The bun bang fai tradition inherited since ancient times and is scheduled to be held on a regular basis at this time every year. Back to work-rite! Communicate with one another on Sky Angel, so help please eat lots of rain water down to the local farming farm to an abundance of grains. At the end of the dry season to the rainy season approach our sacred Northern natural turf as a rites. Inheritance takes practice to local villagers, as in Laos, will begin to come together to adopt the belief rituals of their release, and the faith is well known. Although this page is air vents much, but there is nothing that can stop it is not exclusive to the villagers to take part in such an important tradition. It is a ritual rain by faith. Bun bang fai is a big annual celebration of the village filled with scent of fun. What an amazing job they are fireballs, creative craft decorations by the wisdom of local villagers released beautifully displayed together before shooting up to the sky. Other memorable for those who go to see is the traditional rites among the young generation men with white all over the body from head to toe. Some fell into different shows, like pull bow ruse to transport its own armpit throw put a group of women who came to watch the ceremony consists of recurrent falls out shocked. In the ceremony must be a symbol of male show. In some places with wood carving, as the shape of a giant banana. Some even turning wood into giant sio lueng Painted red, the player with the ladies praen thalen. A portion of those women would be having fun with art dough make-up. THA mouth helped decorate the face of the Sun store, both local residents and tourists who attend the ceremony. According to the traditions of the fireballs, Laos, is to shoot fireballs up into the sky, which compared a paradise of these fairy Angel to get angry, to provoke angry and stop the rain water into the ground. As the ceremony and celebrated with a special one. Traditionally, it is made when the drought into the dots beyond toleration complications, and farmers need to begin embroidery black na. What people believe is a servant to the thepda Heaven must to get and the only way to communicate is to arrange the bun bang fai, up 7. When 25 years ago. The dot also held the fireballs of sand in front of the hotel elephant trip. But the problem is that there is frequently a cross-River fireballs to OK the coast Thailand. There are times, fireballs, one to one school building agreements, all after school fire. Since then, it has been moved to "hold" or base point fireballs to the Royal Equestrian relics to send fireballs out towards the local na. เมื่อชาวบ้านในท้องถิ่นใดตัดสินใจจัดประเพณีบุญบั้งไฟขึ้น ก็จะได้ชักชวนชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงไปเข้าร่วมด้วย ช่วงเวลาดังกล่าวนี้จึงเป็นช่วงที่พระสงฆ์องค์เจ้า ต่างก็รับนิมนต์ชุกเป็นพิเศษ ในฐานะเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำบั้งไฟ รู้สูตรลับการผสมดินประสิวกับถ่านเชื้อเเพลิง ซึ่งเป็นสูตรของใครของมัน เพื่อให้ได้พลังที่แรงที่สุดในการขับเคลื่อนบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า ถ้าเป็นบั้งไฟขนาดเล็กโดยปกติแล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 1 ถึง 5 กก. ส่วนที่เรียกกันว่า "บั้งไฟหมื่น" จะมีน้ำหนักประมาณ 12 กก. และ "บั้งไฟแสน" น้ำหนักประมาณ 120 กก. ซึ่งเป็นบั้งไฟที่มีขนาดใหญ่ ในงานจะมีการจัดประกวดแข่งขันบั้งไฟที่ประดับตกแต่งสวยงามที่สุด หรือมีความคิดสร้างสรรค์ดีที่สุด รวมทั้งการประกวดระยะทางที่บั้งไฟสามารถทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยการจับเวลา เมื่อทำบั้งไฟเสร็จสมบูรณ์แล้ว ชาวบ้านทั้งหมดจะร่วมกันนำไปเก็บรักษาไว้ก่อนที่ "หอพิบาน" ซึ่งเป็นศาลาขนาดเล็ก โดยมีความเชื่อว่าเป็นการทำเพื่อพิทักษ์รักษาจิตวิญญาณของหมู่บ้านไว้นั่นเอง ส่วนพิธีแห่จะมีผู้ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นสื่อกลางระหว่างโลกของวิญญาณ กับโลกมนุษย์ ซึ่งจะคอยเต้นรำอนำหน้าบั้งไฟ แห่ไปรอบหมู่บ้าน โดยจะหยุดแวะบ้านทุกหลังเพื่อดื่มสุราที่เจ้าของบ้านเตรียมไว้ถวาย พร้อมทั้งท่องบทสวดมนต์สวดคาถาต่างๆ และร้องแห่ เช่นเดียวกันกับการ "เซิ้งบั้งไฟ" ในอีกฝั่งหนึ่งของแม้น้ำโขง หลายครั้งบทเซิ้งจะมีเนื้อหาและท่วงทำนองเข้าขั้นลามก อันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของพิธีกรรมดังกล่าว แสดงถึงภาวะเจริญพันธุ์ การเกิดใหม่ของทารก ซึ่งสื่อความหมายถึงสภาวะแห่งความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง โดยที่บรรดาหญิงสาวที่ร่วมขบวน บ้างก็จะถือไม้แกะสลักสัญลักษณ์เพศชายทาด้วยสีแดงสด อีกคนถือเต่าเป็นๆ เป็นสัญลักษณ์แทนเพศหญิง บ้างก็ถือหุ่นกระบอกที่แสดงท่าทางการร่วมเพศ ซึ่งรูปทรงของบั้งไฟก็สื่อความหมายถึงสัญลักษณ์เพศชายอยู่แล้วโดยลักษณะของตัวมันเอง ดั้งนั้นชาวบ้านจึงเชื่อว่าเมื่อบั้งไฟทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว การก่อกำเนินเกิดฝน และความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง ชาวบ้านทั้งหญิงชายต่างก็แต่งแต้มสีเพื่อเป็นการปลอม และอำพรางตัวเอง ผู้ชายปลอมเป็นหญิง เพื่อทำให้สวรรค์ตื่นตกใจ เกิดอาเพศ เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฝนตกในที่สุด หลังจากขบวนแห่ บั้งไฟก็จะถูกนำมาวางลงบน "ค้าง" ที่ทำจากไม้ ทุกคนใจจดใจจ่อไปที่ชนวนที่ไฟกำลังลามไหม้ คอยลุ้นว่าบั้งไฟจะไปได้ไกลแค่ไหน มีบางคนไปเต้นรำด้วยท่าทางยียวนกวนโมโห ระหว่างที่บั้งไฟทะยานออกจากฐานด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สู่ท้องฟ้าตามหลังด้วยควันที่เทาดำเป็นแนวยาวตามไปติดๆ และทุกคนเงยหน้า ทุกสายตาต่างก็จับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของบั้งไฟนั้น
แต่เมื่อใดก็ตามที่บั้งไฟนั้นไปได้ไกลได้เพียงไม่กี่เมตร และพุ่งดิ่งลงสู่พื้นเมื่อนั้นเองชาวบ้านในที่นั้นก็จะร่วมกันระเบิดเสียงหัวเรา
การแปล กรุณารอสักครู่..