ผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั้นสามารถระบุ

ผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั้นสามารถระบุได้น้อยกว่าสาเหตุของมัน แต่ก็ทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงได้ เช่น ระดับน้ำในมหาสมุทรที่สูงขึ้น ธารน้ำเเข็งละลาย และการหดตัวลงของพื้นที่ขั้วโลก ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปมักจะสังเกตปรากฎการณ์ดังกล่าวอยูในบ้านเพื่อความปลอดภัย ผลกระทบรองลงมาก็คือภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น

การเพิ่มสูงขึ้นของระดับน้ำทะเล
ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นคือผลกระทบโดยตรงจากภาวะโลกร้อน เกิดจำนวนน้ำทะเลที่มีปริมาณมากขึ้นเพราะธารน้ำแข็งละลาย ก่อนหน้านี้คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าที่น้ำทะเลสูงเป็นไปตามวัฐจักรของธรรมชาติ แต่จริงๆแล้วเกิดจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วและส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกขยับสูงขึ้น 1 นิ้วภายใน 10 ปี

เป็นที่แน่นอนว่าภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบต่อทุกคนทั่วโลก โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่บนพื้นที่ต่ำ มีการวิจัยออกมาว่า ภายใน 100 ปี น้ำทะเลจะหนุนขึ้นมาบนพื้นดินเป็นพื้นที่กว้าง ยกตัวอย่างเช่น ชายฝั่งตะวันออกของประเทศอังกฤษ ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล

การรุกล้ำของน้ำทะเลตามแนวชายฝั่ง
ประชาชนบางส่วนจะบริโภคน้ำจากหนองน้ำธรรมชาติที่มีอยู่ทั่วโลก แต่หนองน้ำหรือแม่น้ำเหล่านี้ได้ถูกทำลายอย่างต่ำเนื่องโดยน้ำทะเลที่หนุนขึ้นมาสู่พื้นดิน โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เช่น แม่น้ำอินเดียน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่เป็นศูนย์กลางของไร่ส้มโอที่มีชื่อเสียงของรัฐฟลอริดา ที่ถูกน้ำทะเลกลืนหายไปแล้ว และมีแนวโน้มว่า 50% ของพื้นที่เพาะปลูกในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพื้นทีต่ำ จะถูกน้ำทะเลกลืนหายไปในอนาคต ส่งผลให้ประชาชนชาวสหรัฐฯ ไม่สามารถเพาะปลูกวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้

น้ำทะเลกัดเซาะชายหาด
อีกหนึ่งผลกระทบที่เกิดจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นคือ น้ำทะเลจะกัดเซาะตลิ่งและชายหาดทั่วโลกเป็นบริเวณกว้าง ทำให้หาดทรายที่สวยงามถูกน้ำทะเลกัดเซาะ จนสร้างความเสียหายแก่แหล่งท่องเที่ยวของประเทศต่างๆทั่วโลก และส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศริมชายหาดอย่างรุนแรง จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงเรื่อยๆ

ภัยธรรมชาติที่รุนแรง
ผลกระทบสำคัญของภาวะโลกร้อนอีกกรณีนึง คือส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรง และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นพายุเฮอริเคน หรือ ทอร์นาโด ที่เพิ่มขึ้น 20-35% ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดวิวัฒนาการด้านอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล เช่นผลกระทบจากพายุเฮอริเคน เฟย์ ที่ก่อให้เกิดมหาอุทกภัยในกว่า 12 รัฐทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย

ฝนตกมากขึ้น
เมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ก็จะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ระเหยขึ้นสู่ท้องฟ้ามีมากขึ้น ทำให้ฝนตกบ่อยครั้งมากขึ้น เป็นเหตุให้เกิดมหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ และทำให้กระแสน้ำสร้างความเสียหายให้แก่หลายพื้นที่ทั่วโลก หลายคนอาจมองว่า ฝนยิ่งตกบ่อย ยิ่งทำให้อุณหภูมิลดลง แต่ความจริงกลับเป็นตรงกันข้าม เนื่องจากไอน้ำที่ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจะขัดขวางกระบวนการสร้างความเย็นของโลกด้วยการกระทำที่เหมือนกับก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้

สภาพภูมิอากาศที่ไม่สม่ำเสมอ
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากภาวะโลกร้อนถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก และทำให้มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ เนื่องจาก เชื้อโรคจะเจริญเติบโตเร็วขึ้นในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ด้วยอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น ทำให้ธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือมีขนาดเล็กลงถึง 50% ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เมื่อธารน้ำแข็งละลาย ก็จะเกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำในทะเลสาบล้นท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ก่อนที่จะเกิดภัยแล้งอย่างรุนแรงตามมา ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้ภูมิอากาศของโลกแปรปรวน การละลายอย่างต่อเนื่องของน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย ทำให้น้ำในแม่น้ำคงคาซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของคนกว่า 500 ล้านคน ทำให้แหล่งน้ำสำคัญของคนจำนวนมากไม่สะอาด และส่งผลเสียต่อคนเหล่านั้นในที่สุด

น้ำแปรสภาพเป็นกรด
ในโลกของเรา มหาสมุทรคือแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศที่ใหญ่ที่สุดโดยที่น้ำจะทำการดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วแปรสภาพเป็นกรด ก่อนที่จะแปรสภาพกลับมาเป็นน้ำธรรมดาอีกครั้งด้วยก๊าซออกซิเจนจากแนวปะการัง และหากแนวปะการัง ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของเหล่าสัตว์น้ำถูกทำลาย ก็จะส่งผลให้มีออกซิเจนที่คอยกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำน้อยลงจนทำให้น้ำทะเลกลายเป็นกรดในที่สุด

ภัยแล้ง
แม้จะมีหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก แต่ก็มีอีกหลายพื้นที่ทั่วโลกที่ต้องพบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง จากอุณหภูมิที่สูงขึ้น และก่อให้เกิดไฟป่าที่รุนแรง ที่แย่ไปกว่านั้น ควันที่เกิดจากไฟป่าคือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำลายชั้นบรรยากาศอีกด้วย ก่อนหน้านี้ มีการระบุว่า ไฟป่าเกิดขึ้นตามวัฐจักรของธรรมชาติเพื่อเป็นการทำลายต้นไม้เดิมแล้วต้นไม้ใหม่ๆจะเกิดขึ้นมาแทนที่ เพื่อเป็นการลดผลกระทบของภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตาม มนุษย์ได้ระบุว่าภาวะโลกร้อนคือสัญญาณ ของภัยพิบัติร้ายแรงของธรรมชาติ ที่พวกเราต้องตระหนักว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คาดเดาได้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The effects of global warming can be identified as the cause of it, but it's less cause serious disasters, such as the water level higher in the ocean. Melting glaciers and shrinking of the polar areas. As a result, the general public often notice the phenomenon mentioned in home safety. The second impact is intensifying natural disasters that increasingly unpredictable and certainly. For example, theThe rising of the sea level.A higher sea level is the direct impact from global warming. The amount of sea water that occurs with more volume, because glaciers melt. Previously, people commonly mistaken that the sea is high according to the nature of the machine wat. But it actually caused the world's temperature drastically, making the glaciers melted rapidly and, as a result, global sea level rises, the move 1 inch to within 10 years. That is, of course, global warming affect everyone around the world. Especially people who live on the lower area. There is research that within 100 years, sea water will recline on a ground area is wide, for example the East coast of England which is lower than the sea level.Encroachment of the sea along the coast.Some citizens to consume water from swamps nature around the world. But these rivers or swamps have been destroyed by sea water at least up to the army to the ground. Specifically, areas that are below sea level, such as the Indian River is a river, which is at the center of the famous grapefruit acres of Florida that was swallowing sea water, is gone, and it is likely that 50% of the area cultivated in the United States, which is a surface low will be lost in the future, sea water. As a result, the people of the u.s. Unable to cultivate raw material for cooking.Beach erosion, sea water.Another effect that is caused by rising sea level is. The erosion by the sea and beaches around the world is a wide area, making the beautiful sandy beach is ocean water erosion, until the damage to the tourist attractions of various countries around the world and affect the country's economy, a serious Beach. The number of tourists decreased gradually.Severe natural disasters.Significant impact of global warming, in other cases, nevertheless, is the result of natural disasters and extreme occurs such as hurricane or tornado, which increased 35% in the range of 20-30 years ago. After the birth, evolution, which resulted in industrial losses haiayangmahasan, such as the impact of the hurricane, causing flooding, Maha Faye in over 12 States across the country that the United States worsens. Natural disasters that occur in the present, it is likely that will be intensified in the future.More rain.When the temperature of the Earth, it will result in higher quantities of water evaporate up into the sky, with more. Make it rain more frequently. Causing flooding in many areas, Maha, and makes the water flow damage the many areas around the world. Many people may have seen the more rain falls, the more frequently to keep temperatures down, but the truth is the opposite, because the return of steam floating up into the atmosphere, will hamper the creation of the world with the same greenhouse gas action. As a result, the Earth's climate changes that cannot be predicted.Irregular climateการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากภาวะโลกร้อนถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก และทำให้มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ เนื่องจาก เชื้อโรคจะเจริญเติบโตเร็วขึ้นในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ด้วยอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น ทำให้ธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือมีขนาดเล็กลงถึง 50% ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เมื่อธารน้ำแข็งละลาย ก็จะเกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำในทะเลสาบล้นท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ก่อนที่จะเกิดภัยแล้งอย่างรุนแรงตามมา ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้ภูมิอากาศของโลกแปรปรวน การละลายอย่างต่อเนื่องของน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย ทำให้น้ำในแม่น้ำคงคาซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของคนกว่า 500 ล้านคน ทำให้แหล่งน้ำสำคัญของคนจำนวนมากไม่สะอาด และส่งผลเสียต่อคนเหล่านั้นในที่สุดน้ำแปรสภาพเป็นกรดในโลกของเรา มหาสมุทรคือแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศที่ใหญ่ที่สุดโดยที่น้ำจะทำการดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วแปรสภาพเป็นกรด ก่อนที่จะแปรสภาพกลับมาเป็นน้ำธรรมดาอีกครั้งด้วยก๊าซออกซิเจนจากแนวปะการัง และหากแนวปะการัง ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของเหล่าสัตว์น้ำถูกทำลาย ก็จะส่งผลให้มีออกซิเจนที่คอยกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำน้อยลงจนทำให้น้ำทะเลกลายเป็นกรดในที่สุดภัยแล้งแม้จะมีหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก แต่ก็มีอีกหลายพื้นที่ทั่วโลกที่ต้องพบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง จากอุณหภูมิที่สูงขึ้น และก่อให้เกิดไฟป่าที่รุนแรง ที่แย่ไปกว่านั้น ควันที่เกิดจากไฟป่าคือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำลายชั้นบรรยากาศอีกด้วย ก่อนหน้านี้ มีการระบุว่า ไฟป่าเกิดขึ้นตามวัฐจักรของธรรมชาติเพื่อเป็นการทำลายต้นไม้เดิมแล้วต้นไม้ใหม่ๆจะเกิดขึ้นมาแทนที่ เพื่อเป็นการลดผลกระทบของภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตาม มนุษย์ได้ระบุว่าภาวะโลกร้อนคือสัญญาณ ของภัยพิบัติร้ายแรงของธรรมชาติ ที่พวกเราต้องตระหนักว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คาดเดาได้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The impact of global warming that can be identified less than its cause. But it can cause serious disasters, such as higher water levels in the oceans. Solids melting glaciers And the shrinking of the polar regions. The general public often observe phenomena that were in the house for safety. The second was a natural disaster that deteriorating steadily. And certainly not predictable. For example, the rise of sea level, sea level rise is directly affected by global warming. There are plenty of water because of melting glaciers. Previously, people often mistook the high sea, according to the cycles of nature. But actually caused by rising global temperatures. Causing glaciers to melt quickly and the resulting sea level rise around the world moved one inch in 10 years to be exact, that global warming is affecting everyone around the world. Especially those living on low-lying areas. Research has emerged that within 100 years, the sea will bolster a wide area on the ground. For example East coast of England Which is below sea level the intrusion of ocean water along the coast , some people consume water from natural wetlands that exist worldwide. But these rivers or swamps have been destroyed by the very low water backing up into the ground. The area is below sea level, such as the Indian River. The river is at the center of the famous grapefruit growers of Florida. The sea swallowed it. And it is likely that 50% of the farmland in the United States. Which is basically low Sea water is being lost in the future. As a result, US citizens Materials can not be cultivated in the cooking water, beach erosion , a result of the sea level is rising. The sea is eroding bluffs and beaches around the world a wide area. Make beautiful beaches are eroding sea. The damage to the country's tourist destinations around the world. And affect the country's economy severely beach. The number of tourists fell more severe natural disasters, the effects of global warming, but other cases. Is a result of natural disasters are severe. And steadily Such as hurricanes or tornadoes, rising 20-35% in the last 30 years, the evolution of the industry. This resulted in enormous damage. Such as the impact of Hurricane Fay caused flooding in more than 12 states across the United States. Worse than that Natural disasters that happened today is likely to be intensified in the future with more rain on the Earth's temperature to rise. It will result in the amount of water that evaporates into the sky, there's more. Make it rain more frequently. Caused flooding in many areas. And water damage to many areas around the world. Many people may even rain that often falls even lower temperatures. But the truth is the opposite The water vapor rises into the atmosphere will hinder the process of cooling the Earth with acts like a greenhouse. As a result of global climate change in ways that are not predictable climate irregular changes of climate. Because global warming is a very serious matter. And man can not live because bacteria grow faster at higher temperatures. With global temperatures rising. Make ice at the North Pole has shrunk by 50% over the last one hundred years ago, when the glaciers melted. It would be a disaster, such as flooding. The lake overflowed and flooded a wide area. Prior to the severe drought followed. Global warming will result in global climate variability. The melting of the ice is constantly on the Himalayas. The water in the river Ganges, the main water source of more than 500 million people, making it an important source of water, a lot of people do not clean. And adversely affect those in the most acidic water desalination in the world. The ocean is absorbing carbon dioxide from the atmosphere, the water will be absorbed by the carbon dioxide is then converted to acid. Before the transition back to normal water again with oxygen from the reef. If reefs Which is home of these animals were destroyed. It will result in the removal of carbon dioxide into oxygen, which are less water until the water becomes acidic in the drought , although there are several areas that were heavily flooded. But there are many other areas around the world to meet the dry weather. The higher temperatures And pose a serious fire. Worse than that, Smoke from wildfires is carbon dioxide, ozone depleting with previously identified as wildfires occurring cycles of nature to destroy old trees and new trees will be replaced. To reduce the effects of global warming, however, has indicated that global warming is human signs. Of natural disasters We must realize that it is not predictable. That will happen in the future.