ความเก่งของเขาเพิ่มพูนขึ้น  จนสามารถเปลี่ยนความถนัดให้เป็นความสามารถพิเศษได้ 

 

                    ความสามารถพิเศษทางดนตรีของมนุษย์   เป็นศักยภาพที่พบมากในคนที่เล่นดนตรี  ศิลปินดนตรี  นักแต่งเพลง  ผู้ควบคุมวง   ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน   นักร้อง   นักเต้นรำ   ซึ่งบุคคลพวกนี้มีทักษะทางดนตรีในขั้นพิเศษกว่าคนทั่วไป   เช่น    เมื่อฟังเพลงแล้วสามารถจับจังหวะได้   สามารถบอกระดับเสียง   เขียนเป็นโน้ตดนตรี    ตีความบทเพลง    รับรู้พลังของดนตรี    ซึ่งบุคคลทั่วไปอาจฟังแค่เพลงนั้นไพเราะหรือถูกใจเพียงผิวเผิน    แต่อย่างไรก็ดี   ความสามารถทางดนตรีย่อมพัฒนาให้ดีขึ้นได้ด้วยการฝึกฝน  เช่น   ฝึกเล่นดนตรี   ฝึกร้องเพลง     ฝึกอ่านโน้ต  ฝึกฟังเพลงมาก ๆ    การฝึกฝนทางด้านดนตรีที่ดี  ผู้เรียนต้องมีแรงจูงใจ  มีความอยากเรียนด้วยตนเอง   มีความสุขเมื่อได้ทำกิจกรรมดนตรี   มีความต้องการแสดงออกทางดนตรี      

 

  ดังนั้น พ่อ แม่  ผู้ปกครองควรสร้างรากฐานแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก ยังเล็ก   ดังเช่นคำพูดที่ว่า “กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว”   เพราะว่าในช่วงแรกของชีวิต   เป็นช่วงแห่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุด  เด็กที่ได้รับการเตรียมพร้อมโดยพ่อ  แม่  ก่อนการเข้าเรียนในโรงเรียนย่อมได้เปรียบเด็กอื่น ๆ  ที่มีกิจกรรมที่บ้านด้วยการดูโทรทัศน์  หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์    การเรียนดนตรีก็เช่นเดียวกัน   มีผู้ปกครองส่วนมากที่เข้าใจกันว่า  เมื่อส่งลูกเข้าเรียนพิเศษในโรงเรียนดนตรีก็หวังว่าจะให้เด็กประสบความสำเร็จทางดนตรีเช่นเดียวกับ  โมซารท์ (Mozart) คีตกวีเอกของโลก   แต่ไม่ได้สร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ดนตรีที่บ้าน  เช่น  การเปิดเพลงให้ฟัง   การพาเด็กไปชมการแสดงดนตรี   ซึ่งหมายถึงประเภทของดนตรีที่ฟังด้วย  เพราะดนตรีที่ส่งเสริมความคิดที่ดีต้องเป็นดนตรีที่กลั่นกรองมาดี        เช่น  ดนตรีคลาสสิก  หรือ  ดนตรีพื้นบ้าน   ดนตรีไทย  ดนตรีที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งด้วยเทคโนโลยีจนผิดธรรมชาติ   

 

                มีงานวิจัยทางดนตรีหลายชิ้นในต่างประเทศพบว่า  ถ้าเด็กทารกได้ฟังเพลงคลาสสิกที่คัดสรรแล้ว  เมื่อเด็กโตขึ้นจะมีพัฒนาการทั้งร่างกายและสมองเร็วกว่าเด็กปรกติ       คือ   ความสามารถทางการได้ยิน  การใช้กล้ามเนื้อ  การพูด  การอ่าน  ความมีสมาธิ   การตอบสนองโดยทั่วไปดีกว่าเด็กปรกติ   งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงมีชื่อว่า  Mozart  Effect  ซึ่งนำเอาบทประพันธ์ของคีตกวี    โมซาร์ทมาทดลองให้เด็กฟัง   และสรุปบางตัวอย่างบทเพลงที่ควรให้เด็กฟัง   ได้แก่  Divertimento  K 136 ,  Opera(Don  Giovanni)-Deh  Vieni  Alla  Finestra ,  Quintet  for  clarinet  A  Major  K 581-2nd  Movement , Sonata  for  2 pianos  D  major  K 448-2nd  Movement  ฯลฯ     ผลงานนี้มีขายทั่วไป   และได้ทำทั้งรูปแบบ  CD  และ  DVD  ซึ่งมีภาพการ์ตูนประกอบบทเพลงให้เด็กได้ฟังเพื่อความเพลิดเพลินด้วย    ผู้เขียนเคยเห็นผลงานเหล่านี้บางส่วนมีขายในศูนย์การค้าในประเทศไทยแล้วด้วย     ดังนั้นสิ่งแรกที่พ่อ  แม่   ควรเริ่มก่อนการส่งเด็กเข้าเรียนดนตรี  นั่นคือ  การสร้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Benefits of music childrenBy the sixth rank composers Topiary  Music is the voice of mankind is fine arts creativity previously since humans hear sounds from nature and try to sound until the infringement to create music. Music man to come along, no matter what language people religious beliefs which. Music can be placed in the way of life and culture. Represent prosperity mind and be fair to the various peoples of the human civilized.                การศึกษาดนตรีในปัจจุบันได้รับการยอมรับให้เป็นวิชาหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาเด็ก จากการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์พบว่า ดนตรีมีผลต่อการพัฒนาสมองเด็ก เนื่องจากในสมองมีสารเคมีบางตัวที่มีผลต่อความรู้สึก ความจำ การเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ เราเรียกสารนี้ว่า สารสื่อสัญญาณในสมอง (Neurotransmitter) ได้แก่ สารเพื่อเกิดการกระตุ้น (excitatory) และสารเพื่อการยับยั้ง (inhibitory) สารเคมีทั้ง 2 ชุดนี้ ช่วยทำให้เด็กมีความตั้งใจ สนใจการเรียนรู้ มีสมาธิ สารเคมีนี้จะหลั่งมากเมื่อมีเด็กมีกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย การได้รับคำชมเชย การเล่นเป็นกลุ่ม การร้องเพลง การได้รับการสัมผัสที่อบอุ่น การเล่นดนตรีและการเรียนศิลปะโดยไม่ถูกบังคับ กระบวนการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสุข เกิดจากความสมดุลของสมองทั้งสองซีก เมื่อสารเอนโดฟีน (endophine) หลั่งออกมา ทำให้เด็กมีความสุข เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ของการเรียนรู้ที่มีคุณค่า ถ้าสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้กระตุ้นให้เด็กมีความเครียด กดดัน แข่งขันเพื่อเอาชนะ จะเป็นสารแอนดรีนาลีน (adrenalin) ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ไม่พึงปรารถนา และสร้างความทรงจำที่ไม่ดีให้กับเด็ก                 แนวคิดของความจำเป็นในการเรียนดนตรีสำหรับเด็กได้รับสำคัญมากขึ้น ด้วยทฤษฎีความหลากหลายของสติปัญญา (Theory of Multiple Intelligences) ซึ่ง โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) ได้ศึกษาและจำแนกความเก่งของคนไว้ 7 ประการหลัก ได้แก่ ด้านภาษา (verbal/linguistic) ด้านดนตรี/ จังหวะ (musical/rhythmic) ด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ (logical/ mathematical) ด้านการเคลื่อนไหว (body/kinesthetic) ด้านศิลปะ/มิติสัมพันธ์ (visual/spatial) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล/การสื่อสาร (interpersonal) และด้านความรู้สึก/ความลึกซึ้งภายในจิตใจ (intrapersonal) ความเก่งหรือความสามารถนี้มีรูปแบบการพัฒนาเฉพาะตัว มีรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามสังคม และวัฒนธรรม แนวคิดนี้แตกต่างไปจากเรื่อง IQ หรือ ความฉลาด ซึ่งความเชื่อดั้งเดิมถือว่า ความฉลาดวัดได้จากการทดสอบในเด็กเพียงบางวิชา เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาศาสตร์ แต่ปัจจุบัน คำจำกัดความว่า “ ฉลาด” “เก่ง” “ พรสวรรค์” ได้เปลี่ยนไปแล้ว ดังเช่น นักกีฬาชื่อดัง เช่น ภราดร ศรีชาพันธ์ หรือ นักดนตรีอย่าง วาเนสซ่า เมย์ ก็ถือได้ว่าเป็นอัจริยะทางด้านต่าง ๆ ที่เขาและเธอถนัด ซึ่งสามารถทำได้ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไป และเมื่อเรามองถึงภูมิหลังของบุคคลอัจฉริยะทั้งหลายจะพบว่า เขาเหล่านั้นไม่ได้บังเอิญเกิดมาเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้องและต่อเนื่องมาตั้งแต่เยาว์วัย จากครอบครัว พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ครู อาจารย์ โรงเรียน และสังคม ที่เอื้อหนุนให้ความเก่งของเขาเพิ่มพูนขึ้น จนสามารถเปลี่ยนความถนัดให้เป็นความสามารถพิเศษได้   ความสามารถพิเศษทางดนตรีของมนุษย์ เป็นศักยภาพที่พบมากในคนที่เล่นดนตรี ศิลปินดนตรี นักแต่งเพลง ผู้ควบคุมวง ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน นักร้อง นักเต้นรำ ซึ่งบุคคลพวกนี้มีทักษะทางดนตรีในขั้นพิเศษกว่าคนทั่วไป เช่น เมื่อฟังเพลงแล้วสามารถจับจังหวะได้ สามารถบอกระดับเสียง เขียนเป็นโน้ตดนตรี ตีความบทเพลง รับรู้พลังของดนตรี ซึ่งบุคคลทั่วไปอาจฟังแค่เพลงนั้นไพเราะหรือถูกใจเพียงผิวเผิน แต่อย่างไรก็ดี ความสามารถทางดนตรีย่อมพัฒนาให้ดีขึ้นได้ด้วยการฝึกฝน เช่น ฝึกเล่นดนตรี ฝึกร้องเพลง ฝึกอ่านโน้ต ฝึกฟังเพลงมาก ๆ การฝึกฝนทางด้านดนตรีที่ดี ผู้เรียนต้องมีแรงจูงใจ มีความอยากเรียนด้วยตนเอง มีความสุขเมื่อได้ทำกิจกรรมดนตรี มีความต้องการแสดงออกทางดนตรี   ดังนั้น พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรสร้างรากฐานแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก ยังเล็ก ดังเช่นคำพูดที่ว่า “กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว” เพราะว่าในช่วงแรกของชีวิต เป็นช่วงแห่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เด็กที่ได้รับการเตรียมพร้อมโดยพ่อ แม่ ก่อนการเข้าเรียนในโรงเรียนย่อมได้เปรียบเด็กอื่น ๆ ที่มีกิจกรรมที่บ้านด้วยการดูโทรทัศน์ หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ การเรียนดนตรีก็เช่นเดียวกัน มีผู้ปกครองส่วนมากที่เข้าใจกันว่า เมื่อส่งลูกเข้าเรียนพิเศษในโรงเรียนดนตรีก็หวังว่าจะให้เด็กประสบความสำเร็จทางดนตรีเช่นเดียวกับ โมซารท์ (Mozart) คีตกวีเอกของโลก แต่ไม่ได้สร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ดนตรีที่บ้าน เช่น การเปิดเพลงให้ฟัง การพาเด็กไปชมการแสดงดนตรี ซึ่งหมายถึงประเภทของดนตรีที่ฟังด้วย เพราะดนตรีที่ส่งเสริมความคิดที่ดีต้องเป็นดนตรีที่กลั่นกรองมาดี เช่น ดนตรีคลาสสิก หรือ ดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีไทย ดนตรีที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งด้วยเทคโนโลยีจนผิดธรรมชาติ   มีงานวิจัยทางดนตรีหลายชิ้นในต่างประเทศพบว่า ถ้าเด็กทารกได้ฟังเพลงคลาสสิกที่คัดสรรแล้ว เมื่อเด็กโตขึ้นจะมีพัฒนาการทั้งร่างกายและสมองเร็วกว่าเด็กปรกติ คือ ความสามารถทางการได้ยิน การใช้กล้ามเนื้อ การพูด การอ่าน ความมีสมาธิ การตอบสนองโดยทั่วไปดีกว่าเด็กปรกติ งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงมีชื่อว่า Mozart Effect ซึ่งนำเอาบทประพันธ์ของคีตกวี โมซาร์ทมาทดลองให้เด็กฟัง และสรุปบางตัวอย่างบทเพลงที่ควรให้เด็กฟัง ได้แก่ Divertimento K 136 , Opera(Don Giovanni)-Deh Vieni Alla Finestra , Quintet for clarinet A Major K 581-2nd Movement , Sonata for 2 pianos D major K 448-2nd Movement ฯลฯ ผลงานนี้มีขายทั่วไป และได้ทำทั้งรูปแบบ CD และ DVD ซึ่งมีภาพการ์ตูนประกอบบทเพลงให้เด็กได้ฟังเพื่อความเพลิดเพลินด้วย ผู้เขียนเคยเห็นผลงานเหล่านี้บางส่วนมีขายในศูนย์การค้าในประเทศไทยแล้วด้วย ดังนั้นสิ่งแรกที่พ่อ แม่ ควรเริ่มก่อนการส่งเด็กเข้าเรียนดนตรี นั่นคือ การสร้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The benefits of music on children
by Faculty Magnolia Inn                 Music The art of calligraphy is sound humanity had created them. Since humans can hear sounds of nature and try to imitate sounds. Until create the music up Music has always been with the human race, whether any particular language or religious beliefs. Music can be entered in the lifestyle and culture of living. It shows the progress of human civilization, mind and nationalities as well as music education today is recognized as one of the subjects that are essential to child development. The scientific research is found. Music affects the brain development of children. Because certain brain chemicals that affect the senses, memory, learning, creativity, etc. We call this substance. Chemical signaling in the brain (Neurotransmitter) include compounds to stimulate (excitatory) and compounds to inhibit (inhibitory) These two chemicals are intended to help children. Interested to learn to concentrate, this chemical is secreted when a child has a relaxing activity such as exercise. The praise To play a song to get warm touch. Playing music and art classes without being forced. Learning process that encourages students to be happy. The balance of the two brain hemispheres. When unglued phenolic compounds (endophine) shed making children happy. To enhance the learning experience is valuable. The learning environment encourages children to overcome competitive pressures stress. Is a substance Andrews Marina Lee (adrenalin), which creates a learning experience that is not desirable. And create bad memories for children with   the concept of the need for music lessons for children is more important. The theory of intelligence (Theory of Multiple Intelligences), which Howard Gardner (Howard Gardner) were studied and classified the good of the people on seven aspects, including language (verbal / linguistic), music / rhythm (musical / rhythmic. ) logic and mathematics (logical / mathematical) mobility. (Body / kinesthetic) Art / spatial. (Visual / spatial) the interpersonal / communication. (Interpersonal) and emotional / spiritual profundity. (Intrapersonal) the good or the ability of this unique development model. A pattern that varies according to social and cultural differences between the concept of IQ or intelligence, which is the conventional wisdom. Intelligence is measured by testing children in some subjects such as math, science, linguistics, but the current definition of "bright", "brilliant", "talent" has changed, such as the famous athlete like brothers Sri tea variants or musician Vanessa. Massa Ramey was regarded as the genius of her skills. This can be done better than the common man. And when we look at the background of individual genius, you will find it. They are not born good chance alone. But be promoted properly and since childhood from parents, relatives, teachers, schools and society favorable to the smartness of his sabbatical. You can change the aptitude to be a talent                      of the musical talent of the man. The potential is very common in people who play music artist, musician, composer, conductor, arranger and singer who dances in which they have special skills in music than others, such as when listening to music, you can catch the rhythm. Volume can tell Write a note musical interpretations recognize the power of music. The guests could listen to a song like melody or superficial. However, Musical ability would be improved with practice exercises such as playing music, singing practice reading, listening to music very well trained in music. Students need to be motivated Have the self Happy to have made ​​music events. The demand for musical expression         , so parents should establish a foundation for learning to occur when the child is still small, as saying. "By the kindergarten was late then," because in the early stages of life. A range of learning at its best. Children who had been prepared by the parents before enrolling in school are better off than other children with activities at home watching television. Or playing computer games The music is the same Most parents understood that. When a child enrolled in the school musical, she hopes to make a successful musical as well as Moza Sprite (Mozart) composers of the world. It does not create an atmosphere of learning music at home, such as the opening song. To get the kids to watch the concert. Which refers to a type of music listening. The music that promotes the idea that good music is refined, such as classical music or folk music, Thailand musical not been blended with the unnatural                    research musical pieces abroad found. If a baby has a classical music selection. When children grow up to develop both the body and the brain faster than normal children is the ability to hear. Using muscle, speaking, reading and concentrate the response is generally better than normal children. One famous study called Mozart Effect, which brought the composer's Opus. Mozart was a child listening trial. And outlines some examples of songs that the kids are listening to Divertimento K 136, Opera (Don Giovanni) -Deh Vieni Alla Finestra, Quintet for clarinet A Major K 581-2nd Movement, Sonata for 2 pianos D major K 448-2nd Movement etc. fruit. This work is available for general sale And has both a CD and a DVD with Cartoon pictures for children to listen to music with pleasure. Author've seen some of these works are sold in department stores in Thailand, too. So the first thing parents should begin before sending children to learn music is to create.
 



               



               



 



 



 

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

               The benefits of music on children
by Boeing. Praphansak Bush Inn
.

.Shh Shh Shh Shh shh. Music. Is the art of sound that humanity has elaborate built in the new world. Since humans can hear from nature and try to imitate the sound oh. Build up until the new world.Any language. Any religious faith oh. Music can get in the way of life and culture life oh. Manifest the prosperity of spiritual and civilization of human nationalities, as well as
.
oh oh oh oh oh

.Music education is currently accepted as one of the subjects with the need for child development    oh. From scientific research found the new world. Music affects brain development.Memory, learning, creativity as Boeing Boeing. Etc.. We call this substance that Boeing and signals in brain (Neurotransmitter) Oh, including Boeing, substance to stimulate. (excitatory) and compounds to inhibit "(inhibitory). These chemicals 2 this series.Interested in learning. Concentrate (SOBs). This chemical will shed much when children are relaxing activity. Such as Oh, exercise, Boeing received praise Oh. The group play Boeing Boeing Boeing, singing, has been exposed to warm.The learning process that encourages learners to be happy. Due to the balance of the brain in both hemispheres (SOBs) portal "when endou phenolic substance (endophine). Pour out. Make เด็กมีความสุข. Strengthen the learning experience is valuable Oh.Competitive pressure. To overcome. A substance adrenaline (adrenalin). Which is a learning experience is not desirable. Boeing, and create a good memory, children with Boeing
.
oh oh oh oh oh

.The concept of the necessity of learning music for children has been becoming more important. With the theory of multiple intelligences (Theory). "Of Multiple Intelligences). The Howard Gardner (Boeing) Howard Gardner)'ve studied and identification of good knowledge of people 7 main drawbacks.(intrapersonal). Talent or ability, this unique development model. There are different forms according to the society. And culture. This concept is different from the "IQ" or "intelligence". This traditional belief is considered.Language (verbal / linguistic). The music / rhythm (musical / rhythmic) in logic and Mathematics (logical / mathematical). The motion. (body / kinesthetic) art / spatial (visual / spatial). Interpersonal / communication (interpersonal).Such as mathematics. "Science, linguistics (SOBs). But at present. The definition that", "intelligent". "Good". "Talent." Oh. Oh oh oh changed oh. As such. Star athlete. Like. Brothers. Si tea species. "Boeing or musicians like. Vanessa. Mei oh.That he and other economists. ", which can be better than the common people agree with. And when we look up to the background of intelligent people shall find. They are not born talent alone oh.From the family, Dad, mom. Relatives oh oh oh oh oh. Teachers. Teacher school and society. "Oh, support for his smartness increase. That can change the aptitude to talent's
.
.

.