เพลโตก็เหมือนศาสนาพราหมณ์ที่เชื่อใน

เพลโตก็เหมือนศาสนาพราหมณ์ที่เชื่อในความแตกต่างของคน เพลโตคิดว่าคนเราประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลักสองส่วนคือกายกับวิญญาณ กายได้แก่องค์ประกอบส่วนที่เป็นเนื้อหนังร่างกายที่จับต้องสัมผัสได้ ส่วนวิญญาณเป็นนามธรรมไม่อาจสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสเราจะเข้าใจวิญญาณได้ก็ด้วยการใช้ปัญญาตรึกตรอง วิญญาณคือผู้บัญชาให้กายทำงานที่เราทำ,พูดและคิดได้ก็เพราะวิญญาณหากปราศจากวิญญาณเราก็ไม่ต่างจากคนที่ตายแล้วคือมีแต่ร่างกายและไม่มีวิญญาณ
เพลโตเชื่อว่าวิญญาณของคนประกอบด้วยธรรมชาติ3ส่วนคือเหตุผล น้ำใจ และตัณหา เหตุผลคือธรรมชาติส่วนที่เป็นความสะอาด,สงบและใฝ่รู้ คนที่มีเหตุผลเหนือตัณหาและน้ำใจคือเหตุผลในตัวเขามักจะเอาชนะตัณหาได้เสมอเมื่อสองสิ่งนี้ต้องขับเคี่ยวต่อสู้กัน คนประเภทนี้จะมีพฤติกรรมที่เราสามารถสังเกตได้ชัดคือเป็นคนที่รักสงบ ขวนขวายหาความรู้และไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ มีความสุขเมื่อได้ใช้ปัญญาตรึกตรองเรื่องที่ลึกซึ้งนิสัยอ่อนโยนไม่สนใจความสุขทางร่างกาย คนประเภทนี้เนื่องจากมองเห็นแก่นแท้ของชีวิตว่าวิญญาณสำคัญกว่าร่างกายดังนั้นจึงเอาใจใส่วิญญาณมากกว่าร่างกาย การเอาใจใส่วิญญาณจะแสดงออกในรูปแบบการเอาใจใส่ความนึกคิดของตัวเองความ พยายามในการพัฒนาจิตใจให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น คนประเภทนี้ถือว่าความสุขทางอายตนะเป็นสุขเทียมไม่ใช่สุขแท้เป็นสุขที่เข้ามาชั่วคราวแล้วก็ผ่านไป ส่วนสุขที่เกิดขึ้นภายในจิตใจที่สงบและประณีตเป็นสุขแท้เป็นสุขที่ยั่งยืน การที่มีความคิดดังกล่าวทำให้ไม่มีการใช้ชีวิตแบบหรูหราฟุ่มเฟือย ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนที่ยกยอปอปั้นแต่ไม่มีความจริงใจ หากมุ่งเข้าหาความสงบสันโดษพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่อย่างเรียบง่ายและใช้ชีวิตส่วนใหญ่กับการดื่มด่ำรสชาติอันแสนจะละเอียดลออของสิ่งประเสริฐสุดในชีวิตกล่าวคือสติปัญญา
คนที่มีตัณหามากกว่าเหตุผลและน้ำใจนั้นได้แก่บุคคลที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับคนประเภทที่พึ่งกล่าวมา คนประเภทนี้ถือว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตคือการได้ไต่เต้าขึ้นไปจนถึงจุดอันจะเอื้ออำนวยให้เขาได้ซึ่งสิ่งตอบสนองความต้องการทางอายตนะ ในทัศนะของคนเหล่านี้เกียรติยศหรือความมั่งคั่งคือเครื่องแสดงว่าใครประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่ พวกเขาคิดว่าความสุขเป็นยอดปรารถนาของคนและการจะได้มาซึ่งความสุขคนเราต้องพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวขยันขันแข็งและในขณะเดียวกันก็ต้องฉลาดมีไหวพริบมีกลวิธีที่จะเอาชนะคนอื่นในสนามการแข่งขัน คนประเภทนี้ไม่สนใจศาสนาปรัชญาและวรรณคดีพวกเขามองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้ คนที่เกิดมาแล้วไม่รู้จักตักตวงผลประโยชน์ใส่ตนพวกเขาจะมองว่าเป็นคนโง่สำหรับคนประเภทนี้ศักดิ์ศรีของมนุษย์คือการได้พยายามเต็มที่กับการแข่งขัน การเป็นผู้ชนะคือคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต และผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้เสวยสุขทุกอย่าง
ประเภทสุดท้ายคือประเภทที่มีน้ำใจมากกว่าเหตุผลและตัณหาคือคนที่ธรรมชาติส่วนของน้ำใจสูงกว่าส่วนอื่นๆเพราะมีธรรมชาติส่วนนี้เยอะเขาจึงเป็นคนแข็งกระด้าง,ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน,ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร,ใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและชอบการเผชิญโชคชอบเสี่ยง คนประเภทนี้ต่างจากคนประเภทแรกตรงที่ไม่ชอบขบคิดเรื่องที่ลึกซึ้งในปัญญาแต่ก็ต่างจากประเภทที่สองที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับอายตนะ คนประเภทนี้จะดูถูกคนที่มุ่งตักตวงความสุขโดยไม่สนใจในวิธีการว่าจะได้ล่วงละเมิดใครไปบ้างก็ตาม สำหรับคนประเภทนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ปัญญาเหมือนประเภทที่1หรือความสุขอย่างประเภทที่2แต่เป็นศักดิ์ศรีซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความแตกต่างจากเดียรัจฉาน ซึ่งคนประเภทที่ทำตัวเหมือนสัตว์เดียรัจฉานคือประเภทที่2นี้เอง ทั้งหมดคือการจำแนกคนในทัศนของเพลโต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

(TA mat, 2538 (1995)) huashuiwan celebrity just like Brahmanism, which believe in the differences of people. Huashuiwan celebrity I think people consists of two main elements: body with soul. Center: the element is a part of the body to flesh contact. Best abstract spirit can not be touched by our senses to understand the spirit think intelligence is used. The spirit is the Commander, also work we do, say and think it is because the spirit without the spirit we did not differ from the ones that are dead, but no body and spirit. Huashuiwan celebrity believes that the spirit of people, consisting of 3 natural part is why spirit and passion. Why are the natural part is very clean, calm and curious? People with passion and reason in the reason is more generous than his often overcome the passion has always been when both have to contend against. This type of person will be the behavior that we can observe is a peace-loving people to make an effort and do not adhere to things that are not true. Happy to have used intelligence think that gentle habits deeply ignore physical pleasures. People in this category because of the visible core of a spirit that lives more important than the body, and is therefore more than just a spirit body. Free spirit is expressed in the form of attention to their own thoughts, Try to develop your mind, more delicate details. People in this category are considered to be artificial and happy happy happy ayatana non genuine peace that came over and then temporarily. Best health that arise within the mind calm and exquisite genuine peace is sustainable happiness. The idea is to make no noise and luxury lifestyle. In an environment of people praise, but do not have a sincere. If you aim toward peaceful seclusion in what is simple and easy life, mostly with the furnished taste drink laiadono of virtue in life that is intellectually. คนที่มีตัณหามากกว่าเหตุผลและน้ำใจนั้นได้แก่บุคคลที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับคนประเภทที่พึ่งกล่าวมา คนประเภทนี้ถือว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตคือการได้ไต่เต้าขึ้นไปจนถึงจุดอันจะเอื้ออำนวยให้เขาได้ซึ่งสิ่งตอบสนองความต้องการทางอายตนะ ในทัศนะของคนเหล่านี้เกียรติยศหรือความมั่งคั่งคือเครื่องแสดงว่าใครประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่ พวกเขาคิดว่าความสุขเป็นยอดปรารถนาของคนและการจะได้มาซึ่งความสุขคนเราต้องพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวขยันขันแข็งและในขณะเดียวกันก็ต้องฉลาดมีไหวพริบมีกลวิธีที่จะเอาชนะคนอื่นในสนามการแข่งขัน คนประเภทนี้ไม่สนใจศาสนาปรัชญาและวรรณคดีพวกเขามองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้ คนที่เกิดมาแล้วไม่รู้จักตักตวงผลประโยชน์ใส่ตนพวกเขาจะมองว่าเป็นคนโง่สำหรับคนประเภทนี้ศักดิ์ศรีของมนุษย์คือการได้พยายามเต็มที่กับการแข่งขัน การเป็นผู้ชนะคือคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต และผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้เสวยสุขทุกอย่าง ประเภทสุดท้ายคือประเภทที่มีน้ำใจมากกว่าเหตุผลและตัณหาคือคนที่ธรรมชาติส่วนของน้ำใจสูงกว่าส่วนอื่นๆเพราะมีธรรมชาติส่วนนี้เยอะเขาจึงเป็นคนแข็งกระด้าง,ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน,ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร,ใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและชอบการเผชิญโชคชอบเสี่ยง คนประเภทนี้ต่างจากคนประเภทแรกตรงที่ไม่ชอบขบคิดเรื่องที่ลึกซึ้งในปัญญาแต่ก็ต่างจากประเภทที่สองที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับอายตนะ คนประเภทนี้จะดูถูกคนที่มุ่งตักตวงความสุขโดยไม่สนใจในวิธีการว่าจะได้ล่วงละเมิดใครไปบ้างก็ตาม สำหรับคนประเภทนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ปัญญาเหมือนประเภทที่1หรือความสุขอย่างประเภทที่2แต่เป็นศักดิ์ศรีซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความแตกต่างจากเดียรัจฉาน ซึ่งคนประเภทที่ทำตัวเหมือนสัตว์เดียรัจฉานคือประเภทที่2นี้เอง ทั้งหมดคือการจำแนกคนในทัศนของเพลโต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

(พรมทา, 2538)เพลโตก็เหมือนศาสนาพราหมณ์ที่เชื่อในความแตกต่างของคน เพลโตคิดว่าคนเราประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลักสองส่วนคือกายกับวิญญาณ กายได้แก่องค์ประกอบส่วนที่เป็นเนื้อหนังร่างกายที่จับต้องสัมผัสได้ ส่วนวิญญาณเป็นนามธรรมไม่อาจสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสเราจะเข้าใจวิญญาณได้ก็ด้วยการใช้ปัญญาตรึกตรอง วิญญาณคือผู้บัญชาให้กายทำงานที่เราทำ,พูดและคิดได้ก็เพราะวิญญาณหากปราศจากวิญญาณเราก็ไม่ต่างจากคนที่ตายแล้วคือมีแต่ร่างกายและไม่มีวิญญาณ
เพลโตเชื่อว่าวิญญาณของคนประกอบด้วยธรรมชาติ3ส่วนคือเหตุผล น้ำใจ และตัณหา เหตุผลคือธรรมชาติส่วนที่เป็นความสะอาด,สงบและใฝ่รู้ คนที่มีเหตุผลเหนือตัณหาและน้ำใจคือเหตุผลในตัวเขามักจะเอาชนะตัณหาได้เสมอเมื่อสองสิ่งนี้ต้องขับเคี่ยวต่อสู้กัน คนประเภทนี้จะมีพฤติกรรมที่เราสามารถสังเกตได้ชัดคือเป็นคนที่รักสงบ ขวนขวายหาความรู้และไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ มีความสุขเมื่อได้ใช้ปัญญาตรึกตรองเรื่องที่ลึกซึ้งนิสัยอ่อนโยนไม่สนใจความสุขทางร่างกาย คนประเภทนี้เนื่องจากมองเห็นแก่นแท้ของชีวิตว่าวิญญาณสำคัญกว่าร่างกายดังนั้นจึงเอาใจใส่วิญญาณมากกว่าร่างกาย การเอาใจใส่วิญญาณจะแสดงออกในรูปแบบการเอาใจใส่ความนึกคิดของตัวเองความ พยายามในการพัฒนาจิตใจให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น คนประเภทนี้ถือว่าความสุขทางอายตนะเป็นสุขเทียมไม่ใช่สุขแท้เป็นสุขที่เข้ามาชั่วคราวแล้วก็ผ่านไป ส่วนสุขที่เกิดขึ้นภายในจิตใจที่สงบและประณีตเป็นสุขแท้เป็นสุขที่ยั่งยืน การที่มีความคิดดังกล่าวทำให้ไม่มีการใช้ชีวิตแบบหรูหราฟุ่มเฟือย ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนที่ยกยอปอปั้นแต่ไม่มีความจริงใจ หากมุ่งเข้าหาความสงบสันโดษพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่อย่างเรียบง่ายและใช้ชีวิตส่วนใหญ่กับการดื่มด่ำรสชาติอันแสนจะละเอียดลออของสิ่งประเสริฐสุดในชีวิตกล่าวคือสติปัญญา
คนที่มีตัณหามากกว่าเหตุผลและน้ำใจนั้นได้แก่บุคคลที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับคนประเภทที่พึ่งกล่าวมา คนประเภทนี้ถือว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตคือการได้ไต่เต้าขึ้นไปจนถึงจุดอันจะเอื้ออำนวยให้เขาได้ซึ่งสิ่งตอบสนองความต้องการทางอายตนะ ในทัศนะของคนเหล่านี้เกียรติยศหรือความมั่งคั่งคือเครื่องแสดงว่าใครประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่ พวกเขาคิดว่าความสุขเป็นยอดปรารถนาของคนและการจะได้มาซึ่งความสุขคนเราต้องพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวขยันขันแข็งและในขณะเดียวกันก็ต้องฉลาดมีไหวพริบมีกลวิธีที่จะเอาชนะคนอื่นในสนามการแข่งขัน คนประเภทนี้ไม่สนใจศาสนาปรัชญาและวรรณคดีพวกเขามองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านี้ คนที่เกิดมาแล้วไม่รู้จักตักตวงผลประโยชน์ใส่ตนพวกเขาจะมองว่าเป็นคนโง่สำหรับคนประเภทนี้ศักดิ์ศรีของมนุษย์คือการได้พยายามเต็มที่กับการแข่งขัน การเป็นผู้ชนะคือคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต และผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้เสวยสุขทุกอย่าง
ประเภทสุดท้ายคือประเภทที่มีน้ำใจมากกว่าเหตุผลและตัณหาคือคนที่ธรรมชาติส่วนของน้ำใจสูงกว่าส่วนอื่นๆเพราะมีธรรมชาติส่วนนี้เยอะเขาจึงเป็นคนแข็งกระด้าง,ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน,ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร,ใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและชอบการเผชิญโชคชอบเสี่ยง คนประเภทนี้ต่างจากคนประเภทแรกตรงที่ไม่ชอบขบคิดเรื่องที่ลึกซึ้งในปัญญาแต่ก็ต่างจากประเภทที่สองที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับอายตนะ คนประเภทนี้จะดูถูกคนที่มุ่งตักตวงความสุขโดยไม่สนใจในวิธีการว่าจะได้ล่วงละเมิดใครไปบ้างก็ตาม สำหรับคนประเภทนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ปัญญาเหมือนประเภทที่1หรือความสุขอย่างประเภทที่2แต่เป็นศักดิ์ศรีซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความแตกต่างจากเดียรัจฉาน ซึ่งคนประเภทที่ทำตัวเหมือนสัตว์เดียรัจฉานคือประเภทที่2นี้เอง ทั้งหมดคือการจำแนกคนในทัศนของเพลโต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

(carpet, paint2538) Plato is a Brahmin who believe in the difference of people. Plato thought people consists of two main parts: body composition with the spirit. The body including a component flesh tangible body touch.Spirit is the commander of body work we do,Talking and I think because the soul without the soul is no different from the dead is the only body and no soul
.Plato believed that the souls of men contains natural 3 the reason, kindness and passion, the reason is the natural part is clean,Calm and inquiry. The reason over passion and kindness is the reason in him always overcome the passion has when these two things have to contend with the fight. This kind of person is the behavior we can observe clearly is a relatively quiet.Happy when they use wisdom to meditate about subtle gentle ignores the health body This type of people due to see the essence of life that the soul is more important than the body, so เอาใจใส่วิญญาณ over the body.Try to develop the mind finely. This type of person is happy the sense is not true happiness happy in artificial temporary and pass.The idea of such that no living a life of luxury extravagant. Fall into the environment of the interposition but no sincerity.People with passion rather than reason and the spirit are the person opposite completely to type just mentioned.In view of these people honor or wealth is to show that someone successful in life?This type of people ignore religion, philosophy and literature, they see the value of these things.The winner is the true value of life. And the only winner to have enjoyed everything
.The last type is the type with kindness than reason and passion is a natural part of the heart than the other because the nature this much he is hardened properly, in identity, not bow to anyone,Courageous resolute and like facing luck like risk. This type of person is different from the first type of people at not pondering about profound wisdom but also different from the second category that does not give importance to sense.For this type of person, the most important thing is not wisdom like 1 or happiness type 2 but pride which is what makes itself is different from the animals.All is in their classification of Plato
.