การวิจัย “การศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยต การแปล - การวิจัย “การศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยต อังกฤษ วิธีการพูด

การวิจัย “การศึกษาความคิดเห็นของนัก

การวิจัย “การศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ” นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประมาณร้อยละของนักเรียนที่มีความคิดเห็นต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำในด้านต่างๆ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1,399 คน ทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายแบบไม่แทนที่ (Simple random sampling without replacement) ขนาดตัวอย่างเท่ากับ 25 คน
ผลการวิจัยพบว่าวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ พบว่าวิธีการที่ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกเป็นลำดับแรกคือ สถานศึกษาควรลดจำนวนนักเรียนแต่ละห้องลง (เช่น ไม่ควรเกินห้องละ 30 คน) จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 28 ลำดับที่สองมี 2 วิธีคือ ครูควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่บังคับให้อยู่ในกรอบจนเกินไปและ นักเรียนควรศึกษาหาความรู้ที่เป็นประโยชน์จากนอกห้องเรียนเพิ่มเติม จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 20 และลำดับที่สามมี 3 วิธีคือ สถานศึกษาควรลดจำนวนนักเรียนแต่ละห้องลง (เช่น ไม่ควรเกินห้องละ 30 คน) สถานศึกษา/ครูควรมีการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความสามารถพิเศษของนักเรียนตามความถนัดและ กระทรวงศึกษาฯ/สถานศึกษาควรมีการปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัย เป็นสากลมากยิ่งขึ้น จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 12 โดยวิธีการที่ควรนำมาใช้แก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ ที่นักเรียนให้คะแนนระดับความสำคัญสูงสุดคือ ครูควรปรับวิธีการสอนให้มีความทันสมัย โดยอาจใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มความเข้าใจ ร้อยละ 5.55 รองลงมาคือ สถานศึกษา/ครูควรมีการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความสามารถพิเศษของนักเรียนตามความถนัดและ ครูควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่บังคับให้อยู่ในกรอบจนเกินไป ร้อยละ 5.49 และวิธีการที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญต่ำสุดคือ สถานศึกษาควรจัดให้มีการอบรมครู โดยเฉพาะด้านคุณธรรม จริยธรรม โดยยึดหลักคุณธรรมนำความรู้ ร้อยละ 4.85
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การวิจัย “การศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ” นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประมาณร้อยละของนักเรียนที่มีความคิดเห็นต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำในด้านต่างๆ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1,399 คน ทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายแบบไม่แทนที่ (Simple random sampling without replacement) ขนาดตัวอย่างเท่ากับ 25 คน
ผลการวิจัยพบว่าวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ พบว่าวิธีการที่ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกเป็นลำดับแรกคือ สถานศึกษาควรลดจำนวนนักเรียนแต่ละห้องลง (เช่น ไม่ควรเกินห้องละ 30 คน) จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 28 ลำดับที่สองมี 2 วิธีคือ ครูควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่บังคับให้อยู่ในกรอบจนเกินไปและ นักเรียนควรศึกษาหาความรู้ที่เป็นประโยชน์จากนอกห้องเรียนเพิ่มเติม จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 20 และลำดับที่สามมี 3 วิธีคือ สถานศึกษาควรลดจำนวนนักเรียนแต่ละห้องลง (เช่น ไม่ควรเกินห้องละ 30 คน) สถานศึกษา/ครูควรมีการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความสามารถพิเศษของนักเรียนตามความถนัดและ กระทรวงศึกษาฯ/สถานศึกษาควรมีการปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัย เป็นสากลมากยิ่งขึ้น จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 12 โดยวิธีการที่ควรนำมาใช้แก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ ที่นักเรียนให้คะแนนระดับความสำคัญสูงสุดคือ ครูควรปรับวิธีการสอนให้มีความทันสมัย โดยอาจใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มความเข้าใจ ร้อยละ 5.55 รองลงมาคือ สถานศึกษา/ครูควรมีการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความสามารถพิเศษของนักเรียนตามความถนัดและ ครูควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่บังคับให้อยู่ในกรอบจนเกินไป ร้อยละ 5.49 และวิธีการที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญต่ำสุดคือ สถานศึกษาควรจัดให้มีการอบรมครู โดยเฉพาะด้านคุณธรรม จริยธรรม โดยยึดหลักคุณธรรมนำความรู้ ร้อยละ 4.85
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การวิจัย “การศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ” นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประมาณร้อยละของนักเรียนที่มีความคิดเห็นต่อวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำในด้านต่างๆ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1,399 คน ทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายแบบไม่แทนที่ (Simple random sampling without replacement) ขนาดตัวอย่างเท่ากับ 25 คน
ผลการวิจัยพบว่าวิธีการแก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ พบว่าวิธีการที่ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกเป็นลำดับแรกคือ สถานศึกษาควรลดจำนวนนักเรียนแต่ละห้องลง (เช่น ไม่ควรเกินห้องละ 30 คน) จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 28 ลำดับที่สองมี 2 วิธีคือ ครูควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่บังคับให้อยู่ในกรอบจนเกินไปและ นักเรียนควรศึกษาหาความรู้ที่เป็นประโยชน์จากนอกห้องเรียนเพิ่มเติม จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 20 และลำดับที่สามมี 3 วิธีคือ สถานศึกษาควรลดจำนวนนักเรียนแต่ละห้องลง (เช่น ไม่ควรเกินห้องละ 30 คน) สถานศึกษา/ครูควรมีการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความสามารถพิเศษของนักเรียนตามความถนัดและ กระทรวงศึกษาฯ/สถานศึกษาควรมีการปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัย เป็นสากลมากยิ่งขึ้น จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 12 โดยวิธีการที่ควรนำมาใช้แก้ปัญหาการศึกษาไทยตกต่ำ ที่นักเรียนให้คะแนนระดับความสำคัญสูงสุดคือ ครูควรปรับวิธีการสอนให้มีความทันสมัย โดยอาจใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มความเข้าใจ ร้อยละ 5.55 รองลงมาคือ สถานศึกษา/ครูควรมีการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความสามารถพิเศษของนักเรียนตามความถนัดและ ครูควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่บังคับให้อยู่ในกรอบจนเกินไป ร้อยละ 5.49 และวิธีการที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญต่ำสุดคือ สถานศึกษาควรจัดให้มีการอบรมครู โดยเฉพาะด้านคุณธรรม จริยธรรม โดยยึดหลักคุณธรรมนำความรู้ ร้อยละ 4.85
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The "opinions of students to the solution of education." this มีวั objective to estimate the percentage of students with comments on how to solve the problem of low ไทยตก in various aspects.High school students sethaput practice year 2557, number of 1399 people were sampled by random sampling without replacement (Simple random sampling without replacement) size samples were 25 people
.The results showed that the solution of Thai education down. Found how respondents choose first. The school should reduce the number of students in each room down (such as should not exceed per room) number 30 7 people were 28 second order.How is the teachers should provide students opportunities to comment. No force in the frame too. Students should learn useful outside the classroom more number of 5 people per cent 20 third and has 3 ways.(for example, should not exceed 30 people per room). School / teacher should promote the development of skills. The talent of students according to their aptitude. The Ministry of education / school should improve the curriculum to modern internationalization more. The 3.The percentage of 12 by way of education should be adopted to solve low. Students to rate the significance of the Teachers should improve teaching methods to modernization.5 percent.55 respectively. School / teacher should promote the development of skills. The talent of students according to their aptitude. Teachers should provide students opportunities to comment. No force in the frame too. 5 percent.49 and how respondents to the minimum. Schools should provide teacher training, especially in the moral integrity by knowledge of 4.85
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: