แนวคิดของกวีและนักเขียนตามหลักสากล
แนวคิดของกวีและนักเขียน (School of Thought) ในการแต่งร้อยแก้วหรือร้อยกรองกวีหรือนักเขียนมักจะมีแนวคิดเป็นหลักสำคัญสำหรับยึด แนวคิดนี้เกิดขึ้นในยุโรป ซึ่งนักเขียนและกวีไทยสมัยปัจจุบันก็ได้รับมาใช้ดังนี้
๑. คลาสสิก แนวคิดนี้จะนำเรื่องราวในสมัยโบราณ มาเขียนใหม่เป็นการเขียนตามแบบเก่าในยุโรปก็จะยึดแบบกรีกโรมันโบราณ ไทยเราก็เขียนตามแบบฮินดูโบราณ เช่น ไตรภูมิพระร่วง รามเกียรติ์ มหาชาติคำหลวง กองทัพธรรมเป็นเรื่องของคนอินเดียโบราณ มีอาชีพค้าขายด้วยกองเกวียน
๒. โรแมนติก คือการเขียน แสดงอารมณ์ความรู้สึกความสังหรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาได้แก่ แสดงอารมณ์รัก เกลียด ฯลฯ มุ่งให้รู้สึกสะเทือนใจตามไปด้วย เช่นเรื่อง ธนูทอง ดรรชนีไฉไล พลายมลิวัลย์ ลิลิตพระลอ นิราศต่างๆ ฯลฯ
๓. เหมือนจริงหรือสัจจนิยม เขียนจากจินตนาการที่น่าจะเป็นไปได้ เหมือนชีวิตจริงยึดหลักความจริงในการสร้างเรื่องสร้างตัวละคร สร้างเหตุการณ์สะท้อนสภาพสังคมเล่าความจริงในสังคมออกมานวนิยายปัจจุบันมักยึดแนวคิดนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังคมให้อุดมคติจะเป็นแนวโรแมนติก เพราะไม่เกิดขึ้นจริง นวนิยายแนวคิดนี้ได้แก่ สี่แผ่นดิน (ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) เมียน้อย เกมเกียรติยศ ข้าวนอกนา (สีฟ้า) ตะวันตกดิน (กฤษณา อโศกสิน)
๔. แนวคิดประทับใจ เป็นการเขียนจากความประทับใจ ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องมากนัก เพราะผู้เขียนไม่มุ่งเล่าเรื่องแต่ต้องการเล่าความประทับใจ ต้นเหตุของความรู้สึกการคลี่คลายหรือความเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก หรือยังคงประทับแน่นตรึงใจอยู่ตลอดกาลการเขียนแบบนี้ผู้อ่านจะเข้าใจได้ต้องมีอารมณ์ที่เหมือนกับผู้เขียน เช่น เรื่องสวัสดีความเศร้า และดนตรีดลใจ ฟรองซอส ซาก็อง เป็นนักเขียนสตรีชาวฝรั่งเศส ที่เขียนทั้งสองเรื่องนี้และเขียนได้ดี
๕. แนวคิดบรรยายพรรณนา ผู้เขียนจะมุ่งเลือกสรรถ้อยคำสำนวนแปลกๆ ใหม่ๆ มาใช้ ผู้อ่านจะรู้สึกสนุกไปกับการที่ผู้เขียนใช้ถ้อยคำสร้างภาพพจน์ได้คมคาย หลักแหลม เช่น รงค์ วงสวรรค์ ยาขอบ
๖. แนวคิดธรรมชาตินิยม คล้ายสัจจนิยม แต่ต่างกันที่ไม่มีการปรุงแต่ง หรือเลือกเฟ้นมาเขียนเน้นความจริงตามธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งดีทั้งเลวสวยงามและน่าเกลียดน่าขยะแขยง เช่น เรื่อง เรื่องเสียดาย น้ำพุ
๗. สัญลักษณ์นิยม เป็นแนวคิดที่กำลังเป็นที่นิยมมากในนักเขียนยุคปัจจุบันคือการเขียนถึงความจริง โดยใช้ “ตัวแทน” เป็นสื่อ ไม่กล่าวถึงความจริงโดยตรง เช่น เรื่องสังข์ทอง ใช้ “รูปสุวรรณอยู่ชั้นในเอารูปเงาะสวมไว้ให้คนหลง ใครๆ ไม่เห็นรูปทรง พระเป็นทองทั้งองค์อร่ามตา” “รูปสุวรรณ หรือรูปทองนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความดีงาม รูปเงาะเป็นสัญลักษณ์ของรูปกายที่ขี้ริ้วขี้เหร่” การอ่านวรรณกรรมที่ใช้สัญลักษณ์นี้ผู้อ่านต้องตีความให้ออกมิฉะนั้น ก็จะไม่รู้เรื่อง
๘. แนวคิดยั่วล้อ เป็นนวนิยายที่มุ่งล้อเลียน หรือมุ่งนำข้อบกพร่องของคนหรือของสังคมมาใช้ให้เห็น เป็นแนวนิยายประเภทสมจริง วิธีเขียนบางทีก็ใช้อารมณ์ขันบางทีก็เยาะเย้ยแดกดัน บางทีก็ใช้การก้าวร้าวด่าอย่างเผ็ดร้อน เช่นผลงานของฮิวเมอริสต์, นายรำคาญ, วสิษฐ์ เดชกุญชร
๙. แนวคิดธรรมนิยม เขียนเพื่อมุ่งสั่งสอนศีลธรรม เป็นสำคัญ เช่นเรื่องผู้ดี (ดอกไม้สด) หนึ่งในร้อย (ดอกไม้สด)