ในปี 2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา

ในปี 2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงมีพระราชปรารภว่า

"เวลาเรามีปัญหาเกี่ยวกับฟันก็มีทันตแพทย์ดูแลรักษา แล้วเวลาราษฎรที่อยู่ห่างไกล จะมีทันตแพทย์ช่วยรักษาหรือเปล่า"

ในเวลาต่อมา ทรงทราบว่าทันตแพทย์นั้นมีน้อยและมีอยู่ตามโรงพยาบาลประจำจังหวัดเท่านั้น บางจังหวัดก็ไม่มี พระองค์ทรงรับสั่งว่า

"โรคฟัน เป็นโรคของทุกคน การที่จะให้ราษฎรที่ยากจนที่มีปัญหาเรื่องฟัน หยุดการทำนาทำไร่ เดินทางไปหาแพทย์นั้น เป็นสิ่งที่ยากยิ่ง ในทางตรงกันข้าม หากเป็นการให้บริการเคลื่อนที่ไปสู่ประชาชน ก็จะเป็นการแก้ปัญหาได้ทางหนึ่ง"

จากนั้นจึงทรงตรัสแก่ทันตแพทย์สีสิริสิงห์ทันตแพทย์ประจำพระองค์ว่า

"ฉันต้องการให้หมอช่วยไปดูแลบำบัดทุกข์ให้แก่นักเรียนและประชาชนที่อยู่ในท้องถิ่นกันดารห่างไกลหมอ และจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดตามความจำเป็นโดยให้จัดหน่วยเคลื่อนที่ไปโดยรถยนต์และตระเวนไปตามถนนหนทาง ตามหมู่บ้าน ที่อยู่ ห่างไกล ชนบท"

พระราชดำรัสในครั้งนั้น นับเป็นจุดเริ่มต้น งานทันตกรรมเคลื่อนที่ หรืองานทันตกรรมชนบท เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จัดซื้อรถยนต์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือทำฟัน มีทันตแพทย์อาสาออก ปฏิบัติงานโดยเริ่มครั้งแรกเมื่อปี 2512 โดยมี ทันตแพทย์ สี สิริสิงห์ เป็นหัวหน้าทีม เพื่อส่งทันตแพทย์อาสาสมัครออกช่วยเหลือ บำบัดโรคเกี่ยวกับฟัน ตลอดจนสอนการรักษาอนามัยของปากและฟันแก่เด็ก นักเรียนและประชาชนที่อยู่ในท้องที่ทุรกันดารโดยไม่คิดมูลค่า ได้รับความ ร่วมมือจากทันตแพทย์โรงพยาบาลต่างๆ ในการออกปฏิบัติการภาคสนาม

บัดนี้ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ได้ให้บริการแก่ราษฎรผู้ยากไร้ และด้อยโอกาสมาเป็นเวลานานถึง 46 ปี มีการพัฒนาไปอย่างมาก จากที่ในอดีต สามารถให้การรักษาได้วันละประมาณ 50-70 คน และทำการถอนฟันเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันนี้ สามารถให้บริการได้ถึง 1,200-1,500 คนต่อวัน จึงทำให้ปัจจุบัน หน่วยทันตกรรมพระราชทานหน่วยนี้ จึงนับเป็นหน่วยทำฟันเคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถให้บริการได้ เช่นเดียวกับโรงพยาบาลใหญ่ๆ นับตั้งแต่การตรวจรักษาโรคในช่องปาก ถ้าพบโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งในช่องปาก ปากแหว่งเพดานโหว่ ฯลฯ ก็จะนำไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ๆ หรือที่คณะทันตแพทย์ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระราชนุเคราะห์

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

In the year 2512 King Majesty King Bhumibol Adulyadej has ratchaprarop is that."When we have problems with dental care dentist will, however, be far away and the people, there will be a dentist helps maintain?" Subsequently it has fewer dentists know that and exist as the only provincial hospital. Some provinces do not have any. He received the order that"The disease is a disease of everyone. To the poor, who have problems with your teeth. Plantation farming stopped, travel to the more difficult it is for doctors. In the opposite direction. If the movement towards the citizens, it would be one way to solve the problem. "Then hath said Peiris had dentists, dentists, Siri Singh color that."I want the doctor to care for the suffering and citizens are far lest local shamans and expense, all as required by mobile units, organized by car and crawl along the street, according to a distant village. Rural communities. "Speeches at that time counted as the starting point. Dental jobs, dental jobs or moving for the first time in the country in rural Thailand. His Majesty the King 9 Royal estate purchasing private cars with dental equipment and instruments. Volunteer dentists are out. Start by working the first year there are dentists, Siri Singh color by 2512 is the head of the team to send out volunteers to help dentists therapist about your teeth, as well as teach good hygiene of the mouth and teeth for children. Students and people who are underserved by local ideas have received cooperation from various hospitals, dentists in designing, operating in the field.Now Dental unit in King Bhumibol Adulyadej Rama IX provide services to the people, the poor and the needy for a long time to 46 years old, has developed significantly. From the past can be treated per day approximately 50-70 people, and make a large part of the teeth, but now can provide up to 1200-1500 people per day, thus making the current. Dental unit, this unit is a mobile dental unit, the largest in the world. Available, as well as major hospital since the clinics in the mouth. If you find a serious disease such as cancer, oral cleft palate in the mouth. Etc., it is taken to the hospital with a major or Chief dentist and his Majesty King Rama IX. a patient in Royal aux.