ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟ (ฮานาบิ)(เดือนสิงหาคมก การแปล - ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟ (ฮานาบิ)(เดือนสิงหาคมก อังกฤษ วิธีการพูด

ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะเป็นเท

ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟ (ฮานาบิ)
(เดือนสิงหาคมกลางฤดูร้อนของญี่ปุ่น มีอะไรที่คล้ายกับเดือนเมษายนที่ร้อนที่สุดของเมืองไทยหลายอย่าง เช่นเป็นช่วงปิดเทอมเหมือนกัน มีเทศกาลไหว้บรรพบุรุษเหมือนกัน เป็นช่วงที่ร้อนสุดๆ เหมือนกัน แต่มีวิธีคลายร้อนที่ต่างกัน บ้านเราคลายร้อนด้วยสงกรานต์ ญี่ปุ่นคลายร้อนด้วยการไปดูดอกไม้ไฟ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ฮานาบิ) การจุดดอกไม้ไฟมีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 380 ปีก่อน นั่นหมายความว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่นในช่วงนั้น โดยเฉพาะวิชาเคมีก้าวไปไกลพอสมควรทีเดียว จากนั้นมีการพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ แต่ต้องหยุดไปในช่วงสงครามโลก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การกลับมาใหม่ของดอกไม้ไฟ กลายเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพในญี่ปุ่น เพราะการชื่นชมดอกไม้ไฟจะเกิดขึ้นได้ก็ในยามบ้านเมืองสงบ บริษัทผู้ผลิตดอกไม้ไฟรายใหญ่ของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่มีประวัติเริ่มมาจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กันทั้งนั้น การเริ่มต้นวิจัยและพัฒนาในช่วงเวลาที่ประเทศไม่เหลืออะไรเลย หลังสงครามเป็นความยากลำบากที่คนญี่ปุ่นรุ่นคุณปู่คุณย่าไม่เคยลืม มาถึงวันนี้ญี่ปุ่นกลายเป็นผู้นำของโลกในหลายๆ ด้านรวมทั้งเทคโนโลยีดอกไม้ไฟญี่ปุ่น
การทำดอกไม้ไฟในปัจจุบันอาศัยความรู้ทางเคมีกับฟิสิกส์เป็นหลัก ผสมเพิ่มผสานกับศิลปะ เพื่อให้ได้ดอกไม้ไฟตามที่ต้องการ ขั้นตอนการผลิตที่มีความละเอียดอ่อน เริ่มจากการผสมผงดินปืนกับสารเคมีที่ให้สีต่างๆ (สีแดง : Strontium carbonate, สีเหลือง : Calcium carbonate, สีฟ้า : Copper oxide, สีเขียว : Barium nitrate, สีเงิน : Aluminium) ปั้นด้วยมือทีละชั้นจนได้ขนาดตามต้องการ
การจุดดอกไม้ไฟมีตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ เกือบจะทั้งหมดเปิดให้ดูฟรี ซึ่งแน่นอนของฟรีย่อมมีคนไปดูกันเยอะเป็นธรรมดา ดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากคนจำนวนมากที่ไปแออัดในสถานที่เดียวกัน จึงมีการจุดดอกไม้ไฟพร้อมๆ กันในหลายสถานที่คือ ต้องเลือกไปดู (ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง) นอกจากจะช่วยป้องกันเหตุที่ไม่คาด คิดแล้วยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระดับจุลภาค และมหภาคได้เป็นอย่างดี รายได้ที่เกิดจากการเดินทางไปดูด้วยรถไฟ JR (ของรัฐบาล) พุ่งขึ้นเป็นเท่าตัวคนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่จุดดอกไม้ไฟมีรายได้จากการออกร้านขายอาหารเครื่องดื่ม และเก็บเงินค่าจอดรถ เรียกได้ว่าเงินสะพัดกันทั่วเกาะญี่ปุ่น
สำหรับวัยรุ่นญี่ปุ่น การไปดูดอกไม้ไฟถือเป็นโอกาสดีในการชวนกันไปออกเดท ซึ่งเป็นมุขที่ไม่เคยล้าสมัย ใช้กันมาตั้งแต่สมัยคุณยายยังสาว สาวญี่ปุ่นที่ถูกชวนไปดูดอกไม้ไฟ มักจะใส่ชุดยูกะตะตัวเก่ง แต่งหน้าทำผม บางคนก็เตรียมเบนโตะ (อาหารกล่อง) ติดไปด้วย ไม่ได้จำกัดเฉพาะการไปเป็นคู่เท่านั้น ไปเป็นกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดอกไม้ไฟมักจะจุดกันกลางแม่น้ำหรือริมทะเล ซึ่งจะดูได้จากสองฝั่งแม่น้ำ ชายทะเล หรือนั่งดูจากเรือ ปกติเริ่มจุดกันตั้งแต่ทุ่มครึ่ง ใช้เวลาดูประมาณ 1 ชั่วโมง จุดกันประมาณ 8,000-20,000 ดอก ขึ้นอยู่กับสถานที่ ซึ่งแต่ละที่ ก็จะแข่งกันจุดทั้งคุณภาพและปริมาณ เสน่ห์ของแต่ละที่อยู่ที่รูปแบบการจุด บางที่ทำเหมือนเป็นคอนเสิร์ตดอกไม้ไฟคือ มีดนตรีประกอบ บางที่โดยเฉพาะชายทะเลมักจะจุดกระจายเป็นหย่อมๆ ตามแนวราบของทะเล จุดซ้ายทีขวาที ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นโรงละครดอกไม้ไฟ ลักษณะของดอกไม้ไฟไม่ได้มีแค่แบบทรงกลมธรรมดา (ที่มี 2 แบบหลักคือ เป็นทรงกลม ดอกเบญจมาศ กับดอกโบตั๋น) ทรงครึ่งทรงกลมก็ดูเก๋ไปอีกแบบ แต่ที่น่าประทับใจที่สุดคือ ดอกไม้ไฟที่จุดเป็นรูปต่างๆ ได้ เช่น รูปหัวใจ ดาว หอยทาก ผีเสื้อ มิกกี้เมาส์ รวมไปถึงโดราเอมอน ฯลฯ ที่โยโกฮาม่า จะจุดดอกไม้ไฟวันอาทิตย์ พรุ่งนี้ค่ะ สามารถปูเสื่อนั่งชมได้ที่บริเวณมินาโตะมิราอิ และสวนยามาชิตะ (แต่ที่สวนฯ จะเห็นภาพแจ่มกว่าอ่ะค่ะ) ทุกปีมีคนไปชมเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะไปกันตั้งแต่ช่วงบ่าย บางคนก็ไปปูเสื่อจองที่ล่วงหน้า และบริเวณสถานที่ใกล้เคียงจุดนั่งชม ต่างเต็มไปด้วยผู้คน ร้านค้าร้านอาหารต่างขายดิบขายดี งานนี้หลายคนต่างใส่ยูคะตะไปเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งคนหนุ่มสาว (ไม่ว่าจะสาวน้อยหรือสาวมาก) และเด็กๆ ที่พ่อแม่จับแต่งยูคะตะเหมือนกัน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
During July-August is Festival Fireworks (Hanabi)(เดือนสิงหาคมกลางฤดูร้อนของญี่ปุ่น มีอะไรที่คล้ายกับเดือนเมษายนที่ร้อนที่สุดของเมืองไทยหลายอย่าง เช่นเป็นช่วงปิดเทอมเหมือนกัน มีเทศกาลไหว้บรรพบุรุษเหมือนกัน เป็นช่วงที่ร้อนสุดๆ เหมือนกัน แต่มีวิธีคลายร้อนที่ต่างกัน บ้านเราคลายร้อนด้วยสงกรานต์ ญี่ปุ่นคลายร้อนด้วยการไปดูดอกไม้ไฟ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ฮานาบิ) การจุดดอกไม้ไฟมีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 380 ปีก่อน นั่นหมายความว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่นในช่วงนั้น โดยเฉพาะวิชาเคมีก้าวไปไกลพอสมควรทีเดียว จากนั้นมีการพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ แต่ต้องหยุดไปในช่วงสงครามโลก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การกลับมาใหม่ของดอกไม้ไฟ กลายเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพในญี่ปุ่น เพราะการชื่นชมดอกไม้ไฟจะเกิดขึ้นได้ก็ในยามบ้านเมืองสงบ บริษัทผู้ผลิตดอกไม้ไฟรายใหญ่ของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่มีประวัติเริ่มมาจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กันทั้งนั้น การเริ่มต้นวิจัยและพัฒนาในช่วงเวลาที่ประเทศไม่เหลืออะไรเลย หลังสงครามเป็นความยากลำบากที่คนญี่ปุ่นรุ่นคุณปู่คุณย่าไม่เคยลืม มาถึงวันนี้ญี่ปุ่นกลายเป็นผู้นำของโลกในหลายๆ ด้านรวมทั้งเทคโนโลยีดอกไม้ไฟญี่ปุ่นTo make Fireworks in the present knowledge in chemistry to physics principles. Decorating with art, to be added to Fireworks. The process of with delicate Starting from mixing powder, gunpowder, chemicals with different colors (Red: Strontium carbonate, Calcium carbonate, yellow: Blue: Copper oxide, Barium nitrate, Green: color: Aluminium), sculpture by hand, one at a time, until desired size. การจุดดอกไม้ไฟมีตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ เกือบจะทั้งหมดเปิดให้ดูฟรี ซึ่งแน่นอนของฟรีย่อมมีคนไปดูกันเยอะเป็นธรรมดา ดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากคนจำนวนมากที่ไปแออัดในสถานที่เดียวกัน จึงมีการจุดดอกไม้ไฟพร้อมๆ กันในหลายสถานที่คือ ต้องเลือกไปดู (ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง) นอกจากจะช่วยป้องกันเหตุที่ไม่คาด คิดแล้วยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระดับจุลภาค และมหภาคได้เป็นอย่างดี รายได้ที่เกิดจากการเดินทางไปดูด้วยรถไฟ JR (ของรัฐบาล) พุ่งขึ้นเป็นเท่าตัวคนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่จุดดอกไม้ไฟมีรายได้จากการออกร้านขายอาหารเครื่องดื่ม และเก็บเงินค่าจอดรถ เรียกได้ว่าเงินสะพัดกันทั่วเกาะญี่ปุ่นสำหรับวัยรุ่นญี่ปุ่น การไปดูดอกไม้ไฟถือเป็นโอกาสดีในการชวนกันไปออกเดท ซึ่งเป็นมุขที่ไม่เคยล้าสมัย ใช้กันมาตั้งแต่สมัยคุณยายยังสาว สาวญี่ปุ่นที่ถูกชวนไปดูดอกไม้ไฟ มักจะใส่ชุดยูกะตะตัวเก่ง แต่งหน้าทำผม บางคนก็เตรียมเบนโตะ (อาหารกล่อง) ติดไปด้วย ไม่ได้จำกัดเฉพาะการไปเป็นคู่เท่านั้น ไปเป็นกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดอกไม้ไฟมักจะจุดกันกลางแม่น้ำหรือริมทะเล ซึ่งจะดูได้จากสองฝั่งแม่น้ำ ชายทะเล หรือนั่งดูจากเรือ ปกติเริ่มจุดกันตั้งแต่ทุ่มครึ่ง ใช้เวลาดูประมาณ 1 ชั่วโมง จุดกันประมาณ 8,000-20,000 ดอก ขึ้นอยู่กับสถานที่ ซึ่งแต่ละที่ ก็จะแข่งกันจุดทั้งคุณภาพและปริมาณ เสน่ห์ของแต่ละที่อยู่ที่รูปแบบการจุด บางที่ทำเหมือนเป็นคอนเสิร์ตดอกไม้ไฟคือ มีดนตรีประกอบ บางที่โดยเฉพาะชายทะเลมักจะจุดกระจายเป็นหย่อมๆ ตามแนวราบของทะเล จุดซ้ายทีขวาที ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นโรงละครดอกไม้ไฟ ลักษณะของดอกไม้ไฟไม่ได้มีแค่แบบทรงกลมธรรมดา (ที่มี 2 แบบหลักคือ เป็นทรงกลม ดอกเบญจมาศ กับดอกโบตั๋น) ทรงครึ่งทรงกลมก็ดูเก๋ไปอีกแบบ แต่ที่น่าประทับใจที่สุดคือ ดอกไม้ไฟที่จุดเป็นรูปต่างๆ ได้ เช่น รูปหัวใจ ดาว หอยทาก ผีเสื้อ มิกกี้เมาส์ รวมไปถึงโดราเอมอน ฯลฯ ที่โยโกฮาม่า จะจุดดอกไม้ไฟวันอาทิตย์ พรุ่งนี้ค่ะ สามารถปูเสื่อนั่งชมได้ที่บริเวณมินาโตะมิราอิ และสวนยามาชิตะ (แต่ที่สวนฯ จะเห็นภาพแจ่มกว่าอ่ะค่ะ) ทุกปีมีคนไปชมเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะไปกันตั้งแต่ช่วงบ่าย บางคนก็ไปปูเสื่อจองที่ล่วงหน้า และบริเวณสถานที่ใกล้เคียงจุดนั่งชม ต่างเต็มไปด้วยผู้คน ร้านค้าร้านอาหารต่างขายดิบขายดี งานนี้หลายคนต่างใส่ยูคะตะไปเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งคนหนุ่มสาว (ไม่ว่าจะสาวน้อยหรือสาวมาก) และเด็กๆ ที่พ่อแม่จับแต่งยูคะตะเหมือนกัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
During the months of July-August A fireworks festival (Hanabi)
(August midsummer of Japan. There is nothing similar to April's hottest city Thailand many. As well as during school holidays. The festival has the same ancestor During the hottest summer but with a different method. We heat with Songkran Japan cool to see the fireworks. (Japanese called Hanabi) fireworks were first established 380 years ago, when the means. Scientific knowledge of Japan in that period. The chemistry goes quite far. Then there are evolving steadily. But was stopped during World War II. After World War 2 the back of fireworks. Became a symbol of peace in Japan. I admire the fireworks will happen in a peaceful country. Japan's major manufacturers of fireworks. Most records began after World War 2 though the initial research and development at a time when the country had nothing left. After the war, the hardships that the Japanese version of grandparents never forget. To this day, Japan became the world leader in so many ways. Fireworks Japanese technology, including
the fireworks currently relies mainly on physics, chemistry knowledge. Add mixture enriched with art To get the fireworks as intended. The production process is very delicate. Start by mixing the powder, gunpowder and chemicals to various colors (red: Strontium carbonate, yellow: Calcium carbonate, Blue: Copper oxide, green: Barium nitrate, silver: Aluminium) mold by hand, layer by layer, until. the size you want
the fireworks with various cities across the country, almost all open to view for free. Of course, there's the free stuff is plain to see. So to prevent accidents that can be caused by so many people crowded in to the site. The fireworks together. In many places, the Choose to see (It was broken) will help prevent unexpected situations. I think it also helps stimulate the economy at the micro level. And macro as well Revenue from traveling by train to JR (of government), up to double the living area with a fireworks income from booths for food. And parking charges That money was spread around the islands of Japan
for Japanese teens. To view the fireworks is a great opportunity to invite each other to date. The jokes that never become obsolete. Well since my grandmother was young. Japanese girl who was invited to see the fireworks. Always put the good Kata make up some prepared bento (lunch box) next to not only limited to a couple. A group of friends at school or at work, it's not unusual. Fireworks are often the center of the river or the sea. Which will see the two banks of the river, sea or enjoy the view from the boat. Regular starting spot since half. It takes approximately one hour to see the flowers around 8000-20000 depending on location, each of which will compete in both the quality and quantity. Each charm is the form of points. Some of the fireworks is like a concert. With Accompaniment Some of that particular beach is usually a patchy distribution. The rise of the sea The left and right It feels like a theater fireworks. Characteristics of fireworks is not just spherical plain (with two main spheres is a chrysanthemum with peonies) hemispherical shape it cool again. But the most impressive Fireworks into various shapes such as heart shaped stars, snails, butterflies, Mickey Mouse, including Doraemon, etc. that Yokohama will be fireworks Sunday tomorrow I can warmly decorated the area Minato. Mirai And Yamashita (but the park will see a glowing picture than I do), every year there are a lot of people to watch. Most will go from the afternoon. Some went to the mat to book in advance. And a sitting area nearby. It was filled with people Shops selling food. This put many of the catalase to visit a lot. Both young people (Whether young or very young) children and parents alike to catch up the catalase.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: